-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก  (อ่าน 2246 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

pol

  • V.I.P.
  • คาสโนว่า
  • *
  • กระทู้: 3361
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +5/-2
    • ดูรายละเอียด

 ;khhg   ในชีวิตของใครหลายคนย่อมมีเจ็บป่วย เป็นของธรรมดา ถ้าไม่มากกินยา หรือให้หมอฉีดยา

ก็หายเจ็บหายป่วยแล้ว ไม่ต้องถึงขั้นไปนอนโรงพยาบาล แต่เหตุการณ์ที่ผมจะได้เล่าให้ฟังนี้เกิดขึ้น

กับตัวของผมเอง  ย้อนหลังไปปีกว่าๆ ช่วงนั้นผมมีอาการคล้ายกับลำไส้อักเสบ คือมันปวดอยากจะ

ถ่ายหนัก แต่มันเหมือนถ่ายออกไม่หมด มันปวดแล้วต้องเบ่งออกอย่างนั้น แล้วช่วงนั้นมีความรู้สึกว่า

เวลาถ่ายแล้วมันเหมือนมีติ่ง ยื่นออกมาจากทวารหนัก ทีแรกก็คิดว่าคงเป็นริดสีดวงภายใน ก็หายา

มาทานเพื่อบรรเทาไม่ว่า ยาสมุนไพรเพชรสังฆาต ยาแผนปัจจุบันซีดูอัล หรือ เดฟรอน แต่อาการมัน

ก็ไม่บรรเทาลงกลับโตขึ้น ผมก็ยังไม่คิดที่จะไปหาหมอ เพียงแต่ดูแลร่างกายไม่ทานอาหารรสเผ็ด

ของหมักดอง เหล้าเบียร์ แต่ดูเหมือนมันไม่ดีขึ้นเลย อาการเริ่มที่จะดูหนักขึ้นราวเดือน กุมภาพันธ์

2555 ตอนนั้นเข้าห้องน้ำบ่อยมาก มันปวดอยากถ่าย เวลาถ่ายก็มีเลือดออกมาเป็นมูกเลือด ไม่ใช่

เป็นเลือดสด มูกนั้นบาทีมีกลิ่นคาวมาก ถ่ายเป็นเลือดติดกันราวๆ 3 สัปดาห์ ก็หายคิดว่าพวกลำไส้

อักเสบ ตอนนั้นก็ซื้อยารักษาทั้งกระเพาะลำไส้มาทานด้วย จากนั้นมาอาการก็ไม่รุนแรงเท่าไหร่

แต่ติ่งมันใหญ่ขึ้นเป็นตะปุ่มๆมีหลายหัวเหมือนกระหล่ำดอก เวลาถ่ายแล้วก็ใช้มือดันกลับเข้าไปได้

จากนั้นมันก็ใหญ่ขึ้นเวลาตอนเช้าๆที่เราถ่ายครั้งแรก จะดันเข้าไปลำบากมาก ช่วงนี้ก็มีเลือดที่

เป็นมูกออกมาเหมือนกัน  จนทำให้ผมเกิดอาการเลือดจาง ที่รู้ได้ก็เพราะผมไปบริจาคเลือดให้

เหล่ากาชาดเป็นประจำ  แล้วอาการมาหนักอีกทีช่วงที่ปิดเทอมเดือนตุลาคม ช่วงนั้นขับรถไกลพา

ครอบครัวไปเที่ยวที่กรุงเทพ ถ่ายเป็นเลือดติดต่อกันเป็น สองสัปดาห์เลย กลับมาเชียงใหม่ถึง

อาการดีขึ้น หลังจากนั้นอาการที่คิดว่าเป็นๆหายๆ กลับมาทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อตอนใกล้สิ้นปี

ไปงานแต่งเพื่อนสมัยเรียนด้วยกัน นานๆเจอกันก็ดื่มไวน์เข้าไป แล้วก็แวปไปงานปาร์ตี้กะน้องๆ

ที่ร้านแห่งหนึ่งที่จัดขอบคุณลูกค้า ก็ดื่มเบียร์ชนเบียร์กะน้องๆ ซึ่งไม่มีโอกาสแบบนี้มานานแล้ว

ก็ขอเลยเต็มที่หน่อย ตื่นเช้ามาก็พาญาติไปทำบุญที่วัดไปเที่ยวดอยสุเทพก่อน แล้วก็ขับรถกลับ

ไปเยี่ยมบ้านของแฟน ที่อยู่ต่างจังหวัด ก็ใช้เวลาขับรถราวๆสามชั่วโมง เมื่อไปถึงญาติๆของ

แฟนก็นั่งดื่มกัน ก็ชวนเราไปนั่งคุยกันแล้วดื่มไปด้วย คราวนี้ก็ไม่ได้ดื่มมากเท่าไหร่ 5-6 แก้ว

เท่านั้น เป็น Green Lable ซะด้วย  จากนั้นก็ไปทานข้าวแล้วอาบน้ำเข้านอน แต่เมื่อเวลา

ราวตีสี่ของวันสิ้นปี เกิดอาการปวดอยากถ่าย ก็เข้าห้องน้ำเพื่อจะถ่ายตามปกติ แต่คราวนี้ลำไส้

เหมือนมันเกร็งมันบีบที่จะเบ่งออกมาให้มากที่สุด แล้วเมื่อถ่ายเสร็จติ่งเนื้อที่ว่านี้มันบวมใหญ่

กว่าปกติมาก มันไม่สามารถดันเข้าไปได้ขนาดเอาขี้ผึ้งวาสลินมาทาแล้ว และมันเกิดอาการปวด

พร้อมอยากเบ่งออกมา มันเริ่มปวดมากขึ้นเรื่อยๆ แฟนก็ไปตามญาติที่เป็นพยาบาลที่เคยอยู่

ห้องผ่าตัดมาก่อน มาดูลักษณะและอาการ ญาติแฟนบอกว่าแบบนี้มันใหญ่มากต้องไปผ่าตัด

อย่างเดียว มันดันเข้าไปไม่ได้หรอก อีกอย่างเราก็มีประกันชีวิต ที่มีค่ารักษาพยาบาลด้วยอยู่แล้ว

เข้าโรงพยาบาลเอกชนจะสะดวกกว่า  ก็ตัดสินใจกัดฟันอดทนขับรถพาแฟนและลูกกลับมาเชียงใหม่

โดยเราใช้วาสลินทาไว้เพื่อไม่ให้มันเจ็บปวดมาก เวลาสัมผัสกางเกงผ้าอ้อมของผู้ใหญ่

ที่เราใส่ซับเลือดเวลาขับรถมา ก็ค่อยๆขับรถมาราว 4 ชั่วโมง ก็มาถึงโรงพยาลเอกชน

แห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้ๆคูเมือง เมื่อไปถึงก็ไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อขอทำบัตร ซึ่งเรายังไม่เคยเป็นผู้ป่วย

ของโรงพยาบาลแห่งนี้เลย


ขอลุงก่อนเตอะ ลุงแก้แล้ว

pol

  • V.I.P.
  • คาสโนว่า
  • *
  • กระทู้: 3361
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +5/-2
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 09 มกราคม 2013, 11:55:47 »

 ;khhg ตอนนี้จะเล่าเรื่องราว ที่มาถึงโรงพยาบาล ชั้นตั้นวิํธีปฎิบัติของโรงพยาบาล เพื่อเป็นการให้

ความรู้ กรณีที่ท่านหรือญาติของท่านต้องเข้าโรงพยาบาล เพื่อเข้ารับการผ่าตัด

                เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแล้วก็ขับรถไปจอดชั้นสี่ แล้วลงลิฟท์มาก็ไปหาประชาสัมพันธ์

เวชระเบียน เราต้องยื่นบัตรประชาชน หรือถ้ามีประกันชีวิตก็ยื่นบัตรประจำตัวผู้เอาประกันให้เจ้าหน้าที่

เพื่อที่จะได้แจ้งบริษัทรับประกันชีวิต หรือมีสวัสดิการของหน่วยงานอะไรก็แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย

จากนั้นเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ไปรอห้องตรวจเลย บัตรจะตามเอาไปให้ เมื่อถึงห้องตรวจพยาบาล

จะตั้งแฟ้มประวัติคนไข้ จะวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก สอบถามอาการประวัติแพ้ยา ซึ่งผมก็ถูกถาม

เช่นกัน จากนั้นก็รอหมอเรียกเข้าห้องตรวจ ที่นีการตรวจของผมหมอให้ขึ้นไปนอนบนเตียง

ตะแคงหันก้นมาให้หมอดู เมื่อหมอตรวจอาการแล้วบอกว่า มันไม่ใช่ริดสีดวงทวารแต่มันเป็น

เนื้องอก ปล่อยไว้มันจะโตข้นเรื่อยๆ นี่แสดงว่ามันโตเต็มทีแล้วถึงดันเข้าไม่ได้ ต้องผ่าตัดออก

ผมนึกแล้วเชียวว่ามันไม่น่าจะใช่ริดสีดวง เพราะที่อ่านเจอคนเป็นริดสีดวงมักถ่ายเป็นเลือดสดๆ

และบางคนทานยา หรือใช้ยาทาก็ยุบลงไป แต่ของผมกลับใหญ่ขึ้น แล้วหมอก็จะขอนำชิ้นเนื้อ

ไปตรวจด้วยว่ามีเซลล์ของมะเร็งหรือไม่ จากนั้นหมอก็บอกพยาบาลให้ไปพักห้องคนไข้ก่อน

หมอจะดูเวลาที่เตรียมผ่าตัดให้ ก่อนที่จะขึ้นไปนั้นเจ้าหน้าจะนำเราไปตรวจก่อนเพื่อให้หมอประเมิน

สภาพความพร้อมก่อนการผ่าตัด เริ่มจากการไปตรวจคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้า(EKG) แล้วพาไปเอ็กซ์เรย์

ปอดที่ห้องเอ็กซ์เรย์ จากนั้นก็พาเราขึ้นไปห้องพัก เราต้องเปลี่ยนชุดผู้ป่วยเป็นชุดของโรงพยาบาล

ขอลุงก่อนเตอะ ลุงแก้แล้ว

Podding

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 171
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 09 มกราคม 2013, 15:36:21 »

หายไวๆ นะคับ

pol

  • V.I.P.
  • คาสโนว่า
  • *
  • กระทู้: 3361
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +5/-2
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 10 มกราคม 2013, 10:54:25 »

  wq เมื่อเราได้เปลี่ยนชุดผู้ป่วยแล้ว ต่อไปพยาบาลจะได้เข้ามาเจาะที่เส้นเลือดตรงที่แขนใกล้ๆ

ข้อมือด้านซ้าย เพื่อที่จะปักเข็มและสายสายคาไว้ มันจะได้สะดวกเวลาเติมน้ำเกลือ หรือให้ยา

ทางสายยาง ซึ่งบางครั้งพยาบาลอาจจะนำเลือด ไปตรวจเพิ่มเติม กรณีสงสัยเป็นไข้เลือดออก

หรือต้องได้รับเลือดหลังการผ่าตัด แต่กรณีของผมนั้นใช้การเติมน้ำเกลือและใช้ยาระงับปวด

ทางสายยาง ซึ่งเป็นระงับปวดที่เวลาฉีดเข้าสายยาง มันรู้สึกเย็นไปตามร่างกายทำให้เคลิบเคลิ้ม

หายใจสะดวก อีกสักครู่อาการที่ปวดมากก็บรรเทาลง จากนั้นก็นอนพักถึงตอนเย็น เป็นอาหาร

เหลวคือซุป สำหรับคนเตรียมเข้ารับการผ่าตัด คงได้ทานแค่นี้ หลังเที่ยงคืนไปก็ให้งดน้ำไปก่อน

ระหว่างนอนพักจะผู้ช่วยพยาบาลเข้ามาวัดความดัน เช็คปริมาณออกซิเจนในเลือด และวัดไข้

ทุกระยะห่างกันราว 4 ชั่วโมง ส่วนการให้ยาและดูแลการให้น้ำเกลือ จะเป็นหน้าที่ของพยาบาล

คืนนั้นได้แต่นอนมองดูผู้คน เตรียมเคาน์ดาวน์ผ่านจอทีวี มองจากด้านบนของตึกที่นอนพัก

เห็นความสว่างไสว ของแสงไฟ แสงเสียงของการจุดพลุ ซึ่งก็เผลอหลับไปด้วยฤทธิ์ยาราวๆตีหนึ่ง

ก็มีเผลอตื่นขึ้นมาบ้าง ตอนผู้ช่วยพยาบาลเข้ามาตรวจวัดความดัน วัดไข้และออกซิเจนในเลือด

จนถึงรุ่งเช้า ก็ตื่นมาราวๆตีห้า ทางพยาลมาดูอาการระดับน้ำเกลือ และได้เจาะเลือดไปตรวจ

อีกครั้ง คราวนี่เจาะเข้าที่ข้อพับด้านแขนขวา  จากนั้นก็นอนพักบ้างดูทีวีบ้าง จนถึงเวลาราว

11 โมงถึงเวลาเตรียมผ่าตัด ก็จะมีเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดเข็นเตียงขึ้นมารับ แล้วเราก็ต้องเปลี่ยนชุด

ที่ใช้ในห้องผ้าตัด ซึ่งมันเหมือนชุดคลุม ระหว่างนั้นเรายังมีสติ มีความรู้สึกตัวดีอยู่ ซึ่งมันรู้ว่า

ความเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างไร เมื่อมาถึงห้องเตรียมก่อนผ่าตัดทางเจ้าหน้าในจะบอกเราก่อน

ว่าจะให้ทางวิสัญญีแพทย์ ฉีดยาซึ่งเป็นมอร์ฟิน แล้วถึงจะฉีดยาที่บล็อกสันหลัง แล้วเจ้าหน้าที่

ก็พาไปห้องผ่าตัด ทางวิสัญญีแพทย์ก็ฉีดมอร์ฟิน เพื่อให้ระงับปวดไปก่อนเกิดอาการมึนงง

เคลิ้มไปเรื่อยๆเหมือนอยากจะหลับ แล้วก็ตามด้วยยาที่ไปบล๊อกสันหลัง เพื่อให้เกิดความรู้สึก

ชาในบริเวณที่จะผ่าตัดและใกล้เคียง  หมอจะถามว่าเจ็บไหม รู้สึกไหม เราก็ตอบไปด้วยความ

เคลิ้มๆบอกว่าชาแล้วครับไม่รู้สึกแล้วครับ หลังจากนั้นหมอที่จะทำการผ่าตัด ให้เรานอน

เหมือนนอนคว่ำ หันก้นออกมา และเราเคลิ้มไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้สึกตัวแล้ว มารู้ตัวอีกที่ก็อยู่ห้อง

พักใกล้ห้องผ่าตัด ก็ยังมีอาการมึนงง พะอึดพะอม เกิดจากฤทธิ์มอร์ฟินอยู่ แล้วรู้ว่ามีอะไร

มาติดที่ก้นรู้สึกเจ็บนิดๆ แต่ยังไม่ปวด รู้ภายหลังคือผัาก๊อตพันสำลีไว้ เพื่อซับเลือด จากนั้น

เจ้าหน้าห้องผ่าตัด ก็เข็นเตียงขึ้นไปบนห้องพัก เปลี่ยนชุดเป็นชุดผู้ป่วยเหมือนเดิม จากนั้น

พยาบาลก็เข้าใส่สายน้ำเกลือให้ พร้อให้ยาทางสายไปด้วย ระหว่างนี้มันรู้สึกตัวว่าหิว

อยากจะทานข้าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จัดข้าวต้มปลามาให้ แต่ด้วยของมอร์ฟิน มันพะอึดพะอม

ได้สามสี่คำ มันอยากจะอ๊วกเลยต้องหยุด  พอถึงตอนเย็นก็เช่นกัน ทานข้าวต้มได้สามสี่คำ

มันก็อยากจะอ๊วก ตอนค่ำๆมาฤทธิ์ยามันหมดแล้ว เริ่มปวดมากขึ้นพยาบาล ก็ให้ทานยา

ระงับปวด แต่มันก็ไม่ดีขึ้นมาก ดึกๆมาต้องขอพยาบาลให้ฉีดยาระงับปวด ที่เคยฉีดเข้าเส้น

มันถึงดีขึ้นเลิบเคลิ้มให้นอนหลับได้ นี่เป็นค่ำคืนแรกหลังการผ่าตัดเนื้องอกออกไป





ขอลุงก่อนเตอะ ลุงแก้แล้ว

pol

  • V.I.P.
  • คาสโนว่า
  • *
  • กระทู้: 3361
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +5/-2
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 11 มกราคม 2013, 22:25:23 »

 ljhgf เมื่อผ่านพ้นคืนแรก ผ่านไปแล้วด้วยฤทธิ์ยา บรรเทาปวด ก็ตื่นมาราวตีห้ากว่าๆ เมื่อผู้ช่วย

พยาบาล มาวัดไข้ วัดความดัน วัดออกซิเจนในเลือด  สัญชาตญาณของคน มันก็มีอาการอยาก

ถ่ายหนัก แล้วลุกไปห้องน้ำ ดึงผ้าก๊อตห่อสำลีที่ติดไว้เพื่อซับเลือดออก อาการปวดแสบเริ่มแล้ว

ขณะนั่งชักโครก มันยังถ่ายไม่ออก เจ็บปวดมาก มันถ่ายไม่ออก ก็กลับมานอนพักเช่นเ่ดิม

เวลาถึงเวลาทานอาหารเช้าแล้ว ก็มีอาการปวดอยากถ่ายอีก ก็ไปเข้าห้องน้ำ ตอนนี้ถ่ายออก

แล้วมีเลือดสด เลือดเป็นลิ่มออกมาด้วย มันทั้งรู้สึกปวดแสบระคนกันไปหมด แล้วออกห้องน้ำมา

ก็เรียกพยาบาล ขอยาลดปวดหน่อย แล้วพยาบาลก็จัดเพิ่มมาให้กับยาที่ทาน ตามชุดปกติ

ซึ่งมียาลดบวม ยาฆ่าเชื้อ/แก้อักเสบ ยาบรรเทาริดสีดวง ยาบบรรเทาปวด และผงละลายน้ำ

ที่ทำให้อุจจาระนิ่ม ซึ่งยาชุดนี้ทางเภสัชกรของโรงพยาบาลบอก ต้องทานต่อเนื่องครบ 12 วัน

แล้วราวๆ 10 โมง แพทย์ที่เป็นเจ้าของไข้ และทำการผ่าตัดได้มาตรวจและดูอาการ ซึ่งยังมี

อาการบวมและมีเลือดซึมอยู่ ซึ่งแผลจากการผ่าตัดแบบนี้จะหายช้า เพราะแผลมันได้ สัมผัส

กับสิ่งที่ร่างกายขับถ่ายมาด้วย  แล้วคุณหมอได้เอารูปของก้อนเนื้อมาให้ดู เห็นแล้วตกใจมาก

มันใหญ่เทียบไม้บรรทัดแล้ว มีขนาดถึง 5 เซนติเมตร และผิวของมันเป็นปุ่มๆ คล้ายกับกระหล่ำดอก

ผิดกันตรงก้อนเนื้อที่ผ่าออกมานี้มันมีสีแดงก่ำ เห็นแล้วต้องบิดหน้าหนี คนที่กำลังจะทานข้าวมาเห็น

บอกได้เลยว่าทานข้าวไม่ลงแน่ แล้วหมอก็ส่งชิ้นเนื้อนั้นไปตรวจอยู่  จากนั้นคุณหมอก็สั่งงาน

กับพยาบาลแล้วก็ออกไป  โดยจะให้แม่บ้านเอากาละมังพาสติกมาให้ เพื่อใส่น้ำอุ่นแล้วนั่งแช่

มันจะทำให้อาการบวมลดลงเร็ว และลดอาการปวดได้ ซึ่งผลที่ได้นั้นเป็นจริงดั่งที่หมอให้ทำ

หมอมาเยี่ยมทุกวันจนอาการดีขึ้นตามลำดับ เลือดไม่ซึม อาการบวมลดลงมาก นอนอยู่ตั้ง 5 คืน

หมอถึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ แล้วทางเภสัชกรได้จัดยาให้มาทานต่อ หมดค่ารักษาไปพอควร

โชคดีที่มีประกันสุขภาพกับบริษัทประกันชีวิต ก็จ่ายเพิ่มอีกเพียงราวๆ หนึ่งหมี่นสามพันกว่า

เดี๋ยวก็จะได้ค่าชดเชยมาอีกห้าพันบาท ตอนนี้ถึงเริ่มเห็นคุณค่าของการทำประกัน

ชีวิตที่มีประกันสุขภาพไปด้วย  ก็ขอเล่าถึงเมื่อวันออกโรงพยาบาล  ทางหมอก็จะแจ้งทางเจ้าหน้าที่

พยาบาล ทางพยาบาลก็จะประสานไปยังฝ่ายการเงินผู้ป่วยใน โดยฝ่ายการเงินทราบแล้วว่าเรามี

ประกันสุขภาพ ก็จะแจ้งบริษัทที่รับประกันเพื่อใช้ระบบ FAX CLAIM ก็ต้องใช้เวลาราวๆสัก 2 ชม.

แล้วทางบริษัท ก็จะแจ้งโรงพยาบาล ว่าใช้สิทธิได้เท่าไหร่ ที่เหลือเราก็จ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้

ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบ ทุกระยะคือวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เพื่อไม่ให้เราต้องกังวลเรื่องค่ารักษา

เมื่อทางฝ่ายการเงินแจ้งยอดเงินรวม และเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่ ก็ลงไปจ่ายที่แผนกการเงิน

ของผู้ป่วยใน จากนั้นกลับมารอที่ห้อง ทางเภสัชกรก็จะให้เรามารับยาที่จะไปทานต่อที่บ้าน ที่

เคาน์เตอร์พยาบาลของแต่ละชั้น ซึ่งเภสัชกรก็จะอธิบายรายละเอียดและวิธีการทานยา พร้อมกันกับ

พยาบาลจะเอาใบนัดมาตรวจอาการ ที่หมดนัดเรามาให้ จากนั้นก็กลับมาขนข้าวของลงไปที่รถ

ที่จอดอยู่ลานจอดรถ หากมีของเยอะทางผู้ช่วยพยาบาลก็จะใส่รถเข็นนำไปส่งให้ ที่รถด้วย


 roister     นี่เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่อยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่าน ได้รับรู้ไว้เพื่อ

               1. ตนเองหรือญาติพี่น้องต้องเจ็บป่วย ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลฉุกเฉินเพื่อทำการผ่าตัด

ซึ่งมันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแต่มันมีอาการเจ็บปวดบ้างและต้องใช้เวลาหน่อย

              2. เพื่อให้หลายคนที่มีอาการเป็นริดสีดวงทวาร หรืออาการที่มันเป็นคล้ายกับผม

อย่าได้นิ่งนอนใจ โดยเฉพาะหากมีเลือดไหลเป็นมูกออกมาด้วย แล้วไหลเกิน 1 สัปดาห์ไป

ต้องรีบไปปรึกษาแพทย์ดู

             3. เพื่อให้ท่านที่มีกำลังเงินที่ไม่มากนัก ให้หันมาห่วงใยในสวัสดิการของตนเอง โดย

ท่านอาจจะทำประกันสุขภาพกับบริษัทประกันชีวิต หรือบริษัทประกันสุขภาพไว้ด้วย หากเกินกรณี

ฉุกเฉิกแบบผมเจอ มันจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาเรื่องค่ารักษาพยาบาลได้

            ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อท่านที่เข้ามาอ่าน และขอให้รักษา

สุขภาพด้วย ดั่งที่พระท่านได้พูดว่า " ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ "

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 มกราคม 2013, 22:34:57 โดย pol »
ขอลุงก่อนเตอะ ลุงแก้แล้ว

ninkrating

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 392
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 11 มกราคม 2013, 23:08:24 »

ขอให้ผลชิ้นเนื้อท่านpol เป็นเนื้องอกธรรมดาครับขอให้หายไวๆๆๆครับ

pheebar

  • รอง Global Moderator
  • อาชาคะนองศึก
  • *
  • กระทู้: 1435
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-1
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 13 มกราคม 2013, 22:44:28 »

ขอให้ไม่เป็นอะไรมากด้วยครับ  eta08

peecha

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 252
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 14 มกราคม 2013, 21:10:21 »

 ;khhg ขอบคุณมาก อ่านแล้วได้ความรู้ขึ้นมาอีกเยอะเลย

spirit

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 100
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 16 มกราคม 2013, 03:47:04 »

ขอบคุณสำหรับความรู้นะครับ หายไวๆเน้อ

DATA123

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 117
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 16 มกราคม 2013, 15:01:59 »

ขอให้ไม่เป็นไรมากนะครับ แล้วก็หายไวๆๆ  pongz

pol

  • V.I.P.
  • คาสโนว่า
  • *
  • กระทู้: 3361
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +5/-2
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 21 มกราคม 2013, 01:26:10 »

 ;khhg ขอบคุณหลายท่านที่เป็นห่วง ผลการตรวจออกมาแล้วเป็นชิ้นเนื้อปกติ  คุณหมอบอกว่า

โชคดี เพราะลักษณะอย่างที่หมอเจอมานี้ มักจะเป็นเนื้อร้าย คุณหมอยังหวั่นใจแทน หากเป็นเนื้อร้าย

แล้วคุณหมอบอกว่า มันเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ ต้องผ่าตัดทวารหนักออกไป แล้วต้องผ่าตัดลำไส้ออกมา

ที่หน้าท้อง  การขับถ่ายต้องขับถ่ายทางหน้าท้องไปตลอดชีวิต  ถ้าเป็นแบบนี้มันจะทรมานขนาดไหน

ไม่อยากจะคิดเลย  นี่แสดงบุญว่าบุญกุศลของผมที่ทำไว้ยังคงมีอยู่ กุศลที่ผมได้ทำประจำ

คือการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ เกือบ 30 ครั้ง ที่กาชาด และบริจาคโดยตรง

ที่ไม่ผ่านกาชาดอีก 4-5 ครั้ง ซึ่งคงเป็นกุศลที่ช่วยหนุนนำไม่ให้ผมเป็นอะไรไปมากกว่านี้ และตอนนี้

ร่างกายผมก็สู่สภาพปกติแล้ว  และพร้อมที่จะไปทำบุญกุศลให้แก่เพื่อนมนุษย์ต่อไป

          ผมคิดว่าถึงเวลาแล้ว ที่หลายๆท่านที่มีจิตใจเป็นกุศล ไปร่วมกันบริจาคโลหิตเพื่อ

เป็นการทำบุญทำกุศลไว้ ผลบุญกุศลที่ท่านทำวันนี้ จะช่วยหนุนนำให้ท่านมีสุขภาพร่างกาย

แข็งแรง โรคภัยไข้เจ็บห่างหายไป แล้วก็ขอให้ท่านรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง หากรู้สึก

มีอะไรผิดปกติในร่างกาย ให้รีบไปพบแพทย์ทันที อย่าปล่อยไว้เนินนานแบบผมนี้ ความโชคดี

มันไม่ใช่เกิดได้ง่ายๆ สำหรับคนที่มีอาการเจ็บป่วย 

         
           ขอขอบคุณหลายท่านที่ติดตามเรื่องของผมมา มันเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่เจอมา ;khhg

ขอลุงก่อนเตอะ ลุงแก้แล้ว

pheebar

  • รอง Global Moderator
  • อาชาคะนองศึก
  • *
  • กระทู้: 1435
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-1
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 21 มกราคม 2013, 09:15:50 »

ดีใจด้วยครับ โชคดีที่ไม่เป็นเนื้อร้าย ;khhg

Pro-Big

  • ไม่ได้เจ้าชู้ แต่เนื้อคู่มันเยอะ
  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 375
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 21 มกราคม 2013, 09:53:10 »

หายไวๆนะครับ ผมคงต้องทำประกันสุขภาพเพิ่มแล้วล่ะครับ

gundam1974

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 268
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 21 มกราคม 2013, 11:18:43 »

เป็นกำลังใจให้ท่าน pol ด้วยคนครับ

hatmar

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 217
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-2
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: 21 มกราคม 2013, 15:34:43 »

เป็นกำลังใจให้นะครับ หายไวๆครับ และขอบคุณที่ได้ให้ข้อดีๆๆ
ครับ

Barball

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 457
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: 22 มกราคม 2013, 01:23:01 »

เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้ท่านหายไวๆ และไม่กลับมาเป็นอีกครับ  eta08

kawai

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 383
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: 22 มกราคม 2013, 09:41:12 »

ขอให้หายไวๆนะครับ

I3adI3oy

  • คณะสำรวจ
  • *
  • กระทู้: 658
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-1
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: 22 มกราคม 2013, 10:33:00 »

โชคดีมากคับที่ไม่ใช่เนื้อร้าย เอาใจช่วยท่านpolนะคับ หายไวๆสุขภาพแข็งแรงคับผม
" ทำวันนี้ให้ดีที่สุด  แล้วอนาคตมันจะดูแลตัวของมันเอง "

shine

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 87
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: 22 มกราคม 2013, 10:33:14 »

หายไว ๆ ครับ สุขภาพแข็งแรง

Coco_Seed

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 357
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: 22 มกราคม 2013, 16:31:45 »

 ;khhg ;khhg อวยพรให้แข็งแรงไวๆนะครับ

G-Dragon

  • V.I.P.
  • เด็กหัดเสียว
  • *
  • กระทู้: 376
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: 23 มกราคม 2013, 16:27:34 »

ขอให้พี่ชายหายไวๆนะครับ รกษาสุขภาพด้วยครับ

sukung

  • V.I.P.
  • อาชาคะนองศึก
  • *
  • กระทู้: 1189
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: 24 มกราคม 2013, 13:50:58 »

ให้ป๋าพล หายไวๆนะครับ  eta08
สุคุง คนเดิมครับ

tunderfox

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 61
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: 25 มกราคม 2013, 23:35:10 »

ผมก็มีอาการคล้ายๆกัน สงสัยต้ิงตรวจดูซะแล้ว ขอบคุณครับที่แบ่งปัน

Mdline

  • ดีไม่ดีก็แล้วแต่จะมอง
  • V.I.P.
  • เด็กหัดเสียว
  • *
  • กระทู้: 266
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +2/-1
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดเนื้องอก
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2013, 22:46:58 »

ท่าน pol รู้ไหมครับว่าการผ่าตัดที่เจ็บปวดรวดร้าวที่สุด ไม่ใช่การผ่าหัว
ผ่าท้อง ผ่าหัวใจ แต่เป็นการผ่าตัดที่ทวาร และผ่าตัดจอตา

เพราะฉะนั้นการที่ท่านpol ผ่านมาได้ผมว่าสุดยอดมากครับ
เพราะถ้าก้อนใดๆก็ตามที่อยู่ในทวารที่ลึกเข้าไปไม่ถึง7เซ็นติเมตร ก็จะมีเส้นประสาทรับรู้ความเจ็บปวดมาเลี้ยงเยอะมากๆ

ขอเพิ่มเติมเป็นความรู้นะครับ สำหรับท่านที่อายุอานามย่าง45-50แนะนำให้ไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะครับ
อย่านิ่งนอนใจเด็ดขาดถ้ามีอาการถ่ายเป็นมูกเลือด ถ่ายดำ หรือมีท้องเสียสลับท้องผูก มีน้ำหนักลดเยอะๆ 4-5กิโลใน1เดือน
หรือ8-10กิโลใน2-3เดือน โดยไม่ทราบสาเหตุ

ไปหาหมอและตรวจซะนะครับ ส่องกล้องทางทวารดู เพราะท่านอาจจะมีปัญหาอยู่ในภายในลำไส้ก็ได้
(มะเร็งนั่นเองครับ)

ส่วนคนหนุ่มคนแน่น ก็ถ้ามีอาการก็ไม่ต้องตกใจครับ กินผักกินผลไม้เยอะๆ จะช่วยป้องกันได้