ตอบในส่วนที่ช่วยได้นะครับ
1. หนังสือนั้นมีผลทำได้ครับ แต่ถ้าคุณไปแจ้งเรื่องว่าเป็นการปลอมแปลงลายเซ็นจะทำให้หนังสือเป็นโมฆะ แล้วแม่คุณจะถูกแจ้งข้อหาปลอมแปลงเอกสาร เป็นคดีอาญานะครับ
2. ตามทางปฏิบัติก็ทำได้เช่นกัน แต่อยู่ที่คนต่อไปว่าเขาจะรับไว้ไหม โฉนดถือไปก็เท่านั้นตราบใดที่ไม่มีการทำสัญญาพ่วงเพิ่มว่าจะยึดได้หากผู้ที่นำโฉนดมาค้ำประกันเบี้ยวหนี้ หรือผ่อนไม่ไหว หรือไม่ครบตามกำหนดไรงี้ ซึ่งถ้าไปจำนำกับแบงค์ ผมว่ายากนะ จนทเขาต้องสืบที่มาอยู่แล้ว ละยิ่งมารู้ว่าชื่อมันยังเป็นของคุณอยู่นี่เขาไม่เอาหรอกครับ เสียเวลาทำเรื่องเยอะมาก
3. อยู่ที่สัญญากู้เงินของแม่คุณแล้วว่าเขียนว่าอย่างไร แต่ถ้านับตามกฎหมายสัญญานี่ผิดตั้งแต่ที่มีการปลอมลายเซ็นแล้วครับ ถ้าเกิดฝ่ายไหนไปแจ้งเรื่องปลอมเอกสารมานี่ ฝั่งแม่คุณจะเสียเปรียบมากเพราะเจอข้อหาปลอมเอกสารค้ำไว้อยู่ แต่คุณอาจแย้งได้ว่าอีกฝ่ายรู้ว่าปลอมแต่ยังรับไว้ แสดงว่ามีเจตนาแอบแฝง แต่ผมมองว่าก็เท่านั้นครับเพราะถ้าอีกฝ่ายเขาเล่นลิ้น ยืนกระต่ายขาเดียวบอกไม่รู้ๆ คุณก็จะเถียงไม่ขึ้นอยู่ดี
4. แนะนำไปคุยประนีประนอมหนี้ครับ ถามรอบนี่เอาให้ชัดว่าเงินต้นเท่าไร จะเอาดอกเท่าไร จะผ่อนกี่เดือนอะไรก็ว่ากันไป รอบนี้หากตกลงกันได้ขอให้ทำสัญญาจ่ายเงินคืนให้ครบครับ เขียนให้ชัดเลย
ผมไม่ใช่ทนายหรืออัยการครับ แต่ผมชอบอ่านหนังสือทางนี้มา เลยลองมาตอบเท่าที่พอทราบครับ ถ้าให้ดีแนะนำลองไปถามที่พันทิพเพิ่มเติมก็ไม่น่าเสียหาย