-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องจริง ของผี มหิดล ศาลายา  (อ่าน 8938 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18237
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
เรื่องจริง ของผี มหิดล ศาลายา
« เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2012, 17:00:46 »

เรื่องจริง ของผี มหิดล ศาลายา

เรื่องที่เล่ากันมามีอยู่ว่า...

1. ที่มาของชื่อ " ศาลายา "



เชื่อกันว่าชื่อ " ศาลายา " นี้มาจาก ในสมัยก่อนพื้นที่บริเวณนี้เกิดโรคระบาดหรือโรคห่าลง เด็ก ผู้ใหญ่ ฯลฯ
ผู้คนมากมายนอนตายทับถมเป็นกองสูง ศพที่ไม่ได้นำไปเผาก็ถูกทิ้งให้แร้งจิกกินเป็นที่น่าสังเวช เช่นเดียวกับประตูผีที่ วัดสระเกศ
บริเวณภูเขาทองในปัจจุบันทางการจึงตั้งศาลาแห่งหนึ่งไว้เพื่อส่งมอบยาแก่ชาวบ้าน ต่อมาจึงเรียกพื้นที่ดังกล่าวว่า " ศาลายา "



2. เพลงรักน้อง



" เจ้านกน้อย ล่องลอยโผบิน จากแผ่นดินทะเลสีคราม.. " นั่นคือเนื้อเพลงรักน้อง หรือเจ้านกน้อยอย่างที่ใครหลายๆคน
พูดจนชินปาก เพลงอาถรรพ์ของชาวศาลายา

มีเรื่องเล่ากันว่านักศึกษาพยาบาลคนหนึ่งถูกผู้เป็นพ่อแม่บังคับให้เรียนในสายที่ไม่เต็มใจ มาเรียนศาลายาสมัยก่อนเดินทางลำบาก
แล้วเหงามากเพราะไกลบ้าน บ่นให้เพื่อนฟังบ่อยๆ ถ้ามีปีกก็คงดีจะได้บินกลับบ้านได้ สุดท้ายด้วยความเสียใจกอปรกับคิดว่าไม่มีใคร
เข้าใจอีกแล้ว นักศึกษาพยาบาลคนนั้นจึงปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าของหอพักฆ่าตัวตาย โดยแต่งเพลงนี้ทิ้งไว้ด้วยเลือด เพื่อปลอบประโลม
ความเหงาให้กับคนอื่นๆ ทิ้งร่างลงมาสู่พื้นด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ


เพลงรักน้อง จึงเป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกความระลึกถึงนักศึกษาพยาบาลคนนั้น
แล้วมีตำนานเล่าว่าหลังจากนั้นมีนกตัวนึงจะบินมาอยู่ในที่ๆเด็กคนนั้นเคยอยู่เป็นประจำ

ชาวศาลายาจะถือกันว่า เพลงนี้ห้ามร้องในเวลากลางคืน และถ้าใครคนใดคนหนึ่งร้องขึ้นมาแล้ว ต้องร้องต่อจนจบเพลง
มิฉะนั้นจะเท่ากับเป็นการเรียกนักศึกษาพยาบาลคนนั้นมาช่วยร้องต่อให้จบแทน

บางครั้งก็ปรากฏตัวให้นักศึกษารุ่นน้องที่เข้าใหม่เห็นในลักษณะกระโดดลงจากดาดฟ้าหอพัก เมื่อนักศึกษาคนนั้นตั้งสติได้
และเรียกให้คนมาช่วย พอไปถึงจุดเกิดเหตุกลับปรากฏว่า ไม่มีร่องรอยใดๆ อยู่เลย




3. SI วันมหิดล เตียง C



อีกหนึ่งความเชื่อเกี่ยวกับวันสำคัญของมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งกล่าวถึงวิญญานนักศึกษาคณะแพทย์ศิริราช
( ต่อไปจะขอเรียกสั้นๆ ว่า SI ) ที่จะกลับมาเยี่ยมเยียนหอพักในวันนี้ของทุกๆ ปี แต่งกายด้วยชุดนักศึกษา
เสื้อนั้นย้อมด้วยเลือด และร่างเต็มไปด้วยบาดแผล

จัดเป็นอันดับต้นๆ ของความเฮี้ยนสุดยอดในวิทยาเขตศาลายา นักศึกษาแพทย์คนนี้ประสบอุบัติเหตุรถชน
ขณะข้ามถนนมายังมหาวิทยาลัย อาจเป็นเพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาจึงไม่รู้ตัวว่าได้เสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว

ห้องพักดังกล่าวที่นักศึกษาแพทย์คนนี้อาศัยอยู่กลายเป็นเรื่องถูกปิดตาย ทราบแต่เพียงว่า เตียง C
ของนักศึกษา SI ในคืนวันมหิดลเท่านั้นที่จะพบเห็นเขาได้

ถ้าอยากทราบว่าความเฮี้ยนนั้นจัดขนาดไหน? ก็ลองสัมผัสได้จากบรรยากาศที่ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ในคืนนี้
ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเป็นที่สนุกปากขนาดไหนก็ตาม





4. เชือกในห้องน้ำ



เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ไม่นาน มีข่าวแพร่สะพัดตามหอพักว่า ช่วงปิดเทอมเดือนตุลา แม่บ้านคนหนึ่งได้ผูกคอตายในห้องน้ำชาย
ห้องดังกล่าวได้ถูกปิดตายไปพักใหญ่ เจ้าหน้าที่หอพักแก้ต่างเป็นพัลวันว่า " ห้องน้ำเสีย "
นักศึกษาชายที่อยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำนั้น มักได้ยินเสียงร้องไห้ระงมจากประตูเจ้ากรรมเสมอๆ เมื่อมองผ่านจากหอตรงข้าม
มีคนสังเกตว่าบริเวณขื่อมีเชือกผูกอยู่จริง


แม่บ้านที่ทำความสะอาดประจำชั้นนั้นก็หายหน้าหายตาไป เจ้าหน้าที่หอก็ชี้แจงต่อข่าวลือน้ำขุ่นๆ ว่า " เขากลับต่างจังหวัด "
ในปัจจุบันห้องน้ำดังกล่าวได้เปิดใช้งานตามปกติแล้ว ถ้าเข้าไปแล้วเห็นแม่บ้านผิวดำผมหยักศกยิ้มให้
ก็อย่าลืมยิ้มตอบหล่อนด้วย คุณคือผู้โชคดี





5. ผีถ้วยแก้ว



นักศึกษากลุ่มหนึ่งได้เล่นผีถ้วยแก้วในบริเวณหอพัก ทีนี้เมื่อเล่นจบก็ถกเถียงกันว่าใครเป็นคนดันแก้ว
เมื่อไม่มีข้อสรุป และด้วยความไม่เชื่อในเรื่องผีสาง ทั้งหมดก็เดินออกไปหน้า ม.เพื่อหาข้าวกิน


เพื่อนต่างคณะที่นั่งรถแท็กซี่เข้ามาได้สวนกับนักศึกษากลุ่มนั้นพอดี ภาพที่เห็นก็คือ ชายแก่คนหนึ่งเดินออกมา
จากบริเวณศาลใกล้คณะอินเตอร์ และได้ยกมือชี้ ร้องไล่ให้ผู้หญิงคนนึงซึ่งอยู่ในกลุ่มออกไป แต่ทุกคนกลับ
ไม่มีใครใส่ใจ เมื่อมาถึงหอนักศึกษาคนหนึ่งก็เล่าให้เพื่อนที่เพิ่งนั่งแท๊กซี่เข้ามาว่า


" นี่ เมื่อกี๊เล่นผีถ้วย มันบอกว่าเป็นผู้หญิงว่ะ อย่าให้กูจับได้นะว่าใครเป็นคนดัน "

เพื่อนคนที่เพิ่งนั่งแท๊กซี่เข้ามาก็รีบเล่าเรื่องที่ตนเห็นชายแก่ไล่หญิงสาวในกลุ่มให้ฟัง

ทุกคนก็ยืนยันว่าในกลุ่มมีแต่ผู้ชายล้วนๆ ชายแก่คนดังกล่าวอาจเป็นวิญญาณเจ้าที่เจ้าทาง
ที่รู้จักกันในนาม " พ่อปู่จันธูป " หรือ " เจ้าขุนทุ่ง "

ส่วนผู้หญิงคนดังกล่าวจะเป็นคนเดียวกับในถ้วยหรือเปล่า..โฮะๆ คิดเอาเอง




6. เรือนไทย



เรือนสีแดงสดตั้งอยู่ตรงข้ามตึกวิทย์เก่า เดินเข้ามาไม่ไกลก็จะพบได้อย่างง่ายดาย ด้วยความสวยงามและอากาศเย็นสบาย
ทำให้เรือนไทยกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยม นักศึกษาหลายกลุ่มมานั่งติวหนังสือกันที่นี่ และบางกลุ่ม
ก็ใช้เป็นที่พลอดรักกันอย่างน่าอิจฉา


เรื่องเล่าเกี่ยวกับเรือนไทยมีมากมาย เพราะความคลุมเครือในที่มาของเรือนไทยโบราณหลังนี้

เมื่อ 2 ปีก่อน นักศึกษาหญิงคนหนึ่งเข้าไปอ่านหนังสือบริเวณเรือนไทย เวลาผ่านไปจนเริ่มเย็น ขณะนักศึกษาคนนั้น
เก็บของเตรียมตัวกลับไปหอพัก ก็เหลือบไปเห็นเส้นสีดำๆ คล้ายผมของใครบางคน ปลิวไสวอยู่ไม่ไกล เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ
ก็พบว่า เส้นผมที่ว่านั่น..เป็นเส้นผมของผู้หญิงใส่ชุดไทยโบราณ และกำลังห้อยหัวลงมาจากเสาเรือน ปากยิ้มแสยะ
เห็นฟันดำขลับ นักศึกษาคนนั้นกรีดร้องและเป็นลมทันที

พี่ยามได้ยินเสียงจึงเข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาล รุ่นพี่เล่าต่อๆ กันมาว่าเสาต้นหนึ่งในเรือนไทยตกน้ำมันได้
ถ้าคุณไม่เชื่อเกี่ยวกับ " ความแรง " ของที่นี่ มีเรื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าที่เรือนไทยนี้อากาศเย็นสะท้านตลอดเวลา
ไม่ว่าจะฤดูอะไร และวันนั้นแดดจะแรงขนาดไหนก็ตาม






7-8. หอชาย



เชื่อหรือไม่? ในสมัยก่อนหอชายของมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เป็นหอหญิงมาก่อน บางคนอยู่มาเป็นปีๆ ไม่เคยจะรู้
ไม่เคยจะใส่ใจกับความเป็นมาตรงนี้เลย หอชายในปัจจุบันนั้นมีสภาพค่อนข้างใหม่กว่าหอหญิง ( ยกเว้นแต่หอ10 )

มีเรื่องเล่ากันว่า นักศึกษาหญิงคนหนึ่งได้ฆ่าตัวตายภายในหอพัก วิญญาณก็ยังวนเวียนไม่ไปไหน คอยปรากฏตัว
ให้นักศึกษารุ่นหลังได้ประสาทกินเป็นพักๆ และในแต่ละปีจะมีนักศึกษาชายจำนวนมากที่โวยวายกับเจ้าหน้าที่หอพัก
เรื่องผู้หญิงชุดขาวที่เดินไปมาในบริเวณหอพัก


ส่วนสถานที่หลักๆ ที่จะพบได้ก็คือ

1. บันไดหนีไฟ ใครที่ชอบเดินทางนี้บ่อยๆ ระวังให้ดี คุณไม่มีทางหนี นอกจากวิ่งชน หรือลงไปติดแหง็กอยู่ด้านล่าง

2. ทางเชื่อมระหว่างหอ เมื่อมองจากระเบียง หรือด้านล่างของหอ นี่คือสามแพร่งที่ทุกคนต้องผ่านเข้าออกในแต่ละวัน
โถฉี่ในหอพักหญิงเป็นเครื่องยืนยันอย่างดี


อย่าหวังคำตอบจากเจ้าหน้าที่หอเกี่ยวกับสาเหตุที่ย้ายมาเพราะต่อให้ตาย เขาก็ไม่ตอบคุณหรอก





9. คอนโด C ห้อง xxxx



คอนโดบริเวณประตูสาม จะถูกจองตั้งแต่เดือนเมษา แต่จะมีอยู่ห้องหนึ่งในคอนโด C ซึ่งปิดขอบประตูโดยรอบด้วยยันต์
และประไว้ที่หน้าประตูอีกหนึ่งแผ่น ลองนึกภาพดูว่าบรรยากาศของห้องจะหม่นๆ เหมือนมีสายตาเฝ้ามองอยู่ตลอด
ใครที่เคยอาศัยอยู่ย่อมรู้ถึงความกดดันได้เป็นอย่างดี


ประวัติของห้องนี้ก็มีอยู่ว่าช่วงปิดเทอมเมื่อ 4-5 ปีก่อนมีเด็กอินเตอร์คนหนึ่งกรอกยาฆ่าตัวตาย กว่าเพื่อนจะไปพบศพมัน
ก็อืด เน่า เฟะ เละจนแทบจำไม่ได้ เด็กคนนี้เป็นผู้หญิงอยู่ปี 2 น้อยใจแฟนก็เลยประชดด้วยการลาโลก
พองานศพเสร็จ เพื่อนๆ ทำใจไม่ได้ก็เลยขอย้ายไปพักที่อื่น


คนที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราว ตกกลางคืนมักได้ยินเสียงเปิดก็อกในห้องน้ำ บางครั้งก็ได้ยินเสียงกุกกักทั้งๆ ที่ไม่มีใคร
แต่นั่น..ไม่ร้ายแรงเท่านักศึกษาบางคนที่กำลังนอนหลับ เหลือบไปเห็นผู้หญิงหน้าตาบวมปูดเหมือนศพ จับขา
และกระชากลงจากเตียง


เพื่อนที่เคยไปอาศัยอยู่ในห้องเจ้าปัญหา การันตีความเฮี้ยนระดับห้าดาว!!!

รูมเมทบางคนมองเห็นผู้หญิงเดินไปเดินมาในเวลากลางคืนและมักได้ยินเสียงร้องไห้ ปนโกรธแค้นที่ถูกทอดทิ้ง
หลายคนก็ถูกผีอำจนอยู่ไม่ได้ เครื่องใช้ไฟฟ้า-ข้าวของ เปิดปิด เคลื่อนที่ได้เองอย่างน่าสงสัย
เป็นอีกเรื่องที่ฮอทสุดๆ และเฮี้ยนสุดๆ ในรั้วศาลายา







10. ตู้ผี



ฟังชื่อแล้วต้องบอกว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับหนังผีเกาหลีเกรดบี แต่นี่คือเรื่องจริงของนักศึกษาดวงซวยสุดๆ ในคืนวันมหิดล
เมื่อสองปีก่อน ช่วงสอบกลางภาคตรงกับวันมหิดลพอดี นักศึกษาหญิงคนหนึ่งซึ่งอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่ภายในห้องพัก
กำลังจะไขกุญแจตู้เสื้อผ้าไปอาบน้ำ


เครียดก็เครียด อ่านก็ไม่ทัน ไหนจะไม่ค่อยรู้เรื่องอีก ความซวยก็เข้าเยือนต่อทันที ขณะเดียวกันเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากข้างใน ขว้าท่อนแขนนักศึกษาโชคร้ายและพยายามดึงเข้าไปในตู้เท่านั้นแหละ...


เสียงกรี๊ดดังลั่นมาถึงหอชาย เพื่อนร่วมห้องได้ยินก็กระวีกระวาดมาดู เห็นเจ้าหล่อนเป็นลมนอนฟุบอยู่กับพื้นห้อง
จึงโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่หอให้รับตัวไปโรงพยาบาลทันที

สอบถามจากเจ้าหน้าที่หอพักก็ตีหน้าซื่อ แก้ตัวกับเหตุการณ์นี้ว่า " สงสัยเขาจะเครียดมากไป "

เป็นอันว่าเรื่องสยองในคืนวันมหิดลก็ยังเป็นปริศนาต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 พฤษภาคม 2012, 17:11:44 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18237
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Re: เรื่องจริง ของผี มหิดล ศาลายา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2012, 18:05:28 »

อยากรู้เรื่องจริงไหม ข้อมูลเบื้องลึกต่อไปนี้ มาจาก
http://topicstock. pantip.com/wahkor/topicstock/2008/09/X7000399/X7000399. html

โดย หมอแมว



เรื่องเล่าเพี้ยนไปเยอะ สมัยผมอยู่

เรื่องที่ 1 และ 6
คือเรื่องเดียวกัน ..ลงในวารสารของคณะสิ่งแวดล้อม

เรื่องที่ 2
คนแต่งเพลงรักน้อง ..เป็นนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ ..มีตัวตนจริงๆและยังมีชีวิตอยู่

เรื่องที่ 3 SI เตียงC
ไม่มีการยืนยันโดยตรง แต่ช่วงที่ผมยังฟิตต้องการรู้ความจริง ลองถามรุ่นพี่ดู ได้ความว่า
มีเรื่องแบบนี้จริง แต่ไม่ใช่เตียงC .. เป็นเรื่องที่เกิดกับห้องๆ หนึ่งในหอ ซึ่งติดเลขห้องหนึ่งตัวกลับหัว
โดยมีนักศึกษาฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอในท่านั่ง .. จากห้องนี้ มีการแตกออกมาเป็นเรื่องผีถึง 3 เรื่อง - -"


เรื่องที่ 4 เชือกในห้องน้ำ ..มีสองกระแส
มีช่วงนึงเขาปิดห้องน้ำซ่อมกัน ..อาจจะเป็นช่วงนั้น
อีกกระแสนึง เป็นเรื่องของแม่บ้านที่ฆ่าตัวตายในหอพักพยาบาล ซึ่งเป็นคนละหอกับที่ศาลายา ..คนนั้นก็ฆ่าตัวตายที่ชั้นดาดฟ้า
อย่างไรก็ตาม เท่าที่จำได้ เรื่องที่ 4 ไม่ได้อยู่ใน 10เรื่องศาลายาสมัยผมเรียน


เรื่องที่ 5
ไม่มีในตอนที่ผมเรียน
แต่ว่ามีเรื่องอีกสามสี่เรื่องที่ผูกเข้ากับเรื่องนี้

เรื่องที่ 6
เรือนไทย สมัยผมอยู่ไม่มีเรื่องดังกล่าว คนที่ตายตอนก่อสร้างมี ( มีประวัติในวารสารคณะสิ่งแวดล้อม ) ..
แต่ในประวัติเท่าที่ทราบสิ่งที่ปรากฎที่เรือนไทย ไม่ใช่ผู้หญิงใส่สไบเขียว แต่เป็นคนแก่นุ่งห่มขาว ...
มาเปลี่ยนเป็นสไบเขียวเมื่อราวๆ สี่ห้าปีนี้เอง - -"


เรื่องที่ 7
สมัยพี่ชายผมอยู่ ไม่มีเรื่องนี้ ..และพอผมไปอยู่ มันเป็นเรื่องเล่าหอ 1-4 - -"
พอผมเอนท์ใหม่ มันขยับมาเป็นเรื่องเล่าหอ 6 - -"

ที่ผมได้ยิน ว่ากันว่าเป็นเรื่องของ นศ. พยาบาลที่หนีซ้อมเชียร์แล้วเจอผีในบันไดหนีไฟ
ผมลองถามพยาบาลที่คาดว่าอยู่รุ่นใกล้เคียงกันนั้น ปรากฎว่าไม่เคยมีใครได้ยินเรื่องพวกนี้
ผีบันไดหนีไฟ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในปีที่ผมอยู่ เรื่องมีอยู่ว่า....

เมื่อตอนนั้นประมาณ2541 ผมไปเข้าเรียนที่นั่นเป็นนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ อาศัยที่หอ 8
เนื่องจากคบกับเพื่อนหลายคณะ ก็เลยขึ้นลงทางบันไดหนีไฟเป็นประจำ ส่วนใหญ่แล้วจะไปนั่งฟังเพื่อนๆ
ดีดกีต้าร์ร้องเพลงกินกระเทียมกันที่ระเบียงชั้น3 ช่วงเวลาที่จะต้องเดินไปก็คือประมาณ 2-3ทุ่ม
มีอยู่วันนึง ผมอาบน้ำเสร็จ ยังไม่ทันแห้งดีก็รีบเปลี่ยนชุดแล้วลงบันไดหนีไฟไปชั้นล่าง พอลงไปได้ชั้นนึง
ก็มีเสียงตะโกนมาจากในตัวตึกแบบตกใจ ..ผมมองไปก็เห็นคนปิดประตูห้อง  ก็ไม่ได้ว่าอะไรกัน
ไปยังห้องเพื่อไปนั่งคุยนั่งเล่น ..สักพักนึงมีคนที่มาสมทบมาเล่าว่าชั้นบนมีคนเจอผี
ผีที่ว่านี้ มีคนเจอในบันไดหนีไฟ เป็นคนใส่ชุดนอนเปียกๆ ผมปิดหน้าปิดตา เมื่อครู่นี้เอง
พอถามไปถามมาก็ฮากันทั้งวง เพราะที่ว่าผีนั่นน่ะ คือผมเอง

ไม่มีอะไร ผ่านไป 1 ปี ปีต่อมา เข้าเรียนที่ศาลายาใหม่อีกครั้งในคณะแพทย์
ตำนานผีในหอพักมันเพิ่มขึ้นมาเรื่องนึง มีผีในบันไดหนีไฟ เป็นนักศึกษาลื่นล้มในห้องน้ำตาย ^^


เรื่อง 9
คอนโด ..อันนี้ไม่ทราบ


เรื่อง 10
ได้ยินมานานมาก เป็นเรื่องของนักศึกษาพยาบาล ..เนื้อเรื่องเปลี่ยนไปมาหลายรอบมาก
เนื่องจากถูกพิสูจน์หลายรอบว่าไม่จริง เคยมีคนเอาไปเล่าใน The Shock หลายรอบเป็นหลาย Version
แถมเปลี่ยนมหาวิทยาลัยไปเรื่อยๆ นี่ก็เป็นอีกVersion - -"

สมัยก่อนเท่าที่ผมรวมๆ ไว้ น่าจะเฉียด 30 เรื่องหรือกว่านั้นนะ


โดย ginosty



เมื่อก่อนตอนอยู่หอ เล่นเป็นผีหลอกชาวบ้านซ่อนตัวในตู้ เอามือยื่นมาจับเพื่อน มันก็วิ่งหนีกระเจิงแล้ว
วันดีคือดี เอาแป้งทาหน้าให้ขาว เอากะละมังมาวางบนผ้าขี้ริ้วที่ระเบียง ขึ้นไปยืนบนกะละมัง
ให้เพื่อนดึงผ้า เปิดไฟฉายส่องหน้า แอบหลอกเพื่อนข้างห้อง มุดอยู่ใต้เตียง ให้เพื่อนไปเรียก
คนอื่นมานั่งแล้ว แอบ จับขาตอนเผลอ ให้สะดุ้งเล่น ระหว่างการเล่นพวกนี้ เปิดเพลงไทย
บรรเลง เบาๆ คลอตลอด


ผ่านไปหกปี รุ่นน้องที่มหาลัย เข้ามาทำงานทีเดียวกับผม มันเล่าให้ฟังว่า

หอในอะพี่ ผีโคตรดุเลย โดยเฉพาะชั้นเจ็ดห้อง XXX อะ (ในใจผม...อ่ะ คุ้นๆวะ)

เพื่อนผมอ่านหนังสืออยู่ได้ยินเพลงไทยพี่ (เออชักๆ แล้ว)

พอหันไปเห็นผีผู้ชายลอยอยู่นอกหน้าต่าง (ตูว่าแล้ว)

แล้วยังมีคนเคยเจอ มือผีมันลอยมาจากตู้นะพี่ (มือตูเองอ่ะ)

บางคนโดนมันดึงขาตอนนอนด้วย (นั่นก็มือตู)


สรุปว่า ถ้านักศึกษามหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง ได้ยินใครเล่าเรื่องผีประมาณนี้ให้ฟัง
ขอให้รู้ว่า มันคือ ข้าพเจ้าเอง นะจ๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 พฤษภาคม 2012, 11:30:25 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18237
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
Re: เรื่องจริง ของผี มหิดล ศาลายา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2012, 18:11:35 »

ของแถม....

<a href="http://www.youtube.com/v/bxN6G6hfAjc" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/bxN6G6hfAjc</a>

ภาคผนวก 3.1 เพลงรักน้อง

เจ้านกน้อยล่องลอยโผบิน จากแผ่นดินทะเลสีคราม

ความเหงาเอยเหมือนคอยเหยียบย่ำ ให้ทรมาน

ฝ่าลมแรงด้วยแรงท้าทาย สู่จุดหมายที่ไกลลิบตา

เพียงพบเธอทุกวันเห็นหน้า อิ่มเอิบดวงมาลย์

ดอกไม้ ดอกไม้แย้มกลีบ บานแล้วในใจฉัน

จงหอมชั่วนิรันดร์ มิเลยล่วงผ่านจากใจเราผอง

จงมอบความรัก (ความรัก) ด้วยใจภักดี (ภักดี)

มอบชีวีให้เธอคุ้มครอง

ความหวังดี จงมาปกป้อง ทั้งตื่นและฝัน (เอื้อน)

ความหวังดี จงมาปกป้อง ทั้งเธอและฉัน




ภาคผนวก 3.2 คัดลอกจาก วารสารของคณะสิ่งแวดล้อม



" ศาลายา " คือ ชื่อตำบลหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเขต จ. นครปฐม และปัจจุบันที่ดินส่วนหนึ่งของ ต. ศาลายา ก็เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหิดล
ในอดีตศาลายานี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งซ่องสุมโจรและเลื่องลือกันว่า " ผีดุ " นำ มักปรากฏตัวให้ใครต่อใครเห็นอยู่เป็นประจำ


ชื่อ " ศาลายา " มีเล่าต่อกันมาหลายทาง ว่ากันว่า สมัยก่อนศาลายาจะเป็นชื่อที่คู่มากับ " ศาลา ทำศพ " ซึ่งมีผู้สันนิษฐานว่า
แต่ก่อนสถานที่ 2 แห่งนี้ น่าจะเคยมีเหตุการณ์ที่ทำให้คนเจ็บไข้ล้มตายกันมาก หรือไม่ก็เป็นที่ที่มีการสู้รบ จึงมีการตั้งศาลาขึ้น
แจกจ่ายยาแก่คนเจ็บเหล่านั้น


และเมื่อล้มตายก็จัดการเผาศพ จึงมีชื่อทั้ง " ศาลายา " และ " ศาลาทำศพ " ต่อมาเห็นว่าชื่อ " ศาลาทำศพ "
ไม่เป็นมงคลจึงเปลี่ยนชื่อเป็น " ศาลาธรรมสรพณ์ " และยังใช้ในปัจจุบัน


ในอดีต คนเก่าแก่เล่าว่า " ศาลายา " เป็นตำบลที่มีคนร้ายชุกชุม เป็นแหล่งให้ผู้ร้ายหลบซ่อนตัว เพราะเป็นที่เปลี่ยว
ห่างไกลความเจริญมาก ยังไม่มีถนนหนทางตัดผ่าน ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นเวลาป่วยไข้ ไม่มีใครกล้าออกไปหาหมอ
จึงมีผู้เมตตาสร้างศาลาให้หลังหนึ่ง และนำเอาสมุนไพรที่รักษาโรคได้มาแขวนไว้เป็นทาน ให้คนเอาไปใช้รักษา
ใครต้องการยาอะไรก็จะไปเลือกหาเอาที่ศาลานั้น จึงเรียกที่แห่งนั้นว่า " ศาลายา " เรื่อยมา


เมื่อหกเจ็ดปีที่แล้ว ศาลายายังไม่เจริญเหมือนทุกวันนี้นะคะ ที่ทางหน้า ม.ยังเป็นที่ว่าง มีแม่ค้ามาสร้างเพิงขายของกัน
ถนนพุทธมณฑลสายสี่ก็ค่อนข้างเปลี่ยว นั่งรถเมล์ไปตั้งไกลพึ่งจะเห็นโรงงานซักหลัง ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ หมู่บ้านจัดสรรผุดขึ้นเพียบ



ความเป็นมาของที่ดินบริเวณศาลายาแต่เดิมเป็นของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และเป็นมรดกตกทอด
มาถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เหตุที่ ร.4 ทรงซื้อที่ดินบริเวณศาลายาก็เนื่องมาจาก ในสมัยรัชกาลที่ 3
รัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น รัชกาลที่ 4 ยังทรงผนวชอยู่ และได้ธุดงค์ไปในป่า เลยเขตมณฑลนครชัยศรี
ไปทางทิศตะวันตก ทรงพบเนินใหญ่ สัณฐานเป็นรูปพระมหาเจดีย์ เมื่อทรงสำรวจแล้วก็แน่พระทัยว่าคงเป็นที่ตั้งนครใหญ่ในอดีต
ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศาสนาครั้งทวารวดี เมื่อเสด็จกลับวังหลวง

จึงเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว กราบบังคมทูล ขอให้ทรงปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ใหญ่แห่งนั้น
แต่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯตรัสทัดทานว่า จะต้องขนเอาเงินทองไปทิ้งเสียในป่าทำไม เจดีย์อยู่ห่างไกล
ถึงเพียงนั้นถนนหนทางก็ไม่มี แล้วใครจะเข้าไปกราบไหว้ถึงได้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯได้ฟังก็ทรงนิ่ง


ครั้นเมื่อได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ในปี พ.ศ. 2394 พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้ขุดคลองจากแม่น้ำเจ้าพระยา
ไปทางทิศตะวันตก ไปจนถึงบริเวณที่ทรงพบฐานพระเจดีย์ดังกล่าว และทรงปฏิสังขรณ์พระเจดีย์นั้น ตามความเชื่อส่วนพระองค์ว่า
เป็นพระมหาเจดีย์ที่เป็นสัญลักษณ์ของการตั้งพระพุทธศาสนาเป็นปฐมกาลในสมัยทวารวดี พระราชทานนามพระเจดีย์
นั้นว่า " พระปฐมเจดีย์ "

ส่วนคลองที่ขุดให้คนเดินทางขึ้นไปนมัสการนั้น พระราชทานนามว่า " คลองเจดีย์บูชา " ซึ่งก็คือ คลองใหญ่ที่ขุดผ่าน
ต. ศาลายา ไปจรดแม่น้ำนครชัยศรี และด้วยเหตุที่รัชกาลที่ 4 ทรงเถลิงราชสมบัติเมื่อพระชันษามาก ถึง 47 พรรษาแล้ว
ดังนั้นพระราชโอรสและพระราชธิดาที่ประสูติหลังขึ้นครองราชสมบัติจึงยังมีพระชันษาน้อยกันทุกพระองค์ จึงทรงเกรงว่า
หากสิ้นแผ่นดินพระองค์ลง พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่จะเป็นใครไม่อาจทราบได้

หากไม่ยอมรับพระราชโอรสให้ขึ้นครองราชสมบัติต่อแล้ว พระเจ้าลูกยาเธอและพระเจ้าลูกเธอทั้งหลายที่ยังทรงพระเยาว์จะลำบาก
ไม่มีที่อาศัย จึงทรงใช้เงินส่วนพระองค์ซื้อที่สองฝั่งคลองที่ขุดไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อแบ่งปันในหมู่พี่น้อง

ด้วยเหตุนี้เอง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงเป็นพระราชโอรส พระองค์ใหญ่ในรัชกาลที่ 4
จึงได้จัดแบ่งที่ดินดังกล่าวพระราชทานแก่บรรดาพระราชโอรสธิดาในรัชกาลที่ 4 ให้เป็นที่นา โดยให้คนเช่าทำนาในราคาที่ถูก
มาตั้งแต่สมัย ร.5

ต่อมา เจ้านายบางพระองค์ขายตกทอดไปเป็นของชาวบ้านบ้าง บางส่วนถูกเวนคืนไปเป็นพุทธมณฑลบ้าง และบางส่วน
ก็เป็นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ รวมถึงที่ดินที่เป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมหิดล ในปัจจุบันก็เป็นที่ดิน
พระราชมรดก จากรัชกาลที่ 4 ตกทอดมายังรัชกาลปัจจุบัน ซึ่งที่ดินบริเวณศาลายาทั้งหมดตอนนี้ก็ยังคงเป็นทรัพย์สิน
ของพระมหากษัตริย์ ซื้อขายไม่ได้ แต่เช่าได้ โดยการเสียค่าเช่าบำรุงเป็นรายปี

ต่อมาสมัย ร.9 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้มหาวิทยาลัยมหิดลซื้อที่ดินส่วนพระองค์ ในราคาถูกเป็นพิเศษจำนวน 1,250 ไร่
ใน ต. ศาลายา เขต อ. นครชัยศรี จ. นครปฐม เมื่อปี พ.ศ. 2508 เพื่อสร้างเป็นมหาวิทยาลัย ทำให้ชาวบ้านที่เคยอาศัยทำกิน
อยู่ที่พื้นที่นั้นค่อยๆ อพยพออกไปจนหมด



แต่สิ่งที่เหลืออยู่มากมายบนที่ดินนั้น ก็คือศาลพระภูมิ และศาลเจ้าที่ ซึ่งถูกทิ้งให้หักพังโดยส่วนใหญ่ไม่มีใครเหลียวแล
จะมีก็บางครอบครัว ที่นานๆ จะกลับมาไหว้ศาลเก่าของตน เพราะยังผูกพันกับเจ้าที่เดิม และตามความเชื่อของคนไทยส่วนใหญ่
มักให้ความเคารพต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ ไม่ว่าจะปลูกบ้าน หรือทำพิธีกรรมใดๆ โดยมากมักจะแผ่ส่วนกุศล
อุทิศให้เจ้าที่เจ้าทางที่ตนมาอาศัยจึงอยู่กันอย่างสงบสุข ราบรื่น แต่ในบริเวณที่ดินของ ม.มหิดลศาลายา เมื่อเปลี่ยนจากที่ชาวบ้าน
อยู่อาศัยมาสร้างเป็นสถานที่ราชการแล้วมักเกิดปัญหาที่น่าพิศวงตามมา เรื่องมีอยู่ว่า....


หลังจากมหาวิทยาลัยมหิดล เตรียมพื้นที่ และสร้างอาคารเสร็จพร้อมจะให้นักศึกษาเข้ามาอยู่ ปรากฏว่าในวันเปิดตึกหอพักนักศึกษา
ได้มีนักศึกษาชายคนหนึ่งป่วยกะทันหัน โดยไม่มีเค้าว่าจะเป็นคนสุขภาพไม่ดีมาก่อน และผลจากการป่วยคราวนี้ทำให้กลายเป็นคนพิการ
ไม่สามารถเรียนต่อได้


เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ว่า นับตั้งแต่สร้างมหาวิทยาลัยมา มักมีคนตายบ่อยๆ เช่น  มีอุบัติเหตุที่สี่แยกพุทธมณฑล
ทำให้นักศึกษาตายหลายศพ หรือมีการฆ่ากันตายที่ตึกคณะสิ่งแวดล้อม และนักศึกษาหลายคนก็มักจะเห็นคนเดินหายเข้าไปในต้นไม้
จากเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ต้องมีอัญเชิญ พระพุทธรูปองค์หนึ่ง มาตั้งไว้บริเวณหน้าหอพักนักศึกษาหญิง
เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้อบอุ่นใจ เหตุการณ์ในทำนองนี้ยังเกิดต่อเนื่องเรื่อยมา

ครั้งหนึ่งที่คณะสังคมศาสตร์ได้จัดให้มีการทำบุญ ขณะมีงานอยู่นั้นก็มีคนงานคนหนึ่งเกิดอาการคล้ายผีเข้า เมื่อทำการถามไถ่
ได้ความว่า ผีที่เข้าเป็น " ผีแขก " นับถือศาสนาอิสลาม ที่ตายที่นี่ และวิญญาณยังคงวนเวียนอยู่ ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด
ซึ่งเมื่อผีแขกตนนี้ ออกไปแล้ว ในแต่ละปีเมื่อทางคณะทำบุญครั้งใด ก็จะต้องอุทิศส่วนกุศลไปให้ทุกครั้ง

การมาปรากฏของ " วิญญาณ " ในแต่ละเหตุการณ์และสถานที่ ผู้ที่ประสบพบเห็นเหตุอัศจรรย์ดังกล่าว
มักจำเรื่องราวที่ชวนขนหัวลุกนี้ได้อย่างแม่นยำ

เมื่อให้เล่า แต่ละคนจึงเล่าเรื่องเหล่านี้ได้อย่างออกรส เมื่อฟังแล้ว แม้มิได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ก็เหมือนกับอยู่ด้วย

วิญญาณ ซึ่งแสดงนานาอิทธิฤทธิ์ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ก็เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่แสดงให้เรา
ซึ่งอยู่ในภพของมนุษย์รู้ว่า ในโลกเรานี้ยังมีอีกมิติหนึ่ง ซึ่งมองไม่เห็นอยู่คู่กับเรา มิตินั้น คือ ภพภูมิของโอปปาติกะ
หรือ " สัมภเวสี " ที่เร่ร่อน ยังไม่ได้เวลาไปเกิดใหม่

เรื่องความน่ากลัวนั้นเกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ ขณะที่สร้างเรือนไทย เพื่อให้เป็นศูนย์วิจัยวัฒนธรรมเอเชียอาคเนย์
ผู้ประสบเหตุการณ์ท่านหนึ่งได้เล่า


จบละครับ...

cradit :: thaighost.net
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 พฤษภาคม 2012, 11:46:16 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

nat2029

  • คณะสำรวจ
  • *
  • กระทู้: 642
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องจริง ของผี มหิดล ศาลายา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012, 15:00:59 »

อ่านแล้วหลอนจริงๆ  scary

NIRVANA

  • อาชาคะนองศึก
  • *
  • กระทู้: 1217
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องจริง ของผี มหิดล ศาลายา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012, 17:14:11 »

น่ากลัวมากคับ ขอบคุณคับ

pol

  • V.I.P.
  • คาสโนว่า
  • *
  • กระทู้: 3361
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +5/-2
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องจริง ของผี มหิดล ศาลายา
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2012, 21:26:09 »

 roister ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ ของที่มองด้วยตาไม่เห็น
ขอลุงก่อนเตอะ ลุงแก้แล้ว

civilpo

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 314
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องจริง ของผี มหิดล ศาลายา
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2012, 22:13:35 »

มีประวัติด้วยหลอนมาก

Norulejune

  • อภริยา ปรมาลาภา การไม่มีภรรยาเป็นลาภอันประเสริฐ
  • X5 Club
  • เด็กหัดเสียว
  • *
  • กระทู้: 357
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องจริง ของผี มหิดล ศาลายา
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2012, 10:06:56 »

เรื่องแบบนี้ชอบอ่านมากๆเลยคับ  eta08
...-:=-=:-...จะรักแต่คนมีคู่ จะสู้เพื่อแย่งของเขา
          จะเอามาเป็นของเรา  ถึงเค้าจะเศร้าแต่เราสะใจ....-:=-=:-. :p