จดหมายถึงแฟนบอล
นายอรรณพ สิงห์โตทอง
รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี
ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้รับ คำถาม จากแฟนกีฬาฟุตบอลจำนวนมาก ว่า มีความคิดเห็นอย่างไร และจะยืนอยู่เคียงข้างฝ่ายใด ในกรณี การ ตอบโต้ กันไปมา ระหว่าง คุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ฯ กับ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ กลุ่มสยามสปอร์ตฯ
ผมจึงตัดสินใจ เขียนจดหมายถึงแฟนบอล ฉบับนี้ ขึ้นมา เพื่อ แสดง “เจตนารมณ์” และ “จุดยืน” ของ กลุ่มชลบุรี เผยแพร่ออกไปสู่สาธารณชน พร้อมกับเป็นการ “ยืนยัน” ต่อหน้าแฟนกีฬาฟุตบอลทั่วประเทศ ได้รับรู้ว่า “กลุ่มชลบุรี” มี ความ “มั่นคง” ใน “จุดยืน” ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง นับตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาสู่วงการฟุตบอล จนกระทั่งถึงบัดนี้ ซึ่งนั่นก็คือ ขอยืนอยู่ข้าง “ความถูกต้อง” โดยมีเนื้อหา สาระ ดังต่อไปนี้
ผมและกลุ่มชลบุรี ตัดสินใจก้าวเข้ามา สู่วงการกีฬาฟุตบอล ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ด้วย “ใจรัก” ในกีฬาลูกหนัง ประกอบกับ มีเป้าหมาย อยู่ในใจลึกๆว่า ต้องการเห็นทีมชาติไทย ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสักครั้งหนึ่งในชีวิต รวมไปถึง ประเทศไทยมีลีกที่แข็งแกร่ง มีแฟนบอลสนใจเป็นจำนวนมาก เฉกเช่นเดียวกับฟุตบอลลีกชั้นนำของทวีปยุโรป
ผมและกลุ่มชลบุรี มีความ “มุ่งมั่น” และ “ตั้งใจ” ในการ “ส่งเสริม” พร้อม “พัฒนา” กีฬาฟุตบอล โดยมี “จุดหมาย” ที่ชัดเจน “พวกเรา” เริ่มต้นทำทีมฟุตบอล ในระดับเยาวชน จากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา เพื่อปูพื้นฐานให้แน่น ก่อนจะไต่เต้าเข้าสู่ ฟุตบอลระดับประชาชน โดยในส่วนการแข่งขัน ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กลุ่มชลบุรี ได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันหลายสโมสร ไล่ตั้งแต่ ประเภท ง. ประเภท ค. ประเภท ข. ดิวิชั่น 1 และ ไทยพรีเมียร์ลีก
ขณะเดียวกัน ในส่วนการแข่งขัน ของการกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี ได้ส่งทีมชลบุรี เอฟซี เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล “โปรวิลเชี่ยลลีก” ซึ่ง ฯพณฯ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ มีแนวคิด ริเริ่ม จัดการแข่งขันฟุตบอลลีก “นำร่อง” ก่อนเป็นลำดับแรก จากนั้น ในยุคสมัย ฯพณฯ สนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีแนวคิด ริเริ่ม “รวมลีก” ทั้งสององค์กรเข้าด้วยกัน จนกระทั่ง มาประสบความสำเร็จ ในสมัย ของ คุณชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ที่ดำเนินงานร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
จากที่กล่าวมาข้างต้น ผมและกลุ่มชลบุรี ถือว่า ผ่านประสบการณ์ทางด้านกีฬาฟุตบอลมาพอสมควร ได้เห็น ได้สัมผัส วงการฟุตบอล ทั้งในแง่บวก และ แง่ลบ รวมไปถึง พบอุปสรรค ขวากหนาม ต่างๆ มากมาย อีกทั้งได้เห็นความ “บกพร่อง” ในกระบวนการบริหารจัดการต่างๆ ทำให้ ได้ทราบว่า การพัฒนากีฬาฟุตบอล จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น จากรัฐบาล จากภาคเอกชน และ ที่สำคัญที่สุด คือ จากแฟนกีฬาฟุตบอลทั่วประเทศ
ที่ผ่านมา การแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศไทย ประสบปัญหา และ อุปสรรค ต่างๆมากมาย สโมสรชลบุรี เอฟซี ก็เป็นหนึ่งในสโมสรที่ ร่วม “ล้มลุก คลุกคลาน” มาโดยตลอด ขณะที่ บางสโมสร ทนกระแสความเชี่ยวกราก ของระบบฟุตบอลอาชีพไม่ได้ ก็ต้อง “ปิดตัว” หรือ “ถอนตัว” ออกไป หรือ บางสโมสร ต้อง “ตกชั้น” ลงไปเล่นในลีกระดับล่าง อย่างไรก็ตาม ทุกๆสโมสรต่างมีความสำคัญ และ มี ส่วนร่วม เป็น พลังผลักดัน ใน วงจรฟุตบอลอาชีพทั้งสิ้น
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่อาจปฎิเสธได้ว่า คุณระวิ โหลทอง ประธานที่ปรึกษาบริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคทจำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน และ สื่อในเครือสยามสปอร์ตฯ ได้เข้ามา ช่วยเหลือ วงการฟุตบอลด้วยการ เผยแพร่ข่าวสาร และ สนับสนุน สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
โดยสื่อในเครือสยามสปอร์ตฯ นับเป็น พลังขับเคลื่อน อีก “กลไก” หนึ่ง ต่อกีฬาฟุตบอลของประเทศ ให้ก้าวขึ้นมา ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก, ยามาฮ่าลีกวัน และ เอไอเอส ลีกภูมิภาค ได้รับความสนใจจากแฟนกีฬาฟุตบอลชาวไทย อย่างสูง ในปัจจุบัน
ผมในฐานะตัวแทนของกลุ่มชลบุรี ขอ “ยกย่อง” และ “ชื่นชม” คุณระวิ โหลทอง ประธานที่ปรึกษาบริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ที่พยายาม ช่วยผลักดัน กีฬาฟุตบอล ในทุกวิถีทาง แม้ในบางครั้ง จะลองถูก ลองผิดบ้าง แต่สุดท้าย ด้วยความที่มี “ใจรัก” ในกีฬาฟุตบอล ก็ สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ได้สำเร็จ
ขณะที่ คุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้จะเข้ามาสู่วงการกีฬาฟุตบอลได้ไม่นานนัก แต่ตลอด 2-3 ปี ที่ผ่านมา คุณเนวิน ชิดชอบ ได้ สร้างปรากฎการณ์ใหม่ ให้กับวงการลูกหนังของเมืองไทย ชนิดที่ ไม่มีบุคคลใดกระทำได้ ตั้งแต่ นำทีมบุรีรัมย์ฯ คว้า สี่แชมป์ ในฤดูกาลเดียวกัน , สร้างสนาม นิวไอโมบาย มูลค่าเกือบพันล้าน, ยกระดับทีมลูกหนังของเมืองไทย ด้วยการซื้อผู้เล่นต่างชาติฝีเท้าดี เข้ามาค้าแข้ง แถม ยังเป็น ผู้ “บุกเบิก” พัฒนากีฬาฟุตบอลในด้านต่างๆ ซึ่งนั่น แสดงให้เห็นว่า คุณเนวิน ก็มี “ใจรัก” ในกีฬาลูกหนัง ไม่น้อยกว่าใครๆ ซึ่ง ผมและกลุ่มชลบุรี ขอ “ชื่นชม” คุณเนวิน ไว้ ณ ที่นี้ ด้วยเช่นกัน
ขณะนี้ วงการฟุตบอลของประเทศ “ปั่นป่วน” อย่างหนัก จนกระทั่งเข้าขั้น “วิกฤติ” เมื่อบุคคล ที่มี “ใจรัก” ในกีฬาฟุตบอล ทั้งสองท่าน ซึ่งถือเป็น หัวเรี่ยว หัวแรง พลัง “ขับเคลื่อน” อันสำคัญยิ่ง ต่อ กีฬาฟุตบอลของประเทศ ต่างมี ความเห็น ไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ดังนั้น ผมในฐานะตัวแทนกลุ่มชลบุรี ขอ “วิงวอน” ให้ ท่านทั้งสอง ลองพูดคุย ปรึกษา หารือ ปรับความเข้าใจ ใช้เหตุผล เพื่อ กลับมาร่วมมือกันพัฒนากีฬาฟุตบอลของประเทศอีกครั้งหนึ่ง
ผมและกลุ่มชลบุรี ไม่ต้องการเห็น ความ “ร้าวฉาน” และ ความไม่เข้าใจกัน ระหว่าง คุณเนวิน ชิดชอบ ของฝั่ง บุรีรัมย์ฯ และ คุณระวิ โหลทอง จากกลุ่มบริษัทสยามสปอร์ตฯ เนื่องจาก ความไม่เข้าใจกัน ในจุดเล็กๆ อันจะส่งผล ต่อเนื่อง “ลุกลาม” แผ่ขยายไปถึงวงการลูกหนังไทย ที่กำลังอยู่ในช่วง“เปราะบาง” เนื่องจาก “แฟนบอล” แบ่งแยก แตกออกเป็น 2 ฝ่าย ได้รับความ“บอบช้ำ” ไปมากกว่านี้
สำหรับ “วิกฤติ” ลูกหนังไทย ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ผมและกลุ่มชลบุรี พิจารณาว่า จุดเริ่มต้น ของ“ปัญหา” เกิดจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การบริหารงานของ คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฯ ที่ไม่มี ความรู้ ความสามารถ ในด้านการบริหารจัดการ ไม่สามารถ “ส่งเสริม” และ “พัฒนา” กีฬาฟุตบอล ซึ่งถือเป็นกีฬายอดนิยมอันดับหนึ่งของประเทศ ให้ก้าวขึ้นไปสู่แนวหน้าของทวีปเอเชียได้
ที่ผ่านมา คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้รับโอกาส เข้ามา บริหารงาน แต่ กลับไม่ได้ สร้างผลงานอันเป็น “คุณประโยชน์” เพื่อส่วนรวมต่อวงการฟุตบอลไทย ดังจะเห็นได้จาก ผลงานการแข่งขัน ของทีมชาติไทย ที่ปรากฎออกมา ภายใต้การ นำทัพ ของคุณวรวีร์ มีแต่ “ตกต่ำ” ลงทุกวัน จนกลายเป็น ความรู้สึก “อัปยศอดสู” ของแฟนกีฬาฟุตบอลชาวไทย ที่มีต่อ ทีมชาติ
นอกจากนี้ ในส่วนของการบริหาร จัดการ สมาคมฟุตบอลฯ ในยุค คุณวรวีร์ ยัง ขาดความน่าเชื่อถือ และ ที่สำคัญที่สุด คือ “ความโปร่งใส” ซึ่งในเวลานี้ ยังเป็น “คำถาม” คาใจ ตัวผมเอง และ กลุ่มชลบุรี ว่า นายกสมาคมฟุตบอลฯ คนปัจจุบัน มี ความ “จริงใจ” ต่อการพัฒนากีฬาฟุตบอลมากน้อยเพียงใด
ผมและกลุ่มชลบุรี มีความเห็นว่า หากวงการลูกหนังของเรา จะยอม “หยุด” ด้วยการ “ถอยหลัง”ออกมา หนึ่งก้าว เพื่อการ “เปลี่ยนแปลง” พร้อมกับ เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ก่อนจะก้าวเดินต่อไป อย่าง “รวดเร็ว” และ “มั่นคง” ย่อมดีกว่า การ “ย่ำเท้าอยู่กับที่” หรือ เดินถอยหลังอย่างนี้ไปเรื่อยๆ กับการ บริหารงานแบบ ไร้ทิศทาง ของ คุณวรวีร์ มะกูดี
สุดท้ายนี้ ผมในฐานะตัวแทนกลุ่มชลบุรี ขอ “วิงวอน” แฟนกีฬาฟุตบอลทุกท่าน ช่วยเป็น “กำลังใจ” ให้ คุณระวิ โหลทอง และ คุณเนวิน ชิดชอบ ปรับความเข้าใจ เพื่อกลับมาร่วมมือกัน “ส่งเสริม” และ “พัฒนา” กีฬาฟุตบอลของประเทศ พร้อม ร่วมมือกัน “ปรับเปลี่ยน” โฉมหน้า ผู้บริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า...
_________________
credit :
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=582913
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก