-->

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 สถานที่หลอนยอดนิยมของโลก  (อ่าน 768 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18233
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
10 สถานที่หลอนยอดนิยมของโลก
« เมื่อ: 04 ตุลาคม 2013, 16:47:39 »

10 สถานที่หลอนยอดนิยมของโลก

10. แคมป์กราวนด์, สหรัฐอเมริกา



สถานที่แห่งนี้ชื่อ แคมป์กราวนด์ (Campground) ความจริงแล้วตัวสถานที่ไม่มีเรื่องสยองขวัญใดๆ แต่เจ้าของนี่สิ
พยายามทำทุกวิถีทางเท่าที่ จะคิดออก เพื่อสร้างจุดดึงดูดใจให้กับสถานที่ จุดดึงดูดใจที่เจ้าของสถานที่คิดนั้นไปไกลถึง
'ความลี้ลับ' และ 'เวทมนตร์คาถา' เพื่อทำให้สถานที่ แห่งนี้ดูน่ากลัว

ความพยายามของเขาสำเร็จถึงขนาดที่ว่า สมาคมสถานที่หลอนนานาชาติ (International Association of Haunted Attractions)
รับแคมป์กราวนด์เข้าเป็นสมาชิก แคมป์กราวนด์ เป็นสถานที่พักแรมตั้งอยู่กลางป่าใน ฟอร์ต มิลล์ มลรัฐเซาท์แคโรไลนา
ประเทศสหรัฐอเมริกา มีทั้งสถานที่สำหรับจอดรถบ้าน เคลื่อนที่ และบ้านพัก ตัวบ้านพักเป็นแบบชั้นเดียวง่ายๆ ทำจากไม้ซุง
ที่เคยใช้ทำโลงศพในอดีต! แค่คิดว่าต้องนอนในบ้านทำจากโลงผี สยองไหมล่ะ



9. รถไฟใต้ดินกรุงมอสโก, รัสเซีย



ในเมืองที่มีอายุเก่าแก่เกือบ 900 ปีแห่งนี้  มอสโก ผ่านวันเวลาที่เคยครอบครองโดยจอมเผด็จการผู้กระหายเลือดนับร้อยปี
คอมมิวนิสต์ผู้ไม่ยอม อ่อนข้อ และจักรพรรดิรัสเซีย ต่างก็พยายามขุดเมืองนี้ให้รอดพ้นจากเรดาร์

ด้วยเหตุนี้ลึกลงไปใต้ดินกว่า 700 เมตร มอสโกจึงเต็มไปด้วยเครือข่าย คลองขนาดมโหฬารที่มีความตื้นลึกต่างกัน
ถึง 15 ระดับที่พัฒนามาเป็น 'รถไฟใต้ดิน' เส้นทางคมนาคมที่พัฒนามาจากสถานที่ที่เคยเป็น บ้านคนจรจัด นักต่อต้าน
ศิลปิน ผู้ถูกเนรเทศ และหลุมศพของผู้ถูกสังหารหมู่ รถไฟเที่ยวสุดท้ายของคืนจะให้ความรู้สึกอย่างไรกันนะ



8. ปราสาทบรีซัค, ฝรั่งเศส



เป็นปราสาทในฝรั่งเศส ที่ถูกตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามตามแต่ใจตัวเอง ปราสาท บรีซัค (Brissac) กลางหุบเขาลัวร์
ขนาด7 ชั้น มีห้องมากกว่า 200 ห้อง เพดานทาด้วยทองคำ ม่านลายดอกประดับผนังและพรมลายดอกไม้เข้าชุดกัน
ชนิดผู้มีโอกาสมาเยือนแทบ ลืม หายใจ

เฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลัก เสาปราสาททำจากแก้วคริสตัล ไม่ใช่สถานที่ที่แย่เกินไปที่จะอยู่อาศัย ยกเว้นความจริงที่ว่า
คุณจะต้องอยู่กับ วิญญาณของ ชาร์ลอต (มาดามของจาร์ค เดอ บรีซ)และชายชู้ของเธอ ทั้งคู่ถูกสังหารที่นี่ หลังจาก
ทั้งคู่ถูกปลิดชีวิต บรีซก็ต้องบอกขายปราสาท ในเวลาไล่เลี่ยกัน เพราะไม่สามารถทนกับเสียงร้องโหยหวนกลางดึก
ของผีชู้รักคู่นี้ได้




7. แดร็คสโฮล์ม สล็อต ,เดนมาร์ก



คฤหาสน์ แดร็คสโฮล์ม สล็อต (Dragsholm Slot) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เพื่อเป็นที่อยู่ของบิชอปส์แห่งโรสไคลน์
คฤหาสน์หลังนี้สร้างในสไตล์ บา ร็อค ตกทอดมาถึง เจมส์ เฮปเบิร์น เอิร์ลแห่งโบธเวล สามีคนที่สามของแมรี่ สจวร์ต ราชินี
แห่งสกอตแลนด์ เขาเสียชีวิตที่นี่ในปี ค.ศ.1578 คฤหาสน์ แห่งนี้มีสาวใช้มากมาย เรียกกันว่า white lady หนึ่งในนั้น
แอบมีสัมพันธ์กับหนุ่มสามัญชน เมื่อถูกจับได้ เธอถูกขังลืมไว้ในคฤหาสน์แห่งนี้

ต่อมาในช่วงปี ค.ศ.1930 นักท่องเที่ยวผู้โชคดีคนหนึ่งมือซน เอานิ้วไปแหย่ผนังปูนที่มีรอยแตกร้าวเล่น สิ่งที่เขาทำให้
ทุกคนเห็นผ่านรอยร้าวบน ผนังคือโครงกระดูกในชุดเสื้อคลุมสตรี เท่านี้ที่นี่ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ 'ฮอต' ขึ้นมาทันที
เพราะเสียงร่ำลือที่ว่าวันดีคืนดี white lady จะแวบมาให้เห็น



6. บ้านแฮคเกอร์, สหรัฐอเมริกา



ตำนานของบ้านแฮคเกอร์ (Hacker House) เกิดขึ้นกว่าร้อยปีก่อน ตำนานนี้ไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุด เนื่องจากเหตุการณ์เลวร้าย
ยังคงเกิดขึ้น อย่าง ต่อเนื่อง บ้านแฮคเกอร์ตั้งอยู่บนถนนที่แยกจากถนนวินสตัน-สาเลม ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สร้างอยู่เหนือ
หลุมศพชาวอเมริกันพื้นเมือง สถาน ที่ อันถูกสาป

เรื่องสยองขวัญเริ่มขึ้นในปีค.ศ.1821 นายทหารหลายคนยุคนั้นอ้างว่าพวกเขายิงปืนใส่คนนับสิบที่ยิงเท่าไหร่ก็ไม่ตาย ร้อยปีต่อมา
บ้านแฮคเกอร์กลายเป็นโรงพยาบาลและห้องทดลอง มีรายงานที่ไม่ชัดเจนว่าศพหลายศพหายไปหลังจากไฟไหม้ใหญ่ในปีค.ศ.1930
ทิ้งไว้ แต่เพียงหลุมว่างเปล่า ซึ่งดร.โจห์นาส แฮคเกอร์ เจ้าของห้องทดลองอ้างว่า นี่เป็นผลมาจากการทดลองที่เขาได้ฉีดสาร
บางอย่างเข้าไปในร่างกายคนไข้ของเขาก่อนพวกเขาเสียชีวิต

บ้านแฮคเกอร์ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ เพื่อใช้ทำพิธีเกี่ยวกับการฝังศพ และชาวเมืองก็พยายามโปรโมทให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ที่ซึ่งไม่มีใครยอมมาอาศัยอยู่



5. เกาะโพลลีเพล, นิวยอร์ก



กลางแม่น้ำฮัดสัน เกาะโพลลีเพล (Pollepel Island) ของนิวยอร์ก มีประวัติศาสตร์ที่น่ากลัว เกาะแห่งนี้เป็นยุทธภูมิสำคัญ
ในช่วงสงครามประกาศอิสรภาพของชาวอเมริกัน ยุคต้นศตวรรษที่ 19 เกาะแห่งนี้ครอบครองโดยชาวสกอตแลนด์
ฟรานซีส แบนเนอร์แมน ผู้ผลิตปืนพก เขา สร้างโกดังสินค้าด้วยรูปแบบปราสาทของชาวสก็อตที่มีหอคอยสูง

หลังจากที่เขาเสียชีวิตในปี 1918 ปรากฏว่าดินระเบิดและลูกปืนใหญ่น้ำหนัก รวม กันกว่า 200 ปอนด์เกิดระเบิดขึ้น
ส่งให้ชิ้นส่วนบางส่วนของปราสาทลอยไปไกลถึงตัวเมืองนิวยอร์ก แรงระเบิดทำให้เรือบรรทุกสินค้าและเรือ ขนส่งผู้โดยสารระเบิด
ชนฝั่ง และจมลงสู่ก้นแม่น้ำ ผู้คนมากมายเสียชีวิตฉับพลัน ณ ที่แห่งนี้



4. บ้านวินเชสเตอร์, แคลิฟอร์เนีย



เมื่อสามีของซาร่าห์ วินเชสเตอร์  เสียชีวิตในปีค.ศ.1881 เรื่องลึกลับก็เกิดขึ้นกับเธอมากมาย ภรรยาม่ายผู้นี้เชื่อว่าเธอจำเป็น
ต้องหาวิธีป้องกันตัวเอง จากวิญญาณ ที่ตายจากการถูกยิงด้วยปืนไรเฟิลส์ยี่ห้อวินเชสเตอร์ที่สามีเธอประดิษฐ์ขึ้น

ปืนวินเชสเตอร์ (Winchester) รุ่นปี 1873 ได้รับการ ขนานนามว่า 'ปืนพิชิตตะวันตก' หมอผีแนะนำซาร่าห์ให้ค้นหาบ้าน
ที่เป็นที่สิงสถิตของวิญญาณที่มีความเมตตาและปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายออกไป แทน ที่จะย้ายออกไป ซาร่าห์จ้างช่างไม้
มาต่อห้องให้กับบ้านสไตล์วิคตอเรียนของเธอเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ เป็นเวลาถึง 31 ปีจนกระทั่งเธอตายในปีค.ศ. 1922
หลังจากซาร่าห์ตาย ช่างไม้เริ่มได้ยินเสียงกระซิบเรียกชื่อพวกเขา ได้ยินเสียงฝีเท้า รวมทั้งเห็นวิญญาณซาร่าห์



3. ปราสาทเอดินเบอร์ก, สก็อตแลนด์



ปราสาทยุคกลางอันสง่างามแห่งนี้ ปราสาทเอดินเบอร์ก (Edinburgh Castle) ภายในเต็มไปด้วยห้องว่างเปล่า
ทางเดินแคบๆ และเสียงสะท้อน แห่งความตาย เนื่องจากภายในปราสาทแห่งนี้ แม้แต่ตามถนนแคบๆ นั่นก็ด้วย
ใช้เป็นที่กักขังและหลุมฝังศพในคราวเดียวสำหรับนักโทษและคน เป็นโรคระบาด รวมทั้งศพของนักตีกลองที่หัวขาด
จากการทำสงครามกับฝรั่งเศสและสงครามประกาศอิสรภาพของอเมริกัน

เสียงร่ำลือของวิญญาณ ที่นี่ทำให้ทีมนักวิทยาศาสตร์นำโดย ดร.ริชาร์ด ไวสแมน จากมหาวิทยาลัยเฮิร์ตฟอร์ดเชียร์
เดินทางมาพิสูจน์ในปี 2001


2. อัลคาแทรซ, ซานฟรานซิสโก



สถานที่นี่คือคุกที่มีชื่อเสียงที่สุดของอเมริกา  อัลคาแทรซ (Alcatraz) คุกที่ไม่มีใครแหกสำเร็จ ถึงแม้จะมีนักโทษ
พยายามใช้ของชิ้นเล็กๆ ตัดซี่กรงเหล็ก และแอบว่ายน้ำหนีออกไป แต่ก็ไม่ปรากฏว่าเขามีชีวิตรอดไปได้ นักโทษหลายคน
ตายในห้องขังที่นี่ ส่วนหนึ่งตายเพราะบาดแผลติดเชื้อ

และนี่เอง เป็นที่มาของเสียงประหลาดมากมาย เช่น เสียงตัดเหล็ก เสียงปิดประตูห้องขัง เสียงหวีดร้องจากใต้ดิน
และความรู้สึกถูกจ้องมอง



1. ปราสาทบราม, โรมาเนีย



สถานที่บนเทือกเขาคาร์พาเธียน อันห่างไกลในประเทศโรเมเนีย ตำนานของผีดูดเลือด ท่านเคาท์แดร๊กคิวล่า (Count Dracula)
อยู่ที่นั่น เรื่องของท่านเคาท์ ตั้ง ต้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 อ้างถึงเจ้าชายคนหนึ่งชื่อ Vlad Dracula (ลูกชายแห่งมังกร)
ผู้ไร้ความเมตตาและเป็นปรปักษ์กับชาวคริสเตียน นำกอง ทัพ สองหมื่นคนโจมตีชาวออตโตมันแล้วใช้เหล็กแทงทะลุจากลำไส้
ขึ้นไปตามกระดูกสันอกทิ้งไว้ทั่วป่า

การดั้นด้นเดินทางสู่ปราสาทที่สร้างด้วย สถาปัตยกรรมยอดแหลมสไตล์กอธิคของเจ้าชายผู้กระหายเลือดองค์นี้
กลายเป็นตำนานของผู้ต้องการแก้แค้นและเกิดเป็นตำนานผีดูดเลือดในที่สุด



credit :: toptenthailand.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 ตุลาคม 2013, 12:22:36 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่