antalya escort bayan escort antalya antalya bayan escort
free hd porn
freier porno porno gratis
mengen escort bartin escort erzincan escort erzincan escort esenler masaj salonu erzincan masaj salonu goksun masaj salonu esenler masaj salonu biga masaj salonu erzincan masaj salonu ezine masaj salonu can escort
แสดงกระทู้ - jangna097narak
-->

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - jangna097narak

หน้า: [1]
1





อากาศเมืองไทยช่วงฤดูร้อนมันช่างร้อนระอุดั่งปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งรถยนต์ที่จอดไว้กลางแดดเป็นประจำ ก็จะมีอุณหภูมิสะสมภายในห้องโดยสารเพิ่มขึ้นไปด้วย Sanook! Auto จึงขอแนะนำ 5 ไอเท็มที่ไม่ควรเก็บไว้ในรถช่วงหน้าร้อนเด็ดขาด มีอะไรบ้าง?



รถยนต์ที่จอดรถไว้กลางแดดนั้น อาจมีอุณหภูมิสะสมสูงขึ้นแตะระดับ 65-70 องศาได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งอุณหภูมิระดับนี้อาจส่งผลต่ออุปกรณ์และชิ้นส่วนต่างๆ ภายในตัวรถได้ ในระยะยาวชิ้นส่วนคอนโซลที่เป็นพลาสติก อาจกรอบแตกหักได้ง่าย หรือปุ่มที่ใช้วัสดุยางมาเป็นส่วนประกอบ ก็อาจละลายจนกลายเป็นคราบเหนียวติดมือ ซึ่งส่วนมากมักพบได้ในรถยุโรปบางยี่ห้อ ที่ไม่ได้คำนึงถึงการใช้งานในประเทศเมืองร้อนมากนัก

อย่างไรก็ดี ยังมีอุปกรณ์อีกหลายอย่างที่เจ้าของรถมักเก็บติดรถไว้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำอันตรายจนเกิดความเสียหายได้ หากอยู่ในจุดที่แดดส่องหรืออุณหภูมิสูงสะสมเป็นระยะเวลานาน ได้แก่


1.พาวเวอร์แบงค์
พาวเวอร์แบงค์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่หลายคนมักพกติดตัวอยู่เสมอ ซึ่งในแบตเตอรี่สำรองแบบพกพา จะประกอบด้วยสารเคมีที่ไวต่อการทำปฏิกิริยาหากอยู่ในพื้นที่ที่มีความร้อนสูงเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้เกิดการลัดวงจรจนทำให้เกิดการระเบิดได้ ซึ่งการระเบิดของพาวเวอร์แบงค์ส่วนมากจะเป็นการพุ่งของเปลวไฟ ทำให้อุปกรณ์หรือแผงคอนโซลในรถได้รับความเสียหาย หากไฟเกิดลุกติดชิ้นส่วนที่ติดไฟง่าย เช่น เบาะนั่ง, แผงบุหลังคา, ฉนวนกันความร้อน ฯลฯ เหล่านี้อาจลุกลามบานปลายจนกลายเป็นไฟไหม้รถทั้งคันได้


2.ไฟแช็ค
ไฟแช็คมีโอกาสระเบิดได้หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูงตลอดเวลา รวมถึงสิ่งที่ติดไฟง่ายอื่นๆ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง, ไม้ขีดไฟ, พลุ เป็นต้น


3.กระป๋องสเปรย์
กระป๋องสเปรย์ประกอบไปด้วยแรงดันภายในกระป๋องสูงอยู่แล้ว เมื่อได้รับความร้อนสูงเป็นระยะเวลานาน ก็จะทำให้แรงดันเพิ่มขึ้นสูงมากขึ้นไปอีก จนกระทั่งระเบิดออก สร้างความเสียหายให้กับห้องโดยสารได้


4.เครื่องหอมระเหยต่างๆ
เครื่องหอมระเหยต่างๆ ภายในรถ ไม่ควรเก็บทิ้งไว้ในรถเมื่อต้องจอดทิ้งไว้กลางแดดเป็นระยะเวลานาน เพราะเมื่อได้รับความร้อนสูง อาจทำให้เกิดการละลาย สร้างความเสียหายให้กับแผงคอนโซลได้ ในบางกรณีอาจไหลเยิ้มลงบนคอนโซลรถเข้าไปยังซอกต่างๆ ซึ่งยากที่จะทำความสะอาดให้หมดสิ้น


5.แผ่นยางกันลื่น/ของประดับจากยาง
แผ่นยางกันลื่นหรือของเล่น ของประดับที่ทำจากยางมักไม่ถูกกับความร้อน ซึ่งทำให้เกิดการละลายติดกับแผงคอนโซลได้ และยังอาจทำให้คอนโซลเกิดเป็นรอยด่างถาวรได้อีกด้วย ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงนำอุปกรณ์เหล่านี้มาประดับบนแผงคอนโซล หรือใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องเก็บอุปกรณ์ที่กล่าวมาไว้ในรถจริงๆ ก็ควรเก็บไว้ในจุดที่ไม่กระทบกับแสงแดดโดยตรง เช่น กล่องเก็บของระหว่างเบาะนั่งคู่หน้า หรือ กล่องเก็บของใต้คอนโซลหน้า ซึ่งมีอุณหภูมิน้อยกว่าส่วนอื่นของรถ เหล่านี้ก็จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงเกิดความเสียหายได้ครับ

อ่านบทความดีๆ เกี่ยวกับรถยนต์ได้ที่นี่

http://www.stpwshop.com/article

https://www.facebook.com/TaiwanQualityTQ/

อะไหล่ไต้หวัน , จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ , อะไหล่รถยนต์คุณภาพ






2
สัพเพเหระ / หนัง Ferdinand
« เมื่อ: 17 ธันวาคม 2017, 14:07:23 »
หนัง Ferdinand หรือชื่อไทยว่า เฟอร์ดินานด์ ภาพยนตร์เรื่อง Ferdinand ถ่ายทอดเรื่องราวของวัวกระทิงยักษ์ที่มีใจอาจหาญ ภายหลังถูกหลงผิดวาเป็นสัตว์อันตราย เขาโดนจับตัวไปแล้วก็จำเป็นต้องจากกับครอบครัว เขามานะหาทางกลับไปพบครอบครัว เขารวมกลุ่มกลุ่มสัตว์แปลกๆเพื่อออกเสี่ยงอันตราย เรื่องราวในรูปภาพยนตร์เกิดขึ้นที่ประเทศสเปน ภาพยนตร์เรื่อง Ferdinand เป็นบทพิสูจน์ว่าคุณไม่บางทีอาจวินิจฉัยวัวกระทิงข้างนอกของมันได้




https://www.facebook.com/Dnungdotcom/posts/877097822451154


3
เทคโนโลยี มีพัฒนาการเทคโนโลยีคลาวด์จะแค่นั้น ยิ่งกว่านั้นประสบการณ์ของธุรกิจก็จะได้รับดียิ่งขึ้นไปพร้อม มันจะดีสำหรับธุรกิจที่จะสารภาพเทคโนโลยีก้อนเมฆได้รับคุณประโยชน์มากมายจากมัน






อุตสาหกรรมเทคโนโลยีม้วนด้วยคำชี้แจงแล้วก็ความหมายของ เทคโนโลยี cloud ความหมายพวกนี้มาจากคนขายที่เป็นผู้ล้างข้อมูลสินค้าของตัวเองผู้ให้บริการการจัดวางตำแหน่งองค์ประกอบเบื้องต้นของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศที่มานะทำให้ความมานะบากบั่นสำหรับเพื่อการทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นแล้วก็จากที่หารือแม้แต่น้อย







แบบการปรับภาวะคลัสเตอร์







โดยรากฐานแล้วคลาวด์คอมพิวติ้งเป็นต้นแบบการปรับใช้ซึ่งจะกำหนดกระบวนทัศน์ใหม่เกี่ยวกับกรรมวิธีการเลือกบริการหาและก็เรียกเก็บเงิน คนซื้อโดยปกติจะเป็นคนที่มีความรู้และความเข้าใจเรื่องคอมพิวเตอร์นักปรับปรุงแอพพลิเคชั่นและก็นักคิดแผนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีที่ทำให้การประมวลผลแบบคลาวด์เป็นได้ เช่น ทรัพยากรที่ใช้ด้วยกันของทรัพยากรที่ใช้ร่วมกั

4
แฟนหนังที่กำลังสรรเสริญอยู่เป็นประจำคอยสองวันในหนึ่งอาทิตย์ หนังโป๊ วันศุกร์ในการเปิดตัวภาพยนตร์และก็วันเสาร์ที่กำลังจะได้รู้ถึงคำวิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์ด้วยการแสดงชั้นหนึ่ง คนที่พอใจภาพยนตร์อัจฉริยะมักรอดูบทวิเคราะห์ภาพยนตร์ก่อนที่จะสูญเสียเวลาแล้วก็เงินไปกับภาพยนตร์โดยไม่หวาดกลัวว่าพวกเขาต้องอึกับขี้แน่ๆ บทวิเคราะห์ภาพยนตร์ทำให้ผู้ชมทราบได้ง่ายและก็ง่ายว่าภาพยนตร์มีค่าควรจะดูหรือไม่ บางคราวคนพึ่งพิงแบบอย่างภาพยนตร์แล้วหลังจากนั้นก็จับเกี่ยวกับการสูญเสียที่จริงจริงของเวลา แบบอย่างภาพยนตร์ผลิตขึ้นในลักษณะที่ยั่วยวนใจผู้ชมและก็ยั่วยวนใจความพึงพอใจ หนึ่งไม่สามารถที่จะทราบเกี่ยวกับภาพยนตร์จริงโดยเพียงแต่ดูตัวอย่างที่น่าดึงดูด แต่ว่าพวกเขาดูเหมือนจะ







อุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้ปรับความสูงใหม่ๆวันแล้ววันเล่าในประเทศอินเดีย หนังโป๊ มีการลงทุนจำนวนมากในอุตสาหกรรมนี้ ด้วยเหตุนี้เพื่อจะได้รับกำไรผู้สร้างภาพยนตร์ไปในระดับที่ดีสำหรับในการลงทุนจำนวนมากในด้านการตลาดรวมทั้งการช่วยส่งเสริมของ เหมือนกับสินค้าอะไรก็ตามภาพยนตร์ก็มีการวางขายรวมทั้งส่วนที่เหมาะสมที่สุดของภาพยนตร์จะได้รับการเน้นในลักษณะที่ผู้ชมมั่นใจว่าเป็นที่แน่ๆว่าจำเป็นต้องมองภาพยนตร์ ครั้งคราวมันเกิดขึ้นภายหลังที่ดูหนังพวกเขารู้ดีว่าพวกเขาได้รับการตำหนิดกับดัก นี่เป็นเหตุผลที่จุดสำคัญของการรีวิวภาพยนตร์จะเพิ่มมากขึ้นคำวิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์อินเดียมีให้บริการไม่เพียงแต่ แต่ว่าในหนั

5
ขอบคุณทุกๆ คนนะ



7
ขอดันโพ้สนะฮะ



8


ททท.เปิดตัวแคมเปญท่องเที่ยว Open to the New Shades รวมทั้งคู่มือทางท่องเที่ยว Experience Thailand and More เน้นย้ำโปรโมตความมากมายหลายด้านการท่องเที่ยวสู่สายตาคนประเทศอื่น โดยเปิด 4 ทางท่องเที่ยว 4 จุดหมายเป็นท่องเที่ยวเชิงของกิน เริ่มจากอยุธยาไปถึงมะละกา ของมาเลเซีย ท่องเที่ยวเชิงกีฬาการเสี่ยงอันตราย เริ่มจากจังหวัดบุรีรัมย์ไปถึงกระแจะ ของเขมร ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เริ่มจากจังหวัดเชียงรายไปถึงบากัน ของภรรยานมา รวมทั้งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เริ่มจากจังหวัดภูเก็ตไปถึงเกาะปีนัง ของมาเลเซีย
Advertisement

ผู้ประกอบกิจการและก็นักเดินทางสามารถขอรับคู่มือการท่องเที่ยว Experience Thailand and More เหมาะกองช่วยเหลือการบริการท่องเที่ยว ททท.



9


โรคอันตรายหลายโรคมาจากของกินที่พวกเราทานเข้าไป และก็จำนวนมากมักขึ้นกับความสะอาดขององค์ประกอบที่ใช้สำหรับเพื่อการทำของกิน หลายท่านหลบหลีกของกินนอกบ้านเพื่อลดการเสี่ยงสำหรับการติดเชื้อโรคทางเดินอาหารต่างๆอันเกิดขึ้นมาจากวัตถุดิบที่ไม่สะอาดของร้านทั่วๆไป แต่ว่าแต่กระนั้นการซื้อเนื้อสัตว์มาทำกับข้าวทานเองก็บางครั้งก็อาจจะยังมีการเสี่ยง ถ้าเกิดพวกเราเลือกซื้อไม่เป็น ด้วยเหตุนี้พวกเรามาดูแนวทางเลือกซื้อเนื้อสัตวอปิ้งถูกทาง เพื่อลดการเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆกันเลยดีกว่า

 

    เนื้อหมู

เนื้อจำต้องไม่มีกลิ่นเหม็นกลิ่นคาว มีสีชมพูสด เนื้อเรียบงาม ไม่เป็นเม็ดสาคู เนื่องจากว่าโน่นบางทีอาจเป็นพยาธิตัวตืดหมู หนังหมูเรียบลื่น เนื้อเย็นไม่อุ่นมือมากเกินความจำเป็น กดเนื้อดูแล้วไม่เหลว หรือนุ่มจนถึงเกินความจำเป็น

 

    เนื้อไก่

เนื้อหนังแจ่มใส ไม่ซีดเซียว ไม่มีกลิ่นเหม็นกลิ่นคาว ถ้าหากเป็นส่วนอกจะต้องชิ้นครึ้ม ส่วนขาจะต้องอ้วนสั้น เนื้อมาก พับงอขาได้ง่าย ดวงตาผ่องใส รวมทั้งถ้าเกิดจะนำไปต้ม ให้ใช้คนอ่อนหัด แม้นำไปอบ หรือทอด ให้ใช้ไก่แก่

 

    เนื้อวัว

เนื้อวัวจะต้องมีสีแดงสด หรือออกเข้มจนถึงเป็นสีน้ำตาลน้อย มันของเนื้อเป็นสีขาว ไม่ใช่สีเหลือง หรือเหลืองเข้ม ไม่มีกลิ่นเหม็นกลิ่นคาว มีความเย็นฉ่ำไม่แห้งจนถึงเหลือเกิน และก็เนื้อแน่น กดแล้วไม่ยุบเป็นรอยยุบได้อย่างง่ายๆและก็ควรที่จะเลือกซื้อเนื้อชิ้นใหญ่ มากยิ่งกว่าพื้นที่ปาดทิ้งเอาไว้เป็นชิ้นเล็กๆ

 

    กุ้ง

เลือกกุ้งที่ไม่มีกลิ่นเหม็น หัว เปลือก หางติดแน่นกับลำตัว ลวกแล้วหางไม่ดำ เนื้อแน่นไม่ยุ่ย แล้วก็มีรสหวาน ไม่จืดชืดสนิท

 

    ปลาหมึก

ตามีสีใส ไม่ขุ่นขาว (ควรจะมีตาติดมาพร้อมกับหัวด้วย) หนังงาม ไม่มีรอยถลอกปอกเปิกหรือรอยขัด หัวกับตัวไม่หลุดออกมาจากกัน เนื้อปลาหมึกแน่น ไม่ยุ่ย ถือปลาหมึกกึ่งกลางลำตัวจะต้องพับลงน้อย ไม่แข็ง หรือนุ่มจนกระทั่งเหลือเกิน

 

    ปู

ซื้อปูสดเป็นๆกดแล้วตัวไม่ยุบ ตากระดุกกระดุกกระดิกได้ สีสดไม่ซีดเผือด ขาทุกส่วนอยู่ในภาวะดี

 

    ปลา

ลำตัวสีผ่องใส เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นเหม็น มีแต่ว่าเหม็นกลิ่นคาวปลาตามเดิม ดวงตาผ่องใส ไม่หม่นหมอง ไม่จมลงไปในเบ้าตา เหงือกปลาสีแดงสดใส

 

    หอย

หอยอยู่ในภาวะดี ตัวอยู่ในเปลือก เปลือกไม่แตก หุบแน่นสนิทไม่เปิดอ้า หรือถ้าเกิดเปิดอ้าอยู่จะต้องหุบแน่นโดยด่วน (หอยเป็นๆ)

 

ดังนี้ ถ้าเกิดต้องการทำอาหารโดยสวัสดิภาพไม่มีโรค ควรจะปรุงให้สุก 100% ไม่ทานดิบๆหรือกึ่งสุกกึ่งดิบ หรือทำให้สุกโดยใช้เพียงแค่มะนาวแค่นั้น นอกเหนือจากนี้ภายหลังซื้อมาประกอบอาหาร ควรจะรีบเอามาประกอบอาหารทานให้หมดไม่เกิน 3 วัน แล้วก็ระหว่างนั้นให้เก็บเอาไว้ในตู้แช่แข็งที่อุณหภูมิน้อยกว่า -3 องฮาองศาเซลเซียสเป็นต้นไป แช่ลงไปในน้ำแข็งที่อยู่ข้างนอกและหลังจากนั้นก็ค่อยๆละลาย บางทีอาจเย็นน้อยเกินไปที่จะเก็บเนื้อสัตว์ดิบๆได้ เสี่ยงบูดเน่า หรือมีแมลงวันตอมได้



10





คราวนี้พวกเราจะรีวิวที่เที่ยว และมาเปิดประสบการณ์ใหม่ โดย ไปบุกกันที่สวนสนุกทางน้ำที่ใหม่บริเวณบางบอน 3 โน่นเป็น Zanook Wake Park (สนุก เวค พาร์ค) บึงเคเบิ้ลสกีแล้วก็นันทนาการทางน้ำที่ทุกคนในครอบครัวสามารถมาเล่น แล้วก็ใช้เวลาทำกิจกรรมด้วยกันได้ เด็กเล่นได้คนแก่เล่นมัน มีกิจกรรมสนุกสนานๆเยอะแยะให้เล่น เคเบิ้ลสกี เวคกระดาน แสตนอัพ แพดเดิ้ล กระดาน สวนน้ำ ยิมมวย โยคะ เล่นได้ตั้งแต่ตอนเช้ากระทั่งถึงเย็นก็ไม่เบื่อ เพราะว่ามีกิจกรรมหลายชนิดให้เลือกเล่น ส่วนวันนี้พวกเราพาแฟนเพจมาเปิดประสบการณ์ใหม่กับการต่อยมวยที่ยิมมวยที่นี้ เป็นกิจกรรมที่ผู้หญิงสามารถเล่นได้ ได้อีกทั้งการออกกำลัง รวมทั้งเป็นศิลป์ป้องกันภัยอีกด้วย






“Zanook Wake Park” บึงเคเบิ้ลสกีแล้วก็นันทนาการทางเรือ สำหรับทุกคนในครอบครัว เดินทางสบาย ตั้งอยู่ไม่ไกลจากแกนกลางจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพียงแต่ 25 นาทีจากเมือง พวกเรามีกิจกรรมทางทะเลที่สนุกสนานสำหรับทุกคน เป็นต้นว่า เคเบิ้ลสกี เวคกระดาน แสตนอัพ แพดเดิ้ล กระดาน ฯลฯ

ระบบเคเบิ้ลสกีของ “Zanook Wake Park” ออกแบบและก็จัดตั้งโดยวิศวกรจาก Rixen, Germany เหมาะกับคนเริ่มต้นเล่น ที่สามารถออกตัวได้ง่ายสามารถเล่นเป็นไปได้ข้างในหนึ่งวัน นอกจากนั้นยังเหมาะสมกับนักกีฬาระดับแอดวานซ์ที่อยากเล่นท่าบนผิวน้ำ และก็การเล่นบนวัสดุอุปกรณ์อีกด้วย

เราชาว “Zanook” ต้องการเชิญให้เพื่อนฝูงๆออกมาทำกิจกรรมความสนุกสนานร่าเริงในบ่อน้ำน้ำขนาดใหญ่กับพวกเรา มากันเป็นกรุ๊ปครอบครัวหรือสหายๆนั่งพักผ่อน ชิลๆลองของกินอร่อยๆดื่มกาแฟแก้วโปรด เพลิดเพลินเจริญใจไปกับกิจกรรมต่างๆพร้อมเก็บความติดอกติดใจกลับไปเป็นประสบการณ์



Tag : รีวิวโปรโมท , รีวิวสถานที่ท่องเที่ยว , เปิดประสบการณ์





11
สำหรับทุกคนที่พอใจอ่านบทความสาระดีๆก็เข้ามาอ่านกันได้ทุกๆท่าน
จะมานะนำรายละเอียดดีๆน่าดึงดูดมาอัพเดทให้อ่านกันนะ



12


หากเราจะนอนไม่หลับจริงๆ ต่อให้นับแกะไปกี่ร้อยตัวก็อาจจะไม่ช่วย อ่านหนังสือก็แล้ว ดูซีรี่ส์ก็แล้ว ก็ยิ่งนอนไม่หลับเข้าไปกันใหญ่ คุณอาจจะลืมไปว่าสาเหตุที่ทำให้คุณนอนไม่หลับมีอะไรบ้าง เครียดสะสม? เพิ่งนอนไปเมื่อตอนหัวค่ำ? หรืออาจจะเพราะอาหารที่ทานไปเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยเฉพาะเครื่องดื่มก่อนนอน ที่ส่งผลต่อระบบการนอนของคุณมากกว่าที่คุณคิด

มีเครื่องดื่มบางชนิดที่ดื่มแล้วจะช่วยให้หลับสบาย หลับง่ายขึ้น แต่ก็มีเครื่องดื่มอีกหลายชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน

เครื่องดื่มที่ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น

    นม

นมมีทริปโตเฟน เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยสังเคราะห์ฮอร์โมนเมลาโทนิน ช่วยให้เราผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากตอนเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่เคยส่งเข้านอนด้วยนมอุ่นๆ 1 แก้ว ถือว่าเป็นเรื่องดีสุดๆ เลยล่ะ สามารถเลือกดื่มได้ทั้งนมวัว และนมถั่วเหลือง ตามใจชอบเลย

Tips : เลือกเป็นนมอุ่น จะรู้สึกผ่อนคลายหลับสบายกว่านมเย็น ควรเลือกนมจืด เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำตาลให้กับร่างกายโดยไม่จำเป็นก่อนนอน และควรแปรงฟันหลังดื่มนมด้วย

    ชาคาโมมายล์

แม้จะเห็นว่าเป็นชา แต่ก็เป็นชาที่ออกฤทธิ์คล้ายยาระงับประสาท และช่วยผ่อนคลายจิตใจให้รู้สึกสบาย และนอนหลับง่ายขึ้นได้ เป็นผลมาจากสารต้านอนุมูลอิสระ flavonoid apigenin ที่อยู่ในชานั่นเอง

    สมูทตี้จากผักผลไม้แมกนีเซียมสูง

เพราะแมกนีเซียมมีส่วนช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้นหากได้ทานสมูทตี้ หรือเครื่องดื่มที่รวมผักผลไม้ที่มีแมกนีเซียมปั่นรวมกัน ทานในช่วงก่อนนอน นอกจากจะช่วยให้นอนหลับสบายแล้ว ตื่นเช้ามารับรองว่าระบบขับถ่ายก็ต้องดีตามไปด้วยแน่นอน
Tips : อาหารที่มีแมกนีเซียมสูง เช่น ผักปวยเล้ง เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ควินัว กล้วย และถั่วต่างๆ

เครื่องดื่มที่ไม่ควรดื่มก่อนเข้านอน

    เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

ชา กาแฟ น้ำอัดลม ช็อกโกแลต โกโก้ เครื่องดื่มเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมของคาเฟอีนที่ช่วยให้ตื่นตัว ดังนั้นเราก็ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ก่อนนอน ถ้าจะให้ดีคือ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทุกชนิดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนนอนจะดีที่สุด

    เครื่องดื่มน้ำตาลสูง

นอกจากร่างกายจะไม่ต้องการเครื่องดื่มที่ให้พลังงานอะไรมากมายก่อนนอนแล้ว เครื่องดื่มน้ำตาลสูงยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง รบกวนการผ่อนคลายของร่างกายระหว่างนอนได้ เครื่องดื่มน้ำตาลสูงนอกจากจะมีน้ำอัดลมแล้ว ยังรวมไปถึงน้ำผลไม้ต่างๆ อีกด้วย

นอกจากอาหารที่เราทานก่อนนอน การออกกำลังกาย ปรับสภาพบรรยากาศในห้องนอน ทำสมาธิ ยังช่วยให้เรานอนหลับสนิท นอนหลับง่ายมากขึ้นได้ แต่หากใครมีปัญหานอนไม่หลับขั้นรุนแรง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง และหาทางแก้ไขอย่างถูกต้องค่ะ



13


หลังจากที่กระแสออนไลน์กำลังพูดถึงน้ำสมุนไพรที่มีส่วนประกอบของ “เจียวกู่หลาน” ว่ารสชาติดี และมีสรรพคุณที่คุ้มค่าเกินราคา Sanook! Health จึงขอนำสรรพคุณสำคัญๆ ของเจียวกู่หลานมาให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ

เจียวกู่หลาน กับ 10 สรรพคุณเด็ดน่ารู้

    ชะลออาการต่างๆ ที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น เช่น ฟื้นฟูสภาพร่างกายโดยรวมให้แข็งแรง ฟื้นฟูความจำ นอนหลับสบาย อาการปวดเอวปวดหลังดีขึ้น เป็นต้น

    ต้านมะเร็ง และช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของมะเร็ง จะกินเพื่อป้องกัน หรือช่วยลดอาการของมะเร็งก็ได้

    ลดคอเลสเตอรอล ลดไขมันในเลือด

    ลดความดันโลหิต

    บำรุงหัวใจให้แข็งแรง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    แก้อาการไอ ลดเสมหะ รักษาไข้หวัด

    ช่วยให้หลอดลมแข็งแรง ฟื้นฟูจากการอาการอับเสบ หรือแข็งตัว

    รักษาแผลในกระเพาะอาหาร

    ยับยั้งการเกาะตัวของเลือด

    บำรุงตับให้แข็งแรง


ข้อควรระวังในการดื่มชาเจียวกู่หลาน

ชาวจีนมักนำใบเจียวกู่หลานแห้งมาชงเป็นชาดื่มหลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน โดยจะดื่มเพียง 7 วัน แล้วให้หยุดดื่มไป 1-2 วัน แล้วค่อยดื่มต่อ ใครที่ดื่มแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดหรือเวียนศีรษะ ตาลาย ให้หยุดดื่มทันที

แม้จะเป็นสมุนไพรที่เดินทางมาไกลจากต่างแดน แต่การที่บ้านเรามีเครื่องดื่มสมุนไพรดีๆ แบบนี้ให้ทานกันในราคาที่เอื้อมถึงได้แบบนี้ จะลองหันมาดื่มดูบ้างก็ดีเหมือนกันนะคะ ใครดื่มแล้วให้ผลดีต่อร่างกายอย่างไรบ้าง มาแบ่งปันประสบการณ์ให้คนอื่นๆ ได้ทราบกันบ้างสิคะ



14






ก่อนหันไปกดชักโครก คุณควรหันไปสังเกตลักษณะของอุจจาระของคุณบ้าง เพราะสุขภาพของเราสามารถตรวจได้ง่ายๆ จากอุจจาระนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นขนาด สี กลิ่น หรือลักษณะที่เห็นได้จากภายนอก

ความปกติที่ชัดเจน และหลายคนอาจตกใจเมื่อได้เห็น คืออุจจาระเป็นเลือด หรืออุจจาระที่มีเลือดสดๆ ปนออกมาด้วย และที่เราทราบกันมาคือ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นโรคริดสีดวงทวาร แต่อันที่จริงแล้ว ยังมีอีกหลายโรคที่อาจแสดงอาการเริ่มต้นจากอุจจาระเป็นเลือด แถมยังอันตรายกว่าโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย


6 โรคอันตราย ที่เริ่มต้นจากอาการ “อุจจาระเป็นเลือด”

    โรคริดสีดวงทวาร

คนที่ท้องผูกบ่อยๆ จะมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้มากกว่าคนที่ถ่ายได้ตามปกติ หากมีอุจจาระเป็นก้อนแข็งบ่อยๆ จนอุจจาระไปครูดกับผิว หรือเยื่อเมือกของทวารหนักจนเกิดเป็นแผล มีเลือดสดไหลออกมาเป็นหยดๆ หรือเป็นเส้นๆ พร้อมอุจจาระอยู่บ่อยๆ นอกจากจะมีอาการปวดแสบบริเวณรูทวารหนักแล้ว ยังอาจมีก้อนริดสีดวงปลิ้นออกมา จนมีอาการอักเสบ ปวดแสบหนักมากขึ้น หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อการรักษาอย่างถูกวิธี

 

    เลือดออกในลำไส้ใหญ่

หากมีเลือดสดๆ หรือลิ่มเลือดไหลออกมาพร้อมกับอุจจาระด้วย แต่ไม่ได้มีอาการปวดแสบที่ทวารหนัก เพราะไม่ได้มีอาการท้องผูก อาจเป็นเพราะมีเลือกออกในลำไส้ใหญ่ หากมีอาการเล็กๆ น้อยๆ เลือดไหลออกมาน้อย และเลือดหยุดไหลได้เอง สามารถรอดูอาการที่บ้านได้ แต่หากมีเลือดไหลออกมาก ควรนอนพัก งดน้ำงดอาหาร และพบแพทย์ที่โรงพยาบาลดีที่สุด

 

    เลือดออกในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็ก

อาการอาจเริ่มจากอาเจียนออกมาเป็นเลือดก่อน (หรือไม่มีอาการอาเจียนก็ได้) จากนั้นอาจตามด้วยการอุจจาระเป็นเลือด โดยเลือดจะเป็นสีเข้มจนเกือบดำ หากถ่ายเป็นเลือดจำนวนมาก ควรงดน้ำ งดอาหาร แล้วรีบพบแพทย์โดยด่วน

 

    โรคบิด

หากมีอาการท้องเสียท้องร่วง แล้วอุจจาระมีมูกเลือดปน กลิ่นเหม็นรุนแรง อาจเสี่ยงเป็นโรคบิดที่เกิดจากการติดเชื้อในลำไส้ใหญ่ จนทำให้ลำไส้ใหญ่อักเสบ เป็นแผล ควรให้แพทย์ตรวจอุจจาระเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนที่โรงพยาบาล

 

    โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

มะเร็งจะทำให้เกิดแผล โดยเฉพาะบริเวณใกล้ทวารหนัก จึงทำให้มีความเสี่ยงที่จะถ่ายแล้วมีเลือดปน โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มักเกิดขึ้นกับผู้ใหญ่อายุมากกว่า 40-50 ปี แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับคนวัยรุ่น วัยทำงานได้เช่นกัน ยิ่งครอบครัวของใครมีประวัติเป็นโรคนี้มาก่อน ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น ทางที่ดีคือ ลดการทานเนื้อแดง อาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม หยุดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และออกกำลังกายเป็นประจำ

    โรคลำไส้ขาดเลือด

โรคลำไส้ขาดเลือด มาจากหลายสาเหตุ แต่อาการคือเลือดไม่สามารถเข้าไปไหลเวียนในลำไส้ได้ ทำให้เซลล์ลำไส้เริ่มไม่ทำงาน จนกระทั่งเซลล์ตาย และเริ่มเน่าจนมีแบคทีเรีย อาการที่พบคือปวดท้องเกร็ง อาจปวดมากจนหมดสติ และอาจมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิตได้ หากระหว่างปวดท้องมีอาการถ่ายเป็นเลือดด้วย แสดงว่าอาการเริ่มจะหนัก ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็คให้แน่ใจ เพราะหากบางส่วนของลำไส้เริ่มเน่า จะต้องผ่าตัดเพื่อนำลำไส้ส่วนที่เสียแล้วออกไป แล้วต่อลำไส้ที่ยังทำงานได้ตามปกติเข้าด้วยกัน

นอกจากอุจจาระเป็นเลือดจะเป็นสัญญาณอันตรายถึงโรคต่างๆ ได้แล้ว การที่สีของอุจจาระมีสีแดงเข้มหรือเกือบดำ อาจมาจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การทานอาหารที่มีเลือดสัตว์เป็นส่วนประกอบ หรือกำลังทานยาบำรุงเลือดอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้นหากมีอาการถ่ายเป็นเลือด หรือสีคล้ายเลือดเล็กๆ น้อยๆ และไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ อาจลองทานผักผลไม้ให้มากขึ้น ดื่มน้ำให้มากขึ้น และออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาจช่วยให้อาการดังกล่าวดีขึ้น แต่หากไม่แน่ใจ พบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายก็จะดีที่สุดค่ะ



15



กรมควบคุมโรคเผยสถิติทั่วโลกป่วยตายจากอัมพาต แนะนำให้ประชาชนรู้สัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง หากมีอาการรีบไปโรงพยาบาลภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อจะได้รับการรักษาและสามารถฟื้นฟูให้กลับมาได้เป็นปกติมากที่สุด เชิญชวนให้ดูแลสุขภาพตนเอง

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมอง เป็นโรคที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ และกำลังเป็นภัยคุกคามทั้งไทยและทั่วโลก ขณะนี้มีแนวโน้มการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกปี พบเสียชีวิตมากกว่าโรคเบาหวาน และโรคหัวใจขาดเลือดประมาณ 2 เท่า องค์การอัมพาตโลก (World Stroke Organization) จึงได้กำหนดให้วันที่ 29 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันอัมพาตโลก เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักและป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นอัมพาตได้

 

ปีนี้ กรมควบคุมโรค สธ.ได้จัดรณรงค์วันอัมพาตโลกปี 2560 ในคำขวัญที่ว่า "อัมพาต รู้ (สัญญาณเตือน) เร็ว รอด (ตาย) เร็ว" ซึ่งสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ F.A.S.T คือ

F (Face) ใบหน้าอ่อนแรง เวลายิ้มมุมปากข้างหนึ่งจะตก

A (Arm) แขนหรือขาอ่อนแรง ยกไม่ขึ้นหนึ่งข้าง

S (Speech) พูดลำบาก ไม่ชัด มีปัญหาในการพูด

T (Time) หากมีอาการข้างต้นให้รีบไปโรงพยาบาลทันที ภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อจะได้รับการรักษาและสามารถฟื้นฟูให้กลับมาได้เป็นปกติมากที่สุด หรือโทร สายด่วน 1669 ให้บริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

 

การรับรู้และความเข้าใจในสัญญาณเตือนของโรค มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการฟื้นฟูของผู้ป่วย การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองที่สามารถทำได้ง่าย ได้แก่ รับรู้ความเสี่ยงของตนเอง เช่น ระดับความดันโลหิต เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอวันละ 30 นาที อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ควบคุมตนเองไม่ปล่อยให้อ้วน และลดการบริโภคอาหารหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักผลไม้ ควรงด บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ สุดท้ายต้องลดความเครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ

โรคหลอดเลือดสมองหรืออัมพาต สามารถป้องกันได้ โดยประชาชนทุกคนต้องเรียนรู้สัญญาณเตือนของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและปฏิบัติตามแนวทางเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง ถ้ามีปัญหาโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน หรือพบผู้ที่มีอาการตามสัญญาณเตือนข้างต้นให้รีบปรึกษาแพทย์และรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองที่จะเกิดได้ในภายหลัง ซึ่งจะช่วยลดอัตราตาย และลดความพิการลงได้



16


อาการปวดศีรษะสามารถเกิดขึ้นได้แทบทุกวัน กับทุกเพศ และทุกวัย หากแต่สาเหตุของอาการปวดศีรษะมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่ละอาการปวดก็ไม่เหมือนกัน และด้วยอาการปวดที่ไม่เหมือนกันนี่แหละค่ะ ที่จะบอกเราได้ว่า เราปวดศีรษะเนื่องมาจากสาเหตุใด  เป็นโรคร้ายแรงอะไรหรือไม่ หนึ่งในนั้นก็คือโรค “เนื้องอกในสมอง” ที่เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ถึงแม้จะไม่บ่อยนัก แต่ปัจจุบันยังพบผู้ป่วยโรคนี้ในทุกเพศทุกวัย

 

เนื้องอกในสมอง เกิดจากสาเหตุใด?

เป็นที่น่าเสียดายว่าสาเหตุของโรคเนื้องอกในสมองยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด อาจมีผู้ป่วยบางรายพบว่ามี่ความผิดปกติจากพันธุกรรม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหากพบพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคนี้แล้วเราต้องเป็นตามไปด้วยเสมอไป เพราะนอกจากเรื่องของพันธุกรรมแล้ว การเป็นมะเร็งที่ส่วนอื่นๆ แต่เชื้อแพร่กระจายไปที่ส่วนของสมอง ก็อาจทำให้เกิดเนื้องอกในสมองขึ้นได้เช่นกัน

 

เนื้องอกในสมอง มีกี่ประเภท?

    เนื้องอกในสมองที่เกิดขึ้นจากเซลล์ของสมองเอง ซึ่งจะแบ่งออกเป็นชนิดที่เป็นเนื้อร้าย (มะเร็ง) และไม่ใช่เนื้อร้าย ส่วนใหญ่มักพบในแบบที่ไม่เป็นเนื้อร้าย แต่ก็มีส่วนน้อยที่พบว่าเป็นเนื้อร้าย หรือมะเร็งเช่นกัน

    เนื้องอกในสมองที่มาจากการลุกลามของเนื้องอกในส่วนอื่นๆ ของร่างกาย



สัญญาณอันตรายของโรคเนื้องอกในสมอง

    ปวดศีรษะ

    ตามปกติผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับสมองมักมีอาการปวดศีรษะอยู่แล้ว แต่หากใครเป็นเนื้องอกจะมีอาการที่เป็นลักษณะเฉพาะเจาะจงอยู่ เช่น

    - ปวดศีรษะติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ เป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน และอาการปวดจะมากขึ้นเรื่อยๆ

    - ปวดศีรษะในเวลานอนตอนกลางคืน จนทนไม่ไหวต้องตื่นขึ้นมากลางดึก
    อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งอ่อนแรง ขยับไม่ได้ดี และคล่องแคล่วเหมือนเดิม เส้นประสาททำงานอ่อนแรงลง โดยอาการนี้จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มอ่อนแรงลงตามอวัยวะบางส่วนแบบช้าๆ เช่น แขนหรือมืออาจจะเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ บางรายอาจใบหน้าบูดเบี้ยว หรือหูตึง

    เริ่มมีอาการที่เกิดจากการทำงานของระบบประสาทผิดปกติ เช่น กระตุก ชัก อาจจะชักเป็นจุดๆ เช่น ชักเฉพาะแขนข้างใดข้างหนึ่ง หรือใบหน้ากระตุก เป็นต้น โดยจะยิ่งเห็นได้ชัด เมื่อคนๆ นั้นไม่เคยมีอาการชักกระตุกมาก่อน รวมถึงผู้สูงอายุด้วย

 

วิธีรักษาโรคเนื้องอกในสมอง

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ขนาด และตำแหน่งของเนื้องอก และความเสี่ยงอื่นๆ เพื่อเลือกวิธีรักษาที่ได้ผล และเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนให้ได้มากที่สุด โดยทั่วไปแล้วมีวิธีการรักษาอยู่ 3 วิธี คือ ผ่าตัด ฉายรังสี และให้ยาเคมีบำบัด หากเนื้องอกมีขนาดเล็ก และยังไม่ได้อยู่ในตำแหน่งใกล้เส้นประสาทสำคัญที่ทำให้เกิดอันตราย อาจจะเป็นแค่การติดตามอาการไปเรื่อยๆ ก่อน แต่หากพบว่าขนาด และตำแหน่งของเนื้องอกค่อนข้างอันตราย ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ อวัยวะอ่อนแรง อาจต้องทำการรักษาทันที โดยอาจจะผ่าตัด ควบคู่ไปกับการฉายรังสี หรือเคมีบำบัดต่อจากนั้นอีกด้วย

 

เพราะฉะนั้น การตรวจสุขภาพประจำปี และหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของตัวเองอยู่เสมอๆ อาจช่วยให้เรารู้ถึงโรคอันตรายต่างๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น และทำการรักษาได้ง่าย รวดเร็ว และเห็นผลมากยิ่งขึ้นอีกด้วยใครมีอาการตามสัญญาณอันตรายดังกล่าว ลองไปพบแพทย์เพื่อเข้าตรวจอย่างละเอียดดูนะคะ



17





นอกจากสมอง หัวใจ และระบบไหลเวียนของโลหิตที่ว่าสำคัญกับร่างกายเป็นอันดับต้นๆ แล้ว ระบบย่อยอาหารก็ถือว่าเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะทุกสิ่งที่เราทานเข้าไปต้องได้รับการย่อย และดูดซึมอย่างเป็นระบบ หากอวัยวะที่ใช้ในการย่อยอาหารเริ่มทำงานขัดข้อง จะส่งผลเสียต่อร่างกายมากมาย และอาจอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

หากใครมีอาการดังต่อไปนี้ ขอให้ทราบว่าเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่เริ่มบ่งบอกว่าระบบย่อยอาหารของคุณอาจมีปัญหาค่ะ

 

1. ปวดท้อง

ใครๆ ก็ปวดท้องได้ อาจจะมีความผิดปกติที่เกิดขึ้น แล้วหายไป แต่ใครที่ปวดท้องที่เดิมบ่อยๆ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหา หรือโรคร้ายอะไรบางอย่างได้

 

ปวดท้องด้านขวาตอนบน อาจเกิดจากโรคตับ และถุงน้ำดี

ปวดท้องบริเวณใต้ซี่โครง อาจเกิดขึ้นพร้อมกับอาการแสบกระเพาะอาหาร จึงอาจเป็นโรคกระเพาะ และลำไส้อักเสบ และบางครั้งโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่ถุงน้ำดีก็อาจเกิดขึ้นในบริเวณส่วนท้องที่เป็นแอ่งได้

ปวดท้องส่วนกลาง อาจเป็นโรคที่เกิดขึ้นที่ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ และอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบ เพราะมักมีอาการปวดท้องที่บริเวณนี้ก่อน แล้วจึงเลื่อนมาเป็นส่วนล่าง

ปวดท้องด้านซ้ายตอนบน อาจมีสาเหตุมาจากโรคต่างๆ ที่เกิดในลำไส้ใหญ่ เช่น โรคท้องผูกหรืออาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อลำไส้ใหญ่ แต่หากมีอาการแสบกระเพาะอาหาร ก็อาจเกิดจากกรดและอาการเจ็บปวดเนื่องจากแผลในกระเพาะ

ปวดท้องด้านขวาตอนล่าง อาจเป็นอาการของไส้ติ่งอักเสบอย่างเฉียบพลัน หรืออาการอักเสบของลำไส้

ปวดท้องด้านซ้ายตอนล่าง หากมีอาการปวดและคลายสลับกัน พร้อมกับอาการท้องร่วง หรือเกิดจากอาการท้องผูก อาจเกิดจากโรคถุงผนังที่ลำไส้ใหญ่อักเสบ หรือมีความผิดปกติ เช่น ถุงน้ำ หรือเนื้องอกที่รังไข่ หรือมดลูก

 

2. ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด

คนที่ระบบการย่อยอาหารเริ่มมีปัญหา อาจมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียดท้องหลังรับประทานอาหาร หากมีอาการมากๆ ท้องจะเกร็ง และอาจมีอาการข้างเคียงอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เรอบ่อย เรอเหม็นเปรี้ยว ผายลมบ่อย ท้องใหญ่ขึ้น หรือท้องผูก และท้องเสียร่วมด้วย ผู้ที่มีอาการดังกล่าวจะยังคงรับประทานอาหารได้ตามปกติ น้ำหนักไม่ลด และส่วนมากมักมีน้ำหนักเกิน อาการเหล่านี้หากเป็นบ่อยๆ อาจสันนิษฐานว่ากระเพาะอาหาร หรือลำไส้ทำงานไม่ปกติ

 

3. กลืนลำบาก

อาการกลืนอาหารลำบาก อาจเกิดจากก้อนเนื้อ หรือก้อนมะเร็งในทางเดินอาการ หรือหลอดอาหารได้ แต่อาจเป็นเพราะระบบการเคลื่อนไหวของหลอดอาหาร หรือระบบประสาททำงานไม่ดีได้ด้วยเช่นกัน หากกลืนอาหารประเภทของแข็ง เช่น เนื้อสัตว์ แล้วติด โดยเฉพาะตรงกลางอก อาจสันนิษฐานว่ามีก้อนเนื้อ หรือก้อนมะเร็งอยู่ในหลอดอาหาร หรือบริเวณใกล้เคียง แต่หากกลืนอาหารทั้งของเหลว และของแข็งได้ลำบากตั้งแต่ต้น อาจเกิดจากการบีบตัวไม่เป็นจังหวะของหลอดอาหาร อาการนี้อาจเป็นๆ หายๆ ได้เช่นกัน

 

4. แสบกลางอก

หากมีอาการแสบกลางอกโดยเฉพาะในตอนกลางคืน สันนิษฐานว่าอาจเป็นโรคกรดไหลย้อน เกิดจากหูรูดที่หลอดอาหารปิดไม่ค่อยสนิท กรดที่ไหลย้อนขึ้นมานี้อาจทำให้อักเสบ เป็นแผล หรือเลือดออกได้ อาการชัดเจนคือ แสบร้อนกลางอก และจะมีอาการดังกล่าวในเวลานอนตอนกลางคืน เวลานอนอาจจะมีอาการไอ สำลัก หอบ ซึ่งอาจทำให้นึกว่าเป็นโรคปอด โรคหัวใจ แต่ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นคนที่มีอาการตอนกลางคืนต้องนึกถึงกรดไหลย้อนด้วย นอกจากนี้หลังอาหารมื้อหนัก หากยกของหนัก หรือนอนหงายกรดก็จะไหลขึ้นมาทำให้เกิดอาการแสบได้เช่นกัน

 

หากใครมีอาการผิดปกติดังกล่าวบ่อยๆ อาจเกิดขึ้นมากกว่า 2-3 ครั้งใน 1 อาทิตย์ หรือมีอาการไม่บ่อย แต่เป็นๆ หายๆ บ่อยๆ ควรเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดจากแพทย์จะดีที่สุดค่ะ เพราะหากปล่อยให้อาการนี้ลามเรื่อยๆ โดยไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้รักษายากขึ้น และไม่หายขาดได้นะคะ



18





ดอกคำฝอย มีลักษณะเป็นอย่างไร

ดอกคำฝอย เป็นดอกไม้จากพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ที่มักปลูกมากกันทางภาคเหนือ ลำต้นสั้น ทนต่อสภาพอากาศ ดอกมีลักษณะกลม กลีบดอกเล็กเรียว และมีดอกเล็กย่อยออกมาหลายดอก สีเหลืองจนไปถึงส้ม หรือส้มแดงเมื่อแก่จัด
 

ประโยชน์ของดอกคำฝอย

    ลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันไขมันอุดตันเส้นเลือด

    บำรุงประสาท และระงับประสาท ช่วยผ่อนคลายสมองให้หลับสบาย

    ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง เพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของโลหิตตามร่างกาย

    บำรุงโลหิต สบายลิ่มเลือด

    บำรุงหัวใจ ช่วยให้เลือดไหลไปหล่อเลี้ยงที่หัวใจมากยิ่งขึ้น

    รักษาอาการไข้หลังคลอดของคุณแม่

    แก้หวัดน้ำมูกไหล

    บำรุงโลหิตประจำเดือนของเหล่าคุณผู้หญิง

    ยับยั้งเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรีย

    ลดระดับน้ำตาลในเลือด

 

โทษของดอกคำฝอย

แม้ว่าดอกคำฝอยจะเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณแทบจะครอบจักรวาล แต่ก็ยังมีข้อควรระวังก่อนทานเช่นกัน ดอกคำฝอยมักถูกใช้เป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพร โดยจัดรวมกลุ่มใช้ด้วยกันกับยา หรือพืชตัวอื่นๆ จะไม่ใช้ดอกคำฝอยเดี่ยวๆ เพราะต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม มิเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อระบบเลือดได้

หากทานดอกคำฝอยมากเกินไป หรือติดต่อกันนานเกินไป อาจส่งผลให้มีอาการโลหิตจางได้ ซึ่งทำให้มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย วิงเวียนศีรษะ หรืออาจทำให้โลหิตประจำเดือนมามากผิดปกติ

นอกจากนี้ใครที่กำลังรับประทานยา หรือรับการรักษาโรคที่เกี่ยวกับลิ่มเลือด หรือกำลังทานยาสลายลิ่มเลือดอยู่ ไม่ควรทานดอกคำฝอย เพราะจะยิ่งเพิ่มการสลายลิ่มเลือดให้ออกฤทธิ์มากเกินไปจนอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้

ใครที่ร่างกายแข็งแรงเป็นปกติดี สามารถทานดอกคำฝอยได้ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์จากดอกคำฝอยมากมาย ทั้งเครื่องดื่มผสมดอกคำฝอย ชงเป็นชาจากกลีบดอกที่แห้ง หรือจะสกัดออกมาเป็นน้ำมันดอกคำฝอย ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ดีต่อสุขภาพทั้งสิ้น แต่ใครที่มีปัญหาสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานค่ะ



19






หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน หลายคนอาจจะยังติดภาพว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน คือคนอ้วนที่ชอบทานอาหารหวานๆ เป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่น่าตกใจในเวลาต่อมาคือ เราพบผู้ป่วยเบาหวานร่างเล็ก บางคนถึงขั้นผอมบาง แต่ก็เป็นเบาหวานได้ ด้วยปัจจัยเสี่ยงหลายๆ อย่าง นอกจากพฤติกรรมติดหวาน เช่น กรรมพันธุ์ และความผิดปกติในร่างกาย

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่าง หรือพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตอย่างไร เราทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานได้ทั้งนั้น Sanook! Health จึงขอแนะนำอาการเริ่มต้นของผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ให้ทุกคนได้สังเกตร่างกายของตัวเองกันค่ะ

 

7 สัญญาณอันตราย “เบาหวาน” ไม่อ้วนก็เป็นได้

1. ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ หรือรู้สึกปวดปัสสาวะทั้งวัน หากน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป

2. หิวน้ำมากกว่าปกติ รู้สึกว่าดื่มน้ำมากเท่าไรก็ไม่หายกระหายน้ำ

3. เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

4. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

5. มีอาการชา เป็นเหน็บ รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มที่ปลายนิ้วมือนิ้วเท้า เรียกว่ามีอาการ “เส้นประสาทอักเสบ” และอาจมีอาการนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

6. ตาพร่ามัว เริ่มมองเห็นไม่ชัด

7. ผิวหนังแห้งผิดปกติ เป็นแผลง่าย และแผลติดเชื้อได้ง่าย แผลหายยาก หรือหายช้า

 

อาการทั้งหมดเป็นอาการที่ร่างกายแสดงออก เมื่อเรามีระดับน้ำตาลเลือดสูงขึ้น หากต้องการทราบด้วยตัวเองว่า ระดับน้ำตาลของเราอยู่เกณฑ์เสี่ยงเบาหวานหรือไม่ เราสามารถใช้เครื่องมือตรวจเลือดหาค่าน้ำตาลได้ด้วยตัวเองที่บ้านนะคะ สามารถหาซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลได้ที่ร้านขายยาใหญ่ๆ

คนปกติ ค่าน้ำตาลจะอยู่ที่ต่ำกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หลังอาหารต่ำกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

คนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ค่าน้ำตาลจะอยู่ที่ 100-125 ก่อนทานอาหาร และ 140-199 หลังทานอาหาร

คนที่เป็นเบาหวาน ค่าของน้ำตาลในเลือดจะมากกว่า 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ก่อนทานอาหาร และมากกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หลังจากทานอาหาร

ทั้งนี้ เพื่อความแน่ใจในผลตรวจ ควรนัดตรวจกับแพทย์ที่โรงพยาบาลอีกครั้ง พร้อมกับอดอาหารก่อนตรวจเลือด 6-8 ชั่วโมงค่ะ



20



เชื่อว่าหลายคนอาจจะมีอย่างน้อยครั้งหนึ่งที่เมื่อต้องทานยาก่อน หรือหลังอาหาร และลืมทาน หรือลืมพกยามาด้วย ทางคนเลือกที่จะทานเลยเดี๋ยวนั้น บางคนก็เลือกที่ข้ามมื้อนั้นไปเลย จริงๆ แล้วเราควรทำอย่างไร หรือยาก่อนและหลังอาหารเราควรทานเมื่อไรถึงจะดีที่สุด

ยาก่อนอาหาร
ยาก่อนอาหารเราควรทานก่อนอย่างน้อย 30 นาทีค่ะ และต้องทานขณะที่ท้องยังว่าง คือไม่ได้ทานอะไรในระหว่างนั้น ทั้งนี้เพื่อให้ยาไม่โดยน้ำกรดในกระเพาะอาหารทำลายจนหมด นอกจากนี้หากทานยาก่อนอาหารพร้อม หรือหลังอาหารอาจทำให้ยาดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้น้อยลง เพราะเจอกับส่วนประกอบของอาหาร และยาบางชนิดต้องการเวลาประมาณ 30 นาทีก่อนที่จะออกฤทธิ์อีกด้วย

หากลืมทานยาก่อนอาหาร ควรทำอย่างไร?
ไม่ควรทานพร้อม หรือหลังอาหาร ควรข้ามมื้อนั้น แล้วไปทานก่อนอาหารมื้อถัดไปแทน หรืออาจจะทานอีกทีหลังมื้ออาหาร 2 ชั่วโมงก็ได้ ซึ่งเมื่อถึงมื้อถัดไปก็ไม่ต้องทานยาก่อนอาหารแล้ว (คือทานแทนยาก่อนอาหารมื้อถัดไปไปเลย)

ยาหลังอาหาร
ควรทานยาหลังอาหารทันที หรือไม่ควรเกิน 15 นาที นอกจากนี้ยังสามารถทานพร้อมอาหาร หรือก่อนอาหาร ก่อนตักข้าวเข้าปากคำแรกก็ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไรจุดประสงค์ของยาหลังอาหารคือ ให้ยาเข้าไปอยู่ในกระเพาะอาหารพร้อมๆ กับอาหารนั่นเอง เพราะยาหลังอาหารอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และยาบางชนิดอาจต้องการกรดในกระเพาะอาหารเพื่อช่วยดูดซึมตัวยาเข้าร่างกายได้ดีขึ้น

หากลืมทานยาหลังอาหาร ควรทำอย่างไร?
หากยังอยู่ในระยะเวลาไม่เกิน 15 นาที ยังพอกินตามทัน แต่หากเลย 15 นาทีไปแล้ว ควรทานมื้อถัดไปเลยดีกว่า หรือหากเป็นยาที่สำคัญมากๆ ควรทานอาหารมื้อย่อย แล้วทานยาหลังอาหารมื้อย่อยนั้นแทน

ยาก่อนนอน
ควรทานก่อนนอน 15-30 นาที เพราะหากทานก่อนหน้านั้นนานเกินไป อาจทำให้ง่วงนอนจากฤทธิ์ของยา ประสิทธิภาพในการทำงานต่างๆ ก็จะลดลงไปด้วย ควรทานตอนที่พร้อมจะเข้านอนแล้วจริงๆ เท่านั้น

หากลืมทานยาก่อนนอน ควรทำอย่างไร?
ลืมแล้วลืมเลย ทานอีกทีตอนก่อนนอนของคืนถัดไปได้เลย ไม่ควรทานในตอนเช้าของวันถัดไป

นอกจากนี้ สำหรับยาที่ทานเฉพาะเมื่อมีอาการ เช่น พาราเซตามอลที่ช่วยลดไข้ ปวดหัว สามารถทานได้เลยเมื่อมีอาการ และยาหมดฤทธิ์และยังมีอาการอยู่ สามารถทานต่อได้ (ในระยะเวลาที่กำหนด) และหยุดยาได้ทันทีเมื่อไม่มีอาการแล้ว แต่ยาบางชนิดมีวิธีทานที่แตกต่างไปจากยาทั่วไป ควรสอบถามแพทย์ และเภสัชกรเป็นกรณีๆ ไปค่ะ



หน้า: [1]