antalya escort bayan escort antalya antalya bayan escort
free hd porn
freier porno porno gratis
mengen escort bartin escort erzincan escort erzincan escort esenler masaj salonu erzincan masaj salonu goksun masaj salonu esenler masaj salonu biga masaj salonu erzincan masaj salonu ezine masaj salonu can escort
แสดงกระทู้ - OsamaB
-->

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - OsamaB

หน้า: [1]
1
Clinic สุด Seed / เรื่องยาคุมฉุกเฉิน
« เมื่อ: 27 เมษายน 2013, 16:28:18 »
พอดีได้มีโอกาสร่วมงานประชุมวิชาการ แล้วหัวข้อนี้น่าสนใจดีสำหรับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนนะครับ

ข้อบ่งชี้
1. มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
2. ป้องกันแต่ว่าผิดพลาด เช่นถุงยางแตก
3. ถูกข่มขืน

วิธีการซื้อ
- ไปที่ร้านขายยา แล้วถามหายาคุมฉุกเฉิน มีให้เลือก 2 ยี่ห้อ โพสตินอ และมาดอนนา
- โชคดีของบ้านเราคือ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีก็ซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากหมอหรือเภสัชกร ต่างจากต่างประเทศ

วิธีกิน
- กิน 1 เม็ดทันที (ช้าสุดภายใน 72 ชม.) และอีก 1 เม็ดในอีก 12 ชม.ให้หลัง
- หรือกินสองเม็ดพร้อมกัน จากการวิจัยแบบ Randomize controll trial (คือการวิจัยที่ได้รับความเชื่อถือระดับสูงทางการแพทย์) ได้ผลไม่แตกต่างกัน

หลักการ
- ปกติรอบเดือนของผู้หญิงส่วนใหญ่ มี 28 วัน นับจากวันที่เริ่มเป็นเมนเป็นวันที่ 1. วันที่ 14 คือวันตกไข่ (เน้นว่าส่วนใหญ่ ไม่เสมอไป)
- จากการทดลอง ถ้าฉีดอสุจิเข้าไปก่อนตกไข่ 2 วัน โอกาสท้อง 15%, ฉีดวันก่อนวันตกไข่ 1 วัน โอกาสท้อง 30% วันตกไข่ 3 % หลังวันตกไข่ 0.1% นอกนั้นไม่มีโอกาส แต่ประเด็นคือ เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะตกไข่วันไหน (ถ้าไม่ได้ใช้วิธีทางการแพทย์) ดังนั้นถ้าพลาดก็กินไปเลย
- กลไกคือมันยับยั้งการตกไข่ คือถ้าสมมุติว่าซวย ดันพลาดวันก่อนวันตกไข่ 1 วันพอดี แต่เรากินยา มันจะเลื่อนวันตกไข่ออกไป 3-4 วัน แต่ก็ไม่เสมอไป (ดังนั้นกินยาคุมฉุกเฉินก็ยังท้องได้อยู่) และประเด็นที่อยากเน้นย้ำคือ ไม่ใช่ว่ากินยาคุมฉุกเฉินแล้วสามารถปล่อยในได้ ถือเป็นความเชื่อที่ผิด***

ข้อควรจำไว้เสมอเมื่อใช้
- หากหลังกิน มีการอาเจียนภายใน 2 ชม. ถือว่าที่กินไปไม่ได้ผล ให้กินใหม่
- หลังกินยาคุมฉุกเฉิน ให้มีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ต้องเป็นแบบป้องกันโดยใช้ถุงยางเท่านั้น
- หากกินยาตัวอื่นร่วมอยู่ด้วย เช่น ยาวัณโรค ให้ไปหาหมอปรึกษาเรื่องขนาดยา เพราะว่ายาวัณโรคจะไปสั่งให้ตับเร่งกำจัดยา

- สมมุติว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พลาด แล้วก็ไม่อยากที่จะท้องจริง ๆ อนาคตไกล แนะนำแฟนให้ไปใส่ห่วงคุมกำเนิด ซึ่งป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 99% แต่มีปัญหาเรื่องราคาเล็กน้อยคือ 3000-5000 บาท โอกาสป้องกันครั้งนี้ 99% และป้องกันได้ยาวนาน 5 ปี

หากมีปัญหาสงสัยถามได้นะครับ 

2
เคยได้ยินคนรู้จัก (หรือแม้กระทั่งตัวท่านเอง) บอกว่าเป็นพาหะเชื้อไวรัสตับอักเสบ B ไหมครับ?

ฟังดูเหมือนกับ พาหะของโรค คือผู้ที่นำโรคไปสู่คนอื่น โดยที่ตัวเองไม่มีอาการหรืออาการแสดงใด ๆ คำตอบคือ ผิดมหันต์เลยครับ!

ไวรัสตับอักเสบ B เป็นเชื้อไวรัสที่เข้าไปซุกซ่อนอยู่ที่เซลล์ตับ ทำให้ร่างกายเข้าใจว่าเซลล์ตับไม่ใช้เซลล์ของร่างกายจึงเข้าไปทำลาย (จริง ๆ มันไม่ได้ทำอะไรเลย) ร่างกายจะมีการสร้างแอนตี้บอดี้ไปทำลายเซลล์ตับ

เวลาเกิดสงครามเมืองโดนถล่ม ก็ต้องมีการซ่อมแซม เช่นเดียวกัน เซลล์ตับก็จะมีการสร้างใหม่ขึ้นมาทดแทน แต่การสร้างใหม่อาจสร้างผิด เกิดเป็นเซลล์มะเร็งขึ้น

มะเร็งตับถ้าไม่สามารถผ่าตัดได้ จะมีชีวิตอยู่ได้ราว ๆ 6 เดือน และข่าวร้ายคือ กว่าจะรู้ก็มักเป็นระยะท้าย ๆ ของโรคแล้ว

การรับเชื้อ

ส่วนใหญ่ของคนที่บอกว่าตัวเองเป็นพาหะ มักจะเป็นมาตั้งแต่เกิด ซึ่งถูกต้องแล้วครับ เพราะว่าคุณแม่เป็นพาหะของเชื้อไวรัสตับอักเสบ B ในช่วงเวลาการคลอด เราก็ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B มาด้วย แต่เพราะว่าทารกไม่มีภูมิคุ้มกันที่เก่ง ทำให้การติดเชื้อยึดแน่นคงนาน (ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เป็นแล้วก็หาย ไม่เป็นพาหะ มีเพียงส่วนน้อยเท่่านั้น)

กว่าจะเป็นมะเร็ง

มะเร็งตับที่เกิดจากไวรัสตับอักเสบ B ใช้เวลาอย่างน้อย 20 ปี เมื่อเทียบกับมะเร็งจากการกินเหล้าจะนานกว่านี้เล็กน้อยคือ 30 ปี ฟังดูแล้วก็ไม่แตกต่างกันมากใช่ไหมครับ แต่ว่าเราไม่ได้กินเหล้าตั้งแต่ทารก เราพึ่งมาเริ่มกินตอนอายุ 20 ปี กินอย่างหนัก ๆ จริง ๆ ก็จะเป็นตอนอายุ 40-50 ปี แต่ว่าพาหะไวรัสตับอักเสบเป็นตั้งแต่เกิดเลย และอายุ 20 ปี ก็เป็นได้แล้ว และถ้าผ่าตัดไม่ได้ ตายเลยนะครับ

แล้วคนที่เป็นพาหะ เป็นกันทุกคนไหม

โรคมะเร็งตับ นอกจากกินเหล้าหนักมาก พาหะไวรัสตับอักเสบบีซี แล้ว แทบไม่มีสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดเลย การเป็นพาหะ เพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งตับถึง 100 เท่า

ข่าวดีคือ มีเพียงพาหะของไวรัสตับอักเสบ 6 คนจาก 100 คน เท่านั้นที่เป็นมะเร็ง ดูน้อยใช่ไหมครับ

จากข้อมูลการศึกษาของข้าราชการเพศชาย 3454 ที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบ B 184 คน กลายเป็นมะเร็งตับ
คือฟังดูน้อย แต่เราไม่มีทางรู้หรอกว่าเราจะเป็นฝากไหน

ป้องกันอย่างไร
ไปที่รพ.เลยครับ โรงพยาบาลสวนดอกหรือโรงพยาบาลเอกชนก็ได้ บอกเขาว่า ผมเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบ B อยากจะมา screen หามะเร็งตับ เขาจะเอาเครื่อง ultrasound แค่ถู ๆ ที่หน้าท้อง ก็ได้ผลแล้ว ทำปีละ 2 ครั้ง

ถ้าเจอเร็ว มีโอกาสที่จะผ่าตัดได้
แต่ถ้ารอให้มีอาการ ก็สายเสียแล้ว

ฝากบอกญาติ ๆ หรือเพื่อน ๆ ตัวเองด้วยนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุก ๆ คน  khjhgg

หน้า: [1]