ทันทีทันควันจริงๆ กับคำชี้แจงจากคุณระวิ โหลทอง นายใหญ่แห่งสยามสปอร์ต ที่ออกมาชี้แจงเรื่องสิทธิประโยชน์ กว่า 200 ล้านบาท ที่หายไปของบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก เจ้าของสิทธิ และผู้ที่ควรจะได้รับสิทธิประโยชน์เต็มๆ
เป็นคำชี้แจงที่น่าเห็นใจมาก สำหรับคุณระวิ ผู้เสียสละตัวเองเพื่อวงการฟุตบอลไทย แม้จะต้องขาดทุน แม้จะต้องถูกด่าก็ต้องยอม เพื่อความก้าวหน้าของวงการฟุตบอลไทย
จากรายได้ 100% ที่หากันมาได้ด้วยการใช้ชื่อบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก และ การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ไปขอการสนับสนุนสปอนเซอร์ทุกราย ตกเป็นของคุณระวิ ในนามของสยามสปอร์ต เพียงแค่ 96% เท่านั้น นับเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับว่า หากไม่มีจิตใจเสียสละเพื่อส่วนรวมแล้ว มิอาจกระทำได้จริงๆ
สัดส่วนรายได้ มากถึง 4% ที่บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ได้รับ นับว่ามากอักโขทีเดียวอยู่ สำหรับบริษัท ที่มีผู้บริหารเป็นเพียง "นอมินี" ทำอะไรไม่เป็น คิดอะไรไม่ออก ตัดสินใจไม่ได้ แบบ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง
เพราะหากแปรสัดส่วนรายได้ 200 กว่าล้านบาท เป็นเงินแล้ว สยามสปอร์ต ได้ไปเพียงแค่ 190 กว่าล้านเท่านั้น ในขณะที่บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก แค่นั่งงอมืองอเท้า มีหน้าที่ปิดหูปิดตาแฟนบอล แล้วคอยเซ็นชื่อให้ครบ ตามที่สั่ง ก็ฟาดชิ้นปลามัน ไปมากถึง 8 ล้านบาท
ต้องกราบขอโทษ "โจ_ร" ที่ไปกล่าวหาว่า เข้ามายักยอกเงิน 200 ล้านบาทออกไปจากบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก
แต่บัดนี้ กระจ่างแล้วว่า "โจ_ร" ไม่ได้เป็นผู้ยักยอก ไม่ได้กระทำ หลังจากที่คุณระวิ ออกมาชี้แจงด้วยตนเอง ว่า แท้จริงแล้วเงินทั้งหมด อยู่ที่สยามสปอร์ต และเป็นผู้ใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ แทนบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก อย่างคุ้มค่า ไม่มีรั่วไหล ไม่มีบกพร่องแม้แต่สตางค์เดียว และมีความมุ่งมั่นที่จะใช้จ่ายทุกบาทสตางค์ที่ได้มา ด้วยความเสียสละเพื่อวงการฟุตบอลไทย อย่างแน่วแน่ แม้แต่จะต้องขาดทุนก็ยอมเจ็บตัว แม้แต่จะต้องถูกด่า ก็ต้องยอมเจ็บปวด
นี่เป็นความเสียสละ และ ความอดทน เพื่อส่วนรวม ที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง จึงไม่น่าแปลกใจกระไรเลย ที่คุณระวิ นายใหญ่แห่งสยามสปอร์ต จะเป็นผู้มีพระคุณของวงการฟุตบอลไทย ในทัศนะของคุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (ในสยามสปอร์ตอุปถัมภ์) และ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานไทยพรีเมียร์ลีก ในฐานะที่คุณระวิ และ สยามสปอร์ต คือผู้สร้างสรรค์วงการฟุตบอลอาชีพของประเทศไทย ให้เติบโตและก้าวมาได้ถึงวันนี้ อีกทั้งยังเป็นผู้จัดหารายได้มาแบ่งให้บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ใช้จ่ายอีกปีละมากกว่า 8 ล้านบาท
ฟังคุณระวิ แถลงระบายความในใจที่อัดอั้นมานานแสนนาน ด้วยความเจ็บปวด ที่อดทนทำงานเพื่อส่วนรวม ด้วยความเสียสละ ทั้งกำลังกาย กำลังใจ และ กำลังทรัพย์ แล้ว ก็ยังถูกด่า ถูกมองด้วยสายตาไม่สำนึกในบุญคุณ ถูกกล่าวหาเป็นจำเลย เป็นเหลือบ เป็นพวกจ้องหาผลประโยชน์จากวงการฟุตบอลไทย แล้วก็รู้สึกเห็นใจจริงๆ แต่ไม่เข้าใจว่า....
1. ทำไมคุณวรวีร์ ที่ไปเชื้อเชิญคุณระวิ มาทำงานเพื่อส่วนรวม ด้วยความเสียสละ จึงไม่ปกป้อง ไม่ชี้แจงแทนคุณระวิ บ้างเลย
2. ทำไมดร.วิชิต ที่ได้ประโยชน์จากคุณระวิ ไปเต็มๆ ปีละ 8 ล้านบาท จึงนั่งนิ่งๆ ไม่พูด ไม่ชี้แจงให้แฟนบอล เข้าใจถึงความเสียสละของคุณระวิ บ้าง
3. ทำไมคุณระวิ ในนามสยามสปอร์ตจึงชี้แจงได้ทุกเรื่องทุกประเด็น ตั้งแต่นต้นจนจบ ตลอดท้องเรื่อง แม่แต่คำถามที่คุณวรวีร์ ตอบไม่ได้ และคำถามที่ดร.วิชิต ไม่กล้าตอบ โดเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆ คุณระวิ ตอบได้ทุกบาท ทุกเปอร์เซนต์ ในขณะที่ดร.วิชิต ประธานไทยพรีเมียร์ลีก ไม่รู้เรื่องแม้แต่บาทเดียว
4. หรือว่า คุณระวิ คือ "ใคร" ที่ดร.วิชิต เคยพูดไว้ว่า "คุณก็รู้ว่าต้องไปถามที่ใคร" เมื่อถูกถามว่า เงินรายได้ของไทยพรีเมียร์ลีก หายไปไหน
5. คุณระวิ เข้ามาเกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ของบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ได้อย่างไร มาด้วยวิธีใด เป็นไปตามวิถีทางที่ถูกต้องชอบธรรม หรือ พากันมาแบบแอบๆ ซ่อนๆ แอบทำมาหากินจนพุงปลิ้น ปากเปรอะทุกวันนี้
วันนี้ตัวละคร "บิ๊กเนม" เปิดตัวกันออกมาแล้ว แต่ที่ยังปิดอยู่คือเอกสารรายได้ รายรับ รายจ่าย ที่สยามสปอร์ต สมาคมฟุตบอลฯ และ บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก กระทำต่อกัน กระทำต่อเงินรายได้ 200 กว่าล้าน ที่ได้มาเพราะความรักของแฟนบอลที่มีต่อวงการฟุตบอลไทย ถูกต้อง ตรงตามที่มีการพูดไว้ในการชี้แจง หรือไม่
อีกไม่นานเกินรอ เราจะได้เห็นกัน ว่า ใครเป็นใครในวงการฟุตบอล นักบุญ กับ โจร ต่างกันเพียงแค่เขาหันด้านไหนให้แสงไฟสปอตไลท์ ที่ส่องเข้ามาให้แฟนบอลเห็นเท่านั้นเอง
credit : เดอะหลอน
http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S11943790/S11943790.html
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก