-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เดอะ ไบเบิล จอห์น (The Bible John) ฆาตกรปริศนา Part 2  (อ่าน 686 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18212
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

เดอะ ไบเบิล จอห์น (The Bible John) ฆาตกรปริศนา  Part 2

รายที่ 3 เฮเลน พุตท็อค
 


ในวันช่วงใกล้วันฮัลโลวีน เฮเลน พุตท็อค แม่บ้านเมียทหารอายุ 20 ปีได้ตัดสินใจใช้เวลาช่วงเย็นของวันที่ 30 ตุลาคม 1969
ไปเต้นรำที่บาร์โรว์แลนด์กับเพื่อน สามีของเธออยู่บ้านกับลูกชายสองคนและไม่ได้ห้ามเฮเลย เพียงแต่เตือนภรรยาให้ระมัดระวังตัว
เพราะตอนนี้มีคดีฆาตกรรมต่อเนื่องฆ่าผู้หญิงอาละวาดอยู่ เฮเลนก็รู้ดีหากแต่เธอคิดว่าปลอดภัยเพราะเธอไม่ได้ไปคนเดียว
เพราะเธอไปน้องสาวของเธอด้วย


   เฮเลนแต่งตัวที่ดีที่สุดในเวลานั้น เต้นรำที่บาร์โรว์แลนด์กับเพื่อนกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน ในช่วงเวลาดังกล่าวมีพยานเล่าว่า
เฮเลนถูกชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนหนึ่งจ้องมองเธอโดยเฉพาะ ชนิดว่าไม่คาดสายตาเลยแม้แต่น้อย    ระหว่างนั้นเฮเลนและน้องสาว
ของเธอก็ได้คู่เต้นรำ โดยคู่ของเฮเลนและน้องสาวของเธอต่างชื่อ จอห์น เหมือนกันหมด ซึ่งชื่อจอห์นนั่นเป็นนามแฝง
ของผู้ชายส่วนใหญ่ที่มาเต้นบาร์โรว์แลนด์ ที่ต้องการปกปิดตัวตนจริงๆ โดยเฉพาะจอห์นคู่ของเฮเลนนั้น เป็นคนหล่อ
แต่งกายดี สูงใหญ่ ใครเห็นก็น่าคบหาสมาคมด้วย

   หลังจากทั้งสี่คนเต้นกันจนเหนื่อย จนกระทั้งถึงเวลากลับบ้าน ทั้งจอห์นคู่ของเฮเลนอาสาพาสองสาวนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านด้วยกัน
เมื่อทั้งหมดอยู่ในรถแท็กซี่ ในตอนนั้นจอห์นคู่ของเฮเลนก็มีลักษณะแปลกๆ กล่าวคือเขาเริ่มเล่าว่าตนถูกเลี้ยงดูในครอบครัว
ที่เคร่งศาสนา เข้มงวด  นอกจากนี้เขายังท่องบทสวดพระคัมภีร์ชนิดที่เรียกว่าแตกฉานไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย    นอกจากนี้เขายังบอกว่า
เขารังเกียจคนที่บาร์โรว์แลนด์ในคืนวันพฤหัสบดีนี่จริงๆ เลย ยิ่งพวกผู้หญิงที่ชอบมาเที่ยวทำตัวนอกใจสามีและภรรยาที่บ้าน
ยิ่งเลวชาติชั่วเหลือเกิน เขาขยะแขยงผู้หญิงที่คบชู้สู่ชาย ฯลฯ

   ในเวลานั้นจจอห์นคู่ของเฮเลนน่ากลัวมาก เขาดูเหมือนอารมณ์เสียตลอดเวลา ทำให้คนบนรถเวลานั่นอึดอัดมาก
จนกระทั่งรถแท็กซี่ถึงบ้านน้องสาวของเฮเลนจะลงจากรถ และโบกมือลาพี่สาวของเธอและจอห์น ซึ่งนั่นคือนาทีสุดท้าย
ที่จินนี่เห็นพี่สาวในสภาพมีชีวิตอยู่!!


เช้าวันถัดมามีการพบศพเฮเลนนอนในแถวถนนสายที่ 95 เอิร์ลสตรีต ใกล้บ้านของเธอในสภาพถูกข่มขืนและรัดคอ และข้าวของ
ในกระเป๋าถือของเธอกระจัดกระจายในบริเวณใกล้เคียง แต่กระเป๋าหายไป ชี้เห็นว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่สังหารผู้หญิงสองรายก่อนหน้า
จากสภาพแวดล้อมแสดงให้เห็นว่าเฮเลนได้มีการต่อสู้กับฆาตกร ซึ่งเชื่อว่าฆาตกรน่าจะเป็นคนเดียวกับจอห์นที่อาสาเฮเลนไปส่งที่บ้าน

ตำรวจจำลองสถานการณ์เป็นไปได้ว่าจอห์นกับเฮเลนได้ขอแท็กซี่จอดที่เอิร์ลสตรีท จากนั้นไม่ทันที่จอห์นจะพาเฮเลนไปส่งถึงบ้าน
เขากลับกลายเป็นฆาตกร ทำร้านเฮเลน แต่เฮเลรนพยายามต่อสู้ขัดขืนด้วยการตัดหรือไม่ก็ต่อยดิ้นรนแบบสุดฤทธิ์ แต่จอห์น
ก็ตอบโต้ด้วยการชกเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนอย่างรุนแรง จากนั้นก็กัดเธอจนเป็นแผลอย่างน่ากลัว สุดท้ายมันก็ลากเธอไปตรงทางเข้าแฟลต
กระชากถุงน่องออกแล้วข่มขืนอย่างทารุณเสร็จแล้วก็เอาถุงน่องตวัดรัดคอ

มีพยานเล่าว่าในช่วงเวลาที่เกิดเหตุมีคนเห็นคนที่เชื่อว่าจะเป็นจอห์นอยู่ในสภาพสะบัดสะบอม มีรอยขีดข่วนบนใบหน้าของเขา
ได้ขึ้นรถบัสสาย Sauchiehall Street และเขาถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายในขณะมุ่งหน้าไปทางเรือข้ามฟากประชาชนเพื่อข้าม
แม่น้ำไคลด์ไปทางด้านทิศใต้ของเมือง จากการตรวจสอบสภาพศพของเฮเลนก็พบเรื่องตกใจ เพราะว่าเธอเป็นประจำเดือน
และที่น่าขนลุกคือ ตำรวจพบผ้าอนามัยโชกไปด้วยเลือดประจำเดือน ซุกใส่ใต้รักแร้ของเฮเลน และฆาตกรได้ทิ้งคราบอสุจิ
ของมันทิ้งไว้บนเสื้อของผู้ตายซึ่งเป็นครั้งแรก

 
 
ภาพสเกตไบเบิล จอห์นถูกประกาศติดไปทั่วกลาสโกว์


 
ทั้ง 3 คดีมีความคล้ายคลึงอย่างน่าประหลาด ไม่ว่าจะเป็น 3 ผู้ตกเป็นเหยื่อทั้งหมดได้ใช้เวลาคืนสุดท้ายที่บาร์โรว์แลนด์ บอลรูม,
ทั้งสามถูกรัดด้วยถุงน่องของตัวเอง, ศพของเหยื่อแต่ละคนถูกทิ้งในสถานที่ไม่ไกลจากบ้านขของเหยื่อ, กระเป๋าของทั้งสาม
หายไปจากที่พบศพ (หากเก็บเป็นที่ระลึก และผู้ตายทั้งสามเป็นประจำเดือน


ตำรวจและสื่อมวลชนได้ตั้งชื่อฆาตกรรายนี้ว่า ไบเบิล จอห์น จากคำบอกเล่าของน้องสาวเฮเลนนั้นถือว่าเป็นคำให้การที่
น่าเชื่อถือมากที่สุด โดยภาพสเกตฆาตกรถูกพิมพ์หราบนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์และติดประกาศไปทั่วกลาสโกว์

   ตามคำบอกเล่า ไบเบิล จอห์น เป็นชายอายุ 20-30 ปี สูงราว 5 ฟุต 10 นิ้ว ถึง 6 ฟุต รูปร่างปานกลาง ผมสั้นแดง
หวีปัดไปทางขวา เขามีนัยน์ตาสีฟ้าเทา ฟันขาวเป็นประกาย และมีเขี้ยวที่ริมฝีปากบนด้านซ้าย เป็นคนมีบุคลิกดีมาก
รูปร่างหน้าตาดี  เสื้อสูท มีนาฬิกาข้อมือของเขาแบบที่ทหารในกองทัพใช้กัน และสูบบุหรี่ยี่ห้อแอมบาสซี่ ลักษณะการพูดจา
สุภาพดูเป็นคนมีการศึกษาดีมาก และอาจมาจากความเข้มงวดเคร่งศาสนา เพราะเอ่ยถึงข้อความในไบเบิลดีอย่างไม่มีที่ติ
สำเนียงการพูดเป็นชาวกลาสโกว์แท้ๆ


   อย่างไรก็ตามเวลาผ่านไป ก็ไม่มีเบาะแสใดๆ ว่ามีคนเห็นฆาตกรในใบประกาศแต่อย่างใด บางคนยังสงสัยด้วยซ้ำว่า
น้องสาวเฮเลนอาจจำหน้าฆาตกรคาดเคลื่อน เนื่องจากตอนนั้นมืดอีกทั้งเธอยังเมาเหล้า อีกทั้งมีความเป็นไปได้ไหม
ว่าชายที่เป็นคู่ของเฮเลนในวันนั้นอาจไม่ใช่ฆาตกร หากแต่เป็นคนที่ดักรอฆ่าเฮเลนหลังจากลงรถแท็กซี่ก่อนแล้ว

   ต่อมาจอร์ช สามีของเฮเลน ออกรายการทีวี ขอร้องให้ "ไบเบิล จอห์น" ออกมามอบตัว ส่วนสาธารณชนทั้งหลาย
ก็อยากร่วมมือด้วย ต่างแห่ไปที่กรมตำรวจถึง 4300 ราย บอกว่าจำ "ไบเบิลจอห์น" ในรูปโปรเตอร์ได้ แต่สุดท้าย
ก็ตำรวจก็ไม่สามารถตามจับไบเบิล จอห์นได้เลย เหมือนกับว่าฆาตกรได้หายตัวไปจากเมืองกลาสโกว์อย่างไร้ร่องรอยอย่างงั้น

 
   
แพทริเชีย ด็อคเกอร์


 
   ไม่นานนักตำรวจก็พบผู้ต้องสงสัยคาดว่าจะเป็นไบเบิล จอห์น คือ จอห์น เอ็ม หรือ จอห์น เออร์วีน แม็คอินเนส ซึ่งรูปร่าง
หน้าตาของเขานั้นเหมือนจอห์น ไบเบิลอย่างกับแกะ จากประวัติก็พบว่านิสัยของเขาช่างเหมือนคนที่เฮเลนพบเห็นวันนั้นไม่มีผิด
เขาหย่ากับภรรยา จนเป็นโรคหดหูซึมเศร้าถึงขนาดพยายามฆ๋าตัวตายหลายครั้ง อยู่ในลัทธิเคร่งศาสนา


   เมื่อตำรวจเรียกมาสอบปากคำ ก็พบว่าจอห์น เอ็มนั้นเป็นลูกค้นประจำคนหนึ่งในบาร์โรว์แลนด์ และเป็นชายหนุ่ม
ที่ตรงกับฆาตกร หากแต่ตำรวจไม่มีหลักฐานเอาผิดเขา แม้จะถึงเรียกมาสอบสวน 4 ครั้งแต่ก็หลุดพ้นข้อกล้าวหาทุกครั้ง
จนกระทั่งปี 1980 เขาก็ฆ่าตัวตายด้วยการเอามีดเชือเดรักแร้ของตัวเอง จนเลือดไหลหมดตัวตาย ในขณะอายุ 41 ปี
ศพของเขาถูกฝังในสุสานเซนต์นิเนียส์

   คดีของไบเบิล จอห์นยังคงไขไม่ออก แม้ว่าจะมีการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง หากแต่ก็ยังไม่มีเบาะแสคืบหน้า จนกระทั่ง
ถึงปลายปี 1990 นิติวิทยาศาสตร์มีความเจริญมากขึ้น กลาสโกว์ก็เริ่มพยายามไขปริศนาไบเบิล จอห์นจากแฟ้มคดี
ซึ่งคราวนี้พวกเขาได้เน้นการตรวจสอบดีเอ็นเอที่ได้จากรอยแผลกัดในร่างกายของเฮเลน และน้ำเชื้อที่ได้จากเสื้อผ้าของเธอ
   แน่นอนว่าชื่อของจอห์นเอ็มก็ถูกยกขึ้นมาอีกครั้ง ศพของเขาถูกขุดขึ้นมา เมื่อปี 1996 แม้เขาจะตายไปนานแล้วก็ตาม
และนำดีเอ็นเอมาเปลี่ยนเทียบ แต่สุดท้ายผลออกมาก็สรุปว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับไบเบิล จอห์นแม้แต่น้อย
   

   
ปีเตอร์ โทบิน


 
   เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2004 ไบเบิล จอห์นได้กลับมาเป็นหัวข้อพาดข่าวอีกครั้ง เมื่อตำรวจชีการตรวจสอบดีเอ็นเอสมัยใหม่
มาเปรียบเทียบคนในกลาสโกว์ โดยโฆษกตำรวจกล่าวอย่างมั่นใจว่าวิทยาศาสตร์สมัยใหม่จะสามารถแก้ไขคดีฆาตกรรม
ที่ไขไม่ออกนี้ได้  วันที่ 4 พฤษภาคม 2007 ผลจากการตรวจสอบ พวกเขาก็พบรายชื่อผู้ต้องสงสัยรายใหม่ ปีเตอร์ โทบิน
ที่เชื่อว่าเป็นไบเบิล จอห์น ปีเตอร์ โทบินตอนที่ถูกตำรวจจับนั้นเขาอายุปาไป 61 ปีไปแล้ว  และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
ในคดีข่มขืนและฆาตกรรมต่อเนื่องผู้หญิงสามคน และสุดท้ายมาพลาดท่าในปี 2006 จากคดีสังหาร Angelika Kluk ในกลาสโกว์
 และมีการพบซากโรงกระดูกของผู้หญิงสองคนที่หายไปในปี 1991 ในบ้านเก่าของเขาที่เคยอาศัยอยู่ในมาร์เกท 
ซึ่งหากโทบินเป็นไบเบิล จอห์นตัวจริง ในวันที่เกิดคดีเขาน่าจะมีอายุประมาณ 22 ปีเศษ


โทบินเกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 1946 เป็นบุตรคนเล็กของพี่น้องเจ็ดคนและฐานะยากจน ผ่านการแต่งงานมาสามครั้ง
และทั้งหมดหย่าขาด จากนั้นในปี 1993 เขาก็ทำร้ายและข่มขืนผู้หญิงอายุ 14 ปีสองคน และพยายามฆ่า หากแต่สองคน
รอดชีวิตมาได้ และเขาก็ถูกจับในขณะที่เขาปลอมตัวทำงานในนิกายแห่งหนึ่งในโคเวนทรีในชื่อปลอม และถูกตัดสินจำคุก 14 ปี
จนกระทั่งปี 2004 เขาออกมาสู่โลกภายนอก



ในเดือนกันยายน 2006 โทบินได้ทำงานในโบสถ์ของนิกายโณมันคาทอลิก เซนต์แพทริกในกลาสโกว์ ในชื่อปลอมเพื่อหลีกเลี่ยง
ในการตรวจสอบประวัติต้องโทษ และเขาก็ยังคงก่อคดีข่มขืนและทำร้ายร่างกายต่อเนื่อง  ซึ่งเวลานั้นเองเขาได้สังหาร
Angelika Kluk นักเรียนอายุ 23 ปีจากโปแลนด์ที่เขามาโบสถ์แพทริก เขาลักพาตัวขึ้นบนรถ ทำร้าย ข่มขืน และแทงร่าง
ของเธอและซ่อนในห้องใต้ดินใกล้กับห้องรับสารภาพในโบสถ์ ตำรวจพบร่างของเธอเมื่อ 29 กันยายน หลังจากนั้นไม่นาน
และต่อมาเชาถูกถูกจับกุมในลอนดอนในระหว่างเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลภายใต้ชื่อปลอม และต่อมาบ้านเก่าของเขาในมาร์เกท 
ก็มีการค้นพบร่างของเหยื่อเสียชีวิตอีกสองคน คนแรกเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 15 ปี ที่มีคนพบเห็นเธอครั้งสุดท้ายในปี 1991
และอีกคนเป็นเด็กสาวอายุ 18 ปี

ตามรายงาน มีหลายฝ่ายเชื่อว่าโทบินคือไบเบิล จอห์นตัวจริง เพราะมีความคล้ายคลึงระหว่างภาพโทบินตอนยังหนุ่ม
ในระหว่างคดีที่เกิดเหตุและภาพสเกตของไบเบิลจอห์นว่าเหมือนกันมาก ในช่วงเกิดเหตุโทบินก็ย้ายมาอยู่กลาสโกว์ในปี 1969
หลังจากแต่งงานกับภรรยาคนแรกซึ่งเขาได้พบเธอที่บาร์โรว์แลนด์ บอลล์รูม ปีเดียวที่ไบเบิล จอห์นก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องครั้งแรกพอดี
จากคำกล่าวอ้างของอดีตภรรยาของเขาบอกว่าโทบินนั้นมีแรงผลักดันใช้ความรุนแรงหากพบว่าภรรยาของเขามีประจำเดือน
อีกทั้งเขายังเป็นพวกเคร่งศาสนาซึ่งน่าจะเป็นแรงจูงใจในการก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องก็ได้ หากเขาเป็นไบเบิล จอห์นตัวจริง




และที่น่าสนใจก็คือจากการสอบถามผู้ที่ตกเป็นเหยื่อข่มขืนของโทบิน พบว่าพวกเธอถูกข่มขืนโดยโทบินหลังจากที่พบเขา
ในบาร์โรว์แลนด์ บอลล์รูม นอกจากนี้ยังมีคนสันนิษฐานอีกว่าความจริงแล้วเหยื่อของไบเบิล จอห์น(ที่เชื่อว่าเป็นปีเตอร์โทบิน)
นั้นอาจจะมีมากกว่าสามคน นอกจากนี้ยังมีเหยื่อที่ถูกปีเตอร์ โทบินข่มขืน ซึ่งลักษณะการข่มขืนนั้นช่างละม้ายคล้ายกับวิธีของไบเบิล จอห์น

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าปีเตอร์โทบินนั้นเป็นไบเบิล จอห์นตัวจริงหรือเปล่า แม้ว่าจะมีความคล้ายคลึงกัน
แต่นั้นก็ไม่ใช่หลักฐานมัดตัว อีกทั้งตัวอย่างดีเอ็นเอที่ตรวจสอบนั้นมีความเสื่อมสภาพลงไปมากเนื่องจากการเก็บรักษาไม่ดี
ทำให้หลักฐานที่มัดตัวว่าเขาเป็นไบเบิล จอห์นไม่ดีพอ ส่วนตัวปีเตอร์ โรบินเองก็ปฏิเสธตลอดว่าเขาไม่ใช่ จอห์น ไบเบิล
ฆาตกรรมต่อเนื่องที่กลาสโกว์ ทำให้คดีฆาตกรรมต่อเนื่องดังกล่าวยังไม่สามารถถูกไขกระจ่างจนถึงปัจจุบัน


credit :: cammy@dek-d.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 กรกฎาคม 2014, 14:11:39 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่