-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุสังหาร โรนัลด์ เรแกน การลอบสังหารพิสูจน์รักแท้ แบบนี้ก็ได้เหรอ..?  (อ่าน 521 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18210
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

เหตุสังหาร โรนัลด์ เรแกน การลอบสังหารพิสูจน์รักแท้ แบบนี้ก็ได้เหรอ..?



โรนัลด์ เรแกน (Ronald Wilson Reagan)
 
ข้าพเจ้าเองก็มิได้ตระหนักว่าตัวเองถูกยิง ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังเมื่อเราเดินออกมากันจากโรงแรม
และบ่ายหน้าไปยังรถลีมูซีน และข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงดัง ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่ามันเป็นเสียงประทัด
ชั่วพริบตานั้นเองเจ้าหน้าที่ที่อยู่เบื้องหน้าของข้าพเจ้า ได้จับข้าพเจ้าไว้ที่เอวจนแน่นและรุนหลัง
ข้าพเจ้าไปยังรถที่จอดอยู่อย่างรวดเร็ว

เมื่อข้าพเจ้าทรุดนั่งลงเบาะ เบาะนั้นก็ถูกเอนลงและเจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งได้คล่อมตัวบังข้าพเจ้าไว้ซึ่งนั่งลง
บนเบาะ เบาะนั้นก็ถูกเอนลงและเจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งได้คร่อมตัวบังข้าพเจ้าไว้ซึ่งเป็นวิธีการของพวกเขา
เพื่อแน่ใจว่าตัวของข้าพเจ้าได้รับการปกป้องทั้งหมด ข้าพเจ้ารับรู้ในภายหลังว่าข้าพเจ้าถูกยิงขณะที่
กำลังถูกผลักเข้าไปนั่งในรถนั่นเอง
กระสุนแล่นเข้าใต้แขนถูกซี่โครงอันหนึ่งและนั่นทำให้ข้าพเจ้า
เจ็บปวดอย่างมาก กระสุนนัดนั้นฝังตัวอยู่ต่ำจากหัวใจของข้าพเจ้าเพียงนิ้วเดียวเท่านั้น”




โรนัลด์ เรแกน (Ronald Wilson Reagan) เป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาคนที่ 40 (ค.ศ. 1981-ค.ศ. 1989)
สังกัดพรรครีพับลิกัน เคยเป็นนักแสดงหนังแอ็คชันคาวบอย ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียคนที่ 33
และประธานาธิบดีคนที่ 40 ของสหรัฐฯ เรแกนเป็นอดีตประธานาธิบดีที่มีอายุยืนที่สุด เป็นประธานาธิบดีที่อายุมากที่สุด
เมื่อได้รับเลือก (69 ปี 349 วัน) เป็นประธานาธิบดีคนเดียวที่เคยหย่าร้างเมื่อได้รับเลือก และเป็นประธานาธิบดี
คนเดียวที่แต่งงานกับหญิงมีครรภ์


ผลงานระหว่างที่เป็นประธานาธิบดีนั้น เรแกนมีส่วนให้สหรัฐ กลายเป็นประเทศมหาอำนาจจนถึงทุกวันนี้ หลังจากที่
ภาพลักษณ์ประเทศตกต่ำไปหลายปีภายใต้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต และมีส่วน
ในการยุติสงครามเย็นและการล่มสลายโลกคอมมัวนิสต์อีกด้วย

แม้ว่าเขาจะเป็นที่นิยมชมชอบของชาวอเมริกันเพียงไร เรแกน ก็หวิดสิ้นชื่อจากการถูกลอบสังหารในปี ค.ศ.1981
ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีนั่นเอง นอกจากนี้สาเหตุการลอบสังหารก็ไม่เกี่ยวข้อง
อะไรกับตัวเขาโดยตรงเลย เพียงแต่มือสังหารเป็นแค่คนบ้าและหลงรักดาราสาวคนหนึ่ง เลยตัดสินใจกระทำเช่นนี้
เพื่อให้ดึงความสนใจเธอเท่านั้น นอกจากนี้วิธีการลอบสังหารของมือสังหารนั้นถูกจัดอันดับว่าเป็นการลอบสังหาร
ที่บ้าระห่ำที่สุดในประวัติศาสตร์

   
ในเวลาบ่ายสองโมงครึ่งของวันที่ 30 มีนาคม 1981 ในบ่ายของต้นฤดูใบไม้ผลิอันสดใส ประธานาธิบดีเรแกนกำลัง
เดินออกจากโรงแรมฮิลตันในกรุงวอชิงตัน ดีซี พร้อมด้วยบรรดาบอดี้การ์ดนับสิบ ทันใดนั้นจอห์น ฮิงค์ลีย์กำลังยืน
ปะปนกับฝูงชนบริเวณหน้าโรงแรมพร้อมปืนที่ใช้ในการกระทำการครั้งนั้น คือ Rohm RG-14 ...



หมายถึงตอนนี้นับได้ว่าจอห์น ฮิงค์ลีย์บ้ามากๆ นอกจากกระทำกลางวันแสดๆ ต่อหน้าคนมากมายแล้ว ปืนที่เขาใช้
เป็นปืนที่โหล่ยโท่ยที่สุดในปืนที่สังหาร คือ Rohm RG-14 Cal.22 LR  เป็นปืนรีวอลเวอร์กระบอกเล็กจุ๋มจิ๋ม
ผลิตในเยอรมัน เป็นปืนเกรดต่ำ ราคาถูก แต่ไม่มีใครอยากจะซื้อมากนัก เพราะ น้ำหนักไกแบบดับเบิ้ลแอคชั่นหนัก
จนคนยิงหัวสั่น หัวคลอน...ไม่มีแม้กระทั่งปุ่มปลดโม่ เวลาเปลี่ยนลูกกระสุน จะต้องหมุนแกนโม่แบบคลายน็อตทั่วไปแล้ว
ดึงออกซึ่งยุ่งยากมากๆ  ก่อนจะเอียงโม่ออกมาจากโครงปืน เท่านั้นยังไม่พอเจ้าปืนรุ่นนี้เวลายิงแล้วปลอกกระสุนจะบวม
ทำให้การเทปลอกกระสุนยุ่งยากมาก

แต่กระนั้นจอห์น ฮิงค์ลียก็ยังลั่นกระสุนแบบม้วนเดียวจบ 6 นัดต่อเนื่องเพื่อหวังชีวิตเรแกน ผลคือ


   
นัดแรก กระสุนวางไปเจาะกระโหลกศีรษะเจ้าหน้าที่ James Brady อย่างจัง เนื้อสมองเสียหายอย่างมาก...
จนทำให้ เสียชีวิตในเวลาต่อมา

นัดสอง กระสุนมุ่งตรงไปที่กรามซ้ายด้านหลังของตำรวจชื่อ Thomas Delahanty จนเขาบาดเจ็บสาหัส

นัดที่สาม พุ่งไปฝูงชน แต่ไม่โดนใคร เพราะชนเข้าที่ผนังตึก

นัดที่สี่  วิ่งไปเจาะเข้าที่ลำตัว บริเวณท้องกึ่งยอดอกของสายลับ ชื่อ Timothy McCarthy จนเขาบาดเจ็บสาหัส

นัดที่ห้า กระสุนไปแตะกระทบอย่างรุนแรงเข้าที่กระจก กันกระสุนรถประจำตำแหน่งท่านประธานาธิบดี...
หัวกระสุนระเบิดกระจาย และหาซากไม่ได้...

นัดที่หก เป็นนัดสุดท้าย เป็นนัดที่โดนเรแกน กระสุนพุ่ง ไปที่ประตูหน้าของรถกันกระสุนกระสุนแฉลบวิ่งตรง เข้าที่
หน้าอกด้านซ้ายท่านประธานาธิบดีขณะที่เขากำลังยกแขนและมือข้างนั้นโปกให้แก่ฝูงชนที่มารอต้อนรับตรงฝั่งตรงข้าม
และเจ้าหน้าที่พยายามประคองท่านขึ้นรถ  กระสุนฝังที่ปอด
   
แม้จะตกใจในเหตุการณ์ดังกล่าวมากเพียงใด บรรดาเจ้าหน้าที่องครักษ์ของเรแกนก็สามารถจัดการได้อย่างฉับไว
ผลักเรแกนเข้ารถลีมูซีนทันทีแล้วเอาตัวเข้าบังเอาไว้ ส่วนหลังจากเสียงกระสุนนัดสุดท้าย จอห์น ฮิงค์ลีย์ ก็ยัง
ไม่สิ้นฤทธิ์ซะทีเดียวยังมีเวลาเหลือพอที่จะยก ปากกระบอกปืนกระบอกเดียวกันนั้นมาจ่อที่ขมับตัวเอง ก่อนที่จะ
ถูกเจ้าหน้าที่รุมจับตัวในที่สุด
(โหย.....เอ็งจะจ่อหัวทำไม๊ ในเมื่อกระสุนมีแค่ 6 นัดนี้น่า มันก็กลายเป็นปืนเปล่าสิ)

ส่วนเรแกนก็ถูกส่งส่งไปโรงพยาบาลจอร์จ วอชิงตัน และก็รักษาชีวิตไว้ได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บก็รักษาจนปลอดภัยเช่นกัน
   
หลังเหตุการณ์มีการตำหนิติเตียนความหละหลวมของบรรดาคณะทำงานทำเนียบขาว และเจ้าหน้าที่ด้านการรักษา
ความปลอดภัยระดับสูง ที่ไม่สามารถจัดการรักษาความปลอดภันแก่ประธานาธิบดีได้อย่างรัดกุมพอ



ผลจากการสอบสวนนายจอห์น ฮิงค์ลีย์พบว่าเขาต้องการสังหารเรแกนเพื่อให้ โจดี้ ฟอสเตอร์(Jodie Forster)
ดาราภาพยนตร์สาวสวยประทับใจความกล้าหาญของเขาเท่านั้น โดยฮิงค์ลีย์บอกว่าเขาประทับใจตัวเธอในหนังเรื่อง
“Taxi Driver” ซึ่งเขาดูหนังเรื่องนี้กว่า 15 รอบ โดยเขาอธิบายการลอบสังหารนี้ว่าเป็น


“ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่ขอมอบให้แก่ประวัติศาสตร์โลก” เลยทีเดียว



เอฟบีไอได้พบจดหมายที่เขาเขียนไปถึงโจดี้ ฟอสเตอร์ ฉบับหนึ่งลงวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ.1981 เขียนในเวลา 12.45 น.
ก่อนที่เขาจะไปก่อคดีเพียงชั่วโมงเศษๆ เนื้อความจดหมายมีดังต่อไปนี้
 
โจดี้ที่รัก

อาจจะเป็นไปได้มากทีเดียว ที่ผมจะต้องถูกฆ่าในความพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีเรแกน
ด้วยเหตุผลดังกล่าวผมจึงต้องเขียนมาถึงคุณเสียตั้งแต่ตอนนี้

คุณก็คงจะทราบดีอยู่แล้วว่าผมรักคุณมากแค่ไหน ในช่วงเวลา 7 เดือนที่ผ่านมาผมได้ส่งบทกวี จดหมาย
และข้อความแสดงบอกรักคุณด้วยความหวังอันเลือนรางว่าคุณอาจเริ่มสนใจในตัวผมขึ้นมาบ้าง แม้เรา
จะได้คุยกันทางโทรทัศน์บ้าง 2-3 ครั้ง แต่ผมก็ไม่เคยกล้าที่จะเข้าหาคุณเพื่อจะแนะนำตัวผมให้คุณรู้จัก
นอกจากผมจะเป็นคนขี้อายแล้ว ผมยังไม่อยากไปรบกวนคุณด้วยการไปพบคุณบ่อยๆ ผมทราบดีว่าข้อความ
หลายฉบับที่ผมนำไปติดไว้ที่ประตูบ้านคุณและที่ผมสอดไว้ที่ตู้จดหมายของคุณนั้นเป้นสิ่งที่น่ารำคาญ
แต่ผมก็รู้สึกว่านั่นเป็นวิธีเดียวที่ผมจะไม่ต้องเจ็บปวดในการแสดงความรักที่ผมมีต่อคุณ



ผมรู้สึกดีใจจริงๆ ที่อย่างน้อยคุณก็รู้จักชื่อของผม และทราบว่าผมรู้สึกอย่างไรกับคุณ การที่ผมไปป้วนเปี้ยน
อยู่แถวๆ ที่พักของคุณนั้นก็ทำให้ผมกลายเป็นหัวข้อสำคัญที่คนจะต้องพูดถึงมากกว่าการพูดดึงอย่างฉาบฉวย
นั่นฟังดูเป็นอย่างน่าหัวเราะ แต่อย่างน้อยคุณก็จะได้รู้ว่าผมจะรักคุณตลอดไป

โจดี้ ผมจะละความคิดที่จะสังหารเรแกนทันทีที่ผมสามารถเอาชนะใจคุณได้ และสามารถใช้ชีวิตที่เหลือ
อยู่ทั้งหมดของผมกับคุณไม่ว่ามันจะเป็นแบบซ่อนเร้นบิดบังอย่างไรก็แล้วแต่

ผมขอยอมรับกับคุณว่าเหตุผลที่ผมจำต้องกระทำการอันอุกอาจครั้งนี้ เนื่องมาจากผมไม่อาจรอคอยเวลา
ที่จะทำให้คุณประทับใจได้ ผมต้องทำสิ่งบางอย่างเดี๋ยวนี้เพื่อให้คุณเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าผมทำเพื่อคุณเท่านั้น
โดยการเสียสละอิสรภาพของผมหรือแม้กระทั้งชีวิตของผมในครั้งนี้ ผมได้แต่เพียงหวังว่าผมอาจจะเปลี่ยนใจคุณได้
จดหมายฉบับนี้เขียนขึ้นเพียงหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ผมจะเดินไปยังโรงแรมฮิลตัน โจดี้ผมกำลังขอร้องให้คุณมอง
เข้าไปยังหัวใจของผมอย่างน้อยโอกาสผมที่จะได้รับความนับถือและความรักจากคุณ ด้วยการกระทำที่
จะจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ครั้งนี้


ผมขอรักคุณตลอดไป
จอห์น ฮิงค์ลีย์



จอห์น ฮิงค์ลีย์ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดเนื่องจากสติไม่สมประกอบ ในวันที่ 4 พฤษภาคม 1982 โดยคณะลูกขุน
12 คน เขาถูกตัดสินให้กักบริเวณและรักษาสภาพจิตโดยไม่มีกำหนดในโรงพยาบาลผู้ป่วยโรคจิต ในกรุงวอชิงตัน ดี ซี
ซึ่งเขาอยู่ที่นั้นจนถึงทุกวันนี้



จากหนังสือลอบสังหารผู้นำ โดย ผศ.ดร.บรรพต  กำเนิดศิริ
http://www.weekendhobby.com/gun/webboard/Question.asp?ID=3819+ +
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มกราคม 2018, 11:28:42 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่