-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานผีญี่ปุ่น Part8  (อ่าน 1200 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18236
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
ตำนานผีญี่ปุ่น Part8
« เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2014, 14:30:18 »

ตำนานผีญี่ปุ่น Part8

1. วานท่านส่งของขวัญนี้ที...



เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่า มิได้เกี่ยวกับภูตผีปีศาจโดยตรง แต่เป็นเืรื่องสยองขวัญที่เล่ากันต่อๆมา ถึงการไปรับปากส่งของให้ชาวบ้านที่เราไม่รู้จัก
และเป็นเรื่องเล่าที่หากลองอ่านดูจะรู้สึกถึงไอของความกลัวหน่อยๆ และความสยองที่ตามมา....


เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อเจ้ากรรมซามูไร นามว่า "คิ โนะ เอ็นซุเกะ" กำลังเดินทางกลับบ้านอยู่นั้ัน เขาข้ามสะพานแห่งเชตา ในเมืองชิกะ นั่น
ปรากฏหญิงสาวในชุดกิโมโนที่ยาวและสวยงามแต่งกายอย่างกับผู้ดีชั้นสูง... ยืนอยู่ปลายสะพาน นางห้ามเขาไว้

"ข้าแต่ท่านกำลังจะไปไหนเจ้าค่ะ"

เขาหยุดม้าถึงในใจเขาจะตกใจอยู่... และเขาก็ลงจากหลังม้ามาพูดกับหญิงสาวผู้สูงศักดิ์
"ข้าน้อยกำลังจะไปกิฟุครับท่านหญิง"
"หากท่านไปกิฟุจริง ข้าของวานท่านเรื่องหนึ่งจะได้ไหม"
"ว่ามาเลยขอรับท่านหญิงหากไม่ใช่เรื่องหนักกว่าแรงข้าน้อยก็จะทำให้"
"เช่นนั้น" หญิงสาวส่งกล่องที่ห่อด้วยผ้าไหมอย่างดีให้กับ คิโนะ เอ็นซุเกะ
"ข้าวานท่านส่งของขวัญนี้ที"


คิโนะ เอ็นซุเกะรับกล่องนั้นมา
"ท่านจงไปยังสะพานดังในคาระ โนะ ซะโตะแล้วจะมีหญิงสาวซึ่งเป็นเพื่อนของข้ามารอรับของขวัญชิ้นนี้"
"แล้วข้าน้อยจะทราบได้อย่างไรว่าคนใดเป็นเพื่อนของท่านหญิง"
"ท่านไม่ต้องกลัว ท่านไปถึงนางจะรอท่านอยู่ที่ปลายสะพานฝั่งตะวันตก
"

ในขณะที่คิโนะ เอ็นซุเกะขึ้นนั่งบนม้าและเก็บกล่องนั้นไว้กับผ้าที่เขามัดติดตัวมา
"ข้าขอเตือนท่านว่าจงอย่าเปิดนั้นดูนะว่ามีอะไรอยู่ข้างใน"

คำพูดของหญิงสาวน่ากลัวจนคิโนะ เอ็นซุเกะเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาเสียแล้ว... แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุุรุษ
เขาจึงรับปากนางและขี่ม้าออกไป คิโนะ เอ็นซุเกะด้วยความอยากที่จะกลับบ้านทำให้เขาลืมเสียแล้วที่จะไปยังสะพานดังกล่าว
เพื่อนำของที่หญิงสาวผู้สูงศักดิ์สิทธิ์ฝากเขามา เมื่อเขามาถึงบ้านก็เก็บกล่องของขวัญไว้กับหีบใบใหญ่ของเขา
เพราะเกรงว่าจะมีคนมาเกาะดู แต่คงถึงคราวของเขาภรรยาขี้สงสัยของเขาเข้ามาตรวจห้องตอบเขาไม่อยู่ในห้อง
บังเอิญนางไปปิดหีบนั้นเข้าและพบกับกล่องของขวัญที่ห่อด้วยผ้าไหมอย่างดี นางเกิดความโกรธขึ้นเพราะคิดว่าสามีนางนอกใจ
และเ้จ้าสิ่งนี้เป็นของขวัญจากหญิงสาวนางอื่นมอบให้ นางเปิดมันออก ปรากฏแทนข้างในจะเป็นสิ่งของอะไรสักอย่าง
แต่กลับกลายเป็น ลูกตาคู่หนึ่งและอาบด้วยเลือด
"กริ๊ด......................"

"เกิดอะไรขึ้น...."
คิโนะ เอ็นซุเกะเข้ามาพอดีเจ้าทำอะไรของเจ้านะ
"ท่านพี่นี่มันอะไรกัน..."
"เจ้าเก็บและห่อมันให้เหมือนเดิมเลยนะ"


ภรรยาของเขาก็เปิดฝากล่องและห่อผ้าไว้ดังเดิมและออกไปจากห้องด้วยอาการน่าเสียๆ
คิโนะ เอ็นซุเกะหยิบกล่องนั้นขึ้นมา
"สงสัยจะเอาไว้ไม่ได้ต้องรีบไปให้เขา..."

คิโนะ เอ็นซุเกะควบม้าไปยังสะพานดังทันที หญิงสาวในชุดกิโมโนแบบชาวบ้านกำลังรออยู่ที่ปลายสะพานพอดี
"เจ้าคงรอสิ่งนี้อยู่"
"ท่านมาได้เวลาพอดี"


คิโนะ เอ็นซุเกะยืนห่อผ้าแก่หญิงสาว หญิงสาวรับห่มผ้าแต่พอนางมองที่ห่อผ้านั้น
"มันถูกเปิดออกเลยนี้..........." นางพูดอย่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก
"ท่านเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร สิ่งของภายในถูกเปิดออกท่าน...."

นางกระทืบเท้าอย่างแรงด้วยความโมโหและเดินจากไป คิโนะ เอ็นซุเกะก็รู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขากลับมาถึงบ้านไม่ทันใด
ร่างกายของเขารู้สึกแย่และเขาก็ล้มป่วยลงอย่างหนัก ภรรยาของเขาพยาบาลอยู่ข้างๆเขา เขาร้องไห้ออกมาภรรยาของเขาก็เช่นกัน
และแล้วเขาก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเหมือนมีคนมาบีบหัวใจ

"โอ๊ย............"
"ท่านพี่...ท่านพี่..ใจดีๆไว้นะค่ะ ใครก็ได้ตามหมอทีช่วยด้วย"
"เจ้า...หากเจ้า...ไม่สงสัยในตัวพี่...เรื่องคงไม่เป็นอย่างนี้เหรอ..."
"ท่านพี่...น้องผิดไปแล้วไม่น่าเลยเพราะเจ้าของที่ท่านพี่รับปากเขามาแท้ๆ"
"ไม่เหรอ...เพราะเจ้าต่างหากที่ไปเปิดมัน...."

คิโนะ เอ็นซุเกะสิ้นลมเสียแล้ว ภรรยาของเขาก็ร่ำไห้และโทษว่าเขาตายเพราะนาง...

ตกดึก...หมอกควันเต็มแม่น้ำ บนสะพานไม้แห่งหนึ่ง หญิงสาวในชุดกิโมโนสูงศักดิ์ เดินมาจากอีกฝั่งอยู่ของสะพาน ผมยาวลาดตามพื้น
หญิงสาวในชุดกิโมโนแบบชาวบ้านเดินขึ้นมาจากอีกฝั่งหนึ่งของสะพานในมือถือห่อผ้าไหมซึ่งเป็นกล่องของขวัญ ทั้งสองมาพบกัน
ที่กลางสะพาน ทั้งคู่มองหน้ากัน

"เจ้าคงได้ของที่ข้าฝากแล้วซินะ..."
"ต้องขอบใจเจ้ามาก ที่ส่งของขวัญชิ้นนี้มาให้ช้า มันถูกใจข้ามาก"
"ข้ารู้ว่าเจ้าชอบกินมัน..."
"ใช่ วันนี้ข้าก็มีของขวัญมาให้เจ้า..."
"อะไรหรือเพื่อนรักของข้า"
"นี้แล้วเจ้าก็เปิดมันออกซะ"


หญิงสาวชุดกิโมโนสูงศักดิ์ก็รับมาแล้วแกะห่อผ้าไหมออก และเปิดฝากล่องออกภายในกล่องนั้น กลับมีหัวใจที่กำลังเต็มอยู่
"ว๊าย...หัวใจ...มันยังเต็มอยู่เลยแสดงว่าสดๆ"
"ใช่ เพื่อเจ้าโดยเฉพาะเพื่อนรักของข้า"


หญิงสาวหยิบหัวใจนั้นขึ้นและกินมันเข้าไปอย่างสยดสยองเลือดไหลเต็มกิโมโนที่สวยงาม กลายเป็นกิโมโนที่มีคราบเลือดเต็มไปหมด
"หัวใจมันอร่อยเลือดนี้ไหลลงคอ...อร่อยจริงๆ...."
"หัวใจนี่มันเป็นของเจ้าซามูไรนั่นมันทำผิด มันเปิดแอบดูของให้กล่องนั่น"
"โธ่เพื่อนรักข้าบอกมันแล้วนะ ว่าห้ามเปิดดู โธ่ลูกตาของเจ้าคงเสื่อมความอร่อยลงเยอะเลยล่ะซิ"
"ข้าเลยสังหารมันเสีย...และ้เลยนำหัวใจมันมาฝากเจ้าไง"
"ดีมากเพื่อนรัก...คืนนี้เราจะพูดเรื่องอะไรดีล่ะ"


จากนั้นหญิงสาวทั้งสองก็พูดคุยสนทนากันไป...สายลมหนาวพักผ่าน หมอกควันลอยกระจายไปทั่ว... หญิงสาวทั้งสองยังคงมีความสุข
กับการส่งของขวัญให้แก่กัน ระวังนะคุณอาจจะกลายเป็นคนที่พวกเธอวาน...

"วานท่านส่งของขวัญนี้ที" "ห้ามเปิดดูนะว่าข้างในเป็นอะไร...."



2. หญิงสาวในภาพวาด



เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวแนวลึกลับสักหน่อย เป็นเรื่่องราวความรักเป็นแนวโปเยโปโลเยอีกแล้ว อันนี้เป็นคนธรรมดาที่มีความฝัน
จะมีภรรยางามดังสาวงามในภาพวาด ซึ่งหากใครคงเคยดูมาแล้วในละครซี่รี่ส์จีนโปเยโปโลเยภาคพิสดารที่เสนอตอนหนึ่ง เป็นเรื่องราว
ของชายหนุ่มที่หากระดาษที่ทำจากหนังของมนุษย์ มาวาดภาพของหญิงงามและมีชีวิตขึ้นมา... โดยออกมาจากรูปภาพเป็นคนจริงๆ
น่าจะจำกันได้ ซึ่งที่ญี่ปุ่นเขาก็มีเีรื่องแบบนี้เช่นกัน ซึ่งมีมูลเหตุเหมือนกันแต่เรื่องนี้จบด้วยดีนะครับ


ซึ่งอาจเป็นได้ว่าญี่ปุ่นรับอิทธิพลเรื่องนี้มาจากประเทศจีน ซึ่งเ้ขาว่าน่าจะเป็นช่วงราชวงศ์ถังอีกแล้ว เขามีเรื่องเล่าระหว่างคนรักกับผี
ตั้งมากมายหลายเรื่อง...เป็น 100 กว่าเรื่องได้เลย และเรื่องความรักของคนกับหญิงสาวในภาพก็ติด 1 ใน100เรื่องนั้นด้วย

เรื่องแบบฉบับของญี่ปุ่นก็มีอยู่ว่า มีนักศึกษาหนุ่มผู้หนึ่งนามว่า "โทะเก"ถูกใจกับภาพวาดเหมือนจริงของหญิงงามภาพหนึ่ง
ก่อนกลับบ้านเขาก็จะมายืนดูภาพของหญิงสาวนี้ทุกครั้ง แต่ในที่สุดเขาก็อดใจไม่ไหวจึงต้องออกเงินที่เก็บออมออกมาซื้อภาพนี้เสียจนได้
เขานำภาพนั้นมาแขวนประดับไว้ในห้องของเขา และเขาก็จะนั่งดูนี้ตลอดไม่วางตา ยิ่งดีภาพก็ยิ่งสวยงามขึ้นมาก ถึงขนาดเขาบ่นกับตนเองว่า
"หญิงงามนางนี้มีจริงในโลกใบนี้หรือไม่หนอ" เขาก็ลุกขึ้นสัมผัสที่รูปภาพ
"ข้ายอมมอบชีวิตครึ่งหนึ่งของข้าในนางมีชีวิตมากอดเ้ขาไว้สักช่วงอึดใจหนึ่งก็เป็นความสุขหนักหนาแล้ว"

นานเข้าโทะเกก็ป่วยลงเพื่อนของเขามาเยี่ยมอาการ และถามได้ใจความเพราะหลงใหลภาพหญิงงามจึงล้มป่วย เพื่อนของเขาคนหนึ่ง
ทราบว่าคนที่เป็นแบบวาดนั้นตายไปหลายปีมาแล้ว แต่ภาพนี้ก็ลือว่าเป็นผลงานของจิตรกรมือหนึ่งนามว่า "ฮิชิกะวะ คิชิบิ"
ซึ่งเขาจะวาดภาพเหมือนจริงจนวิญญาณของคนที่เป็นแบบสามารถมาอาศัยเป็นร่างแทนได้เลยทีเดียว เพื่อนของเขาจึงบอกอุบาย
ให้เขาได้นางมาครอบครอง เพื่อนบอกให้โทะเกหาเหล้าสาเกจากร้อยร้านมาผสมกันและรินใส่ถ้วย1จอก และให้เขามานั่งอยู่หน้าภาพวาด
และมองไปยังตาของหญิงสาวในภาพ โทะเกนั่งลงพร้อมกับกล่าวว่า

"บอกข้า..."
เขาหวังจะได้ยินคำตอบกลับจากหญิงสาวในภาพ เวลาผ่านไปนานมากพอสมควรและโทะเกก็ยังคงพูดถามภาพวาดจนในที่สุด

"ค่ะ" ใช่หญิงสาวในภาพตอบกลับแล้ว
โทะเกดีใจมากและยกจอกเหล้าสาเกขึ้น ภาพเริ่มเปลี่ยนกิริยาบถและก้าวออกมาจากแผ่นกระดาษและมานั่งคุกเข่้าต่อหน้าโทะเก
และนางก็รับจอกเหล้านั้นแล้วดื่ม นางยิ้มด้วยความยินดี

"เหตุใดท่านจึงรักข้ามากมายเพียงนี้เจ้าค่ะ"
"ข้ารักเจ้ามาก รักมากตั้งแต่พบเจ้าตอนยังเป็นภาพวาดอยู่"
"อีกไม่นานท่านจะเบื่อข้า...พอข้ามาเป็นคนแล้วความงามของข้าจะไม่จีรังเหมือนตอนเป็นภาพวาด"
"ไม่...ข้าจะไม่เบื่อเจ้าแน่...ข้ารักเจ้าตราบเ่ท่าชีวิตข้าจะหาไม่"
"และหลังจากนั้นล่ะค่ะ"
"ขอให้สัญญาต่อเจ้า...จะขอเกิดมาเป็นครองคู่กับเจ้าทุกชาติทุกภพไป"


หญิงสาวยิ้มและน้ำตาแห่งความปิติก็บังเกิดขึ้น
"ถึงคำพูดของท่าน ข้ามิอาจจะเชื่อได้หรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อวันนั้นมาถึง วันที่ท่านเบื่อข้า ทิ้งข้า ข้าจะกลับไปอยู่ในภาพและจะไม่กลับออกมาอีกเลย..."
"ไม่รับรองวันนั้นต้องไม่มีแน่"


โทะเกเข้ากอดนาง และทั้งคู่่ก็รับรักกันต่อมาทั้งสองแต่งงานและก็ช่วยกันประกอบอาชีพหาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริตทั้งสองอยู่กัน
อย่างมีความสุขตลอดมากระดาษที่ถูกแขวนไว้ยังคงไร้ซึ่งภาพวาดจนมาถึงทุกวันนี้ คงเป็นเพราะโทะเกเป็นสามีที่ดีมาก
จึงทำให้หญิงสาวมิอาจจำเป็นต้องกลับไปอยู่ในกระดาษนั้นอีกเลย...



3. อนเมียว-จิ นักเวทย์แห่งแดนอาทิตย์อุทัย



ทั้งที่กล่าวมากว่า 60 กว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับภูตผีปีศาจญี่ปุ่น แต่ในคราวนี้หากไม่เสนอเรื่องนี้คงเหมือนขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป เมื่อมีผีและยังต้อง
มีของแก้กัีนนั้นคือ "หมอผี" หรือนักเวทย์ที่มีพลังอำนาจสามารถปกป้องคุ้มครองมนุษย์ให้พ้นจากสิ่งเลวร้าย ภูตผีปีศาจได้ ชาวญี่ปุ่นมีพ่อมด หมอผี
ที่เรืองฤทธิ์และเรียกกันว่า "อนเมียว-จิ" ที่แปลว่า "หยิน-หยาง" คงรับอิทธิพลมาจากความเชื่อทางลัทธิเต๋าของจีนอีกนั่นเละ
อนเมียว-จิเก่งทั้งวิชาอาคมแล้วยังเก่งด้านโหราศาสตร์พยากรณ์"อี้ชิง"เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องการทำนายเสียอีก ว่าได้ว่าเป็นปุโรหิตคนสำคัญ
แห่งราชสำนักญี่ปุ่นเลยว่าได้นะ


ในอดีตสมัยเฮอัน ได้เกิดอนเมียว-จิที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น คือ "อะเบะ โนะ เซเม" มีตำนานว่าเขามีความสามารถอย่างยิ่งในด้าน
วิถีแห่งอนเมียวอันเป็นศาสตร์วิชาที่ป้องกันจากสิ่งชั่วร้ายและโหราศาสตร์พยากรณ์อีกด้วย(อะไรจะขนาดนั้น) ซึ่งหาจับได้ยากยิ่ง เขาเป็นบุคคลสำคัญ
ทางพระราชสำนักของญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นในสมัยนั้นรับอิทธิพลของลัทธิเต๋ามาเต็มทีเลยเหมือนกัน ก็คงเหมือนบ้านเราที่ทางราชสำนักยังมีปุโรหิต
ซึ่งมีหน้าที่ประกอบพิธีกรรมทางราชสำนัก เช่น บรวงสรวง เป็นต้น


ประวัติความเป็นมาของท่านอะเบะ โนะ เซเม ถ้าไม่เล่านี้คงเสียดายแน่ๆ ท่านมีเรื่องเล่าอันเป็นตำนานว่้า ท่านมีความสามารถเช่นนี้เพราะมีมารดา
เป็นปีศาจสุนัขจิ้งจอก ท่านเลยสามารถมีตาทิพย์เห็นภูตผีปีศาจได้ และเก่งกาจในการร่ายเวทย์คาถาและพยากรณ์ได้อย่างไม่ผิดผลาด
ครั้งหนึ่งท่านเคยเป็นศิษย์น้อยของอนเมียวจิอาวุโสนามว่า "คะโมะ โนะ ทะดะยูกิ" ท่านทอดถ่ายวิชาต่างๆเพราะเล็งเห็นความสามารถ
ของอะเบะ โนะ เซเมและยังแสดงออกมาเป็นที่ประจักษ์หลายครั้ง เช่น ในขณะที่ผู้เป็นอาจารย์นั่งบนรถเกวียนเทียมวัว ส่วนอะเบะ โนะ เซเมน้อย
เป็นศิษย์เดินตามเกวียนของอาจารย์และมีคนรับใช้รายล้อม อยู่ๆอะบะ โนะ เซเมก็เห็นกลุ่มปีศาจลอยมาอีกฟากของถนน เขากระโดดเข้าหาอาจารย์
ซึ่งอาจารย์ยังหลับอยู่ เขาร่ายคาถากำบังไม่ให้ปีศาจเห็นขบวนของอาจารย์ จากนั้นปีศาจก็ลอยพาไป นี้เป็นจุดเริ่มต้นที่อะเบะ โนะ เซเมแสดง
ความสามารถที่มีอยู่ในตัวออกมาเป็นที่ประจักษ์ต่ออาจารย์ ท่านเลยคิดว่า


"ข้ามองคนไม่ผิดจริงๆ อะเบะ โนะ เซเม เจ้าจักต้องเป็น อนเมียว-จิที่ยิ่งใหญ่และต้องสืบทอดตามเจตนารมณ์ของข้านะ"
"ขอรับท่านอาจารย์"


หลังจากคะโมะ โนะ ทะดะยูกิผู้เป็นอาจารย์หมดบุญจากโลกใบนี้ไป หน้่าที่ของศิษย์รักก็เริ่มขึ้น เดิมทีคะโมะ โนะ ทะดะยูกิเป็นอมเมียว-จิ
ประจำราชสำนัก เมื่อผู้เป็นอาจารย์สิ้นบุญ หน้าที่นี้จึงตกมาเป็นของผู้เป็นศิษย์ อะเบะ โนะ เซเม จึงดำเนินตามเจตนารมณ์ของอาจารย์

ท่านอะเบะ โนะ เซเม มีความสามารถเป็นที่ล่ำลือจึงมีเรื่องเล่าของท่านที่มักมีคนมาลองดีกับท่านอยู่เสมอ จึงเสนอตอนหนึ่งที่มีพระภิกษุ
ที่เลี้ยงชิกิยิน คือวิญญาณที่เป็นทาส พระภิกษุรูปหนึ่งเดินทางมาเข้าพบท่านอะเบะ โนะ เซเม โดยมาพร้อมกับเด็กรับใช้สองคน
พอท่านอะเบะ โนะ เซเมรับการมาพบของพระภิกษุด้วยดี
"ท่านหลวงพี่มาจากไหน"
"อาตมามาจากเมืองเฮียวโกะ เดินทางมาพบท่านเพราะอยากจะเรียนรู้วิชาวิถีแห่งอนเมียว ได้ยินกิตติมศักดิ์ของท่านมานานจึงอยาก
จะมาฝากตนเป็นศิษย์"




ท่่านอะเบะ โนะ เซเมมองดูที่เด็กรับใช้ทั้งสอง ท่านจึงทราบว่า เด็กรับใช้ทั้งสองนั้นไม่ใช่คน นั้นคือ ชิกิยิน และแสดงว่าพระภิกษุรูปนี้
เป็นอนเมียว-จิอยู่แล้ว แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของพระภิกษุคือการมาลองดีกับท่านนี่เอง หากท่านตกหลุมพรางของพระรูปนี้คงเป็นที่อับอายแน่ๆ
ท่านเลยร่ายเวทย์มนต์ให้เด็กรับใช้หายไป แล้วท่านจึงกล่าวกับพระภิกษุว่า


"เช่นนั้น ข้าก็ยอมรับหลวงพี่เป็นศิษย์ แต่ทว่าวันนี้เป็นวันที่ฤกษ์ยามไม่ดี หลวงพี่ท่านกลับไปแล้วคำนวณเอาวันที่เป็นมงคลแล้วค่อยกลับมาก็ไม่สาย"
"เช่นนั้น อาตมาก็ยินดีมากที่ท่านอนเมียว-จิรับอาตมาเป็นศิษย์แล้วอาตมาจะหาวันที่เป็นมงคลมารับการเป็นศิษย์จากท่าน"


เมื่อพระภิกษุลุกจะเดินออกจากห้อง ก็ไม่เห็นเด็กรับใช้ของตน
"ศิษย์ของอาตมาหายไปไหน!!! ขอคืนแก่อาตมาเถิด..."
"หลวงพี่...ท่านกำลังกล่าวโทษข้า ท่านหาเด็กไม่พบเอง และข้าจะเอาไปทำไม"


พระภิกษุอึ้งเพราะท่านอะเบะ โนะ เซเมรู้ทันแล้ว
"สิ่งที่ท่านพูดถูกแล้ว ได้โปรดอภัยอาตมาด้วย และได้โปรดคืนเด็กรับใช้ของอาตมาคืนด้วยเถิด..."
"หลวงพี่ทราบไหมว่า การเอาวิญญาณชิกิยินมาด้วยเช่นนี้เป็นความหยาบคลายมากสำหรับข้า หากท่านต้องการจะเล่นตลกอย่างนี้
ก็ได้โปรดหลวงพี่ไปเ่ล่นกับท่านอนเมียวท่านอื่นเสีย...แบบนี้เล่นกับข้าไม่ได้หรอก"


ท่านอะเบะ โนะ เซเมเสกให้ชิกิยินเด็กรับใช้ของพระภิกษุปรากฏขึ้น
"การนำชิกิยินมาเป็นเรื่องง่าย แต่การซ่อนชิกิยินนี้ซิยิ่งยากกว่า ท่านสมแล้วที่เป็นยอมแห่งอนเมียว-จิ ได้โปรดรับอาตมาเป็นศิษย์ด้วย"

สุดท้ายท่านอะเบะ โนะ เซเมก็รับพระภิกษุรูปนั้นเป็นศิษย์เสียจนได้และนิสัยของท่านเป็นคนเมตตากรุณาอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
อีกเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นที่เล่้าขานของท่าน คือ การช่วยขุนนางหนุ่มที่ถูกทำของใส่


วันนั้นเป็นวันที่ขุนนางหนุ่มไฟแรงนามว่า "คุโระโดะ โนะ โชโจ"เป็นที่โปรดปรานของพระจักรพรรดิและยังมีอนาคตที่จะเลื่อนขั้นอีกด้วย
เขาเดินทางมาเข้าเฝ้าพระจักรพรรดิพอดีกับท่านอะเบะ โนะ เซเม ที่จะเข้าเฝ้าพระจักรพรรดิเช่นกัน ในขณะนั้นอีกาตัวหนึ่งบินเข้ามา
และขี้รดใส่ขุนนางหนุ่ม ท่านอะเบะ โนะ เซเมเห็นเข้าก็รู้เลยทันทีว่าอีกาตัวนั้นเป็นชิิกิยินและขุนนางหนุ่มคนนี้ชะตาจะขาดในวันรุ่งขึ้น
ท่านเข้าไปหาขุนนางหนุ่มและพูดว่า


"ท่านคุโระโดะขอรับ ได้โปรดกระผมเห็นราศีบนใบหน้าไม่ีดีเหมือนมีวิญญาณร้ายตามมาจะสังหารท่าน หากท่านยังอยากมีชีวิตรอดมา
ถึงวันรุ่งขึ้นได้โปรดตามกระผมมาขอรับ"


ขุนนางหนุ่มเชื่อในคำพูดของท่านอะเบะ โนะ เซเม เพราะเป็นผู้ใหญ่ในราชสำนักที่ตนนับถือ ท่านจึงพาขุนนางหนุ่มไปทำพิธีที่บ้าน
ของขุนนางหนุ่มเอง ท่านให้ขุนนางหนุ่มและท่านอยู่ในห้องหนึ่งและท่านก็อยู่เฝ้าร่ายคาถาคุ้มครองจากดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ดวงดาว
ดวงจันทร์ขึ้นมาแล้วลับไปตอนรุ่งสาง ดวงอาทิตย์ดวงใหม่ก็มาถึง แสงทองแห่งวันใหม่ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง
มีเสียงเคาะประตูรั่ว ชายแปลกหน้านำสารจดหมายมาถึงท่านอะเบะ  โนะ เซเม ใจความว่า

"ถึงท่านอะเบะ โนะ เซเม ข้าน้อยได้รับการจ้างวานให้ส่งชิกิยินมาสังหารท่านคุโระโดะ โนะ โชโจ แต่ท่านได้เข้าช่วยเขาไว้
ทำให้มนตราของข้าน้อยมันทำภารกิจไม่สำเร็จ มันได้กลับมาทำร้ายข้าน้อยอย่างแสงสาหัส หากข้าน้อยทราบว่าท่านคุ้มครอง
ท่านคุโระโดะ ล่ะก็ข้าน้อยคงไม่ลงมือเป็นแน่แท้ โปรดให้อภัยข้าน้อยด้วย"


ท่านอะเบะ โนะ เซเม กล่าวว่า
"ดีนะที่ท่านมาพบข้าน้อยไม่เช่นนั้นคนที่ต้องตายคงเป็นท่านแน่ๆ"

จากนั้นท่านอะเบะ โนะ เซเมก็ส่งคนรับใช้ตามคนส่งสารไปยังบ้านของหมอผีที่ส่งชิกิยินมาทำร้ายขุนนางหนุ่ม แต่พอคนรับใช้กลับมาก็แจ้งแก่ท่านว่า
"นายท่าน หมอผีผู้นั้นตายแล้วขอรับ"

หมอผีคนนั้นตายในขณะที่กำลังจะเขียนจดหมายมาให้แก่่ท่านอะเบะ โนะ เซเมอีกฉบับ ผลสุดท้ายก็ปรากฏว่า คนที่จ้างวานหมอผีส่งชิกิยิน
มาทำร้ายก็คือ ลูกเขยอีกคนหนึ่งของท่านพ่อตาของขุนนางหนุ่มที่เป็นขุนนางเช่นกัน เขาอิจฉาที่ท่านคุโระโดะ เป็นลูกเขยที่ท่านพ่อตารักมากกว่าตน
จึงจ้างหมอผีมาสังหาร ท่านพ่อตาทราบเข้าจึงขับไล่ลูกเขยคนนั้นออกจากบ้าน



นี้คือเรื่องราวของยอมอนเมียว-จิที่ยิ่งใหญ่แห่งแดนอาทิตย์อุทัย และลูกหลานของท่านยังคงสืบถ่ายเจตนารมณ์ของท่านมาจนถึงปัจจุบัน
และยังคงรับใช้ราชสำนักของญี่ปุ่นตลอดมา...




4. มิโกะ สาวบริสุทธิ์ผู้เป็นสื่อกลางแห่งเทพเจ้า



ไหนๆก็กล่าวถึง อนเมียว-จิไปแล้ว  อันนี้ก็ต้องพูดถึงมิโกะ  มิโกะเป็นหญิงสาวที่ถูกรับเลือกให้มีหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า
แต่หน้าที่ของเธอคือรับฟังสื่อที่เทพเจ้าส่งลงมา ดูไปก็คล้ายกับการรับสายโทรศัพท์ว่าท่านเทพจะส่งสารอะไรมาถึงเราโดยมีมิโกะเป็นคนรับสาย
และมาบอกต่อถึงประสงค์ของท่านเทพ อะไรอย่างนั้น


เหล่ามิโกะทั้งหลายที่เราเห็นบ่อยครั้งในการ์ตูนในภาพยนตร์ของญี่ปุ่นมักเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวด้วยกิโมโนสีขา่วและกระโปรงสีแดง จะมีหน้าที่
ที่จะเห็นคือ การสวดมนต์ ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ทำความสะอาดศาลเจ้า โดยเฉพาะกวาดลานศาลเจ้าจะเห็นบ่อยมากๆ แต่หน้าที่หนึ่ง
ที่ดูน่ากลัวแต่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นหน้าที่ของพวกเธอเช่นกัน คือ การปราบปีศาจที่ปรากฏในการ์ตูนดังของญี่ปุ่นเรื่อง อินุยาฉะ และภาพยนตร์ญี่ปุ่น
เกี่ยวกับภูตผีปีศาจบ้างเรื่องเท่านั้น




มิโกะนั่น หญิงสาวที่จะเป็นได้จำต้องเป็นบุตรสาวแห่งนักบวชนักพรตที่เป็นผู้พิทักษ์ดูแลศาลเจ้า และมิโกะนั้นมีมานาวก่อนประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น
โดยในช่วงนั้นมีความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้าอย่างแรงกล้ามากมาย เช่น ตามตำนานว่าดวงอาทิตย์นั้นคือ เทพีอมาเตระสุ จะขึ้นบนท้องฟ้าวันใหม่
จำต้องมีเทพธิดานามว่า"อเมโนะ อูซูเมะ"เป็นผู้อัญเชิญท่านเทพีสถิตบนท้องฟ้า ซึ่งมิโกะก็จะทำพิธีเช่นนี้เหมือนกัน
โดยสมมุติตนเป็นเทพธิดาอเมโนะ อูซูเมะ และจะร่ายรำก่อนรุ่งสางโดยในมือถือกระพรวนด้วย ซึ่งดูได้ว่ามีความเชื่อกับเทพเจ้าเป็นอันมาก
ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงมีอยู่

ในอดีตเขาเชื่อกันว่า ผู้ที่เป็นมิโกะจะต้องเป็นบุตรสาวของนักบวชแล้ว แต่ที่สำคัญมากๆที่แสดงถึงการเป็นมิโกะแน่นอน 100 % คือ
สัญญาณที่เทพเจ้าส่งมาเพื่อแจ้งว่า ฉันเลือกเธอคนนี้เป็นสื่อกลางของฉัน อะไรแบบนั้นล่ะครับ เช่น ตอนแรกเกิดจะมีฟ้าร้องฟ้าผ่า
หรือเทพเจ้ามาเข้าฝันผู้เป็นพ่อแม่ของเด็กอะไรอย่างนั้น ซึ่ีงมิโกะเท่ากับเป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ แต่ในปัจจุบันแล้วมิโกะกลายเป็น
ภายอาชีพหนึ่งที่เป็นที่น่าสนใจของนักศึกษาและ้เด็กนักเรียนผู้หญิงที่ต้องการหารายได้ ซึ่งคงเหลือน้อยที่จะมีมิโกะที่จะคงความศักดิ์สิทธิ์
แบบเช่นในอดีต และความเชื่อเรื่องเทพเจ้าก็เสื่อมไปตามกาลเวลาด้วยความทันสมัยของประเทศ ความเชื่อเหล่านี้จึงถูกลืม
มิโกะที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นตำนานกลับมาปรากฏในจอเงินและจอแก้วแทนในโลกแห่งความเป็นจริง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 พฤษภาคม 2014, 11:50:21 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

gamesun

  • V.I.P.
  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 100
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตำนานผีญี่ปุ่น Part8
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2014, 13:02:12 »

 eta20 eta20 eta20 eta20 นั่งอ่านเพลินๆ ก็สนุกดีครับ