-->

ผู้เขียน หัวข้อ: Norse Mythology: Episode 13 – คำสาปแห่งแหวน  (อ่าน 721 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18150
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Norse Mythology: Episode 13 – คำสาปแห่งแหวน
« เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2014, 15:18:10 »

Norse Mythology: Episode 13 – คำสาปแห่งแหวน



เรื่องตำนานชาวเหนือน่ะจบแล้วละครับ ท่านผู้อ่านได้สังเกตอะไรบ้างอย่างบ้างหรือเปล่าว่ามีความคล้ายคลึงกับเรื่อง
The Lord of the Ring ของคุณตาโทลคีนอยู่หลายตอนทีเดียว อย่างเช่นแผ่นดินต่างๆ ในตำนานชาวเหนือก็แบ่งคล้ายๆ กัน
เรื่องของธอร์ที่ไปเผชิญกับยักษ์สกรายเมียร์ผู้สูงใหญ่เป็นตัวแทนของพลังธรรมชาติซึ่งเขาไม่อาจเอาชนะได้ ก็เหมือนกับเมื่อตัวเอก
ในเรื่องนั้นไปเจอกับบรรพบุรุษต้นไม้ซึ่งก็เป็นตัวแทนของพลังธรรมชาติที่ลุกขึ้นมาชนะพลังความชั่วและความดี บุคลิกบางส่วนของโลกิ
ก็ยังกลายเป็นบุคลิกส่วนหนึ่งของพ่อมดตัวโกงเหมือนกัน การรบในทุ่งสงครามที่ทุ่งสงครามของโทลคีนแต่งก็คล้ายช่วงแร็กนาร็อค
ยังไงก็ไม่รู้นะครับ กระทั่งแหวนตัวต้นเรื่องยังมาจากบุคลิกของแหวนเดราป์เนียร์ของโอดินเลย วงนั้นน่ะมีคุณสมบัติถอดแบบตัวเองทุก 7 วัน
ขณะที่ของคุณตาโทลคีนมีลูกน้องแหวนได้ด้วย (ที่วิเคราะห์มาทั้งหมดนี่เป็นความเห็นของผมแต่ผู้เดียวนะครับ)




ตรงนี้เลยทำให้ผมเสียดายถ้าจะไม่เล่าเรื่องคำสาปแห่งแหวนเรื่องนี้ให้ฟัง เพราะว่าแหวนวิเศษของชาวเหนือไม่ได้มีเฉพาะเดราป์เนียร์เท่านั้นนะครับ
แต่ยังมีอีกวงหนึ่งซึ่งน่าจะผสมผเสมีส่วนอยู่ในเรื่องเดอะลอร์ดฯ ไม่น้อย แหวนวงนี้ชื่อว่าแหวนอันดวารี (Andvari) ครับ

เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อสมัยที่โลกิ โอดินและวิลี (หรือโฮเนียร์) ยังร่วมทางเดินกันเช่นเดียวกับการผจญภัยที่โลกิโดนยักษ์จับไปบีบบังคับเอาเทวีไอดัน
คราวหนึ่งทั้งสามมีอันอยากลงมาผจญภัยยังแดนมิดการ์ด (อีกแล้ว) ด้วยความหิวต่างคนก็ต่างมองหาว่าจะล่าเนื้ออะไรได้บ้าง เผอิญโลกิหันไปเห็น
นากตัวหนึ่งนอนหลับอยู่ริมน้ำ เทพก็เอาหินก้อนพอเหมาะขว้างเข้าให้ ผลก็คือเขาได้นากตัวนั้นมาเป็นเนื้อสำหรับอาหารเย็น สามเทพเดินต่อไป
โดยมีโลกิหิ้วนากตามมาด้วย จนกระทั่งไปถึงบ้านหลังหนึ่งกลางไร่ จึงเข้าไปเคาะประตูหวังจะหาที่พักสักคืนหนึ่ง



เจ้าของบ้านเปิดประตูรับ โอดินแจ้งความประสงค์ พระองค์ว่าไม่ได้มามือเปล่าแต่ขอแลกกับเนื้อนากก็แล้วกัน ว่าแล้วก็ผายมือไปยังโลกิที่หิ้ว
ซากนากตามมาเบื้องหลัง แต่ปรากฏว่าเจ้าของบ้านซึ่งก็คือพ่อมดฮเรียดมาร์ (Hreidmar) เขาตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นนากตัวนั้น เพราะก็คือ
ออตเตอร์ (Otter; แปลว่านากนั่นแหละ) ลูกชายของเขาเอง พ่อมดโกรธเกรี้ยว เขาร่ายเวทย์ทำให้แขกแปลกหน้าอ่อนแรงจากนั้นก็เรียก
ฟาฟเนอร์ (Fafnir, Fáfnir, Frænir) และเรจิน (Regin, Reginn) ลูกชายที่เหลือออกมาช่วยกันจับเทพมัดเอาไว้ โอดินส่งเสียงว่าเขาไม่ผิด
และว่าถ้าหากรู้ว่าออตเตอร์เป็นลูกเจ้าของไร่จะตรงมาที่นี่ทำไม ฮเรียดมาร์ไม่ยอมฟังแล้วยังทำท่าเหมือนจะฆ่า โอดินเฝ้าอ้อนวอนใช้วาทศิลป์ต่างๆ
จนพ่อมดยอม แต่ต้องหาของมาไถ่โทษ





 
สิ่งที่พ่อมดต้องการคือทองคำจำนวนมากเท่าที่จะวางให้เต็มหนังนากตัวนั้นทั้งข้างนอกข้างใน ฮเรียดมาร์ว่าแล้วก็หัวเราะก้อง หนังนากลูกชายค่อยๆ
ขยายยืดออกๆ เรื่อยๆ ชนิดที่ว่าหาทองมาถมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม โอดินทำท่าเหมือนจะสิ้นปัญญาแต่โลกิรู้แล้วว่าเขาจะต้องทำอย่างไร


เขาอาสาจะออกไปเอาทอง ฮเรียดมาร์จึงเอาโอดินกับโฮเนอร์ไว้เป็นตัวประกัน แต่เขาไม่ยอมให้โลกิใส่รองเท้าท้องฟ้า มิฉะนั้นเทพจอมปลิ้นปล้อน
อาจจะแอบกลับมาปล่อยตัวประกันออกไปโดยไม่มีใครรู้




โลกิต้องไปหยิบยืมแหของรัน (เมียอีเจอร์) แล้วมุดลงไปในรูท่อน้ำสู่ทะเลใต้ดิน รอเวลาอยู่นานทีเดียวครับ พอเห็นจุดหมายที่ต้องการโลกิ
ก็ลงแหได้ปลาไพค์ขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ปลาตัวนี้ก็เหมือนนากคือไม่ได้มีรูปร่างอย่างที่เห็นแต่แรก แท้จริงมันคือคนแคระอันดวารีผู้ที่รวยที่สุด
ในหมู่ผู้ที่อยู่ใต้ดินด้วยกัน โลกิจัดการข่มขู่คนแคระที่คืนร่างแล้วเป็นการใหญ่จนอันดวารีกลัวมาก เขายอมให้ทองคำทั้งหมดที่เขามีอยู่
โลกิก็ยังไม่พอใจ ยังสาธยายภาพความตายอันน่ากลัวถ้าคนแคระยังไม่ให้สิ่งที่มีทั้งหมด โลกิอาจจะซ้อมค้างไปยังงั้นเองละครับ



แต่คนแคระดันมีของที่ว่าอย่างนั้นจริงๆ สิ่งนั้นคือแหวนวิเศษซึ่งสามารถสร้างทองคำขึ้นเองได้แลกกับชีวิต โลกิยอมปล่อยคนแคระ อันดวารี
พาไปเอาทองและแหวน แต่ยามที่จะต้องพรากจากของรักจริงๆ อันดวารีมีอารมณ์โกรธวับขึ้นมานึกได้ว่าสมบัติพวกนี้เป็นของเขา เขาต้องลง
แรงสร้างและหามากว่าจะมากมายขนาดนี้ แต่จะต้องยกให้คนพาลที่อยู่ๆ โผล่มาปล้น อันดวารีจึงร่ายเวทย์สาปแหวนให้ผู้ครอบครองพบกับ
ความพินาศ โลกิไม่ได้สนใจหรอกครับว่าของที่เอาไปจากคนแคระจะมีอันตรายหรือเปล่า ออกจะสะใจเสียด้วยซ้ำ

โลกิขนสมบัติกลับมาให้ฮเรียดมาร์ตามสัญญา พ่อมดปล่อยโอดินและโฮเนียร์เป็นอิสระ แต่ก่อนจากมาโลกิเตือนทิ้งท้ายว่าแหวนและสมบัติ
เหล่านี้จะนำมาซึ่งความพินาศ ฮเรียดมาร์ไม่สนใจครับ เวลานั้นเขาโดนมนต์คำสาปครอบงำเสียแล้ว เฝ้าแต่ชื่มชมลูบคลำหวงแหนไม่ยอม
ให้ใครแตะต้อง




ทว่าความพินาศก็มาเยือนในเวลาไม่นาน ฟาฟเนอร์และเรจินก็อยากได้สมบัติเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนสมคบกันหาทางฆ่าฮเรียดมาร์ แล้วหนี
พร้อมกับทองคำและแหวนซึ่งต่อมาเรจินก็ถูกฟาฟเนอร์ทรยศพาสมบัติไปคนเดียว ทว่ามนตราสาปแหวนทำให้จิตใจของเขามุ่งอยู่แต่ความหวงแหน
เอาสมบัติไปฝังซ่อนไว้ ฟาฟเนอร์ค่อยๆ บ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุดกลายร่างเป็นมังกรเฝ้าทองคำและแหวนไม่ยอมไปไหน


————————————————-

ที่มา: ต้นข้าว. http://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=226138&chapter=13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 พฤษภาคม 2014, 11:11:37 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่