ทฤษฎีสัมพันธภาพ สู่การเดินทางของจิต การมองเห็นวิญญาน
เห็นน่าสนใจดี เลยเอามาให้อ่านกันเล่นๆนะจ๊ะ อุๆๆ ขอบคุณคนเขียนด้วยครับ ไม่รู้ว่าเค้าชื่ออะไร
เมื่อฟิสิกส์คือการเรียนรู้ธรรมชาติ แล้วประยุกต์ความรู้นั้นออกมาเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษยชาติ ฟิสิกส์ปัจจุบันยังไม่ถึงขึ้นผลิดเครื่องมือทำให้มนุษย์พ้นทุกข์เรื่องเกิดแก่เจ็บตา
ยได้ เพราะมนุษย์ปัจจุบันก็ยังไม่ได้วิวัฒน์สมองถึงขั้นนั้น
ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมขอพูดเรื่องฟิสิกส์กับใจ(จิต)นะครับ
การพัฒนาของวิทยาศาสตร์มีขึ้นบนพื้นฐานความต้องการของมนุษย์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะดวกสะบายทุกอย่าง อย่างการเดินที่รวดเร็วที่มีรถ มีเครื่องบิน การสื่อสารที่รวดเร็ว แค่กดปุ่มก็ได้คุยกันแม้จะอยู่คนซีกโลก และยิ่งเร็วๆนี้ถ้า 3.5G(3Gตอนนี้เร็วกว่าทฤษฏี3Gแต่ก่อน) ในไทยเริ่มใช้แพร่หลาย เราคงได้เห็นรูป แบบrealtimeไปด้วยเวลาสนธนา ผมทำนายว่าจะมีเป็นแบบ 3D ออกมาอีกไม่กี่ปี
อนาคตทำนายได้ไม่ยากถ้าไม่มีอุกาบาตทำลายโลก รึมนุษย์สูญพันธ์ไปซะก่อน เพราะคนเหล่ามากล้วนมีความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆ
อันนี้คือความจริง เห็นได้จริง ไม่ต้องถึงกับอ้างอิงพุทธทำนาย
หนังวิทยาศาสตร์แสดงจินตนาการของโลกปัจจุบัน และอนาคตออกมามากมาย
อย่างเรื่อง the one ที่พยายามอธิบาย ทฤษฏีจักรวาลคู่ขนาน
http://www.siamzone.com/movie/m/560/synopsisเรื่องเมทริก ที่อธิบายความจริงของโลกอีกมุม จินตนาการเปรียบเทียบ ใส่ไข่ ใส่สี เพื่อทำให้หนังสนุก เนื้อเรื่องโดยหลักได้รับอิทธิพลจากคัมภีร์ปรัชญาพุทธสายมหายาน ทางธิเบต
http://www.siamzone.com/movie/m/1366ตามหัวข้อกระทู้นั้นได้ถูกอธิบายจาก นักวิทยาศาสตร์คนไทยที่ทำงานให้นาซ่า ดร. วรภัทร์ ภู่เจริญ...
ใจความที่ผมจับมามีประมาณนี้
หลายท่านจำสมการนี้ได้นะครับ
E(พลังงาน) = m(มวลของสาร)x c(ความเร็วแสง)ยกกำลังสอง
สมการนี้เป็นต้นกำเนิด ระเบิดปรมณู อาศัยการแตกตัวของสาร
แสงมีอัตราเร็วแสงที่ปัจจุบันวัดกันได้ที่ 299,792.458 กิโลเมตร/วินาที
1ปีจูเลียน (365.25 วัน) แสงเดินทางได้ 9,460,730,472,580.8 กิโลเมตร หรือ 9.4607×10ยกกำลัง12 โดยประมาณ
กาแล็กซี (Galaxy)ของเราชื่อ ?กาแล็กซีทางช้างเผือก? (The Milky Way Galaxy) อยู่ห่างจาก กาแล็กซีเพื่อนบ้าน
ที่ชื่อว่า ?แอนโดรมีดา?(Andromeda galaxy) 2.3 ล้านปีแสง
ดังนั้นการเดินทางไปยังอีกกาแล็กซีที่ใกล้ที่สุด ถ้าจะให้ใช้เวลาแค่ปีเดียว เราต้องเคลื่อนที่เร็วว่า ความเร็วแสง 2.3ล้านเท่า ของอัตราเร็ว 299,792.458 กิโลเมตร/วินาที
มันเป็นไปไม่ได้ที่ร่างกายมนุษย์จะทนแรงกดดันของอากาศที่เกิดจากความเร็วนั้น ลองคิดถึงเวลาที่ขับรถเร็วๆนะครับสมมุติเหยียบ 220Km/hr นั่นเป็นความเร็วที่น้อยมากด้วยซ้ำ เรายังรู้สึกตึงๆ รึว่าคนที่เคยเล่นบันจี้จั๊ม ก็คงรู้สึกได้อีกแบบที่คล้ายๆกัน
หนทางที่เป็นไปได้ ที่เราจะเดินทางไปยัง กาแล็กซีแอนโดรมีดา เราต้องไปในรูปแบบพลังงาน ตามสูตร
E(พลังงาน) = m(มวลของสาร)x c(ความเร็วแสง)ยกกำลังสอง
นั่นก็คือ การสลายมวลอนุภาคร่างกายเราเป็นพลังงาน แล้วเดินทางไป เมื่อถึงปลายทางก็ เปลี่ยนเราที่อยู่ในรูปพลังงานกลับเป็นมวลเหมือนเดิม(ย้อนสมการ)
คงเคยได้ยินคำว่า"วาร์ป"ใช่มั้ยครับ นี่แหละครับ ทฤษฎีการวาร์ป การเดินทางแบบใหม่
ทีนี้กลับมาเรื่องใกล้ตัว วิญญาณ(สัมภเวสี)ดำรงอยู่ในลักษณะของพลังงาน จิตเราเมื่อหลุดจากร่างกายก็ดำรงลักษณะเหมือนพลัง เวลาการเดินทางแค่นึกจะไปก็ถึงที่หมายเสียแล้ว จะเห็นว่าเร็วกว่าแสงหลายเท่านัก (แสงก็เป็นพลังงานรูปแบบนึง)
หรือกรณีอย่างที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านใช้มโนมยิทธิไปดูหลุมดำ(Black hole) นั่นก็เป็นการเคลื่อนที่ที่เหนือความเร็วแสงอย่างเทียบไม่ได้(วาร์ป)
เมื่อจิตเป็นพลังงาน เมื่อวิญญานคือพลังงาน การที่ตาเราจะมองเห็นวิญญานต้องมีความไวอย่างมาก โดยมากถ้าวิญญาณไม่ได้จงใจปรากฏให้เห็น ยากมากที่ตาเนื้อจะมองเห็นนอกจากผู้ที่มีตาจิต(เพราะจิตมีความเร็วมากมาย)
การที่วิญญาณทั่วไป(สัมภเวสี) มองไม่เห็นเทวดา เทวดามองไม่เห็นพรหม พรหมมองไม่เห็นอรูปพรหม ก็เพราะความต่างของพลังงาน พลังงานต่างกันที่ความถี่กับความยาวคลื่น คลื่นความถี่ที่ตาเนื้อพอมองเห็นได้คืออยู่ในย่าน 380 THz (3.8×1014 เฮิรตซ์) ถึง 750 THz (7.5×1014 เฮิรตซ์)
คนเราเห็นผีได้ง่ายกว่าเห็นเทวดา เพราะผีมีความถี่สูง ความยาวคลื่นน้อยกว่าเทวดา ยิ่งเทวดาชั้นสูงๆยิ่งมีความยาวคลื่นมากขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ ความถี่ก็ต่ำลงตามลำดับ
จนถึงระดับพระนิพพานที่คลื่นพลังงานเข้าสู่เส้นตรง ตามแนวแกนx
ถามว่าวัดจากอะไร ตอบว่าวิเคราะห์จากแนวโน้มของกราฟ ที่แกน y คือความสูงคลื่น แกนx ตือความยาวคลื่น
ผมเคยชอบการแปลงธรรมชาติรอบตัวเป็นสมการ อธิบายด้วยสมการทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อย่อคำพูด ย่อวิธีการคิด ให้สั้นลง ประหยัดเวลาในการนำมาใช้
สุดท้ายใจเราก็เป็นใหญ่ ใจเราคือที่สุด เครื่องมือใดๆก็เร็วไม่สู้ใจของเรา แต่ใจเรามีแค่อันเดียว ไม่เหมือนคอมฯที่ตอนนี้กำลังจะมีProcessorแบบ 8แกน(core) ออกมาให้ใช้เร็วๆนี้
ตอนนี้เลยต้องพึ่งทั้งใจและเทคโนโลยี