ลบล้างความเชื่อเก่า อาถรรพณ์ พระจันทร์เต็มดวง
หลายคนเชื่อว่า เรื่องร้ายๆ มักจะเกิดขึ้นในคืนพระจันทร์เต็มดวงหรือ "ฟูลมูน"
แต่จากการศึกษาพบว่า วันเดือนเต็มดวงนั้นไม่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุหรือเรื่องร้ายแต่อย่างใด
สถิติอุบัติเหตุในวงการอุตสาหกรรมจำนวน 500,000 คดี ที่เกิดระหว่างปี 2543-2547 ไม่พบว่าวันที่พระจันทร์เต็มดวงนั้น ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น
การศึกษาระบุว่า ในวันปกติมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเฉลี่ย 415 ครั้ง แต่ในวันที่พระจันทร์เต็มดวง อุบัติเหตุกลับลดลงเหลือเพียง 385 ครั้ง
ขัดกับความเชื่อเก่าๆ ที่มีมาตั้งแต่สมัยคริสตศตวรรษที่ 1 เมื่อ Gaius Plinius Secundus กวียุคโบราณ เจ้าของฉายา "ไพลนี เดอะ เอลเดอร์" ชาวโรมัน และเกิดเมื่อค.ศ.23 ตั้งทฤษฎีไว้ว่า "แสงแห่งจันทร์ทำให้เกิดความง่วงงุน ทำให้เกิดความโง่เขลา ต่อผู้ที่นอนอยู่นอกบ้าน"
ทฤษฎีนี้หมายความว่า แสงจันทร์ส่งผลต่อพฤติกรรมมนุษย์
สาเหตุที่ซีเบอร์เกอร์ต้องนำเรื่องนี้มาศึกษา แม้ว่าจะมีนักวิจัยหลายคนทำการสรุปตรงกันว่า คืนจันทร์เต็มดวงไม่ส่งผลต่ออุบัติเหตุหรือความโชคร้าย ก็เพราะว่าผู้คนยังปักใจเชื่อในอาถรรพณ์เดือนเต็มดวงอยู่เรื่อยๆ
นักวิทยาศาสตร์มีความเห็นตรงกันว่า การที่พระจันทร์โคจรห่างจากโลกไกลถึง 385,000 กิโลเมตรนั้น เป็นระยะที่ไกลเกินกว่าจะส่งผลใดๆ ต่อมนุษย์ แต่พระจันทร์นั้นส่งผลต่อโลก โดยให้ความสว่างในเวลากลางคืน ทำให้เกิดคลื่นลม และมีผลต่อการหมุนของโลก
และการที่คนเชื่อว่า ในอาถรรพณ์เดือนเต็มดวงอาจเป็นเพราะ เมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้นในวันนี้ สัญลักษณ์ที่จำได้ง่ายก็คือเป็นวันที่ดวงจันทร์ขึ้นเต็มดวงนั่นเอง