-->

ผู้เขียน หัวข้อ: 20 ลัทธิความเชื่อสุดประหลาดหลุดโลก  (อ่าน 14420 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18303
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

20. ลัทธิมอร์มอนใหม่



เจฟฟรีย์ ลุนด์เกรน(เกิด 3 พฤษภาคม 1950) เป็นเจ้าลัทธิ ที่เขาก่อตั้งในปี 1984 ในบ้านพักบนถนน ชิลลิโคเท โอไฮโอ
โดยใช้หลักคำสอนผิดๆ โดยเขาประกาศว่าเขาได้ยินเสียงพระเจ้าให้เขาเผยแพร่ "คำพยากรณ์สุดท้ายแห่งพระเจ้า"
นำสาวกไปต้อนรับการเสด็จกลับสู่โลกมนุษย์ของพระคริสต์เจ้า (โดยเขาย้ายที่อยู่ไปเรื่อย)มีหลายคนเชื่อเขาและขอเป็นสาวก




ซึ่งเขาขอเงินจากผู้สนับสนุนหลายคนยินดีออนเงินจนได้หลายพันดอลลาร์ และเขาก็มีหลายคดีในการฆาตกรรรมสังหารล้างครัว
เดนนิส อาเวรี หนึ่งในสาวกของเขาเองที่ไม่สนับสนุนและขัดขวางเขาโดยเขาและสาวกได้ใช้อาวุธปืนยิงเดนนิสกับภรรยา
และลูกสาวของเขารวม 5ศพอย่างโหดเหี้ยม สุดท้ายเขาเสียชีวิตเมื่อ 24 ตุลาคม 2006 จากการถูกพิพากษาประหารชีวิต
แต่คำสอนของเขายังอยู่ และได้รับการเผยแพร่อย่างลับๆ ตลอดมา



19. ลัทธิครอบครัวเดียวกัน (Charles Manson and The family)



ชาร์ลส แมนสันเกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1934 เป็นเด็กที่เต็มไปด้วยปัญหา เขาก่ออาชญากรรมเล็กๆ น้อย เข้าคุกเป็นว่าเล่น
เมื่อออกจากคุกเขาหันมาเป็นพวกฮิปปี้ และได้รวบรวมกลุ่มคนโดยใช้ชื่อลัทธิว่า “แมนสันและครอบครัว” โดยเขาได้พูดถึงวันสิ้นโลกไว้ว่า


"ในไม่ช้าจะเกิดสงครามระหว่างคนขาวกับคนดำจะเกิดขึ้น มันจะกลายเป็นชนวนนำไปสู่สงครามปรมาณู คนดำจะเป็นฝ่ายชนะ
แต่เนื่องจากพวกมันไม่มีความสามารถในการปกครอง แมนสันและครอบครัวโดยมีข้าเป็นผู้นำจะเป็นเชื้อสายบริสุทธิ์เพียงหนึ่งเดียวที่เหลือรอด
และกลายเป็นผู้ปกครองโลกตลอดกาล"


ฟังดูไร้สาระ แต่ในเมื่อชาร์ลสเชื่อ สาวกก็เชื่อด้วย จากตรงนี้เองที่พวกเขาเริ่มคิดถึงการก่ออาชญากรรมแล้วป้ายความผิดให้กับคนผิวดำ
เพื่อให้สงครามเกิดขึ้นเร็วๆ และกำจัดบุคคลที่เขาขัดขวางพวกเขา ส่งผลทำให้มีผู้เป็นเหยื่อของลัทธินี้หลายราย และบางรายถูกฆ่าอย่างทารุณ
โดยกรณีดังที่สุดคือ ในวันที่ 8 สิงหาคม 1969ภรรยากำกับหนังคนดังชื่อ โรมัน โปแลนสกี้และดาราสาว ชื่อ ชารอน เทท อายุ26 ปี
และเพื่อนที่มาร่วมงานดินเนอร์แบบเป็นกันเอง 3 คน ถูกสาวกของชาร์ลสก็ฆ่าทุกคนตายเรียบ แต่ชารอน เททหนักสุด เพราะเหล่าสาวก
รุมแทงเธอถึง 16 แผล จากนั้นก็ใช้มีดผ่าท้องของเธอจนเหวอะหวะ และถูกไม้ตีที่ศีรษะซ้ำยังไม่สะใจ พวกมันจับเธอ มัดโยงกับเพดานแขวนไว้
พวกมันตัดเต้านมของเธอทิ้งทั้งเป็น แล้วใช้มีดเล่มนั้นชำแหละกรีดตั้งแต่บริเวณยอดอก จนถึงหัวหน่าวเลือดสดๆของเธอกระจายเต็มบ้าน
มิหนำซ้ำ ยังใช้แปลงจุ่มเลือดเขียนคำว่า "PIG"ตัวโตไว้ที่บานประตูบ้านสุดท้ายในวันที่ 13 เดือนธันวาคม 1969 ทั้งหมดถูกจับได้
ยกลัทธิรวมทั้งชาร์ลส์ แมนสัน



ทุกวันนี้ ชาร์ลส์ แมนสัน ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในคุก ที่แคลิฟอร์เนีย และบรรดาสาวกก็แก่เป็นคุณปู่ คุณยายไปหมดแล้ว แต่กระนั้นก็มีเหล่า
บรรดาสาวกใหม่ของชาร์ลส์ที่มีทั้งของแท้และของเทียมและแฟนพันธุ์แท้ที่ยังเชื่อคำสอนของเขายังคงมีอิทธิพลอยู่ในเจ้าลัทธิต่างๆ ในปัจจุบัน



18. โอมชินริเคียว (Asahara and the Aum Supreme Truth)



โชโกะ อาซาฮารา เป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนาบังหน้า ก่อตั้งลัทธิที่มีชื่อว่า "โอมชินริเคียว" ในปี ค.ศ.1984 เขาเผยแพร่คำสอน
จนมีผู้เข้ามาเป็นสาวกทั้งในญี่ปุ่นและนอกประเทศกว่า 49,000 คน เขาเริ่มแสดงความโหดเ้ยมเมื่อต้องสงสัยว่า อยู่เบื้องหลังการสังหาร
สาวกที่ตีตัวออกห่าง เพื่อปิดปากก่อนจะนำความในไปเปิดเผย อยู่เบื้องหลังการปล่อยแก๊สซารินในเมืองมัตสึโมโต เป็นเหตุให้มีคนตายไป 8 คน




เมื่อตำรวจเริ่มสอบสวนคดีใกล้ตัวอาซาฮาราเข้าไปทุกที อาซาฮาราก็สั่งให้สาวกปล่อยแก๊สซารินในสถานีรถไฟใต้ดินในมหานครโตเกียว 5 สาย
ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 12 คน บาดเจ็บ 54 ราย หลายรายพิการตาบอด ตำรวจบุกเข้าทลายสำนักงานใหญ่ของโอมชินริเคียว พบวัตถุระเบิด สารเคมี
อาวุธเคมี และเฮลิคอปเตอร์ทำในรัสเซียเพื่อเตรียมไว้โปรยอาวุธเคมีสังหารผู้คน ที่นับว่าขหัวลุกคือ แก๊สซารินจำนวนมากพอที่จะฆ่าคนได้
ถึง 4,000,000 คน อาซาฮาราถูกจับกุมดำเนินคดี สาวกที่เหลือแปลงรูปไปเป็นลัทธิอเล็ป ซึ่งยังคงเผยแพร่ลัทธิอย่างลับๆ



17. ลัทธิประตูสวรรค์ (Heaven’s gate)



มาร์แชลล์ แอปเปิลไวท์ ศาสดาเจ้าลัทธิประตูสวรรค์สอนให้สาวกรู้ว่า มนุษย์หาได้มาจากการสร้างของพระเจ้า หากแต่มาจากพ่อแม่
ที่เป็นมนุษย์ต่างดาว เมื่อคลอดบุตรธิดาออกมาแล้วก็ปล่อยให้เจริญเติบโตอยู่บนโลก และจะนำยานอวกาศมารับบรรดาทายาท
เพื่อเดินทางไปยังดาวต้นกำเนิดที่อยู่ด้านหลังของดาวหาง เฮล-บ็อบ





มีสาวกมารวมตัวกัน 38 ราย ต่างเรียกร้องให้ศาสดาติดต่อ เรียกบรรพบุรุษนำยานอวกาศมารับ แอปเปิลไวท์บอกว่า
หากจะไปเร็วต้องไปด้วยวิญญาณ ว่าแล้วก็เอาวอดก้าผสมยาพิษชนิดร้ายแรง ให้ดื่ม ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอง
ตำรวจนอร์ธควีนส์แลนด์เข้าไปพบก็ต่อเมื่อสาวก 38 คนกับศาสดานอนตายแหงแก๋รวม 39 ศพ



16. ลัทธิฟื้นฟูพระบัญญัติ 10 ประการ พระวจนะแห่งพระเจ้า (Restoration of the 10 Commandments)



เป็นลัทธิที่แหกคอกออกมาจากโรมันคาทอลิก เซิร์ช  โดย นายโจเซฟ คิบเวเทียร์ นักการเมืองชาวอูกันดา โดยบอกกับเหล่าสาวกว่า
พระมารดามารีอาได้ทรงปรากฎพระวรกายต่อหน้าของตัวเอง เขาย้ำกับสาวกอยู่เสมอ ว่า โลกจะแตกในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.2000
แต่เอาเข้าจริงปรากฏว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิบเวเทียร์ก็เฉไฉไปว่า พระเจ้ายังไม่ทรงต้องการทำลายโลก แต่เลื่อนไปเป็นวันที่ 17 มีนาคม
ปีเดียวกัน


ในวันที่ 17 มีนาคม คิบเวเทียร์ก็วางเพลิงเผาโรงนาอันเป็นที่ทำการและที่อยู่ร่วมกันของเหล่า สาวกทั้งหลาย หลังจากเพลิงสงบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปสำรวจพบศพผู้เสียชีวิตที่ถูกย่างสดดำ เป็นตอตะโกจำนวน 513 ศพ รวมทั้งศาสดาบ้าทะลุดโลกคิบเวเทียร์
ที่น่าสยดสยองมากไปกว่านั้นคือ การพบศพจำนวน 265 ศพถูกฝังไว้ใต้ดินในที่ดินที่นายคิบเวเทียร์ครอบครองอยู่แต่ละศพมีร่องรอย
การถูกแทงไม่ก็ถูกวางยาพิษ รวมศพที่ตายด้วยน้ำมือของศาสดาบ้าทะลุโลกถึง 778 ศพด้วยกัน



15. ลัทธิโบสถ์แห่งมวลมนุษย์ (The People’s Temple)



จิม วอร์เรน โจนส์ ก่อตั้งลัทธิโบสถ์แห่งมวลมนุษย์ขึ้นในแอฟริกาใต้ เมื่อปี ค.ศ.1955 ต่อมาในปี ค.ศ.1970 ก็มีผู้เข้ามาเป็นสาวก
ถึง 2,000 คน โจนส์สอนให้ดำรงชีวิตแบบสังคมนิยม ปลูกผักเลี้ยงสัตว์บริโภคกันเอง โจนส์ซื้อที่ดินเพื่อก่อตั้งที่ทำการของลัทธิฯ
รู้จักกันในชื่อ "โจนส์ทาวน์" เป็นเมืองปิดที่ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาวุ่นวาย


เหตุร้ายเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1978 ลีโอ รายอัน สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ กับผู้สื่อข่าวได้เข้าไปที่โจนส์ทาวน์ รายอันได้แอบนำสาวก
ที่เปลี่ยนใจซ่อนตัวออกมาเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับ แต่ความแตก บรรดาสาวกที่บ้าคลั่งพากันขับรถตามมาสังหารรายอันกับสาวก
ที่แปรพักตร์และผู้ สื่อข่าวอีก 3 คนตายเกลี้ยง



วันรุ่งขึ้นหลังจากเกิดการฆาตกรรมสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ โจนส์รู้ดีว่า ทุกอย่างกำลังจะถึงจุดอวสาน ตำรวจไม่ปล่อยเอาไว้แน่
เขาเรียกประชุมสาวกทั้งหมด สั่งให้ดื่มเครื่องดื่มที่ผสมไซยาไนด์อย่างแรงเพื่อฆ่าตัวตาย ผู้ปฏิเสธจะถูกยิง รัดคอ หรือไม่ก็ถูกจับ
ฉีดไซยาไนด์เข้าเส้นเลือด โจนส์ระเบิดหัวตัวเองตายตามไป เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสำรวจพบว่ามีคนตายทั้งหมด 918 ศพ
มีเด็กรวมอยู่ด้วย 270 คน




14.ลัทธิวิธีวิทยา (Scientology)



แอล. รอน ฮับบาร์ด(1911-1986) นักวิทยาศาสตร์และ นักประพันธ์นิยายชาวอเมริกัน บัญญัติขึ้นเมื่อปี 1952
เพื่อใช้เป็นปรัชญาในการบำเพ็ญตน โดยมีฐานใหญ่ในนิวเจอร์ซีและลอสแองเจลิสสหรัฐอเมริกา โดยคำสอนคือ
เราสามารถหลุดพ้นและรู้แจ้งโดยใช้หลักการวิทยาศาสตร์ โดยอธิบายเป็นหลักการว่าความเจ็บป่วยทางกายและใจ
ล้วนมาจากเรื่องโศกเศร้าในอดีตซึ่งสามารถบำบัดกายและใจนี้ได้โดยวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า “วิธีวิทยา”
โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่ย E-Metre เป็นตัววัดว่าจิตประสาทของเราตอนนี้เป็นอย่างไร




ศาสนานี้ประสบความสำเร็จในอเมริกาและอ้างว่าสาวกทั่วโลก(รวมทั้งไทย)กว่า 8 ล้านคนนอกจากนี้ยังมีดาราดัง
เป็นสาวกด้วยอย่างทอม ครูซและจอน ทราโวลต้า ดาราในวงการบันเทิงมากมากมาย แต่กระนั้นก็มีข่าวลือว่าลัทธินี้
ใช้วิธีการล้างสมอง,โกงเงิน ส่งผลทำให้ลัทธินี้มีคนต่อต้านในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นเยอรมัน ฝรั่งเศส



13. ราเอเลียน มูฟเมนต์ (Raëlians)



เรลีอังส์ หรือ "ราเอเลียน มูฟเมนต์" เป็นลัทธิยูเอฟโอที่ก่อตั้งในปี 1974 โดย Claude Vorilhon หรือเป็นที่รู้จักกันว่าชื่อ “เรเอล”
เขาอ้างว่ามนุษย์โลก(ชีวิตบนโลก)ของเรานั้นเกิดจากการโคลนของมนุษย์ต่างดาวและมนุษย์ต่างดาวยังคงติดต่อกับโคลนของพวกเขา
อยู่ทำให้เราถูกเข้าใจผิดว่ามนุษย์ต่างดาวคือพระเข้าหรือเทวดา อีกทั้งยังอ้างว่าได้รับการบันทึกว่าเป็นลัทธิยูเอฟโอที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มีสมาชิกทั่วโลกกว่า 6.5 หมื่นคน โดยญี่ปุ่นมีสมาชิกมากที่สุด(โดยมีสำนักงานใหญ่ที่เจนีวาสวิส) และตอนนี้ก็เริ่มเผยแพร่
ในประเทศไทยและถูกจับตาอย่างใกล้ชิด


ราเอเลียนมีเน้นคำสอนเน้นความคิดทางโลกและลัทธิสุข-บริโภคนิยม มากกว่าบูชาพระเจ้า มีความเชื่อว่าทุกอย่างประกอบด้วย
คุณสมบัติทางกายภาพเท่านั้น และปฏิเสธการดำรงอยู่ของจิตวิญญาณ ซึ่งลัทธินี้มีกิจกรรมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น มีเสรีทางเพศ
การสนับสนุนการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง, ถุงยางอนามัย การควบคุมการเกิด ลัทธิหวังว่าอาหารดัดแปลงพันธ์กรรม
และนาโนเทคโนโลยีจะช่วยให้มนุษย์ลดภาระหน้าที่การทำงาน ต่อต้านองค์กรที่มีภารกิจคือการทำหมันผู้หญิง มีการจัดสัมมนา
และพิธีกรรมแปลกๆ มากมาย



12.ลัทธิประเทศยะฮ์เวห์ (Nation of Yahweh)



ลัทธิประเทศยะฮ์เวห์ เป็นกลุ่มลัทธิที่ก่อตั้งในปี 1979 ในไมอามี่  โดยยะฮ์เวห์ เบน ยะฮ์เวห์(Yahweh Ben Yahweh) แตกหน่อจาก
แบล็คฮิบรูของอิสราเอล เป้าหมายคือกำหราบชนผิวขาว และกล่าวว่า คนผิวดำ “คือชาวยิวที่แท้จริง คนผิวขาวคือ “ปีศาจสีขาว”
และอ้างว่าพระเจ้าและศาสนดาทุกศาสนามีผิวดำและคนดำสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านเขา และจงรักภักดีต่อตนเองที่เป็น
บุตรองพระเจ้ายะฮ์เวห์


โดยลัทธินี้ได้สร้างชุมชนของชาวผิวดำในไมอามี่ เขาได้เป็นที่เคารพในชุมชนถึงขั้นประกาศวันที่ 7 ตุลาคม 1990
เป็นวัน ยะฮ์เวห์ เบน ยะฮ์เวห์เดย์ แต่กระนั้นลัทธินี้ถูกต่อต้านจากหลายฝ่าย เนื่องจากใช้ความยากจนของผลเพื่อผลประโยชน์
และแบ่งแยกเชื้อชาติ ในช่วงปี 1990 เขาถูกต้องข้อหาสมรู้ร่วมคิดคดีฆาตกรรม แม้ว่าจะรอดพ้นกฎหมายแต่เขาถูกสั่งห้าม
ไม่ให้ติดต่อกับชุมชนและห้ามสื่อสารกับสังคมภายนอกใดๆ ทั้งสิ้น

จนกระทั่งเขาได้ตายเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2007 ทำให้กลุ่มนี้แตกแยกและกระจัดกระจายไปทั่วอเมริกาในที่สุด



11. นัโอนาซี (NeoNazi)



ลัทธินีโอนาซี เป็นลัทธิที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อแสวงหาการฟื้นฟู นาซีนิยม
เกิดขึ้นอีกครั้งเพราะพวกเขาเชื่อว่า “คนขาวที่เป็นเยอรมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ดีที่สุด” พวกนีโอนาซีมักจะโกนหัว ไว้ทรงผมสกินเฮด
คล้ายพังค์ สักลายสวัสดิกะ หรือ สัญลักษณ์นาซีไว้ที่ตัว




นโยบายของลัทธินีโอนาซีมีความแตกต่างกันไปจากลัทธินาซีเดิม แต่กระนั้นเนื้อหาโดยรวมยังเหมือนเดิม พวกเขาจะสวามิภักดิ์ต่อ
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ,เหยียดเชื้อชาติต่างๆ,เหยียดสีผิว,เทิดทูนคนอารยันเยอรมัน,เหยียดเกย์ เยียดยิว สลาฟ อังกฤษ ฯลฯ
โดยปัจจุบันสมาชิกลัทธินี้มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งส่วนมากเป็นยุโรป พบมากในแถวชายแดนระหว่างประเทศที่ติดกับเยอรมัน
โดยเฉพาะในรัสเซียพบมากที่สุดใน กรุงมอสโก เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายของบุคคลกลุ่มนี้ได้แก่ ยิว สลาฟ เอเชีย ตาตาร์ ยูเครน เบลารุส
นิโกร ลูกครึ่ง มักถูกทำร้ายจนตาย บางประเทศในยุโรปมีกฎหมายห้ามลัทธินาซี การเหยียดผิว และการเหยียดเชื้อชาติ



10. ลัทธิบูชาเรือวิเศษ (Cargo cult)



เป็นลัทธิไสยศาสตร์ที่ชาวเกาะแห่งหนึ่งในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้ (ได้แก่มาลานีเซียและเกาะโดยรอบ เช่นเทนน่า เวนูอาดู)
จะพูดไงดีและ อืม เอางี้นะ คุณเคยเห็นคนบ้านนอกหลังเขาตื่นเต้นไหมครับเวลาเขามาแจกอะไรที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
เช่นตื่นเต้นไฟฟ้าเข้าหมู่บ้าน ตื่นเต้นโทรศัพท์ ชนิดเรียกว่าไม่เคยเห็นมาก่อน


ศาสนาคาร์โก้ก็เหมือนกันเป็นหลักปฏิบัติที่ปรากฏในสังคมดั้งเดิมในหลายเผ่าในการปฏิสัมพันธ์กับวัฒนธรรมตื่นเทคโนโลยีชั้นสูง
ความนิยมการได้รับความมั่งคั่งทางวัสดุ(สินค้า) คาดว่าลัทธิเริ่มขึ้นในในช่วงชาวตะวันตกมาเยือนเกาะในศตวรรษที่ 19
ตอนนั้นชาวตะวันตกได้นำสินค้าแปลกๆ มาให้แก่ชาวเกาะชนิดที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน(คงจะพวกเครื่องเทศหรือเสื้อผ้ามั้ง??)
ทำให้พวกเขาเกิดความเชื่อว่าบรรพบุรุษของพวกตนจะเดินทางกลับคืนสู่โลกนี้อีกครั้งด้วยเรือวิเศษ ซึ่งบรรทุกสินค้ามีค่ามหาศาลมาด้วย
บรรพบุรุษผู้วิเศษเหล่านั้นจะมาช่วยปลดแอกให้พ้นจากการเป็นอาณานิคมของชนผิวขาว และช่วยสร้างสันติสุขถาวรให้พวกตนโดยถ้วนหน้า


และในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พิธีกรรมของศาสนาคาร์โก้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อเครื่องบินจากกองทัพญี่ปุ่นและอเมริกันมาแจกของ
ให้แก่ชาวพื้นเมืองชาวเกาะ ซึ่งชาวเกาะชอบมันมาก และเมื่อสงครามโลกจบลงก็หยุดแจกของ ทำให้ชาวเกาะก็เริ่มทำลัทธิพิธีกรรม
เพื่อเรียกนกเหล็ก(เครื่องบิน)จากฟ้าลงมา(หรือส่งสินค้าทางร่มชูชีพ)แจกของฟรีเหมือนที่เคยเกิดขึ้นช่วงสงครามโลก ด้วยการสร้าง
ลอกเลียนแบบสนามบิน ไม่ว่าจะหอคอยบังคับการ และทีมงานภาคสนามที่คอยโบกธง ทำสัญญาไฟ เปิดทางสำหรับวิ่ง
และพวกเขายังมีหูฟังที่เกาะสลักมาจากไม้หรือนั่งอาคารที่ทำเหมือนหอคอยสังเกตการณ์ด้วย

ปัจจุบันพิธีกรรมที่ว่ายังคงอยู่ในหมู่ชาวเกาะนี้ไม่เสื่อมคลาย และแล้ว Cargo cult ก็ได้กลายเป็นคำศัพท์ที่แปลว่า ค่านิยมเชิงวัตถุไป


9. Chen Tao



เฉินเต่า หรือ "True Way" เป็นลัทธิที่เชื่อเรื่องยูเอฟโอที่ก่อตั้งในไต้หวัน โดย ฮอน-หมิงเฉิน(เกิด 1955)
เป็นอดีตอาจารย์ที่เอาเรื่องพระเจ้า, ศาสนาพุทธ, เต๋า, จานบินผสมกับข้อมูลหลอกลวงทางวิทยาศาสตร์และจักรวาลวิทยาแบบผิดๆ
รวมถึงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ค่อนข้างผิดเพี้ยนมาผสมรวมกับเรื่องจานบิน เชื่อว่าโลกกำลังจะกลับสู่ยุคไดโนเสาร์
อ้างว่าเขาได้พบพระเจ้าในปี 1992 เชื่อว่าโลกจะกลับไปสู่ยุคไดโนเสาร์(มุกประจำ) ทางเดียวที่มนุษย์จะรอดได้
คือการอาศัยอยู่ทวีปอเมริกาเหนือเพื่อรับความช่วยเหลือจากพระเจ้าจากจานบินและเชื่อว่าอายุจักรวาล คือ 4500000000000 ปี
ระบบสุริยจักรวาลจะถูกสร้างขึ้นโดยสงครามนิวเคลียร์


ลัทธินี้เป็นที่รู้จักกันดีเป็นอย่างมากในชาวไต้หวัน(จดทะเบียนเป็นสมาคมวิจัยและย้ายไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา) และล้มเหลวในปี 1998
เนื่องจากคำพยากรณ์ผิดพลาด เพราะเขาคาดการณ์ว่า

"เวลา 0.01 เมื่อ 25 มีนาคม 1998  พระเจ้าจะปรากฏช่อง 18 ที่อเมริกาเหนือ"

แต่เอาเข้าจริงพระเจ้าก็ไม่ปรากฏช่องดังกล่าว ทำให้ลัทธินี้เสื่อมความนิยมสาวกหลายคนออกจากลัทธินี้เพื่อกลับไต้หวัน
แต่กระนั้นลัทธินี้ยังคงอยู่พร้อมด้วยความเชื่อใหม่ว่าจีนและไต้หวันจะทำสงครามกันจนนำไปสู่หายนะนิวเคลียร์
หลังปี 2001 ที่อยู่ปัจจุบันของศาสดาลัทธินี้ไม่ปรากฏ



8. โฮ โน ฮาน่า Ho No Hana



Ho No Hana เป็นหนึ่งในลัทธิความเชื่อนอกจากศาสนาหลักๆ ในญี่ปุ่นที่มีมากถึง 2 แสนความเชื่อ ก่อตั้งโดย Hogen Fukunaga
ผู้อ้างตัวว่าสามารถวินิจฉัยโรคต่างๆ ได้โดยแค่ตรวจสอบเท้าของคนคนนั้น  เขาได้ก่อตั้งลัทธิในปี 1987 หลังจากนั้นเขาก็อ้างว่า
ได้รู้ถึงการเกิดใหม่ของพระเยซูคริสต์และพระพุทธเจ้า เขาอ้างว่ามีสมาชิก 30,000 คน อย่างไรก็ตามเขาได้เรียกเก็บเงิน
ถึง 900 ดอลลาร์ในการอ่านเท้า จนทำให้หลายคนเชื่อว่าเขาหลอกลวงคนเอาเงินเข้ากระเป๋าตนเอง
เช่นเขาบอกว่า "เท้าของคุณบ่บอกว่าคุณกำลังจะตายนะ จะต้องจ่ายเงินประมาณเท่านี้แล้วเราจะต่อชีวิตให้


หนักหนาไปกว่านั้น การวินิจฉัยโรคของเขายังเรียกเก็บเงินสูงถึง 900 ดอลลาร์ จนถูกตั้งข้อสังเกตว่า นี่คือการหลอกกินกันฟรีๆ
ในที่สุดเขาก็ถูกจับในข้อหาโกงเงิน และโดนปรับสูงถึง 2,120,000 ดอลลาร์



7. คริสตจักรมาราโดน่า Iglesia Maradoniana



คริสตจักรมาราโดน่า ใช่แล้วครับลัทธินี้เกิดขึ้นมาแล้วครับบนโลกของเรา เป็นลัทธิที่สร้างขึ้นเมื่อ 30 ตุลาคม 1998
ซึ่งตรงกับวันเกิดครบ 38 ปีของนักฟุตบอลระดับตำนาน ชาวอาร์เจนไตน์ Diego Maradona โดยแฟนบอลอาร์เจนตินาได้เทิดทูนมาราโดนาขึ้นมาเทียบเท่าพระเจ้า
และเปรียบเทียบมาราโดน่าเสมือนเทพเจ้าโดยใช้ชื่อ “D10S”(มาจากเสื้อหมายเลขสิบที่เขาสวมใส่ตอนเล่นทีมชาติ)

เมื่อปี 2001 ในเมืองโรซาริโอ  พวกเขามีการชุมนุมครั้งแรกพบว่ามีคนร่วมงานถึง 80,000 -100,000 คน จาก 60 ประเทศทั่วโลก


แถมยังมีบัญญัติ 10 ประการคล้ายกับคัมภีร์ไบเบิ้ล เช่น ลูกบอลคือความรักเหนือทุกสิ่ง(อย่างกับซึบาสะ), จงปกป้องสีธงชาติอาร์เจนตินา,
เผยแพร่คำสั่งมาราโดน่าไปทั่วโลก, จงใช้ชื่อดิเอโกเป็นชื่อที่สองของคุณและลูกของคุณ, ทำตามคำสั่งสอนของคริสตจักรมาราโดน่า ฯลฯ



6. ลัทธิกิ่งก้านแห่งดาวิเดียน Branch Davidians



David Koresh ผู้ก่อตั้งลัทธินี้เชื่อว่า ตัวเขาและสาวกล้วนเกิดมาในยุค ‘ อาร์มาเกดดอน (Armageddon) ’
อันเป็นวันที่พระเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ว่า เป็นวันวิบัติของโลก โดยโคเรชได้เผยกับเหล่าสาวกว่า ตนเองก็อวตารแห่งพระคริสต์ มากไปกว่านั้น
เขานิยมการมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก  และมีเพศสัมพันธ์กับเด็กที่อยู่กินเป็นภรรยาหลายคนด้วยกัน มีการตบตีทารุณต่อเด็กและสตรี
มีการสะสมอาวุธสงครามไว้ภายในสำนักมากมาย จน FBI รวบรวมหลักฐานจนสามารถเอาผิดกับเจ้าลัทธิได้


เมื่อได้เวลาอันสมควร เอฟ.บี.ไอ. จึงบุกเข้ากวาดล้างที่ทำการของกิ่งก้านแห่งดาวิเดียนในเมืองวาโค รัฐเท็กซัส
เมื่อเอฟ.บี.ไอ.ประกาศให้มอบตัวก่อนจะยิ่งแก๊สน้ำตาเข้าไป เจ้าลัทธิสั่งสู้ตาย จากนั้นก็วางเพลิงเผาที่ทำการ
เมื่อเหตุการณ์สงบ เอฟ.บี.ไอ. เข้าไปตรวจสอบพบตัวสาสดากับสาวกเป็นศพดำเป็นตอตะโกรวมกัน 82 ศพ
สาวกคนสนิทที่รอดชีวิตมาได้แอบเผยแพร่คำสอนเพื่อฟื้นฟูสำนักขึ้นมาแต่ไม่สำเร็จ



5. Wicca



ลัทธิบูชาแม่มด ว่ากันว่ามีผู้ศรัทธามากเป็นอันดับ 5 ของบรรดาความเชื่อต่างๆ ในอเมริกา ก่อตั้งโดย Gerald Gardner ในปี 1935
เป้าหมายสูงสุดคือการกลับสู่ธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ (แบบเดียวกับนิพพานในศาสนาพุทธ) ในอเมริกานั้น Wicca ได้รับการจดทะเบียน
เป็นศาสนาอย่างถูกต้อง


มันถูกนับรวมเข้ากับศาสนาเพแกน (Paganism) ซึ่งเป็นศาสนาแบบท้องถิ่นของชาวยุโรปในอดีต ก่อนที่จะมีการเข้ามาของคริสต์ศาสนา
ศาสนาที่จัดเข้ากลุ่มนี้ได้แก่ ศาสนาอียิปต์โบราณ ศาสนาของกรีก-โรมันโบราณ เป็นต้น



4. The Church of Euthanasia



คริสตจักรการุณฆาต(ย่อจาก COE)  ก่อตั้งโดย Chris Korda เริ่มต้นจากการสร้างเว็บไซต์ไม่หวังผลกำไร
หลักคำสอนลัทธินี้คือส่งเสริมการฆ่าตัวตาย สังวาสผิดธรรมชาติ และกินคน(กินคนที่ตายไปแล้ว) แต่กระนั้นหลักคำสอนนี้ถูกจำกัดด้วยข้อห้ามต่างๆ
คือต้องลดประชากรโดยวิธีสมัครใจเท่านั้น ห้ามฆาตกรรม ข่มขืน หรือห้ามฆ่าโดยไม่สมัครใจเด็ดขาด


ลัทธิแห่งนี้ได้รับความสนใจในปี 1995 เนื่องจากเป็นพันธมิตรกับ paranoia.com โดยในเว็บมีคำแนะนำวิธีการฆ่าตัวตายโดยการทำให้สลบ
ด้วยก๊าซฮีเลียม แต่กระนั้นหน้านี้ถูกตัดออกในปี 2003 หลังจากผู้หญิงอายุ 52 ปีคนหนึ่งฆ่าตัวตายในเซนต์หลุยส์ ส่งผลทำให้ลัทธินี้ผิดกฎหมายดังกล่าว
และวันที่ 11 กันยายน 2001 เหตุการณ์ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ถูกถล่ม ก็มีการทำเพลงวีดีโอล้อเลียนในชื่อ “ฉันชอบมองดู”
โดยภาพตัดต่อให้การตายเหมือนเป็นเรื่องตลก



3. ลัทธิคำสอนแห่งวิหารสุริยา (Order of the Solar Temple)



Luc Jouret ผู้ก่อตั้งลัทธินี้เป็นผู้ป่วยทางจิตชาวสวิตเซอร์แลนด์ แต่กลับอ้างตนเป็นอัศวินแห่งเทมพลาร์ในศตวรรษที่ 14
จนเขากลายเป็นศาสดา ที่มีสาวกจำนวนมาก อาการทางประสาทของจูเรต์เริ่มถึงขีดสุดในปี ค.ศ.1994 ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมต่อเด็กน้อยวัยเพียง 3 เดือน
เมื่ออยู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นมาใช้ดาบกวัดแกว่งไปแทงเด็กน้อยผู้น่าสงสารตายคาที่ โดยกล่าวหาว่าเป็นผู้ต่อต้านพระคริสต์มาเกิดต่อหน้าผู้เป็นบิดามารดา 


อีก 15 วันต่อมา จูเรต์ก็เอายาพิษผสมเครื่องดื่มให้สาวกคนสนิท 15 คนกินจนชักพะงาบๆ ผู้ไม่ดื่มก็ถูกยิง หรือไม่ก็ถูกรมควันจนสำลักตาย
เมื่อตำรวจบุกเข้าไปก็พบแต่ศพเกลื่อนสำนักไปหมดนับได้ 75 ศพ มีทั้งที่ฆ่าตัวตายและถูกฆาตกรรม รวมทั้งตัวจูเรต์ก็กลายเป็นศพไปด้วย




2. ลัทธิขบวนการสร้างสรรค์ (Creativity Movement)



แมท เฮลเริ่มเป็นศาสดาลัทธิขบวนการสร้างสรรค์  โดยประกาศว่าเป็นลัทธิที่นิยม "อหิงสา" แต่อันที่จริงคือ การเหยียดผิว
เขาประกาศต่อต้านชาวต่างชาติและพวกเกย์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู สาวกของลัทธิถูกล้างสมองให้ประกอบอาชญากรรมต่อปฏิปักษ์
สาวกระดับสูงถูกตัดสินจำคุกในข้อหาฆาตกรรมคนผิวดำและสตรีชาวเกาหลีใต้ กับทำร้ายชาวยิวปางตายไปอีก 9 คน 


เจ้าลัทธิเองก็ถูกศาลสั่งลงโทษจำคุก 40 ปีด้วยข้อหาจ้างวานตำรวจนอกแถวให้สังหารผู้พิพากษา ผู้กระทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับลัทธิของตัวเอง
และยังถูกกล่าวหาวามีส่วนรู้เห็นในการสังหารสามีกับมารดาของผู้พิพากษาคนดัง กล่าว ปัจจุบันลัทธิอุบาทว์นี้ถูกกวาดล้างจนสิ้นซาก
เพราะขัดต่อกฎหมายของสหรัฐอเมริกา

นี้คือบางส่วนของ 16 บัญญัติของลัทธิความคิดสร้างสรรค์
-เป้าหมายของคือการสร้างดินแดนศักดิ์สิทธิที่มีแต่คนขาวเท่านั้น
-ศัตรูที่น่ากลัวและอันตรายที่สุดของเราคือชาวยิว
-ทำลายและขับไล่ทุกคนที่คิดว่าเป็นชาวยิวและอิทธิพลออกไปจากสังคม




1. ลัทธิพี่น้องผองผีดูดเลือด (Vampire Clan)



เรื่องราวการดูดเลือด(คน) นั้นยังคงฝังลึกอยู่ในจิตใจของคนหลายคน ที่เชื่อว่าเลือดคนนั้นเป็นสารอาหารที่มีสรรพคุณมากมาย
มีหลายลัทธิที่มีพิธีกรรมดื่มเลือด(คน)มากมาย หนึ่งในนั้นคือลัทธิ “ตระกูลผีดูดเลือด”


ซึ่งเป็นลัทธิที่ก่อตั้งโดยร็อด เฟอร์เรล(เกิด 28 มีนาคม 1980) ที่ได้รับสมาชิกส่วนใหญ่ที่เป็นวัยรุ่นตั้งเป็นลัทธิในปี 1998
โดยมีเขาเป็นศาสดาทั้งๆ ที่เขาอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น โดยลัทธินี้มีพิธีกรรมคือการเจาะเลือดของคนในลัทธิมาแลกกันดื่ม
และแลกคู่กันเสพสม


ร็อด เฟอร์เรล ชาวอเมริกัน ตั้งตัวเป็นศาสดาตั้งแต่อายุได้ 16 ปี เขาตั้งชื่อลัทธิของเขาว่า "มนต์ผีดูดเลือด" มีหลักอยู่ว่า
ต้องเจาะเลือดของคนในลัทธิมาแลกกันดื่มและแลกคู่กันเสพสม มีผู้ถูกเฟอร์เรลหลอกให้ลงมือสังหารไป 2 ศพ
ในรัฐเคนตักกี เฟอร์เรลหลอกสาวกว่าเขาคือ "เวกัสโซ" จอมแวมไพร์ที่มีอายุยืนยาวมากว่า 500 ปีมาแล้ว
เฟอร์เรลร่วมกับ ฮีทเธอร์ เวนดอร์ฟ สาวกสาวบุกเข้าไปในบ้านขอเวนดอร์ฟเอง ลงมือใช้ชะแลงตีและแทงพ่อแม่จนตาย
แล้วพากันหนีไปลงมือสังหารพ่อแม่ของตัวเอง หลบหนีไปซ่อนตัวแต่ถูกตำรวจจับกุม ถูกตัดสินประหารชีวิต
แต่สาวกของเขาพยายามเผยแพร่ลัทธิไปทั่วสหรัฐฯ แม้แต่ออสเตรเลียเองก็มีการติดตามทำลายล้างให้สิ้นซาก



เจ้าลัทธิถูกจับกุมตัว และได้รับโทษให้ประหารชีวิตในที่สุด เรื่องจริงเหล่านี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2002
โดยใช้ชื่อว่า Vampire Clan เช่นเดียวกับชื่อลัทธิ



credit :: manager
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 เมษายน 2014, 15:09:47 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

wanchalearm147

  • แอบจิต
  • **
  • กระทู้: 18
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 20 ลัทธิความเชื่อสุดประหลาดหลุดโลก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2014, 15:37:40 »

jita

  • แอบจิต
  • **
  • กระทู้: 18
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 20 ลัทธิความเชื่อสุดประหลาดหลุดโลก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2014, 10:58:06 »

ว้าวขอบคุณค่ะ pongz pongz pongz eta08 ;khhg .,mn .,mn .,mn
สุขภาพผม  l  สุขภาพผม   l   สุขภาพผม