-->

ผู้เขียน หัวข้อ: 14 เรื่องแปลกแต่จริงเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์  (อ่าน 645 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18150
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

14 เรื่องแปลกแต่จริงเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์



วันนักบุญวาเลนไทน์ (Saint Valentine's Day) หรือที่เป็นที่รู้จักว่า วันวาเลนไทน์ (Valentine's Day)
ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันประเพณีที่คู่รักบอกให้กันและกันทราบเกี่ยวกับความรักของพวกเขา
โดยการส่งการ์ดวาเลนไทน์และขนม  ทำให้วันวาเลนไทน์ขึ้นชื่อว่าเป็นวันแห่งความรัก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นวัน
แห่งความสุข และนี้คือ 14 เรื่องที่เกี่ยวกับวาเลนไทน์ที่แปลกจริงๆ

         
1.ในช่วงสองสัปดาห์ก่อนวาเลนไทน์ อเมริกาขายเครื่องประดับเพชรพลอยไป 34 ล้านตัน

2. ส่วนใหญ่ที่มาของดอกกุหลาบหลายล้านตัน ที่ขายในวันวาเลนไทน์ในสหรัฐอเมริกาจะถูกส่งมาจากอเมริกาใต้
ซึ่งสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก

3. วันวาเลนไทน์ มีรากฐานมากจากวันหยุดของคนนอกศาสนาโบราณที่เรียกว่า Lupercalia มีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน
ในกรุงโรมสมัยก่อน Lupercalia เป็นประเพณีของชาวโรมันซึ่งจัดขึ้นเพื่อบูชาจูโน่เทพเจ้าแห่งความรัก ชาวโรมันรู้จักเธอ
ในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ และวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็น
วันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้น จะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด 



โดยในวันก่อนมีเทศกาลหนึ่งวัน จะมีการจับฉลากของหนุ่มสาว ใครได้ชื่อใครจะได้คนคนนั้นเป็นเพื่อนร่วมเที่ยวตลอด
ช่วงเทศกาล ซึ่งเป็นที่มาของการพบปะของหนุ่มสาวและเกิดรักกันและแต่งงาน(และฟันกัน) ซึ่งปกติแล้วหนุ่มสาวสมัยนั้น
แทบไม่เคยพบปะกัน เพราะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด

4. ผู้เสียสละคริสเตียนนามเซนต์วาเลนไทน์ถูกตัดหัวเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ในข้อหาแอบดำเนินงานแต่งงานลับ
(สมัยนั้นกรุงโรมอยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) เวลานั้น กรุงโรมได้เกิดสงคราม
หลายครั้ง และประสบกับปัญหาในการที่จะหาทหารจำนวนมากมายมหาศาลมาเข้าร่วมในศึกสงคราม

แต่ผู้ชายโรมันหลายคนไม่ต้องการจากครอบครัวและคนอันเป็นที่รักไป และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้จักรพรรดิคลอดิอุส
ประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุงโรม แต่นักบุญวาเลนไทน์ ได้แอบแต่งงานของคู่รักอย่างลับ ๆ
และจากการกระทำเหล่านี้เอง ทำให้นักบุญวาเลนไทน์ถูกจับและถูกตัดสินประหารโดยการตัดศีรษะ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์

ประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270)



5. จากการวิจัยพบว่า 75 เปอร์เซ็นต์ที่ พยายามฆ่าตัวตายเนื่องมาจากมีปัญหาความสัมพันธ์

6. 46 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันจะแลกเปลี่ยนขนมวาเลนไทน์

7. 67 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันมีน้ำหนักเกินหรืออ้วน
   
8. บัตรวาเลนไทน์อันแรกของโลกถูกส่งโดย ชาร์ลส์ ดยุคแห่งเมืองออเลียนส(Charles, Duke of Orleans) ไปให้
ภรรยาของเขา ในขณะที่เขาจำคุกในหอคอยลอนดอน ในขณะที่เขาเป็นเชลยศึกอยู่และจำคุกนานถึง 24 ปี (เขียนถึง
ศรีภรรยาว่า  Je suis desja d'amour tanné Ma tres doulce Valentinée… —Charles d'Orléans,
Rondeau VI, lines 1–2 [26])



9. จากการสำรวจพบว่าล่าสุด หนึ่งในสิบของเด็กและผู้ใหญ่ยอมรับว่ารู้สึกเปล่าเปลี่ยว, ไม่ปลอดภัย, กดดัน หรือไม่เป็น
ที่ต้องการในวันวาเลนไทน์และต้องการยอมรับมัน

10. สี่สิบเปอร์เซ็นต์ของคนมีความรู้สึกเชิงลบต่อวันวาเลนไทน์
   
11. เหตุการณ์ในวันวาเลนไทน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือการสังหารหมู่วันวาเลนไทน์(St. Valentine's Day Massacre)
ที่สมาชิกแก๊ง 7 คนคู่อริของเจ้าพ่ออัล คาโปนถูกฆ่า เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 1929 ซึ่งถือได้ว่าเป็นประวัติเปื้อนเลือดของ
อัล คาโปน ที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักเขาในฐานะผู้ร้าย และเป็นเหตุให้เขากลายเป็นที่หมายตาของตำรวจในที่สุด
(คดีนี้เกิดขึ้นระหว่างอัล คาโปน กับคู่อริ บักส์ โมรัน (George Clarence "Bugs" Moran)

ซึ่งเป็นมาเฟียอีกกลุ่มหนึ่งในชิคาโก อัลคาโปนสืบทราบได้ว่าโมรันแอบเก็บตุนสุราเถื่อนไว้เหนือชิคาโก  อัล คาโปน
เลยสั่งลูกน้อง นาม แจ็ค "แมชชีนกัน" แมคเกิร์น (Jack"Machine Gun"McGurn) และลูกสมุนอื่นๆอีก 4 คน
ปลอมตัวเป็นตำรวจ แกล้งทำเป็นตรวจจับสุราเถื่อนในโกดังของโมรัน และลูกสมุนอัล คาโปนเรียกให้ลูกสมุนของโมรัน
ยืนเรียงกันหันหน้าเข้ากำแพง จากนั้นก็ใช้ปืนกลระดมยิงจนเสียชีวิตทั้งหมด



เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกินเวลาไม่ถึง 8 นาที ส่วนตัวโมรันซึ่งเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของแผนสังหารนี้
มาถึงโกดังช้ากว่าลูกน้องเล็กน้อย และพบว่ามีรถตำรวจ(ปลอม)อยู่หน้าโกดัง จึงได้หนีไปก่อนพร้อมกับสมุนอีกสองคน
ซึ่งทำให้เขารอดจากการสังหารนี้ไปได้อย่างหวุดหวิด


12. 64 เปอร์เซ็นต์ของคนอเมริกันไม่วางแผนวันวาเลนไทน์ล่วงหน้า

13. มีลูกอมหัวใจรสอึขาย(ยังจำแฮรี่พอตเตอร์ ภาคแรกได้ไหม ที่เป็นชื่อลูกอมลูกอม เบอร์ตี้บอตส์  มีรสชาติ
หลากหลายมาก และในโลกแห่งความจริงก็มีขาย โดย บริษัท Warner Bros. Entertainment ได้ขายลิขสิทธิ์
ให้กับบริษัท Jelly Belly Candy ซึ่งก็ได้ผลิตออกมาเป็น 10 รส มี รสขี้หู, รสขี้มูก, รสไส้กรอก, รสพริกไทยดำ,
รสดิน,รสไข่เน่า, รสอ้วก, รสสบู่, รสแตงดอง




ด้านหลังกล่อง บอกรายละเอียดว่า ไม่มีไขมัน แต่ให้พลังงาน 140 แคโลรี ส่วนประกอบคร่าวๆ มี น้ำตาล น้ำเชื่อมข้าวโพด
ขี้ผึ้ง ผงน้ำส้มสายชู เกลือและแต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ ราคา 1 กล่องอยู่ที่ 5.99 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หากสนใจจะสั่งซื้อ
ก็สามารถเปิดเข้าไปดูได้ที่ www.jellybelly.com

14. สงสัยไหม ทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงต้องมอบช็อกโกแลตโดยเป็นฝ่ายหญิงมอบกับผู้ชาย ทั้งๆ ที่ประเทศอื่นนั้นไม่มีเลย
โดยจุดเริ่มต้นธรรมเนียมนั้นเกิดจาก บริษัทผลิตขนมในเมืองโกเบชื่อว่า Morozoff ใน ปีค.ศ. 1936 ได้รู้จักกับประเพณี
ในวันวาเลนไทน์ จากนักหนังสือพิมพ์ในอเมริกาคนหนึ่ง ก็เลยเกิดความคิดที่จะนำประเพณีนี้มาเผยแพร่ที่ญี่ปุ่น




จึงคิดเคมเปญในการขายช็อกโกแลต โดยทำเอาธรรมเนียมการส่งของขวัญในวันวาเลนไทน์มาเผยแพร่ โดยโฆษณาว่า
"วันวาเลนไทน์ เป็นวันแห่งความรัก ควรจะมอบของขวัญให้แก่คนรัก" และออกแคมเปญให้มอบชอกโกแลตเป็นของขวัญ
ในขั้นนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าควร สินค้าที่ขายดีเป็นเพียงช็อกโกแลต ชิ้นเล็ก ราคา 3 ชิ้น 50 เยน

ต่อมาในปีค.ศ. 1958 ร้าน Mary's Chocolate ในโตเกียวได้เริ่มแคมเปญนี้อีกครั้ง เชิญชวนให้ผู้หญิงใช้ช็อคโกแลต
เป็นสื่อแสดงความในใจให้ชายที่ตนรัก มีการผลิตช็อคโกแลตรูปหัวใจออกมาจำหน่าย และรณรงค์ในปีต่อ ๆ มา ทำให้
ยอดการจำหน่ายช็อคโกแลตเพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทอื่น ๆ หันมาเลียนแบบเพิ่มขึ้น



คำถามต่อมาว่าทำไมถึงเป็นผุ้หญิง สาเหตุเนื่องมาจาก ลูกค้าที่มาซื้อช็อกโกแลตส่วนมากมักเป็นผู้หญิงไงละ
จนในที่สุดเมื่อประมาณปีค.ศ.1970  สมาคมช็อคโกแลตและโกโก้ของญี่ปุ่นได้กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์
ของทุกปีเป็นวันแห่งช็อคโกแลต จนกลายเป็นธรรมเนียมของประเทศญี่ปุ่นที่ประเทศอื่นๆ ไม่มีในที่สุด

 

http://listverse.com/2010/02/10/14-miserable-facts-about-st-valentines-day/
http://atcloud.com/stories/67880+ +
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 กุมภาพันธ์ 2018, 13:41:09 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

sab2618

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 58
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: 14 เรื่องแปลกแต่จริงเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 16 มีนาคม 2018, 13:05:02 »