-->

ผู้เขียน หัวข้อ: แดร็กคูล่าไม่ได้เกิดในทรานซิลเวเนีย  (อ่าน 1291 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18150
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

แดร็กคูล่าไม่ได้เกิดในทรานซิลเวเนีย



เรื่องของแดร็กคูล่า ในนิยายของแบรน สโตเกอร์

ในคฤหาสน์เก่าๆแถบทรานซิลวาเนีย มีท่านเคาท์ หรือจะเป็นท่านเอิร์น หรือท่านดยุค ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากผู้ปกครองแคว้นทรานซิลวาเนียโบราณ
เชื่อกันว่าเขามีอายุยืนมากว่าสามศตวรรษแล้ว เรื่องของเรื่องจะเริ่มต้นขึ้นราวปี 1890 ความอดอยากได้ระบาดไปทั่วโรมาเนีย ชาวนาชาวไร่
ได้อพยพเข้าไปหางานทำในประเทศอื่น เช่น เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศสกันหมด ทำเอาท่านเคาท์เจ้าของปราสาท เริ่มอดอยากปากแห้ง
เพราะไม่มีมนุษย์มาเป็นอาหาร ดังนั้นเคาท์แดร็คคิวลาจึงวางแผน ที่จะอพยพไปหาแหล่งอาหารที่อื่นบ้าง ด้วยอะไรมาดลใจก็ไม่ทราบนะคะ
เป้าหมายของท่านเคาท์คือลอนดอน ท่านเคาท์จึงติดต่อกับนายหน้าค้าที่ดินที่นั่น แจ้งจุดประสงค์ไปว่า เขามีความต้องการที่จะขายปราสาท
หลังงามในราคาถูกเป็นพิเศษ




นายหน้าขายที่ดิน ได้ส่งเด็กหนุ่มอนาคตไกลของบริษัทชื่อ โจนาธาน ฮาร์เกอร์ มาเป็นตัวแทนเจรจากับท่าเคาท์ สิ่งที่เขาพบในปราสาท
หลังใหญ่แห่งทรานซิลวาเนียก็คือ บรรยากาศอันไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง รวมทั้งเจ้าของปราสาทผู้ลึกลับ ฮาร์เกอร์สรุปว่า เขาไม่ชอบ
บรรยากาศและตัวเจ้าของปราสาทหลังนี้เอาเสีย เลย ท่านเคาท์มีลูกน้องเป็นสาวสวยสามคน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น ได้ย่องเข้าห้องของเขา
ตอนกลางคืนในสภาพยั่วยวนสุดฤทธิ์ เคราะห์ยังดีที่ โจนาธาน ฮาร์เกอร์ รอดจากการเป็นเหยื่อคมเขี้ยวของนางมาได้อย่างหวุดหวิด

เรื่องราวชักจะยุ่งเหยิงมากขึ้น(หรือออกทะเล) เมื่อท่านเคาท์เดินทางไปถึงลอนดอน เหยื่อรายแรกของเขาชื่อ ลูซี่ เวสเทนรา และเรื่องราว
ก็เข้าล็อคเป๊ะ เมื่อแดร็คคิวลาพบกับภรรยาสาวสวยของฮาร์เกอร์ ซึ่งเหมือนกับอดีตภรรยาของเขาราวกับแกะ ศรสวาทและพิษรักแผลเก่า
เล่นงานท่านเคาท์แดร็คคิวลาของเราเข้าเสียแล้วค่ะ แต่ศึกรักนี้คงไม่ยุติลงง่ายๆ เมื่อโจนาธาน ฮาร์เกอร์ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก
นักล่าแวมไพร์ แวน เฮลซิ่ง ได้เดินทางกลับมาเพื่อปกป้อง มิน่า ภรรยาสุดที่รักของเขา



จากการต่อสู้อันขนพองสยองเกล้า ระหว่างอมนุษย์และพรรคพวกของฮาร์เกอร์ ท่านเคาท์พ่ายแพ้พาหัวใจอันบอบช้ำกลับไปที่ปราสาท
ในทรานซิลวาเนีย ซึ่งฮาร์เกอร์และพรรคพวก ก็ได้ตามไปกำจัดท่านเคาท์ถึงที่นั่น เพื่อตัดรากถอนโค่นภัยร้าย

เรื่องจบลงตรงที่ว่า แดร็คคูล่าโดนลิ่มตอกอกและตัดหัวจนสูญสลายไป แต่ดูเหมือนว่า วิญญาณแห่งความชั่วร้ายของเขายังคงวนเวียนอยู่
และไม่มีใครรู้แน่ว่า แดร็คคูล่าโดนกำจัดไปอย่างถาวร หรือว่ายังวนเวียนหลบเร้นหาเหยื่ออยู่ในเงามืดของรัตติกาลต่อไป


แดร็คคิวลาอาจมีด้านมืดซึ่งชั่วร้าย แต่เขาก็มีหัวใจรักอันมั่งคงและเป็นอมตะ กาลเวลาไม่สามารถทำให้หัวใจรักของเขาจืดจางลงได้ สิ่งนี้ได้
ที่ทำให้แดร็คคูล่าฉบับ แบรม สโตเกอร์ โด่งดังและตราตรึงอยู่ในหัวใจของผู้คนตราบจนถึงทุกวันนี้
               
ครับนี้คือเนื้อหาย่อๆ ของนิยายของฮับราฮัม สโตเกอร์ โดยใช้นามปากกาว่าแบรม สโตเกอร์ เป็นชาวไอริช เขาแต่งนิยายขึ้น เมื่อปี 1897
คราวนี้มาดูประวัติ วลาด ดารคูลา บุคคลที่หลายคนเชื่อว่าแบรน สโตเกอร์ เอาประวัติของบุคคลนี้มาแต่ง แดร็คคูล่า ดีกว่าน่ะ





วลาด ดารคูลา




วลาด ดารคูลา เกิดประมาณ ปี 1430 ภายในป้อมอันเกรียงไกรของโรมาเนีย เป็นโอรสของ วลาด ดราคูล ผู้นำสูงสุดของกองทัพ
ทรานซิลวาเนียใยสมัยนั้น วลาด ดราคูล เคยได้รับตรากล้าหาญ the Order of the Dragon จากจักรพรรดิ ซึ่งเทียบได้อย่างดีกับ
เหรียญกล้าหาญสูงสุดในสมัยนี้ เขาเป็นผู้นำที่เหี้ยมโหดที่สุดเท่าที่เคยมีมาของแคว้นวลาเซีย


น่าสงสารผู้คนของแคว้นนี้มากเพราะนอกจากต้องเผชิญกับ สงครามและการบุกรุกจากศัตรูแล้ว ยังต้องมาเผชิญกับผู้นำจอมโหด
อย่างวลาด ดราคูล อีก ชาวเมืองต่างเข็ดเขี้ยวแสยงฟันกับการลงโทษที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ของเขา และก็ดูเหมือนว่า วลาด วลาด ดราคูล
จะนิยมชมชอบเลือดมนุษย์มากเป็นพิเศษทีเดียว

โบราณว่าเอาไว้ว่า เชื้อไม่ทิ้งแถวแนวไม่ทิ้งตระกูล วลาด ดารคูลา บุตรชายของเขา ก็อำมหิตไม่น้อยหน้าผู้เป็นบิดา ว่ากันว่า ชื่อแดร็คคูล่านี้
แปลเป็นนัยได้สองความหมาย หนึ่งคือ Dragon หรือว่ามังกรนั่นเอง ส่วนนัยที่สองก็น่าจะแปลง่ายๆว่า Son Of Draccul หรือ
บุตรชายของนายมังกร ซึ่งก็คือวลาด ดารคูลา จอมโหดนั่นเอง



ด้วยอายุเพียง 17 ปี วลาด ดารคูลา ได้สร้างตำนานแห่งความน่าสะพรึงกลัวเอาไว้แทบทั่วทั้ วยุโรป ความเด็ดขาด อำมหิต
และชาญฉลาดของเขา ทำเอาประเทศรอบข้างหวาดกลัวไปตามๆกัน แม้แต่ชาติมหาอำนาจในสมัยนั้นอย่างตุรกีเอง
พอได้ยินชื่อวลาด ดารคูลา เท่านั้น ก็แทบจะเข่าอ่อนลงมากองกับพื้นเลย ทำไม?


ประการแรกก็มาจากความบ้าเลือดในการทำสงครามของเขา อีกประการก็คงมาจากวิธีลงโทษเชลยศึก วลาด ดารคูลา จับเอาเหล่า
เชลยมาเสียบด้วยไม้แหลมจากก้น จนทะลุขึ้นไปซีกบน แล้วก็เอามานั่งเรียงรายกันไปในบริเวณกว้างๆ เช่นกำแพงเมือง หรือ สนามหญ้าใหญ่ๆ
วันไหนครึ้มอกครึ้มใจ เขาก็จะนั่งดินเนอร์ดูการประหารด้วยวิธีนี้เสียตรงนั้นเลย ในช่วงที่ว่างเว้นสงคราม วลาด ดารคูลา ก็จับเอาชาวเมือง
ลูกเด็กเล็กแดงทั้งหลาย มาทำบาร์บิคิวสดๆ พฤติกรรมนี้เอง จึงทำให้ท่านวลาด ดารคูลา ได้รับฉายาว่า Impaler หรือนักเสียบ

ปี 1476 มีคนพบร่างศพวลาด ดารคูลา ศีรษะขาดอยู่ที่หนองน้ำใกล้โบสถ์สนากรอฟ ส่วนใครเป็นคนฆ่ายังเป็นปริศนาตั้งแต่บัดนี้
แต่ที่แน่ๆ มีข่าวว่าศีรษะของเขาถูกนำไปถวายแก่สุรต่านในกรุงคอนสแตนติโนเปิล ไม่มีใครดีใจไปกว่าชาวเตอร์กศัตรูของวลาด ดารคูลา
อีกแล้ว




แดร็กคูล่าไม่ได้เกิดในทรานซิลเวเนียจริงหรือ?


               
เรื่องรางของแดร็กคูล่าเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาโดยนักวิชาการ หลายคนว่า แดร็กคูล่า มีแหล่งกำเนิดมาจากไหนกันแน่ คนส่วนมากเชื่อว่า
"แบรม สโตเกอร์" เขียนเรื่อง แดร็กคูล่า ขึ้นเพราะได้รับแรงบันดาลใจจากเจ้าชาย วลาด ดารคูลา แต่มีนักวิชาการที่จริงจังกับเรื่องนี้(บ้าเรื่องนี้ มั้ง)
ออกมาแย้ง เขาอ้างว่า บราม สโตเกอร์ ไม่มีความรู้เรื่อง วลาด ดารคูลา เลย และเขาอาจเคยผ่านหูผ่านตา "The history of Ireland"
มาพอควรจนเกิดแนวความคิดที่จะแต่งนิยายขึ้น แต่ความจริงจะเป็นเช่นใดคงยังไม่มีใครพิสูจน์ได้แน่นอนครับ


ส่วนนี้คือข้อสันนิษฐานว่าแดร็กคูล่าไม่ได้เกิดในทรามซิลเวเนีย

1. วลาด ดารคูลาและวลาด ดราคูลไม่ได้ชื่อปีศาจ ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนตั้งชื่อลูกว่าปีศาจหรอก ซึ่งดราคูลา แปลว่าลูกมังกร
    ส่วนดราคูลแปลว่า มังกรต่างหาก

2. สโตเกอร์ไม่เคยไปยุโรปตะวันออก และเป็นไปได้สูงว่านอกจากชื่อและสถานที่แล้ว เขาไม่รู้ประวัติกับวลาด ดราคูลาสักนิด
   และส่วนที่อ้างว่าทั้งสองมีความเชื่อมโยงกันนั้นล้วนเป็นผลงานของนักวิชาการจอมปลอมทั้งสิ้น

3. แต่ที่รู้แน่ๆ คือ แบรม สโตเกอร์ แต่งเรื่องนี้ขึ้น โดยรับแรงบันดาลใจจากการกินปูผัดผงกระหรี่ของภรรยามากเกินไปจนฝันร้าย

4. แบรม สโตเกอร์ ไม่ได้บอกอะไรทั้งสิ้นว่ารับแรงบรรดาใจแดร็กคูล่ามาจากประวัติของวลาด ดารคูลาและวลาด ดราคูล



คราวนี้มาดูเรื่องแดร็กคูล่าที่น่าจะเกิดขึ้นที่ไอร์แลนด์บ้างน่ะครับ





เรื่องของ History of Ireland


           
.........ที่ประเทศ ไอร์แลนด์มีสถานที่แห่งหนึ่งถูกเรียกว่าสุสานของลอร์ค อบาร์ทัค มันตั้งอยู่กลางท้องทุ่งในเขตเกลนนูยิน
ทางเหนือของแคว้นลอนดอนเดอรี  ตำนานพื้นเมืองกล่าวว่าในศตวรรษที่ 5 ที่ 6 ลอร์ค อบาร์ทัค เป็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าหนึ่ง
มีชื่อเสียงในทางไม่ดีนัยว่าเป็นพ่อมด ดังนั้นคนใต้บังคับบัญชาของเขาจึงกลัวเขามาก


พวกเขาเหล่านั้นจึงไปขอร้องให้ คาธัคหัวหน้าเผ่าอีกเผ่าให้มาฆ่าเขา คาธัคจึงฆ่าพ่อมดคนนี้และนำศพไปฝังไว้ในที่เปลี่ยวแห่งหนึ่ง
แต่ว่ารุ่งเช้า ลอร์ค อบาร์ทัค ก็กลับมาและร้องให้เอาเหยือกรองเลือดคนใต้บังคับบัญชาของเขามาให้เขาดื่มเพื่อศพของเขาจะได้
กลับมามีชีวิต อีกครั้ง แต่ คาธัคก็กลับมาฆ่าและนำศพไปฝังอีก แต่วิญญาณร้ายไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยผู้นี้ได้กลับมาและร้องข้อดื่มเลือด
อีกเป็นอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ

คาธัคไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้ไปปรึกษาพระดรูอิค หรือนักบุญของศาสนาคริสต์ ท่านผู้นี้ก็ได้บอกว่า ลอร์ค อบาร์ทัค กลายเป็นผู้ไม่ตาย
และเป็นผู้ดื่มเลือดมนุษย์ดังนั้นจึงฆ่าไม่สำเร็จ แต่ก็สามารถผนึกไว้ไม่ให้ออกมาอาละวาดได้ด้วยการนำดาบที่ทำมาจากไม้หยิว
(ไม้สนชนิดหนึ่ง)มาแทงเขาให้ทะลุฝัง ศพโดยกลับหัวลงไปลงหนามไว้รอบๆหลุมฝังศพและนำหินก้อน ใหญ่มาทับหลุมศพอีกครั้งหนึ่ง
เท่านี้ชาวไอร์แลนด์ก็ไม่ต้องบริจาคเลือดโดยไม่เต็มใจอีกต่อไป


แต่คุณเชื่อหรือไม่ ในปี 1997 ได้มีการหักร้างถางพงในย่านแกลนนูยิน ในสถานที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นสุสานของ ลอร์ค อบาร์ทัค ในขณะที่
คนงานตัดไม้ก็เกิดอุบัติเหตุสะบัดมือขาดแล้วเลือดเขาใหลลงดินเสมือนว่าให้ ลอร์ค อบาร์ทัค ดื่ม แม้แต่คนงานที่ไปสำรวจที่นั่นยัง
เกิดอุบัติเหตุหกล้มโดยไม่มีสาเหตุ




มีเรื่องตลกเหมือนกัน ตอนที่นิยายกับภาพยนตร์แดร็กคูล่าได้รับแปลเป็นภาษาโรมาเนียเมื่อปี 1992 แต่ชาวโรมาเนียกลับ
ไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร เขาให้เหตุผลว่า


"นี้หรือที่คนตะวันตกกลัว ในตำนานพื้นบ้านของเรามีเรื่องน่ากลัวกว่านี้เยอะ"

นับว่าโชคดีของสโตเกอร์ที่ไม่รู้จักโรมาเนีย ไม่เช่นนั้นเรื่องแดร็กคูล่าของเขาอาจจะสยองขวัญกว่านี้ "ก็เป็นได้"


 + + ต่วนตูนพิเศษ  ฉบับ 325 มีนาคม 2545
credit :: cammy@dek-d.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 พฤษภาคม 2016, 11:23:29 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่