-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เทพในตำนานเคลติก : L-M  (อ่าน 1152 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18212
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
เทพในตำนานเคลติก : L-M
« เมื่อ: 28 เมษายน 2017, 13:43:38 »

Celtic Gods and Goddesses : L-M
credit :: BeelzeBufo@dek-d

Lady of the Lake (Welsh, Cornish, Breton)

เลดี้แห่งทะเลสาบ  อาจจะรวมถึงแม่น้ำ หนองน้ำ อะไรเทือกนี้ด้วย ที่เรียกรวมๆว่าเลดี้นั้น
เนื่องจากเธอคนนี้มีหลากหลายชื่อตามแต่ละท้องถิ่น


 
เลดี้ที่เด่นๆก็ได้แก่ เลดี้ผู้พิทักษ์ดาบเอกซ์คาลิเบอร์ (Excalibur) ผู้มอบให้กษัตริย์อาเธอร์และเอากลับคืนเมื่อตอนท้ายเรื่อง
ชื่อของเลดี้ผู้นี่น่าจะมีสองหรืออาจจะสามชื่อ ชื่อแรกคือ นิมีแอ (Nimue) ชื่อนี้เป็นชื่อที่ใช้เรียกเลดี้แห่งทะเลสาบโดยเฉพาะ
เธอเป็นผู้พ่ายแพ้หรืออาจจะเป็นผู้แทนที่เมอร์ลินในศาลของอาเธอร์ ชื่อที่สองคือ นิเนเว (Nineve) ดูเหมือนว่าชื่อเลดี้คนนี้
จะใกล้เคียงกับผู้พิทักษ์ดาบเอกซ์คาลิเบอร์มากที่สุด แต่ชื่อของเธอและบุคลิกของเธอกลับเปลี่ยนแปลงไปตามนิมูเอซะนี่
แถมเธอยังถูกฆ่าด้วยน้ำมือเซอร์บาลิน (Balin) อีกต่างหาก และชื่อสุดท้ายคือชื่อ วิเวียน (Viviane) เป็นชื่อเลดี้แห่งทะเลสาบ
ของฝรั่งเศส ชื่อนี้อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับดาบเอกซ์คาลิเบอร์ก็เป็นได้ 



ยังมีเลดี้ที่ไม่มีชื่ออีกคน บ้างว่าเป็นแฟรี่ในร่างมนุษย์ บ้างว่าเป็นเทพีแห่งชีวิต ความตาย และการฟื้นฟู ชาวเบรอตง (Breton
ใช้เรียกชาวบริตานี หรืออังกฤษและฝรั่งเศสโบราณ) อ้างว่านอกจากในตำนานเอเบิล (กษัตริย์อาเธอร์) แล้วเลดี้คนนี้ไม่เคยปรากฎ
ในตำนานของเวลส์ดั้งเดิมเลย ตรงกันข้ามกับในตำนาน "sword in the churchyard stone" ในเวอร์ชั่นเบรอตงเล่าว่า
อาเธอร์กับเมอร์ลินขี่ม้าไปกลางทะเลสาบโดสมารี่ (Dosmary) ในคอร์นวอล และดาบเอกซ์คาลิเบอร์ก็ถูกปักเอาไว้บนหิน
กลางน้ำต่อหน้าต่อตาพวกเขา เมื่ออาเธอร์ดึงดาบออกมาได้ เขาไม่ได้ฉลองพิธีแบบยิ่งใหญ่แต่กลับแบ่งแยกชายหญิง
(เช่น ชายต้องเป็นนักรบ หญิงต้องเป็นแม่บ้าน) ซึ่งหลักการนี้สิ้นสุดลงเมื่อกษัตริย์อาเธอร์ตาย



เชื่อว่าเลดี้แห่งทเลสาบเป็นแม่อุปถัมภ์ของเซอร์ลานสล็อต (Sir Lancelot) หนึ่งในอัศวินของอาเธอร์ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในตำนาน
ของเบรอตงด้วยเธอมักถูกบรรยายว่า เป็นสตรีนักอยู่บนบรรลังก์ต้นกกใจกลางส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลสาบ รายล้อมตัวเธอ
เต็มไปด้วยลวดลายวงเวทย์ที่ใช้รักษา
 


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Latis (Anglo-Celtic)

ลาทิส เทพีผู้เกี่ยวข้องกับน้ำ เธอเคยเป็นเทพีแห้งทะเลสาบมาก่อนที่จะมาเป็นเทพีแห่งเบียร์และทุ่งหญ้า หลักฐานการเคารพ
บูชาเธอยังคงมีอยู่ที่ Birdsowald ประเทศอังกฤษ


 
ลาทิส ตกหลุมรักแชลมอนหนุ่ม แต่น่าเศร้าที่ทั้งสองรักกันไม่ได้ เทพตนอื่นๆสงสารจึงเสกให้แซลมอนตัวนี้กลายเป็นนักรบ
แต่มีข้อแม้ว่าทุกฤดูหนาวจะต้องกลับไปเป็นแซลมอนดั่งเดิมและกลายเป็นนักรบอีกครั้งเมื่อฤดูใบไม้ผลิ  (แซลมอน เป็นสัตว์
สัญลักษณ์แสดงถึงความรู้) และเรื่องของแซลมอนนี้ก็ตรงกับเทพเก่าแก่ที่ว่ากันว่าจะตายในหน้าหนาว (วันซัมเฮน)
และเกิดใหม่ฤดูใบไม้ผลิ (วันเบลเทน)


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess LeFay (Welsh, Cornish)



เลฟาย เทพีแห่งท้องทะเล และเทพีแห่งเกาะอวาลอน (the Isle of Avalon)เธอรักษาผู้คนได้เยี่ยมสุดๆ หากใครได้ดื่มน้ำ
ที่เทพีเลฟายให้พรไว้แล้วละก็ จะหายจากโรคภัยเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว

นักวิชาการหลายคนถกเถียงกันว่า "Fay" ในชื่อของเธอนั้นมาจากคำว่าอะไร อาจจะเป็น faery (นางฟ้า) หรือ fate (โชคชะตา)
หรืออาจจะผสมกลมกลืนกับทั้งสองคำนี้ก็เป็นได้




++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
God Leucetios (Continental)

ลูซิเทียส (Leucetius) เทพแห่งสายฟ้าและพายุ ตรงกับเทพทอร์ (Thor) ของนอร์ส




++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God Litavis (Breton)

ลีทาวิส เทพแห่งโรงตีเหล็ก ใกล้เคียงกับเทพวัลแคนของโรม ดูเพิ่มเติม : กอยเบี๊ยน (Goibniu เทพ G-H-I ตนที่ 2 ครับ)


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God Llevelys (Welsh, Cornish, Breton)

เซเวลิส (Llefellys) บุตรชายของเบลิ (Beli) เซเวลิสเป็นผู้ปกครองบริตตานี(บางข้อมูลว่าปกครอง กอล) ดินแดนที่ถูกสาป
ด้วยภัยพิบัติสามอย่าง อย่างแรกคือเสียงกรีดร้องจากการต่อสู้ของสองมังกรทุกวัน May Eve (ก่อนพฤษภาคม)
อย่างที่สองคือการหายไปของอาวุธและเสบียงอาหารจากท้องพระโรงในทุกๆคืน และอย่างสุดท้ายคือการแข่งขันสุดหฤโหด
ของอมนุษย์ที่เรียกว่าคอรันเดียน (Corandian)



เซเวลิส และซิด (Llud) น้องชาย ได้ช่วยกันคิดวิธีหยุดคำสาบร้ายเหล่านี้ พวกเขาให้มังกรดื่ม มี๊ด (Meade ไวน์รสน้ำผึ้ง)
จนเมาไม่มีแรงจะสู้กัน ปล่อยแมงพิษให้พวกคอรันเดียนกิน และค้นพบชื่อของแม่มดที่ขโมยของจากท้องพระโรง
(ชื่อมีความสำคัญมาก ถ้ารู้ชื่อเหมือนรู้จุดอ่อนอะไรประมาณนั้นนะครับ)



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


 
God Llew (Welsh)

ซิว หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Llew Llaw Gyffes (ซิว เซา เกอเฟส)" ที่แปลว่า "ซิวช่างฝีมือ" บางครั้งก็สะกดว่า "Lley Gwalchmei
(เซย กวาวช์เมย)" ซิวมีชื่อเล่นๆว่า "Falcon of May" หรือ "เหยี่ยวแห่งพฤษภาคม" ซิวเป็นบุตรชายของอาเรียนรอด (Arianrhod)
กับกุยดิออน (Gwyddion) [บางที่มาบอกว่าเป็นอาเรียนรอดกับแมธ (Math)] เรื่องราวของซิวถูกบันทึกไว้ในมาบิโนเจียน (mabinogion)
ตำนานที่สำคัญของซิวมีความจริงที่ว่า แม่ของเขาไม่ยอมตั้งชื่อให้และไม่ให้มีชื่อ สาปให้ซิวแต่งงานกับใครไม่ได้ และเขาจะตายได้
ก็ต่อเมื่อถูกฆ่าเท่านั้น ซึ่งวิธีฆ่าเขาก็เป็นความลับ



ซิว เป็นนักธนูผู้เก่งกาจ ซึ่งทักษะด้านการยิงธนูนั้นถือเป็นสิ่งที่มีค่าของชาวเคลท์  อาเรียนรอดใช้สิทธิ์ความเป็นแม่ไม่ให้ซิวใช้ชื่อ
แต่สุดท้ายก็โดนหลอกให้ตั้งชื่อจนได้ สำหรับชาวเคลท์แล้วการไม่มีชื่อถือเป็นสิ่งที่น่าหวาดหวั่นมากที่สุด เพราะชื่อจะเทียบเท่า
กับจิตวิญญาณและความมีตัวตนของคนนั้นๆ และนี่ก็เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำไมเหล่าเพเก้นยังคงเก็บชื่อของศาสตร์ต่างๆเอาไว้เป็น
ความลับจนปัจจุบัน

พ่อกับลุงของซิว กุยดิออนและแมธ ได้สร้างบลอเดเวธ (Blodeuwedd) ให้มาเป็นภรรยาของซิว แต่บลอเดเวธดันไปหลงรัก
กรอนูว (Gronw) และหาวิธีฆ่าซิว โดยการหลอกล่อและถามหาวิธีจากซิว ซึ่งวิธีการฆ่าซิวก็คือ ใช้หอกที่ใช้เวลาสร้างร่วมแรมปี
เป็นอาวุธ และต้องฆ่าซิวขณะที่ซิวอยู่ใต้หลังคา เพิ่งอาบน้ำเสร็จ และขาข้างหนึ่งพักอยู่บนหลังแพะ
 
หลังจากที่บลอเดเวธและกรอนูวฆ่าซิวด้วยวิธีดังกล่าวสำเร็จ ซิวก็กลายเป็นอินทรีและบินลับหายไป คนที่ช่วยซิวเอาไว้ก็คือพ่อของเขา
กุยดิออน ตามตำนานของเคลติกคนที่ตายแล้ววิญญาณจะกลายเป็นนก ผู้คนบูชาซิวในเคลติกกอล (Celtic Gaul) ผู้คนทั่วไป
คิดว่าเขาเหมือนเทพผู้โด่งดังของไอริช ลักฮ์ (Lugh)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God Llud (Anglo-Celtic, Welsh)



ซิด ลูกของเบลิ เป็นเทพแห่งความตายด้วยสิทธิ์ของตนเอง (ไม่ได้มีใครตั้งให้ หรือคิดว่าเป็นอย่างนั้น) ซิดปกครองเคลติกในบริเทน
ส่วนเซเวลิสพี่ชายของซิดปกครองเคลติกกอล ซิดและเซเวลิสช่วยกันแก้ภัยพิบัติในกอลได้ (ดูเพิ่มที่ข้อมูลเซเวลิสด้านบนนะครับ)
 
ซิด มีชื่อเล่นว่า "Llawereint the Silver-handed" หรือ "ซาแวเรน มือเงิน" ซิดเทียบเท่ากับนูอาด้า (Nuada) ในตำนานของไอร์แลนด์
 วิหารของซิดตั้งอยู่บริเวณ St. Paul's Cathedral ในลอนดอนใกล้กลับลัดเกท (Ludgate) ภายหลังผู้คนเรียกซิดกันว่า เทเมซิด (Tamesis)
ในฐานะของเทพแห่งแม่น้ำเทมส์
 
ชื่ออื่นๆ : ซิด Lludd, ลิด Ludd,  นิดา Nuda, นิด Nudd

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God Llyr (Pan-Celtic)



เซอร์ สะกด Lir (เลียร์) ในไอร์แลนด์ แต่รู้จักดีกว่าในชื่อเวลส์ เซอร์เป็นเทพแห่งท้องทะเลและเป็นพ่อของมานันนาน (Mannanan)
เทพแห่งท้องทะเลเช่นกัน ส่วนใหญ่ผู้คนรู้จักลูกดีกว่าพ่อ เซอร์มีภรรยาหลายคน ทั้ง Iweriadd, Penardun, Aebh, และ Aife
ลูกสี่คนของ Aebh เป็นส่วนหนึ่งของนิทานพื้นบ้าน "Four Sorrows of Erin"

คิดว่าเซอร์นี่แหละที่เป็นต้นแบบของกษัตริย์เลียร์ของเช็คสเปียร์ (Shakespeare's King Lear)


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God Lugh (Pan-Celtic)

ลักฮ์ (ความจริงอ่านว่า "ลุก" ครับ แต่ผมใช่คำว่า "ลัก" ไปหลายตอนแล้ว จะแก้ก็กระไรอยู่ =3=)

นี่คือชื่อทั้งหมดของลักฮ์ครับ Llugh; Luga; Lamhfada [lavada - of the Long Arm]; Llew; Lug; Lugus;
Lug Samildanach (many skilled); Lleu Llaw Gyffes ("bright one of the skillful hand"); Lleu; Lugos

ลักฮ์มีฉายาเยอะมากๆ ทั้ง ผู้เปร่งประกาย ผู้มีความสามารถ ผู้มีผมบลอนด์ ขาวหรือเจิดจรัส เทพแห่งดวงอาทิตย์
เทพสงคราม และเทพวีรบุรุษ ลักฮ์เป็นบุตรของคิอาน (Cian) กับ เอธนิว (Ethniu) 



เทศกาลเก็บเกี่ยวลุกนาซาด (Lughnassadh) เป็นงานเลี้ยงฉลองให้แก่ลักฮ์  ลักฮ์มีความเชื่อมโยงกับอีกา สัญลักษณ์ของเขาคือ
"กวางสีขาว" ในเวลส์ อาวุธประจำตัวของลักฮ์คือ "หอกและเชือกวิเศษ" หนึ่งในสุนัขล่าเนื้อของลักฮ์ได้รับมาจากลูกหลานของ
ทูอิเรน (Tuirenn) บางครั้งก็เรียกลักฮ์กันว่า "ซัมฮิออดานานาช (Samhioldananach)" ที่หมายถึง "ศาสตร์แห่งศิลป์ทั้งปวง"

บางครั้งก็ว่าลักฮ์มีตาเดียว เขาอาจเป็นบรรพบุรุษของโวตันในเยอรมัน (the Germanic Wotan) และโอดิน (the Norse Odin)
ลักฮ์เป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ แสง และการเก็บเกี่ยวเมล็ดข้าว ผู้ได้รับการเคารพนับถือในงานลุกนาซาด ลักฮ์เหมือนกับบรีด (Brid)
ตรงที่เป็นเทพผู้มากด้วยความสามารถและทักษะมากมายและชอบแปลงเป็นมนุษย์ปะปนอยู่กับพวกดรูอิดที่เคารพตน นอกจากนี้
ผู้คนยังเคารพลักฮ์ในฐานะเทพแห่งไฟ โลหะ งานหัตถกรรม การถักทอ และผู้ปกป้องคนอ่อนแอ
 
ผู้คนรู้จักลักฮ์ในฉายาว่า "Lugh of the Long Arm" เขาเป็นผู้ฆ่าเบเลอร์ (Balor) ปู่ของตนในสงครามแห่งมอยทูร่า
ลักฮ์เปรียบได้กับ "Zeus" ของเคลติก ต้นแบบจริงๆของเขาน่าจะมาจากสุริยเทพและถูกบิดเบือนไปต่างๆนานาทั้งรูปลักษณ์
หรือแม้แต่ชื่อ บางคนเรียกเขาว่า "Ildanach" ผู้ทำนาย บ้างเรียกว่า "Maicnia" นักรบน้อย



นักวิชาการบางคนเชื่อว่าลักฮ์เป็นกษัตริย์ของเผ่าฟอมอเรี่ยนที่ถูกเลี้ยงดูโดยเหล่าทูเอธา เด ดอนนานน์และชาวเคลท์ จะเห็นได้ว่า
ในสงครามแห่งมอยทูร่าลักฮ์อยู่ฝ่ายเยวกับทูเอธา เด ดอนนานน์ และต่อสู้กับฟอมอเรียน แม้ลักฮ์จะดูเป็นเทพ แต่เชื้อสายครึ่งหนึ่ง
ของเขาเป็นมนุษย์ เชื่อว่าพ่อของลักฮ์เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเราๆ ดังนั้นลักฮ์จึงเปรียบเป็นสะพานระหว่างโลกมนุษย์และโลกของเทพ
 
รูปปั้นของลักฮ์ปรากฎให้เห็นในหลายที่ด้วยกัน เป็นเทพที่มีคนรู้จักมากที่สุกสำหรับเคลติกเลยก็เป็นได้ ลักฮ์เปรียบเทียบได้
กับอพอลโล่ของกรีก
     
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God Mabon (Welsh)

มาโบน หรือ มาพอนอส (maponos)หรือ มาพอนัส (Maponus)
 
ชื่อของมาโบนมีความหมายว่า "great son" หรือ "บุตรผู้ยิ่งใหญ่" มาโบนเป็นลูกของมอเดรด (Modred, Modron) ชื่อของเธอ
มีความหมายว่า "great mother" หรือ "มารดาผู้ยิ่งใหญ่" มาโบนถูกลักพาตัวไปตั้งแต่อายุเพียง 3 ขวบ แต่ภายหลังกษัตริย์อาเธอร์
ช่วยออกมาได้


 
ตำนานของมาโบนอาจเรียกได้ว่าทับซ้อนกับตำนานของกวุน แอป นูแอด (Gwyn Ap Nuad ดูเพิ่มเติมในเทพ : G-H-I ได้ครับ)
ไม่แน่ว่าทั้งสองคือเทพตนเดียวกัน มาโบนมักจะขี่ม้าป่า และเป็นผู้ปกครองสุนัขนักล่า ครั้งหนึ่งมาโบนอาจเคยเป็นผู้ปกครองเวลส์
ที่แท้จริงก็เป็นได้
 
มาโบนยังเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ด้วย เมื่อครั้งที่ยังไม่ได้แสดงพลังด้านมืด รูปลักษณ์ของมาโบนอยู่เหนือช่วงชีวิตของเทพตนอื่นๆ
(คือแก่ช้า ประมาณนี้) เขาเป็นราชาแห่งความตายและโลกต่าง เป็นเทพแห่งการเก็บเกี่ยวและความอุดมสมบูรณ์ ครั้งหนึ่งผู้คน
เคยเรียกเขาว่า "พระเจ้าแห่งความเยาว์" เขาแสดงให้เห็นถึงชายหนุ่มผู้บริสุทธิเมื่อตอนเป็นหนุ่มและเทพผู้เสียสละเมื่อตนอายุมากขึ้น
รูปลักษณ์ของเขาเชื่อมโยงกับชนชั้นของสัตว์ศักดิ์สิทธิ รูปลักษณ์ของเขาอาจหายไปเมื่อตอนที่เขาถูกรวมด้วยการขับไล่และควบคุม
ของพายุและความมืด


 
บางประเพณีของชาวเคลท์ก็มองว่าเขาเป็นเทพตนแรก เป็นชีวิตแรกที่ออกมาจากมดลูกของพระเจ้า แองโกล-โรมัน (Anglo-Romans)
รู้จักเขาในชื่อมาพอนอส (maponos) บางครั้งก็เรียกเขาว่า masculine Persephone หรือ Celtic Dionysus เพราะความเกี่ยวข้อง
กับการเก็บเกี่ยวองุ่น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
Goddess Magog (Anglo-Celtic)

มาก๊อก ภรรยาของก๊อก (Gog) ทั้งคู่เป็นเทพแห่งภูเขาสองลูก ซึ่งเธอได้รับความสำคัญมากกว่าก๊อก หุบเขาเมก (Megg) ในอังกฤษ
ก็เอามาจากชื่อของเธอ อีกทั้งหุบเขาหลายลูกยังสลักรูปเธอเอาไว้ ส่วนใหญ่มักสลักเป็นรูปผู้หญิงมีหน้าอกสี่ข้าง(เฮ้ย!?) นั่งคร่อมบนหลังม้า
บางคนคาดว่าชื่อของเธอมีความหมายว่า "เทพมารดร" ดังนั้นจึงเชื่อกันว่าครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และมารดา
ตอนนี้เธอคือ เซนต์มากาเร็ต (St. Margaret) ของอังกฤษ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God MacKay (Scottish)

ตำนานแมคเคย์ เป็นเรื่องราวเก่าแก่ของเทพแห่งไฟ แมคเคย์ (Mackay) เป็นหัวหน้าเผ่าแมคเคย์ (MacKay) ผู้นำไฟมาสู่สก็อตแลนด์
และเป็นผู้ที่สามารถจับแฟรี่แห่งแสงตัวน้อย ที่เรียกกันว่า "will o' the wisp" ซึ่งมนุษย์ไม่มีทางจับได้


 
แมคเคย์ บังเอิญได้เห็นแฟรี่แห่งแสงเต้นรำกันบนเส้นฟ้า จึงเกิดความคิดที่ว่า ถ้าจับแฟรี่เหล่านั้นได้ละก็ครอบครัวของเขาคงไม่ต้องลำบาก
ในการจุดไฟอีกต่อไป ดังนั้นแล้วเขาจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อจับแฟรี่แห่งแสงให้ได้ และแล้วก็ทำสำเร็จ แมคเคย์จับแสงศักดิ์สิทธิเหล่านั้น
ได้และนำไฟมาสู่สก็อตแลนด์ เรื่องนี้สร้างความโกรธแค้นให้แก่เหล่าแฟรี่เป็นอย่างมาก พวกหล่อนจึงสาบานว่าจะหยอกล้อมนุษย์ด้วยแสง
ของพวกหล่อนตลอดไป และไม่มีวันที่มนุษย์จะจับพวกหล่อนได้อีกเป็นครั้งที่สอง
 
คำจำกัดความของตระกูลแมคเคย์ในทุกวันนี้ก็คือ "Sons of Fire" หรือ "บุตรแห่งไฟ"


ตระกูลแมคเคย์

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
Goddess Mala Liath (Scottish)

มาลา ลีอา (เขียน Mala Liath อ่าน Mah-lah Lee-ah /มาฮ์ลาฮ์ ลีอาห์/ ) อีกชื่อของคอยลีค (Cailleach
ดูเพิ่มเติมเทพ : C ตนแรกครับ) เรียกกันทางตอนใต้ของสก็อตแลนด์ เธอเป็นจ่าฝูงของหมูป่าแห่งเกลน แกลส
(wild boar of Glen Glass) เธอมักจะถูกเทียบกับแครีดเวน (Cerridwen)



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God Mannanan (Irish, Manx, Welsh)

มันนานาน หรือ มานันนาน (Manannan) ชื่ออื่นๆ ได้แก่ มันนานาน แมคลี (Mannanan MacLir) และ ออยบ์เซน (Oirbsen)
 
มันนานาน เป็นเทพแห่งท้องทะเล มีรูปร่างเหมือนกิ้งก่า ซึ่ง Isle of Man เป็นผู้ตั้งชื่อให้ มันนานานเป็นลูกของเซอร์ (Llyr)
เทพแห่งท้องทะเลเช่นกัน เขามักจะอยู่ในร่างมนุษย์จำแลง สวมเสื้อคลุมสีเขียว คาดศีรษะด้วยที่คาดผมทองคำ


 
อ่าวไคลด์ในเกาะอารัน (Isle of Arran in Firth of Clyde) และ เกาะมนุษย์ (Isle of Man) ล้วนอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของ
มันนานาน ที่เกาะอารันมีปราสาทของมันนานานที่เรียกว่า Emhain of the Apple Trees อยู่ หมูของมันนานานเป็นอาหารเลี้ยง
เหล่าทูเอธา เด ดอนนานน์ ซึ่งหมูของมันนานานจะเกิดใหม่เองได้ตลอดเวลา ทั้งยังทำให้เหล่าทูเอธาไม่แก่ลงอีกด้วย
 
มันนานานมีอาวุธที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หอกคู่ ที่เรียกกันว่า  Yellow Shaft(ด้ามเหลือง) และ Red Javelin(หอกแดง)
หรือจะเป็นดาบแห่งความแค้น 3 เล่ม ที่เรียกกันว่า The Retaliator(ผู้แก้แค้น), Great Fury(โกรธเกรี้ยว), และ Little Fury(โกรธ)
ทั้งยังมีอาวุธเวทย์ที่ช่วยป้องกันการบาดเจ็บและช่วยเหล่าทูเอธาให้ล่องหนได้ตามปรารถนา

[/url]

นอกจากนี้เขายังมีเรือที่แล่นได้เองที่มีชื่อว่า "Wave Sweeper" หรือ "ผู้กวาดคลื่น" และม้าตัวโปรดที่เรียกกันว่า "Splendid Mane"
หรือ "แผงคออันสง่างาม"(เหมือนกับเทพของอารยันหลายตน มันนานานเองก็มีความเกี่ยวข้องกับม้า) สมบัติล้ำค่าของมันนานาน
คือกระเป๋ากระเรียน (Crane-Bag) เขาใส่สมบัติทั้งหมดของเขาไว้ในนี้ รวมทั้งภาษาต่างๆด้วย
 
ทุกๆ 33 ปีมันนานานจะเข้าร่วมงานเลี้ยงของอายุหรือ "Feast of Age" เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนที่กินอาหารในงานเลี้ยงจะไม่แก่ขึ้นอีกเลย



แต่ก่อนมันนานานไม่ได้เป็นเทพที่โด่งดังเลย จนกระทั่งชาวเคลท์ได้พาคนจำนวนมากไปที่ทะเลและสัมผัสได้ถึงอำนาจของท้องทะเล
แต่อำนาจทางท้องทะเลของชาวเคลท์ก็ถูกชาวโรมันทำลาย จากที่มันนานานเคยเป็นเทพแห่งมหาสมุทรก็กลายเป็นเพียงเทพน้ำที่มีความ
เกี่ยวข้องกับเวลส์และไอริชแค่นั้น ส่วนเทพแห่งมหาสมุทรก็กลายเป็นของเนปจูนแต่เพียงผู้เดียว (Neptune ตรงกับ Poseidon ของกรีก)
ครั้งหนึ่งชาวเคลท์เคยใช้มันนานานเป็นตัวแม่แบบของเทพน้ำทั้งหมดซึ่งบางเรื่องก็ขัดแย้งไม่สมเหตุสมผลกับความสามารถของมันนานาน

สาเหตุที่โลกของแฟรี่และโลกมนุษย์ไม่สามารถข้องเกี่ยวกันได้อีกเป็นฝีมือของมันนานานทั้งสิ้น เนื่องจากฟาน (Fand) ภรรยาของเขา
ดันไปตกหลุมรักคูชูลัน (Cuchulain) ทั้งๆที่อีกฝ่ายเป็นมนุษย์ จึงเกิดคำสั่งเด็ดขาดของมันนานานว่า

"โลกของภูตและโลกมนุษย์ควรแยกออกจากกันตลอดกาล"

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God Mandred (Cornish)

แมนเดรด ในตำนานแบบคอร์นิช (Cornish ภาษาหนึ่งในบริเทน) แมนเดรด คือชื่อจริงของพระเจ้าซึ่งหากใครเรียกจะได้รับพลังทั้งหมด
ของพระเจ้าไป ตำนานนี้ตรงกับตำนานของยิวและอาหรับ ซึ่งทั้งยิวและอาหรับจะพยายามไม่เรียกชื่อจริงของเทพเพราะกลัวพลังอันมหาศาล
ของเทพจะถูกปลดปล่อยออกมา


ตรงวงกลมสีแดง คือบริเวณที่ใช้ภาษาคอร์นิชครับ
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God Maponos (British)

มาพอนอส เจ้าแห่งเสียงเพลงและดนตรี นับถือกันในยุคที่โรมันกำลังครองอังกฤษ มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า มาโบน (Mabon)



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
Goddess Marcia Proba (Anglo-Celtic)



มาร์เซียโพรบา เทพีของอังกฤษ ชื่อโรมันของเธอมีความหมายว่า "long march" หรือ "เดินทัพทางไกล" เธอเป็นราชินีนักรบ
ที่อาศัยอยู่ในช่วง 3 ศตวรรษก่อนคริสตกาล กฏของเธอที่เรียกว่าบทบัญญัติมาร์เชี่ยน (Marcian Statutes) เหมือนกับกฏเบรฮอน
(Brehon Laws) ของไอร์แลนด์ ตรงที่ให้ความยุติธรรมและเท่าเทียมกับสตรีเพศ นักวิชาการจำนวนหนึ่งเรียกร้องให้ใช้กฎหมายนี้
ในรัฐธรรมนูญ เพราะฉบับใหม่เพิกเฉยสถานะของสตรี

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
Goddess Margause (Welsh, British)

มาเกาเซ (สะกดแบบอื่น : Morgause) เทพีแห่งมารดา ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ มอร์แกน เลฟาย (Morgan LeFay)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God Math Ap Mathonwy (Welsh)

แมธ แอป มัธธอนูว (แมธ บุตรแห่งมัธธอนูว) ต้นแบบจอมเวทย์จากมาบิโนเจียน (Mabinogion) ราชาแห่งกวินเน อาณาจักรเคิมริก
(Gwynedd, a Cymric kingdom) ทางตอนเหนือของเวลส์ เขาเป็นผู้รอบรู้แห่งบริเทน ไม่ว่าจะเป็นสูตรคำนวณเก่าแก่ การใช้เวทย์มนต์
หรือแม้แต่ความรู้ที่มากมายเกินกว่าจะวัดค่าได้ ล้วนเป็นสิ่งที่คิดค้นโดยแมธ


 
ด้วยความที่แมธเป็นพี่น้องกับดานู จึงมีบางครั้งที่เห็นเขาปกครองโลกต่าง แมธเป็นลุงของซิว (Llew) เป็นคนที่คอยช่วยเหลือกุยดิออน
(Gwyddion) เรื่องภรรยาของซิว ชื่อของแมธมีความหมายว่า "เหรียญ" หรือ "เงินทอง" ซึ่งในตำนานเขาเป็นเทพผู้นำความร่ำรวยมาสู่เวลส์
และเป็นครั้งแรกที่เทพนำสุกรมาสู่โลก เป็นความเชื่อของชาวเคลท์ที่ว่าทั้งสุกรและความร่ำรวยนั้นเป็นสิ่งที่มีต้นกำเนิดอยู่ในโลกต่าง
ซึ่งมีแต่ผู้นำเท่านั้นที่จะสามารถนำติดตัวออกมาได้  แมธ มีหูที่ดีมากถึงขนาดที่ว่าแค่เสียงผ่านลมเบาเขาก็ได้ยินแล้ว

แมธ จะไม่สามารถปกครองประชาชนได้หากเท้าไม่ได้วางอยู่บนตักของราชินี (เหมือนกับราชาทั่วๆไปของเคลติกน่ะนะ) มีครั้งหนึ่งที่ราชินี
ถูกลักพาตัว เป็นผลให้แมธต้องลงจากบรรลังก์ แล้วเขาก็ได้กลับขึ้นบรรลังก์อีกครั้งเมื่อพบตัวราชินี

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God Mathonwy (Welsh)

มัธธอนูว เทพบิดร  ภายหลังกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเทพีดานู (บางที่มาก็ว่าเป็นสามี) ในตำนานดั้งเดิมมัธธอนูวจะคู่กับดานูเสมอ มัธธอนูว
จะเสียสละเพื่อคนของพวกเขาด้วยความตายในฤดูใบไม้ร่วง และจะถือกำเนิดขึ้นใหม่เป็นเทพีดานูในกลางฤดูหนาว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
Goddess Melusine (Breton, Scottish)



เมลูซีน (เมล-อู-ซีน) หรืออ่านอีกแบบ เมลซูลีน (Melsuline) ในงานเขียนของ Rabelais นักเขียนชาวฝรั่งเศส เธอเป็นเทพีงูผู้มอบความรู้
เธอเป็นลูกสาวของกษัตริย์สก๊อตแลนด์นาม เอลินัส (Elinas) และแฟรี่สาวชาวเบรอตงนาม เพรสซีน หรือ เพรสซิน่า (Pressine, Pressina)
 
เมื่อพ่อของเธอ กษัตริย์เอลินัส รู้ความจริงที่ว่าแม่ของเธอเป็นแฟรี่ ก็ได้เนรเทศแม่ของเธอพร้อมกับเธอและน้องสาวอีกสองคน ด้วยความ
เจ็บแค้นเมลูซีนกับน้องสาวทั้งสองจึงแก้แค้นบิดาของตนด้วยการขังไว้ในเทือกเขาบรันเดบอยส์ (Brandebois) โดยเมลูซีนเป็นผู้นำ
ในการกระทำครั้งนี้ เมื่อแม่ของเธอรู้เรื่องเข้าก็ตกใจในความชั่วร้ายของเมลูซีน จึงสาบให้ทุกวันเสาร์ร่างกายท่อนล่างของเธอจะกลายเป็นงู


 
เมลูซีนแต่งงานและให้กำเนิดบุตรชายสามคน โดยที่ให้เงื่อนไขกับสามีว่าห้ามถามเธอเด็ดขาดว่าทุกวันเสาร์เธอหายไปไหน แต่ความลับนี้
ก็ไม่อาจปกปิดได้ตลอดไป สามีของเธอรู้จนได้ว่าที่เธอต้องหายไปเพราะร่างกายท่อนล่างจะกลายเป็นงูในวันเสาร์ เมื่อโดนล่วงรู้ความจริงนี้
เมลูซีนก็สยายปีกออกบินหนีไป ทิ้งบุตรชายทั้งสามของเธอเอาไว้ด้วยความโศกเศร้า
 
เมลูซีนและน้องสาวทั้งสอง เมเลีย (Melior) กับ พาลาตินา (Palatina) เป็นทริพลิสิท (Triplicit) หรือสามพี่น้องที่จะขาดคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้
สามพี่น้องครับ ตรงกลางคือเมลูซีน รูปนี่มาจากโบสถ์ St-Pierre de Bessuéjouls

เพิ่มเติมครับ

มีข้อมูลที่น่าสนใจและน่าตกใจเล็กน้อยครับ นั่นคือมีร้านกาแฟชื่อดังที่ใช้ "เมลูซีน" เป็นสัญลักษณ์การค้าครับ เป็นร้านดังที่ทั่วโลกรู้จักกันดี
อย่างแน่นอน แต่นแต๊น!!  สตาร์บัก นั่นเอง



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 
God Melwas (Cornish)

เมลวาซ หรือ เรียกว่า เมเลียแกนท์ (Meleagant) ในมหากาพย์ของเบรอตง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะรู้จักเขาในตำนานของกษัตริย์อาเธอรซะมากกว่า
เมลวาชเป็นเทพแห่งความมืดผู้รอคอยเวลามานานนับปีเพื่อจะจับกวินนิเวียร์ (แฟนอาเธอร์) ไปอยู่ที่อวาลอน บางตำนานบอกว่าเมลวาชลักพาตัว
ตามคำสั่งของมอเดรด (Mordred) หลานของอาเธอร์
 
คนอื่นๆมักเรียกเขาว่า เทพแห่งซัมเมอร์แลนด์ (Summerland เป็นอีกชื่อที่สวยหรูเพราะพริ้งสำหรับคำว่า Otherworld)




++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
God Moccus (Breton, Continental)

มอคคัส เทพหมูแห่งเสาหินยุโรป เขาอาจจะเป็นเทพหมูในแบบผู้ชาย หรืออาจจะเป็นสามีของเทพีแครีดเวน (Cerridwen)เทพีหมู
มอคคัสมีวันฉลองของตัวเองด้วยในเคลติกกอล



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
Goddess Modron (Welsh)

มอ-ดรอน ชื่อของเธอมีความหมายว่า "เทพมารดร" มักจะสับสนกับเทพีมาทรอนา (Matrona) ของโรมัน เธอเป็นผู้ปกครองเมือง Marne ในกอล
(เมืองนี้ปัจจุบันอยู่ตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส) ในอังกฤษเธอปรากฎเป็นหญิงซักผ้า และมักเชื่อมกับมอริแกน (Morrigan)



เธอเป็นเทพมารดรที่มีอำนาจมากที่สุด นอกจากนี้เธอยังเป็นเทพีแห่งการเก็บเกี่ยวและความอุดมสมบูรณ์ มักจะเทียบกับเทพีเกเมเตอร์
ของกรีกหรือเทพีดานูของไอร์แลนด์ (Greece's Demeter or Ireland's Danu)
 
เธอเป็นแม่ของมาโบน (Mabon) ซึ่งมาบอนถูกลักพาตัวไปหลังจากคลอดเพียงสามวันเท่านั้นแต่สุดท้ายก็ได้รับการช่วยเหลือโดยกษัตริย์อาเธอร์
 
ชื่ออื่นๆ : Modred

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 

Goddess Morgan LeFay (Welsh)

มอร์แกน เลฟาย เทพีแห่งความตายของเวลส์ บางครั้งก็เรียกเธอว่า "Morgan the Fate" หรือ "มอร์แกนแห่งโชคชะตา"
 
ว่ากันว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเธออยู่ที่ กลามอร์แกน (Glamorgan) ในเวลส์ เธอสามารถร่ายคำสาปแห่งความย่อยยับให้ใครก็ได้ กาเวน
หนึ่งในอัศวินโต๊ะกลมได้วาดสัญลักษณ์ของมอร์แกนไว้บนโล่สีแดงเลือดของเขา ราวกับจะประกาศกับศัตรูว่าถ้ากลัวคำสาปของมอร์แกน
ละก็จงถอยไป



มอร์แกน เลฟาย เป็นลูกสาวของเลฟาย ( LeFay) เทพีแห่งท้องทะเล ทั้งยังเป็นพี่น้องต่างมารดากับกษัตริย์อาเธอร์ ครั้งหนึ่งเธอ
เคยเป็นเทพแห่ง กลัสตัน บูรี ทอร์ (Glastonbury Tor) ประตูแห่งโลกต่าง
 
รากศัพท์ของคำว่า "mor" ในชื่อของเธอมีความหมายว่า "ทะเล" และเธอเองก็เป็นเทพีแห่งท้องทะเล ผู้คุมหน้าด่านของโลกต่าง
ใครอยากไปโลกต่างก็ต้องผ่านเธอไปให้ได้เสียก่อน ในบริตตานีเรียกพวกผีทะเลที่คอยคร่าชีวิตของลูกเรือว่ามอร์แกนตามชื่อของเธอ

ทุกวันนี้ว่ากันว่าเธอเป็นร่างอวตารของ มอริแกน (Morrigan) ไอริชวัลคิรี มอร์แกนมีบทบาทสำคัญแต่คลุมเครือในตำนานเอเบิล (กษัตริย์อาเธอร์)
เธอเป็นนักเวทย์ผู้เก่งกาจและญาติสนิทของอาเธอร์ เธอมักจะคิดอะไรตรงข้ามกับอาเธอร์เสมอ และพร้อมจะฉุดเขาลงเสมอเมื่อมีโอกาส
แต่เมื่ออาเธอร์บาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจขยับตัวไปไหน กลับเป็นมอร์แกนที่อยู่ข้างกายและพาเขาไปยังอวาลอน เพื่อให้เขาพักผ่อนและ
รอเวลาที่เขาจะเป็นที่ต้องการอีกครั้ง
 
ในฐานะที่เธอเป็นเทพีแห่งกษัตริย์ เธอช่วยให้อัศวินเขียวล้มล้างอาณาจักรคาเมลอท (Camelot)
ชื่อเบรอตงของเธอคือ Morgause

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 

Goddess Morgay (Scottish, Anglo-Celtic)

มอร์เก เทพีแห่งการเก็บเกี่ยวในชายแดนของอังกฤษและสก็อตแลนด์




++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
Goddess Morrigan (Pan-Celtic)



มอริแกน (สะกดอื่นๆ : Morrigu) เธอมีฉายามากมาย ทั้ง "Great Queen ราชินีผู้ยิ่งใหญ่" "Supreme War Goddess สุดยอดเทพีแห่งสงคราม"
"Queen of Phantoms or Demons ราชินีแห่งปิศาจ" และ  "Specter Queen ราชินีแห่งอสุรกาย" เธอจะปรากฎตัวในทุกสนามรบ เธอไม่ควร
ร่วมต่อสู้แต่เพียงช่วยเหลือเล็กๆน้อยด้วยเวทมนต์ของเธอ ในด้านเทพแล้วเธอเป็นเทพีแห่งมารดร ดวงจันทร์ เทพีสีขาว และราชินีของเหล่าแฟรี่

ส่วนในด้านมืดนั้นเธอมีสัญลักษณ์คืออีกาหรือกาเหว่า เธอเป็นเทพีแห่งสงคราม โชคชะตา และความตาย เธอมักจะถือหอกเต็มทั้งสองมืออยู่เสมอ
และเธอชอบแฝงตัวอยู่กับซากอีกาเวลาสงคราม เธอมักจะปล่อย นีเมียน แบด์บ และมาชา (Nemain (Venomous), Badb (Fury),
Macha (Battle)) ลงสนามรบเพื่อสนับสนุนและเพื่อความบ้าคลั่งให้สงครามรุนแรงขึ้น  นอกจากนี้เธอยังเป็นเทพีแห่งแม่น้ำ ทะเลสาบ
และน้ำใสสะอาด อีกทั้งยังเป็นเทพีผู้อุปถัมภ์เหล่านักบวชและนักเวทย์อีกด้วย เธอเป็นเทพีแห่งการแก้แค้น ความมืด เวทมนต์และคำทำนาย


 
มอริแกนมีความเกี่ยวพันกับสัญลักษณ์ม้า ซึ่งม้าเป็นสัญลักษณ์ไปทางตะวันออกอย่างเอเชีย บางทีก็เทียบเธอกับเอโพน่า (Epona เทพม้า)
เหมือนกับเทพเคลท์ตนอื่นๆมอริแกนเป็นเทพีผู้มีอำนาจเหนือไอร์แลนด์ ซึ่งมีอำนาจมากกว่าเทพของเผ่าต่างๆเพราะเธอคือส่วนหนึ่งของ
แผ่นดินที่แท้จริง
 
ชาวเคลท์เชื่อว่าในระหว่างสงคราม มอริแกนจะอยู่ในร่างกาเหว่าหรือซากอีกาบินเหนือพวกเขาและส่งเสียงหวีดสูง เรียกเจ้าของร่างนักรบ
ที่ถูกฆ่าสู่สนามรบในรูปผีน่ากลัว เมื่อสงครามจบลงเหล่านักรบจะออกจากสนามรบจนกว่าจะเช้า เพื่อให้มอริแกนได้เรียกร้องรางวัลของ
พวกเขาจากหัวหน้า ซึ่งเรียกสิ่งนี้ว่า "the Morrigan's acorn crop" หรือ "ต้นโอ๊คของมอริแกน"



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
Goddess Muireartach (Irish, Scottish)

มุยเรียแทช เทพีแห่งการต่อสู้ มักจะเกี่ยวข้องกับมอริแกน ชื่อของเธอหมายถึง "ทะเลตะวันออก" เธอเป็นต้นตอของพายุในทะเลระหว่างไอร์แลนด์
กับสก็อตแลนด์ คิดกันว่าหน้าตาของเธอข้างหนึ่งเป็นสีดำอีกข้างสีฟ้า มีตาเดียว และร่างกายเป็นกระดูก
 
ทุกวันนี้จะใช้ชื่อเธอเรียกเผ่าพันธุ์แฟรี่ทะเลผู้น่ารังเกียจทั้งหมด นักรบฟิอานกล่าวว่า มุยเรียแทชจะบินข้ามทะเลและมาต่อสู้เคียงข้างกับพวกเขา



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
Goddess Murigen (Irish, Scottish, Manx)

มูริเกน เทพีแห่งทะเลสาบ มีความเกี่ยวข้องกับตำนานน้ำท่วมโลก


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
God Mullo (Breton, Continental)

มัลโล เทพอุปถัมภ์ของเกวียน เขามีความเกี่ยวข้องกับลา และเทพมารส์ของโรมัน


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 
God Myrddin Wyllt (Welsh)

เมอร์ลิน วุ้ยช์ เทพแห่งป่า ผู้ปลูกขนสัตว์ไปทั่ว เพื่อเขาจะได้โดดไปมาจากต้นไม้หนึ่งสู่อีกต้นได้
เทียบได้กับเทพ Suibhne ของไอร์แลนด์


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

CREDIT : http://www.joellessacredgrove.com/Celtic/deitiesl-m.html     
              http://www.pantheon.org/areas/mythology/europe/celtic/articles.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 เมษายน 2017, 15:46:23 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

Mild123123

  • ว๊องแมน
  • *
  • กระทู้: 6
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เทพในตำนานเคลติก : L-M
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2017, 08:40:32 »

ขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยค่ะ lowwww
Sbobet

น้ำขิง

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 462
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เทพในตำนานเคลติก : L-M
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2017, 22:53:02 »

มีเทพีแห่งเบียร์ด้วย เพิ่งรู้นะเนี่ย