-->

ผู้เขียน หัวข้อ: วริโคลาคัส แวมไพร์ในตำนานกรีก  (อ่าน 828 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18236
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
วริโคลาคัส แวมไพร์ในตำนานกรีก
« เมื่อ: 23 มิถุนายน 2017, 12:47:47 »

วริโคลาคัส แวมไพร์ในตำนานกรีก
credit::BeelzeBufo@dek-d


"วริโคลาคัส" อาจเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูเท่าไหร่นัก เนื่องจากทุกวันนี้อะไรที่เป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกผีดูดเลือด
เราก็จับยัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของ "แวมไพร์" ไปเสียหมด โดยเรียกสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นว่าเป็น


"vampiric creatures" (สิ่งมีชีวิตจำพวกแวมไพร์)
 
ซึ่งภาพยนตร์ นิยาย หรือสื่อต่างๆ ก็นำเอาตำนานพวกนี้มาประสมปนเปไปหมด จนเกิดความสับสนว่าแวมไพร์
ในความความเชื่อจริงๆแล้วเป็นอย่างไร ดังนั้นครั้งนี้ผมจึงหยิบยก "วริโคลาคัส" หนึ่งในตำนานผีดูดเลือดที่
ถูกรวมเข้ากับแวมไพร์ ขึ้นมาเล่าสู่กันฟังครับ

 
Vampire



ก่อนอื่นก็ควรจะให้คำจำกัดความของแวมไพร์กันเสียหน่อย แวมไพร์ เป็นตำนานที่เล่าขานกันมากในยุโรปยุคกลาง
เป็นสิ่งมีชีวิตอมตะผู้ดื่มกินเลือดของมนุษย์เป็นอาหาร เป็นผีผู้ฟื้นคืนจากความตาย ถูกสังหารได้ด้วยการตอก"ลิ่ม"
พ่ายแพ้ให้กับแสงอาทิตย์และไม้กางเขน

 
โดยคำว่า "แวมไพร์" ถูกบันทึกครั้งแรกช่วงต้นศตวรรษที่ 18 (1734) ซึ่งในปีต่อๆมามีผู้คนมากมายนำเรื่องของ
แวมไพร์มาเสริมเติมแต่ง จนในช่วงศตวรรษที่ 19 แวมไพร์ก็เป็นที่รู้จักในร่างมนุษย์หน้าตาดี มีเขี้ยวยาว ผิวซีด
ตาแข็งกร้าว ออกหาเหยื่อในเวลากลางคืน ยึดติดกับคนรักของตัวเองและมักหาเหยื่อเป็นเพศตรงข้าม ป้องกัน
ได้ด้วยการพกกระเทียมติดตัว


 
ด้วยความเชื่อที่มากขึ้นจึงมีช่วงหนึ่งซึ่งผู้คนทำการออกล่าแวมไพร์ (เหมือนกับช่วงที่ออกล่าแม่มด แบบนั้นเลยครับ)
โดยจะตรวจดูตามหลุมศพ หากพบว่ามีโอกาสจะเป็นแวมไพร์ก็จะตอกลิ่มลงไปที่ปากหรือหัวใจของศพ ซึ่งผู้คนมี
ความเชื่อว่าแวมไพร์จะออกล่าเหยื่อและกลับมานอนที่โลงศพของตัวเองทุกวันเสาร์ จึงเป็นเหตุให้ผู้คนมักออกล่า
แวมไพร์ในวันเสาร์
 
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่ว่าแวมไพร์สามารถกลายร่างได้ เช่น แปลงเป็นค้างคาว ซึ่งความเชื่อนี้เกิดขึ้นหลังจาก
รวมตำนานผีดูเลือดอื่นๆเข้ากับตระกูลแวมไพร์ (กลายเป็นว่าหลังๆมานี้ แวมไพร์มีความสามารถแบบพวกมนุษย์หมาป่า
หรือ ไลแคนท์ บางคนก็จับยัดแวมไพร์เข้าเป็นหนึ่งในพวก lycanthropy หรือพวกมนุษย์กลายร่างได้)
 



Blood drinking


 
มาพูดถึงความเชื่อเรื่องการดื่มกินเลือดมนุษย์อีกสักนิดกันก่อนนะครับ ความเชื่อนี้ถือว่าเก่าแก่มากๆ โดยมีความเชื่อว่า
การดื่มกินเลือดมนุษย์เป็นการกระทำของภูตผีปิศาจหรือเทพเจ้า

 
เรื่องเล่าตำนานเกี่ยวกับการดื่มเลือดมนุษย์มีก่อนหน้าการถือกำเนิดของ แวมไพร์ เสียอีก ว่ากันว่าเรื่องการดื่มเลือดมนุษย์นี้
เกิดขึ้นครั้งแรกในเปอร์เซีย เป็นเรื่องเล่าของปิศาจร้ายที่คอยดื่มเลือดของบุรุษ ซึ่งคล้ายกับเรื่องเล่าของบาบิโลเนียนและอัสซีเรีย
ที่มีเทพีลิลิตู (Lilitu) ที่จะขอเครื่องสังเวยเป็นชีวิตของเด็กทารก เนื่องจากเธอชอบเลือดของเด็กๆ

ในอินเดียก็มีตำนานที่กษัตริย์วิครามาดิทยา (Vikramāditya) ออกล่าวิญญาณร้ายที่มาดื่มกินเลือดมนุษย์ตอนกลางคืน
ตำนานของยิวเองก็มีเรื่องของ เอสทรี่ (Estries) ปิศาจสาวผู้ออกล่าในตอนกลางคืนเพื่อดื่มเลือดของเหยื่อ
(เรื่องนี้ถูกบันทึกไว้ในปีค.ศ. 1465)

 
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ ชตริก้า (Shtriga) กับ สตริกอย (Strigoi) ในโรมันเนียด้วย ชตริก้า เป็นแม่มดผู้ออกดื่มเลือด
ของทารกในยามค่ำคืน เมื่อดื่มเสร็จก็จะกลายร่างเป็นแมลงบินหนีไป ถ้าเป็นผู้ชายจะเรียกว่า ชตริกู (shtrigu หรือ ชตริกัน shtrigan)
ส่วนสตริกอยเป็นผีร้ายที่มาจากคนตายหรือบางทีก็เป็นมนุษย์ที่มีเวทมนต์ในการแปลงร่างและล่องหน ดำรงชีวิตด้วยการดื่มเลือดมนุษย์
 
เรื่องในตำนานกรีกก็มีเรื่องของนกสตริกซ์ (Strix) นกฮูกแห่งความเจ็บป่วย ที่ต้องให้อาหารด้วยเลือดเนื้อของมนุษย์
รวมทั้งเรื่องที่ผมจะนำมาเล่าในครั้งนี้ "วริโคลาคัส" (เข้าเรื่องเสียที เกริ่นมายาวมาก ฮ่าๆ)



Vrykolakas



วริโคลาคัส ชื่อนี้ถูกบันทึกไว้ในศตวรรษที่ 17 เป็นผีดูดเลือดในตำนานพื้นบ้านของกรีก โดยชื่อ วริโคลาคัส
มีรากศัพท์มาจากภาษาสลาวิก ความหมายดั้งเดิมของมันคือ "werewolf" หรือ "มนุษย์หมาป่า"


ซึ่งในช่วงศตวรรษที่ 18 Pitton de Tournefort นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสก็ได้เขียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์หมาป่าขึ้น
โดยใช้ชื่อว่า "วริโคลาคัส" เช่นกัน (ซึ่งตอนนั้น "werewolf" แปลออกมาได้ว่า "bug-bears" หรือ "bogey"
ที่มีความหมายว่า "ภูตผีปิศาจ" อันเป็นเหตุให้จัดมนุษย์หมาป่าอยู่ในหมวดผีประเภทหนึ่ง)


ต่อมา "วริโคลาคัส" ก็ถูกใช้แทนคำว่า "แวมไพร์" ในแถบตะวันตกของเซอร์เบีย บอสเนีย เฮอร์เซโอวีเนีย และ มอนเตเนโกร
(ตะวันออกของเซอร์เบียกับบัลกาเรียยังเรียกว่า แวมไพร์ อยู่) ทำให้ตำนานของมนุษย์หมาป่าและผีดูดเลือดรวมเข้าเป็น
หนึ่งเดียวในชื่อ "วริโคลาคัส"


 
แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดปัจจุบันนี้จึงใช้คำนี้แทน "สิ่งมีชีวิตจำพวกแวมไพร์" เพียงความหมายเดียว อาจเป็นเพราะไม่ค่อยมี
ใครพูดถึง วริโคลาคัส ในเชิงมนุษย์หมาป่าแล้วกระมัง แต่ก็มีเรียกมนุษย์หมาป่าด้วยคำในรากศัพท์เดียวกันอยู่เช่น
volkodlak เป็นต้น
(อนึ่ง ในภาษาสันสกฤต วริกะ = หมาป่า)


ตำนาน

ในความเชื่อของกรีกแล้วผู้คนที่ตายโดยไม่ผ่านการประกอบพิธีศพอย่างถูกต้อง หรือตอนที่มีชีวิตอยู่ลบหลู่ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
หรือคนที่เคยกินเนื้อแกะที่ถูกหมาป่าหรือมนุษย์หมาป่ากัดมาก่อน เมื่อตายไปจะกลายเป็น "วริโคลาคัส" ซึ่งบางคนก็เชื่อกันว่า
มนุษย์หมาป่าที่ถูกสังหารจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่เป็นวริโคลาคัสหรือแวมไพร์ที่มีพลังมาก และยังคงรูปลักษณ์ของหมาป่า
เอาไว้บ้างเช่นกรงเล็บ ดวงตา

 
วริโคลาคัสตามบันทึกมีรูปร่างไม่ต่างจากแวมไพร์ตามตำนานอื่นๆ เพิ่มเติมก็ตรงที่มีตาสีเทา และผมสีแดง ที่คาดว่าน่าจะ
แดงจากเลือดของเหยื่อมากกว่าจะเป็นสีผม เพราะวริโคลาคัสมักไม่ค่อยปรากฎแบบดูดี ส่วนใหญ่จะมาแบบเลือดโชก
ยืนเคาะอยู่หน้าประตูบ้าน (ฮ่า)


 
ตามความเชื่อของกรีกแล้ววริโคลาคัสจะมาเคาะประตูบ้านตอนกลางคืนซึ่งจะเคาะเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ใครที่เปิดประตู
ให้จะกลายเป็นวริโคลาคัสคนต่อไป ดังนั้นในความเชื่อของกรีกเวลาเคาะประตูบ้าน จะเคาะสองครั้งเสมอ เพื่อให้รู้ว่า
นี่คนนะไม่ใช่ผีดูดเลือด!

 
วริโคลาคัสต่างจากแวมไพร์ตรงที่มีความอดทนในการไม่ดื่มเลือดได้นานกว่า (เพราะไม่รู้รสเลือด ในขณะที่แวมไพร์รู้ว่า
เลือดอร่อยจึงมีความอยากมากกว่า) และจะกลับโลงศพของตัวเองเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ใช่แค่ในวันเสาร์อย่างเดียว
ทำให้ดูผิวเผินแล้วไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไป ก็มีเรื่องเล่านึงในศตวรรษที่ 19 เล่าว่า

"สามีตกงานกลุ้มใจเลยออกไปดื่มเหล้าแล้วกลับมาบ้านดึกดื่นทุกวัน ภรรยาก็เป็นห่วงวันหนึ่งเลยตามไป
ดูก็พบสามีตัวเองได้ผูกคอตายใต้ต้นไม้ หลังจากนั้นด้วยความเศร้าเธอจึงปิดขังตัวเองอยู่ในบ้านไม่เข้า
ไปในหมู่บ้านอีก มีข่าวลือว่าคืนหนึ่งสามีเธอมาเคาะประตูบ้านบอกให้เธอเย็บรองเท้าให้หน่อย รองเท้าเขาขาด
ภรรยากลัวมากเพราะเห็นกับตาว่าสามีตายไปแล้ว แต่ก็เปิดให้สามีเข้ามา หลังจากนั้นทุกๆคืนสามีก็มาเคาะที่บ้าน
มากินข้าวมื้อดึกทุกคืน และกลับไปในตอนรุ่งสาง"




วริโคลาคัสเป็นแวมไพร์ที่ตายยาก วิธีสังหารคือตัดคอหรือสับเป็นชิ้นๆหรือจะเผาทั้งเป็น ซึ่งมีโอกาสทำได้ยาก
เพราะขึ้นชื่อว่าแวมไพร์อย่างไรก็มีพลังมากกว่ามนุษย์อยู่ดี วิธีที่ปลอดภัยคือเขียนขี้ผึ้งไว้บนศพ (ที่ปากหรือที่อื่นๆก็ได้)
เป็นรูปไม้กางเขน พร้อมสักคำว่า "Jesus Christ saves" ลงไป เท่านี้ก็ป้องกันการฟื้นคืนชีพได้แล้ว หรือจะด้วยการ
ประกอบพิธีศพปกติ อย่างการใส่เหรียญไว้ในปาก แปะไว้ที่ตา หรือการเผาศพตามพิธีก็สามารถป้องกันการฟื้นคืนชีพ
ได้ด้วยเช่นกัน


 
CITATION
 
http://fantasy-faction.com/2013/fantastical-creatures-of-greco-roman-
mythology-the-vrykolakas
https://authorlyngibson.wordpress.com/2013/09/20/the-vrykolakas-a-
greek-vampire-legend/
https://en.wikipedia.org/wiki/Vrykolakas
https://en.wikipedia.org/wiki/Vampire
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มิถุนายน 2017, 11:04:33 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

น้ำขิง

  • เด็กหัดเสียว
  • **
  • กระทู้: 462
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: วริโคลาคัส แวมไพร์ในตำนานกรีก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2017, 22:32:06 »

แวมไพร์ทำไมถึงกัดแต่ที่คอ กัดที่อื่นบ้างสิ