หลายคนโดนหลอกหลอนจนขนหัวลุก !!
ความเฮี้ยนจนไม่มีใครกล้าผ่านรีสอร์ตร้างแห่งนี้
"ผมก็งงเหมือนกันเมื่อทราบว่าที่บริเวณดังกล่าวมีแต่ผีทั้งนั้น"
นายวิชัย เอกสุข หนึ่งในคนต่างถิ่น ซึ่งเป็นเสี่ยเจ้าของกิจการสินค้าราคาถูกกล่าวหลังจากเร่มาจำหน่ายสินค้าย่านนี้และเจอดีเข้าจนได้
"กลางคืนมาเข้าฝันผมว่างานนี้ขอให้ลูกหลานเถอะ หลังจากนั้นก็ไม่มีคนมาเที่ยวงานเลย แต่ชาวบ้านที่ผ่านไปมากลับเห็นคนแน่นงาน เมื่อนำเรื่องนี้เล่าให้ทีมงานที่มาพักในบริเวณรีสอร์ตนั้นฟังทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นวิญญาณผู้หญิง 2 คนชื่อ "จอง" กับ "จันทร์" มาขอผ้าห่ม รู้แน่ว่าเจอดีเข้าแล้ว พวกผมและทีมงานเลยต้องเลิกขายสินค้า"
นายวิชัยกล่าวรำลึกถึงความสยองพร้อมบอกว่ามีคนมาพูดเหมือนกันว่าบริเวณดังกล่าวผีเฮี้ยนมาก ชาวบ้านแถบนี้รู้กันดี ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ ๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดินแล้ว
และจากเสียงร่ำลือถึงความเฮี้ยนของรีสอร์ตร้าง "ข่าวสด" จึงจำต้องบุกพิสูจน์เพื่อหาความลี้ลับในเย็นวันที่ 23 พ.ย.
ทันทีที่ย่ำเท้าถึงจุดสยองพบว่ารีสอร์ตดังกล่าวนั้นมีสภาพทรุดโทรมมาก ไม่มีชื่อ โดยบริเวณด้านหน้ามีลานกว้างเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ และมีต้นไทรปกคลุมหนาทึบอยู่มุมของรีสอร์ตที่ด้านทิศตะวันออก
ในขณะที่ด้านหลังมีต้นไทรหนาทึบ มีเชือกไนล่อนผูกห้อยไว้ยิ่งเพิ่มความน่ากลัว ราวกับว่าเป็นเชือกสำหรับผูกคอตาย
ภาพที่เห็นแม้เป็นกลางวัน แต่สำหรับคนกลัวผีก็ชวนขนลุกไม่น้อย !!
ผู้ที่ให้ข้อมูลได้ดีที่สุดคนหนึ่งหนีไม่พ้น นายเอนก อังสนามวุฒิ หนึ่งในผู้ถือหุ้นรีสอร์ตดังกล่าว
"ผู้ถือหุ้นมีทั้งหมด 11 คน มีนักการเมือง และเจ้าของกิจการโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ๆ หลายคนร่วมทุนกันซื้อที่ดินแปลงนี้ไว้ โดยมีบังกะโลสร้างอยู่แล้วในลักษณะรีสอร์ต โดยที่ดินทั้งหมดนั้นมีประมาณ 6 ไร่ ด้านหลังมีต้นไทรใหญ่ และหน้ารีสอร์ตก็มีต้นไทรเช่นกัน"
เสี่ยเจ้าของรีสอร์ตร้างแห่งนี้กล่าวลำดับถึงความเป็นมา พร้อมยอมรับว่า เรื่องผีที่มีชาวบ้านเล่ากันนั้น ตอนแรกก็ไม่เชื่อ เพราะคิดว่าปัจจุบันไม่น่าจะมีผีสาง แต่ก็ต้องเชื่อเมื่อเจอกับตัวเองเข้าเต็มๆ
"เมื่อไม่นานมานี้ผมมาพักกับภรรยา และได้นั่งดื่มสุรากับเพื่อน ๆ ที่มาจากกรุงเทพฯที่รีสอร์ตแห่งนี้ และทราบจากทางเจ้าของคาราวานสินค้า ที่มาตั้งก่อนหน้านี้ว่าในพื้นที่แห่งนี้มีผีออกหลอกหลอนทั้งคืน ผีเข้าฝันว่าจะหลอกทุกคน ผมฟังแล้วก็ไม่เชื่อ ตกกลางคืนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ตอนเช้าตื่นขึ้นมาก็ต้องตกใจ เพราะรถยนต์ส่วนตัวยี่ห้ออีซูซุ สีแดง ทะเบียน 6ฌ-6925 กทม. ที่ล็อกกุญแจประตู ดึงเบรกมือ ล็อกเกียร์ แล้วจอดชิดกับรางระบายน้ำไว้หายไปเฉยๆ"
"ตอนแรกก็คิดว่าโดนขโมย พอเดินดูก็เห็นรถจอดอยู่ในป่าหลังโรงแรม จอดอยู่ใต้ต้นไทร พอเดินไปดูก็ต้องตกตะลึง พบว่ากุญแจล็อกเบรกมืออยู่ตามเดิม ประตูทั้ง 4 ด้านปิดแน่น"
"ทำเอาทุกคนขนหัวลุก เชื่อว่าโดนความเฮี้ยนของผีเข้าแล้ว"
นายเอนกกล่าวโดยที่ขนลุกซู่ทั้งตัว พร้อมบอกว่าหลังจากเจอดีคราวนั้นได้ไปปรึกษากับนายวิชัย เอกสุข เจ้าของกองคาราวานสินค้าราคาถูก เพราะทราบว่าเคยโดนผีหลอกมาเหมือนกัน
"นายวิชัยเล่าให้ฟังว่าตอนที่เปิดขายสินค้านั้นเงียบเหงามาก ไม่ค่อยมีคนมาซื้อของ แต่ชาวบ้านที่ผ่านไปมาบอกว่าเวลาขับรถผ่านจะเห็นมีคนแน่นในงาน มีชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน รถจอดแน่นริมถนน แต่ตรงกันข้ามในงานไม่มีแม้แต่คนเดียว"
เสี่ยเจ้าของรีสอร์ตผีสิงกล่าวและพูดถึงที่มาของความเฮี้ยนว่า
"เคยถามชาวบ้านบริเวณข้างเคียงทราบว่าบริเวณที่จัดตลาดนัดและรีสอร์ตแห่งนี้เคยเป็นผับเก่า มีหญิงบริการถูกฆ่าตายหลายคน"
"และบางคนถูกทรมานจนต้องแขวนคอตาย" !!