1. มะยุนกะนะชิ「まゆんがなし」 (Mayunganashi)มะยุนกะนะชิ เป็นเทพเจ้าที่ชอบเดินทางไปเยี่ยมตามบ้านเรือนต่างๆที่ได้ถูกเล่าขานกันมาในจังหวัดโอะกินะวะ
มะยุนกะนะชินั้นมาจากทะเลอันไกลโพ้นมักชอบไปเยี่ยมตามบ้านเรือนเพื่อแบ่งปันความสุข ความรุ่งเรือง
ความอุดมสมบูรณ์ และความมีอายุยืนยาวให้แก่กันว่ากันว่า มะยุนกะนะชิ จะมาเยือนในช่วงเดือนกันยาตามปฏิทินตามจันทรคติในช่วงนี้พวกวัยรุ่นจะวนเวียนกันไป
ตามบ้านต่างๆ เป็นคู่ๆโดยแต่งตัวด้วยเสื้อกันฝนที่ทำจากฟาง (หรือ みの “มิโนะ” นั่นเอง) แล้วใส่งอบไว้ที่หัว
พร้อมกับปกคลุมร่างกายด้วยฟาง เวลาไปเยี่ยมก็จะได้รับการต้อนรับจากเจ้าของบ้านอย่างดี
เชื่อกันว่า มะยุนกะนะชิ จะมาเยือนในคืนที่มือสนิทเท่านั้น งานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ มะยุนกะนะชิอยู่ที่
คะวะบิระ โดยเชื่อกันว่าวันแรก มะยุนกะนะชิ จะไปเยี่ยมชาวบ้านในแต่ละบ้านเช้าวันที่สอง ชาวบ้านจะถวาย
การแสดงต่างๆ เพื่อให้เทพเจ้ารับชม และจะมีเชิดสิงโตพอวันที่สี่ ก็จะมีพิธีกรรมในการส่งเทพเจ้ากลับสู่สวรรค์
ตามตำนานเล่าว่าในสมัยอดีตมีเทพเจ้ามาปรากฏกายขึ้นที่ไนบุยะที่อยู่ทางใต้ของหมู่บ้านคะวะบิระแล้วก็ได้
มอบความรัก ความเมตตา ความอุดมสมบูรณ์เพิ่มพูนให้แก่ชาวบ้าน มะยุนกะนะชิจัดว่าเป็นเทพเจ้าที่ไป
เยี่ยมตามบ้านประเภทหนึ่ง ที่คนในเกาะทางใต้เคารพนับถือกันคาดว่ามะยุนกะนะชิคงจะเป็นประเภทเดียวกัน
กับเทพเจ้าทั้งหลายที่ชอบเยี่ยมชาวบ้านเช่น ฟุซามาระ ของเกาะ ฮาเทรุมะ ,ปันทู ของ ชิมาจิริ ในเกาะ มิยาเกะ
,นามาฮาเกะและสุเนกะ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
2. ชิซึคะโมจิ「しすかもじ」 (Shitsukamoji) เป็นปีศาจที่ส่งเสียงเพียงอย่างเดียวเท่านั้นมีเรื่องที่ชาวบ้านมาซึโกะ ของจังหวัดโมจิกิเล่าสืบกันมาว่า
ตอนกลางดึก พอได้ยินเสียง “ตุบ ตุบ”คล้ายกับเสียงตำแป้งข้าวเหนียวเหมือนเวลาทำแป้งข้าวเหนียวโมจิ
ผู้เฒ่าแก่บอกว่า “ถ้าเสียงนั้นค่อยๆเข้ามาใกล้แล้วละก็ แสดงว่าโชคลาภจะเข้ามา แต่ถ้าเสียงนั้นค่อยๆ
จางหายไปก็แสดงว่าโชคลาภกำลังจะจากไป” กล่าวกันว่าใครที่ได้ยินเสียงนี้เข้ามาใกล้ก็ให้รีบหยิบกระด้งฝัดข้าว และเอามือไปไว้ด้านหลังสมบัติจะมาอยู่ในนั้น
แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครๆ จะได้ยินเสียงนี้ได้ บางคนก็ได้ยินบางคนก็ไม่ได้ยิน ในหนังสือเรื่อง “ようかいだんぎ” (โยคัยดังกิ) [เรื่องปีศาจ]
ที่นักปราชญ์ท้องถิ่นชื่อยานากิดะ คุนิโอะ ได้แต่งไว้ ได้เรียกเสียงนี้ว่า
“คะคุเระซะโตะโนะโคะเมะซึกิ”(เสียงสีขาวที่คู่เระซะโตะ) ใครได้ยินเสียงนี้จะรวย
3. เอะมะโนะเซะ「えまのせ」 (Emanose) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีชายคนหนึ่งชื่อ โดอัน โคะมะงะตะ เข้าได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับกระดานไม้ภาพม้าเพื่อการขอพร
วันหนึ่งเขาติดฝนตกอยู่นอกบ้านแล้วไม่สามารถกลับบ้านได้“แย่แล้ว แถวนี้ไม่มีที่พักซะด้วย...” โดอันจึงเข้าไปในศาลเจ้าใกล้ๆ เพื่อหลบฝนแต่ฝนก็ไม่ยอมหยุดเสียที โดอันจึงเผลอหลับไปพักใหญ่ พอรู้ตัวอีกทีฟ้าก็สางแล้ว
โดอันมองไปรอบๆ ภายในศาลเจ้าที่มืดครึ้ม สังเกตว่ามีชายชราที่ดูเหมือนวิญญาณนั่งอยู่มุมห้อง โดยปกติแล้วต้องตกใจ
แต่ตอนนั้นโดอันไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดชายชราคนนั้นเห็นโดอันที่อยู่ในอาการงงงวย จึงส่งสายตาอ่อนหวาน
“ฮ่าๆๆ ท่าทางคุณจะชอบกระดานไม้ภาพม้ามากซินะผมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ อยากสอนเคล็ดลับให้คุณ” โดอันตอบว่า
“กรุณาสอนให้ผมด้วยครับ”แล้วรับฟังอย่างถ่อมตัว ที่จริงแล้วชายชราคนนี้เป็น...วิญญาณกระดานไม้ภาพม้านั่นเองผู้ที่ตั้งใจศึกษา
เรื่องของกระดานไม้ภาพม้าอย่างจริงจังจะได้รับความช่วยเหลือจากชายชราผู้นี้
4. เท็นจิ หรือ เด็กปีศาจ「てんち」 (Tenji) เท็นจิ เป็นปีศาจเด็กที่อาศัยอยู่ในถ้ำของเกาะฮะจิโจ ด้วยความที่อยู่คนเดียวมันจึงเหงาเลยชอบลักพาตัวเด็กเพื่อให้
เป็นเพื่อนเล่นด้วยกันในถ้ำเป็นเวลา 6 วัน พอครบวันที่ 7 คนบนเกาะก็จะไปพบตัวเด็กคนนั้น แล้วพาเด็กคนนั้นกลับไป
ส่งที่บ้านว่ากันว่าเท็นจิในช่วงนั้นจะมีอายุประมาณ 14-15 ปีแล้วผูกเชือกไว้ที่เอวในอดีต เท็นจิเคยปรากฏตัวขึ้นที่กระท่อมของยามเฝ้าภูเขาตอนกลางคืนมันชอบที่จะเล่นหยิกหูยามบ้าง หยิกขาบ้าง
จนบางทียามจะลุกขึ้นมาตะโกนด่าเท็นจิก็จะหายตัวไปพร้อมกับเสียงหัวเราะแหลมสูง
มีอยู่ปีหนึ่งฝนแล้งพื้นแผ่นดินที่เกาะแห้งแตกระแหง ยามเฝ้าภูเขาทำอะไรไม่ได้รอวันอดตายในขณะนั้นเอง
ยามก็ได้ยินเสียงโยนของเข้ามาในห้อง พอเข้าไปดูก็พบว่า มีพวกมะเขือเทศกับองุ่นตกอยู่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น
จึงพนมมือแล้วพูดออกไปว่า
“ขอบคุณ เท็นจิ ที่ช่วยเรา” เท็นจิก็หัวเราะเสียงสูงตอบรับแล้วกลับเขาไปยามคนนี้รอดชีวิตได้ด้วยอาหารที่เท็นจินำมาให้
เท็นจิ คงเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยกันดีของยามาวาราวะ ซึ่งเป็นเด็กที่อาศัยอยู่แถบภูเขา
5. ภูติปลาหมึกคนญี่ปุ่นมีเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวกับ “ความรักของปีศาจ”ที่มาหลงรักมนุษย์ ปีศาจตนนี้ก็เป็นอีกตนที่มาชอบพอกับ
หญิงสาวงามนามว่า “โอฮาเมะ”โดยปีศาจตนนี้ไม่ใช่ปีศาจธรรมดาแต่เป็นปีศาจที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ ก็คือภูติปลาหมึก ใช่!!!เจ้าปีศาจตนนี้เป็นปลาหมึกที่เป็นเทพพิทักษ์ทะเลตนหนึ่งคงมีความคล้ายกับความเชื่อของบ้านเรา
ที่มีพญานาคเป็นเทพปกปักษ์แหล่งน้ำ ภูติปลาหมึกตนนี้ก็เป็นประมาณนั้นมีเรื่องอันเป็นตำนานอยู่ว่า กลาครั้งหนึ่งมีหญิงสาวที่งดงาม นามว่า “โอฮาเมะ”เธอเป็นลูกสาวชาวประมง
หน้าที่ของเธอคือหาหอยไปขายในตลาด แต่เธอต้องสะดุดที่ครั้งเมื่อมีบางสิ่งแอบจ้องมองเธออยู่ทุกครั้ง
เธอก็พบสิ่งที่เธอแอบมองเธอนั้นคือ ปลาหมึกตัวน้อยๆ น่ารักๆเธอก็ทักทายยิ้มให้กับเจ้าปลาหมึก
ทุกวันเข้าเจ้าปลาหมึกตนนี้ก็ไม่ใช่ปลาหมึกธรรมดาๆ แต่เป็นภูติปลาหมึกภูติปีศาจพอใจในตัวโอฮาเมะมาก
จนต่อมาคืนหนึ่งมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นพ่อของโอฮาเมะเปิดประตูเพื่อมาดูว่าแขกผู้มาเยือนในยามวิกาลเช่นนี้
เป็นใครกันปรากฏว่าเป็น “ปลาหมึกยักษ์” ตัวเท่าคนสวมชุดอาภรณ์อย่างอลังการด้วยผ้าเนื้อดีถักด้วยไหมทอง
ผู้เป็นพ่อตกตะลึงในความประหลาดถึงกับทำอะไรไม่ถูก
“ข้ามาดีมิได้มาร้ายแก่ครอบครัวของท่าน”ด้วยความท่าทางมาดีของภูติปลาหมึก พ่อของโอฮาเมะจึงเชิญเข้ามาในบ้าน ภูติปลาหมึกจึงเริ่มจากการเจรจา
สู่ขอโอฮาเมะเป็นเจ้าสาวผู้เป็นพ่อและแม่ไม่ยอม ภูติปลาหมึกกริ้วโกรธจึงประกาศว่า
“หากท่านไม่ยอมให้โอฮาเมะมาเป็นเจ้าสาวของข้าหมู่บ้านแห่งนี้จะพินาศเพราะครอบครัวของท่าน” โอฮาเมะหญิงสาวที่สวยงามดั่งนางฟ้าและมีความเสียสละอย่างยิ่งจึงยอมเป็นเจ้าสาวของภูติปลาหมึกแต่เธอ
มีข้อแม้ว่า ต้องตัดหนวดของตนออก 6 ข้าง ภูติปลาหมึกยอมยินดีทำและสู่ขอเธอด้วยเครื่องเงินทองคำอัญมณีล้ำค่า
ผ้าไหมชั้นดีมอบเป็นสินสอดแก่พ่อแม่ของโอฮาเมะและพาเธอไปอยู่ด้วยกันในปราสาทอันโอ่อ่าใต้ทะเล
เรื่องเล่าเรื่องนี้เป็นตำนานของจังหวัดเอฮิเมะเมืองอิมาบาริ ซึ่งคงไม่ต่างจากนิทานพื้นบ้านอย่างของบ้านเรา
คือเรื่อง “ไกรทอง” อะไรประมาณนั้นมนุษย์เรายังมีกิเลสและจะเอาอะไรกับปีศาจที่มันจะมารักข้ามสายพันธุ์กัน...
อย่างภูติปลาหมึกกับโอฮาเมะคงครองรักกันในปราสาทที่สวยงามของเทพพิทักษ์ทะเลไปตลอดกาลcredit :: kil159357@2th.me