-->

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 โรคร้ายลึกลับที่หาสาเหตุไม่ได้  (อ่าน 839 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18129
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
10 โรคร้ายลึกลับที่หาสาเหตุไม่ได้
« เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2017, 15:30:41 »

10 โรคร้ายลึกลับที่หาสาเหตุไม่ได้


โรค หมายถึง สภาวะผิดปกติของร่างกาย หรือจิตใจของสิ่งมีชีวิตซึ่งทำให้การทำงานของร่างกายเสียไปหรืออาจทำให้
เกิดอันตรายถึงชีวิต โรคยังอาจหมายถึงภาวะการทำงานของร่างกายซึ่งทำให้เกิดอันตรายแก่ตัวเอง ซึ่งจะแสดงออกมา
เป็นอาการหรืออาการแสดงต่อโรคนั้น

ในมนุษย์ คำว่าโรคอาจมีความหมายกว้างถึงภาวะใดๆ ก็ตามที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด, การทำหน้าที่ผิดปกติ, ความกังวลใจ,
ปัญหาสังคม หรือถึงแก่ความตาย ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ได้รับผลหรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิด โรคอาจถูกใช้เพื่อเรียกการบาดเจ็บ,
ความพิการ, ความผิดปกติ, กลุ่มอาการ, การติดเชื้อ, อาการ, พฤติกรรมเบี่ยงเบน, และการเปลี่ยนแปรที่ผิดปกติ
ของโครงสร้างหรือหน้าที่การทำงานในประชากรมนุษย์

โรคอยู่คู่กับมนุษย์มาช้านาน บางที่อาจอยู่คู่กับมนุษย์ตั้งแต่ถือกำเนิดด้วยซ้ำ โรคที่มนุษย์เป็นนั้นมีหลายพันล้านชนิด
มีทั้งหาง่ายและหายาก บางชนิดเราก็แทบไม่เคยเห็นหรือรู้จักมาก่อนเลย
 


อันดับ 10 Gulf War Syndrome
 


Gulf War Syndrome หรือ GWS เป็นโรคที่พบในรายงานทหารผ่านศึกในสงครามอ่าวเปอร์เซีย ปี 1991 โดยรวมแล้ว
ผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้จะเป็นหลายอย่าง เช่น ปวดกล้ามเนื้อ มีผื่นแดง ปวดหัว ปวดข้อ หายใจติดขัด สูญเสียความทรงจำ
มีอาการทางระบบทางเดินอาหาร บางรายเป็นมากจนกลายเป็นโรคไฟโบรมัลอัลเจีย ซึ่งเป็นอาการอ่อนแอและควบคุม
ตนเองไม่ได้ของระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายคน กึ่งๆอัมพาต ค.ศ. 2008 ระบุว่ามีทหารและพลเรือน 1 ใน 4 ของ
697,000 คน ป่วยและตายจากโรคนี้


ส่วนสาเหตุที่มาของโรคไม่แน่ชัด บ้างก็ว่า มาจากความเครียด หรือแบคทีเรียที่ไม่รู้จัก บ้างก็ว่าเกิดจากการได้สัมผัสกับ
สารเคมีประเทศก๊าซพิษที่ทำลายระบบประสาทส่วนกลางที่ชื่อSarin และ DTT  มีข่าวลื่อว่ากองทัพสหรัฐและพันธมิตร
ได้แอบใช้อาวุธนิวเคลียร์ทำสงครามอ่าว และเพื่อปกปิดความจริงนี้จากพวกเรา อาวุธนิวเคลียร์เหล่านี้จึงถูกเรียกขาน
ในชื่ออื่นๆ แทน อาทิ เช่น อาวุธกากยูเรเนียม อาวุธกัมมันตภาพรังสีระดับต่ำ อาวุธโลหะความหนาแน่นสูง จรวดเจาะเกราะ
ระเบิดทำลายบังเกอร์ ฯลฯ เป็นต้น

กัมมันตภาพรังสีไม่เพียงแต่ทำลายเซลของสิ่งมีชีวิตเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดความผิดปกติในระดับพันธุกรรมอีกด้วย ดังนั้น
กัมมันตภาพรังสีจึงไม่เพียงก่อให้เกิดโรคมะเร็งต่างๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บและอาการผิดปกติอื่นๆ
อีกมากมายได้ด้วย



 
อันดับ 9 Twentieth-Century Disease
 

http://www.anamai.moph.go.th/occmed/indexarticle_multiple_chemical.htm

โรค 20 เซนจูรี่ อย่างกับชื่อการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องหนึ่ง เป็นโรคหายากครับพบมากในกลุ่มทหารผ่านศึกสูงอายุ
โรคนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า Multiple Chemical Sensitivity (MCS) โรคหลายเคมีไว  จะมีอาการเรื้อรังหลายระบบ
โดยผู้ป่วยจะอาการรุนแรงขึ้นเมื่อสัมผัสหรือได้กลิ่นสารเคมีระดับต่ำที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อมทั่วไปของมนุษย์สมัยใหม่
หรือในรอบตัวเรา อะไรก็ได้ขอให้เป็นสารเคมี ไม่ว่าจะเป็น ควัน สารกำจัดแมลงศัตรูพืช, พลาสติก, ในสังเคราะห์,
น้ำหอม, ผลิตภัณฑ์ปิโตเลียม และสี


โดยอาการส่วนมากจะเป็นแบบเรื้อรังและจะรุนแรงหากสัมผัสสารเคมี โดยเป็นอาการของหลายระบบอวัยวะ ไม่ว่าจะเป็น
ระบบหายใจ ระบบส่วนกลาง(สมาธิไม่ดี, หลงๆ ลืมๆ ทรงตัวไม่อยู่ ปวดหัว) อ่อนเพลีย ทางเดินอาหาร ผิวหนัง
กล้ามเนื้อกระดูด ปวดท้อง และเรื้อรัง เมื่อเวลาผ่านไป

ส่วนสาเหตุของโรคนั้นปัจจุบันไม่สามารถให้คำตอบได้ จึงมีข้อสันนิษฐานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบภูมิคุ้มกัน
ที่ผิดปกติไป หรือสารพิษบางชนิดเข้าสู่ร่างกาย  หรืออาจมีเรื่องจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ในบางรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น ฟลอริด้า มีการให้ลงทะเบียนผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็น MCS
เพื่อจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อจะมีการพ่นยาฆ่าแมลง และอาจรวมถึงการพ่นสี ซ่อมหรือก่อสร้างอาคารด้วย

 



อันดับ 8  Stiff Person Syndrome
           


โรคคนแข็งเป็นโรคประหลาด(และหายาก) ที่ทำให้ผู้ป่วยจะมีอาการกล้ามเนื้อกระตุกโดยการสุ่ม และกล้ามเนื้อจะแข็ง
หากเกิดในช่วงคนที่ทำกิจการต่างๆ อยู่ เช่นเดิน หรือทำงาน จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ โรคนี้มักเกิดขึ้นในกล้ามเนื้อลำคอ
และแขนขา ซึ่งมักจะแข็งเมื่อไวต่อสิ่งกระตุ้นต่อสิ่งเร้า เช่น เสียงรบกวน, สัมผัส และความทุกข์ที่มีอารมณ์หวั่นไหวง่าย
อาการเริ่มแรกหากคนเป็นโรคนี้คือมีอาการกล้ามเนื้อกระตุก, ทำท่าทางผิดปกติ, โก่ง, ตัวแข็งทื่อ, สับสน


เป็นสาเหตุทำให้คนที่ป่วยเป็นโรคนี้ไม่อยากจะเดิน หรือไม่ออกจากบ้านเพราะกลัวเสียงรบกวน(แตร), เสียงสัตว์
จากการวิจัยพบว่าพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และไม่ทราบสาเหตุที่มาของโรคได้




 
อันดับ 7 Morgellons Disease
 

เนื้อหาจาก http://www.doctor.or.th/node/7903

มีชื่อไทยอย่างน่ารักว่า โรคฝังใจว่ามีเส้นใยไฟเบอร์ผุดออกมาจากผิวหนัง นับเป็นโรคผิวหนังลึกลับที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่
ศตวรรษที่ 17 แต่พึ่งรู้จักในปี 2002 ไม่นานมานี้เอง ส่วนมากพบในอเมริกา ผู้ป่วยโรคนี้จะมีความเชื่อฝังใจว่ามีเส้นใยไฟเบอร์
หรือวัสดุอื่นๆ ฝัง(ประมาณว่าคล้ายกับมีปรสิตอยู่ร่างกายแหละ) หรือผุดออกมาจากผิวหนัง  ผู้ป่วยจะแกะ และขุดผิวหนัง
อาจใช้อุปกรณ์อื่นๆ เช่น ที่ตัดเล็บ หรือแหนบถอนขน เพื่อหาสิ่งที่ตนเองคิดว่าฝังอยู่


มีการพบว่าผู้ป่วยเป็นโรคนี้ชอบสะสมเศษเส้นใยเสื้อผ้า, ผ้าพันแผล, เส้นผมและเศษผิวหนังในกล่องเล็กๆ ที่เรียกว่า
matchbox sign ผู้ป่วยโรคนี้จะแกะเกาผิวหนังจนเกิดแผลรูปร่างแปลกๆ เป็นหนองเป็นตุ่ม ช้ำเลือดช้ำหนอง จนดูเหมือน
เป็นโรคผิวหนังไป(ในเว็บจะบอกว่าโรคนี้เป็นโรคผิวหนังเลยก็มี) และรู้สึกเหมือนมีพยาธิวิ่งอยู่ใต้ผิวหนัง นอกจากนี้
ยังมีอาการแทรกแซงตรงๆ เช่น มีอาการปวดข้อ กล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง, มีอาการเหนื่อยอ่อน และมีความผิดปกติ
เกี่ยวกับการรับรู้ ได้แก่มีความจำ และสมาธิสั้น

ส่วนสาเหตุของโรคปัจจุบันยังมีการถกเถียงอยู่ว่านี้เป็นโรคหรือไม่ มีข้อสันนิษฐานมากมาย ว่าเป็นอาการทางจิตที่เกิดจากการ
ใช้สารเคมี, แบคทีเรียเชื้อ Agrobacterium ซึ่งเชื้อตัวนี้เป็นเชื้อที่พบในและ ทฤษฎีสมคบคิด (conspiracy theory) 
เช่นมีการปนเปื้อนของสารเคมี, การใช้อาวุธชีวภาพ, เป็นการกระทำของมนุษย์ต่างดาว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด
เกี่ยวกับทฤษฎีต่างๆ เหล่านี้ ส่วนการรักษาไม่มีทางหายขาดได้ ทำได้แต่บำบัดทางจิตให้ผู้ป่วยเชื้อว่าไม่มีไฟเบอร์ที่ผิวหนัง
และใส่ยาที่แผลกันอักเสบ

ปัจจุบันแพร่ระบาดอยู่ในทวีปอเมริกา และแพทย์กำลังค้นหาวิธีเพื่อหยุดยั้งการระบาดอยู่ ในสหรัฐพบผู้ป่วยใน 50 มลรัฐ
เฉพาะในฟลอริดา เทกซัส และแคลิฟอร์เนีย พบผู้ป่วยแล้วหลายพันคน นอกจากนี้ยังพบในยุโรป แอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น
ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลียด้วย



 
อันดับ  6  Cyclic Vomiting Syndrome


 
ภาพบนเป็นผู้แข่งขันชาวญี่ปุ่นในการแข่งกินไส้กรอกเร็วครับซึ่งไม่เกี่ยวกับโรคนี้เลย ซึ่ง Cyclic Vomiting Syndrome
หรือโรคอาเจียนเป็นวงจร เป็นเป็นกลุ่มอาการอาเจียน มีอาการอาเจียนเป็นๆ หายๆ อาเจียนอย่างรุนแรง, เรอ สิบครั้ง
ในสองชั่วโมง(เฉลี่ย) และปวดท้องเป็นบางครั้ง หรือปวดหัวเป็นไมเกรน  มีอาการแทรกซ้อนตามมาเช่น กรดกระเพาะอาหาร
อาเจียนเป็นเลือดรุนแรง


โรคอาเจียนเป็นวงจรนี้เกิดขึ้นในวัยเด็กและสิ้นสุดลงในตอนวัยรุ่นและอาจกลับมาเป็นตอนเป็นผู้ใหญ่อีกครั้ง  ส่วนสาเหตุของโรคนี้
ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด อาจเป็นผลจากการนอนไม่พอ หรือรับประทานอาหารมากไป แต่แพทย์บอกว่าเป็นโรคไม่อันตรายมากนัก

 




อันดับ 5  Electromagnetic Hypersensitivity
 

http://www.anamai.moph.go.th/occmed/indexarticle_elf_emf.htm

โรคไวต่อการรับสัมผัสสนามแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ Electromagnetic Hypersensitivity (EHS) เป็นกลุ่มอาการที่ผู้ป่วย
ซึ่งรู้สึกว่าได้รับสัมผัสสนามแม่เหล็กไฟฟ้า จะมีอาการ ( ผิดปกติเกิดขึ้น เช่นปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ความรู้สึกที่ผิวหนัง
เช่น ชา คัน ปวดแสบปวดร้อน


กลุ่มอาการนี้ถูกรายงานครั้งแรกที่ประเทศสวีเดน ในปี ค.ศ. 1999 ซึ่งพบผู้มีความรู้สึกผิดปกติที่ผิวหนังเมื่อทำงานกับ
VDT(visual display terminal  จอคอมพิวเตอร์) จากการสำรวจทางระบาดวิทยาในประเทศสวีเดนคาดว่า
ผู้ที่มีกลุ่มอาการนี้น่าจะมีอยู่ราวๆ ร้อยละ 1.5 ของประชากร และมักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย

Ryan Warne ชาวอังกฤษเป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบนี้ จาก Electromagnetic Hypersensitivity (EHS) 

ปัจจุบัน เขาต้องดูจอคอมพิวเตอร์โดยใช้กล้องส่องทางไกล  เขาไม่สามารถใช้มือถือได้ และต้องสวมหมวกตาข่าย
ป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเวลาออกไปข้างนอก  ยังมีอีกคนอีกจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน(มีรายงานว่า
จะรู้สึกไวเป็นพิเศษกับโทรศัพท์มือถือ)

อย่างไรก็ดีเนื่องจากกลุ่มอาการนี้แม้จะมีอาการที่รุนแรงในผู้ป่วยบางราย แต่กลับไม่พบอาการผิดปกติทางร่างกาย
ที่แพทย์ตรวจได้เลย จากการทดลองคาดว่าโรคนี้ไม่ใช้เกิดจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คนไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัด
ว่าเกิดการสัมผัสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า น่าจะมาจากสิ่งแวดล้อมมากกว่า เช่น แสง ปัญหาทางสายตา การจัดโต๊ะทำงาน
การระบายอากาศ และความเครียด ความกังวลเรื่องอันตรายต่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

ทำให้กลุ่มอาการนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโรค functional somatic syndrome (หมายถึง กลุ่มอาการผิดปกติที่เป็นๆ หายๆ
โดยตรวจร่างกายไม่พบสิ่งบอกเหตุ ไม่มีแนวทางการรักษาตายตัว แพทย์จิตเวชตะวันตก จะเหมารวมเรียก
Functional Somatic Syndrome)

 




อันดับ 4 Nodding Disease


 
โรคพยักหน้า มักเกิดในเด็ก ที่เจริญเติบโตผิดปกติ แคระแกร็น และการเจริญเติบโตของสมอง นำไปสู่อาการปัญญาอ่อน
โรคพยักหน้าจะทำให้ผู้ป่วยเริ่มกินอาหารและเริ่มพนักหน้าไม่หยุดเมื่อรู้สึกหนาวหรือเงื่อนไขอื่นๆ เช่นทรมาน และจะหยุด
รู้สึกเมื่อร่างกายได้ความอบอุ่นอีกครั้ง


ส่วนสาเหตุก็คาดว่าอาจเกิดมาจากการไม่คุ้นเคยอาหารประเภทนั้นๆ เช่น ลูกกวาด ขนม ทำให้เด็กเกิดอาการรุนแรง




 
อันดับ 3 Peruvian Meteorite Illness
 

http://www.vcharkarn.com/vblog/66402

อาการเจ็บป่วยจากอุกกาบาตของชาวเปรู มันเรื่องแปลกๆ ที่อธิบายสาเหตุไม่ได้นะครับ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ
15 กันยายน 2007 เกิดเหตุอุกกาบาตตกในเมืองคารานคัส (Carancus) ในรัฐอองเดร (Andre) ประเทศเปรู บริเวณชายแดน
ใกล้กับประเทศโบลิเวียประเทศเปรู ส่งผลให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ราว 15 เมตร(เกิดโคลนตมและมีกลิ่นเหม็นของก๊าซด้วย)


และหลังอุบัติเหตุนั้นจู่ๆ ก็พบว่ามีผู้อาศัยบริเวณใกล้เคียงจุดลูกอุกกาบาตตกมีอาการประหลาดคือ ปวดศีรษะ อาเจียน กระหายน้ำ
ผิวหนังมีอาการระคายเคือง บางคนก็มีเกิดการคันลูกนัยน์ตา... ซึ่งพบว่ามีผู้ประสบปัญหาดังกล่าวประมาณ 100 คนเกิดโรคประหลาดนี้

ส่วนสาเหตุบ้างก็บอกว่า เกิดจากการกระเจิงของผงฝุ่นละออง ในขณะที่เปิดการชนกับจุดตก หรืออาการของคน
ตื่นเต้นประหลาดใจ หรือผู้ป่วยได้รับไอสารพิษจากปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดจากการกระทบพื้นดินของอุกกาบาตอาจปลดปล่อยสารพิษ
อย่าง "ซัลเฟอร์" และ "อาร์เซนิก" (สารหนู) อย่างไรก็ดีทีมแพทย์ที่รุดตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวเผยว่า
ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าอุกกาบาตได้ทำให้ผู้คนล้มเจ็บ




อันดับ 2 The Sweating Sickness


                 
โรคเหงื่อออกเป็นโรคลึกลับและรุนแรงซึ่งเคยเกิดขึ้นในประเทศอังกฤษและยุโรป ที่เริ่มต้นเมื่อปี 1485
(เฮนรี ทิวดอร์จึงขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 7) และจู่ๆ มันก็หายไปในปี 1551 เป็นโรคที่เกิดอาการและตายอย่างรวดเร็ว
ภายในไม่กี่ชั่วโฒง ทำให้กลายเป็นโรคลึกลับและซับซ้อนที่สุด


โรคนี้ระบาดครั้งแรกหลังจากสิ้นสงครามกุหลาบ ในสมัยแฮรี่ที่ VII เกิดในหมู่คนจนในเมืองหลวง มันฆ่าคนไปถึงพันคน และมันก็ฆ่า
ผู้มีฐานะดีด้วย จากการตายเจ้าชายอาร์เธอร์แห่งเวลส์ญาติของแฮรี่ที่ VII เขาตายในบ้านของเขาเองที่ปราสาท Ludloe ส่วนอาการนั้น
เกิดขึ้นกะทันหันมาก โดยผู้ที่เป็นจะเริ่มรูสึกสัมผัสถึงความหวาดกลัว ตามด้วยการสั่นเย็นๆ(บางทีรุนแรงมาก) วิงเวียน, ปวดศีรษะ
และปวดอย่างรุนแรงที่คอและไหล่ เหนื่อยมาก และครึ่งชั่วโมงผ่านไปเหงื่อออก ร้อน ปวดหัว เพ้อ ชีพจรเต็นเร็ว สั่น กระหายน้ำ
และปวดหัว  สุดท้ายก็ตาย ไม่ทราบสาเหตุที่มาของโรคแน่ชัด

มีผู้ออกความเห็นว่าโลกนี้อาจเกิดจากสัมผัสสิ่งสกปรกที่เกิดจากแหล่งติดเชื้อจากสงครามดอกกุหลาบ หรืออาจเป็นแมลง
ปรสิตเล็กๆ ที่เกิดในฤดูร้อน โรคผิวหนัง






อันดับ 1 Exploding Head Syndrome


   
โรคหัวปะทุ  เป็นโรคลึกลับ ที่ผู้ป่วยได้ยินเสียงดังมากภายในหัว โดยเป็นสียงระเบิด เสียงคลื่นชนหิน, เสียงกริ๊ดร้อง,
เสียงวงจรไฟฟ้า(หึ่ง) ซึ่งเสียงนี้มักเกิดเสียงนี้จะดังตลอดเวลาทั้งๆ ที่รู้สึกตัว และจะเริ่มดังขึ้นตามช่วงเวลาและยาวนาน
หลายวันหลายสัปดาห์ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกกลัวและกังกล หัวใจเต้นเร็ว และเริ่มหายใจลำบาก กลัวการนอนหรือพักผ่อน


นำไปสู่การพัฒนาการนอนหลับที่ผิดปกติ เช่นนอนไม่หลับหลายวัน ส่วนสาเหตุแพทย์บางคนบอกว่าเกิดจากความเครียด
และเหนื่อยมากเกินไป และสามารถพัฒนาได้ตลอดเวลาในช่วงชีวิต และผู้หญิงจากทรมานกว่าผู้ชาย หายไปแล้ว
มันอาจเกิดขึ้นอีก หรืออาจเกิดจากเซลล์ประสาทในการได้ยิน



ขอบคุณเว็บ http://listverse.com/2009/03/17/top-10-odd-diseases-with-no-known-cause/
และวีพีมีเดีย(อังกฤษ) และเว็บที่อยู่หัวในแต่ละโรคนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 กุมภาพันธ์ 2017, 16:56:46 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่