-->

ผู้เขียน หัวข้อ: สัจธรรมของชีวิต ที่มาจากเรื่องจริง  (อ่าน 1101 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

CastlevaniaX

  • บุคคลทั่วไป
สัจธรรมของชีวิต ที่มาจากเรื่องจริง
« เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2011, 00:30:40 »

ผมต้องบอกก่อนเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง

ถามก่อนเลยว่าคนเรานั้นเกิดมาทำไมนี้

ตัวผมนั้นถามคุณพ่อว่าคนเราเกิดมาทำไมได้คำตอบว่า เกิดมาเพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว

หลังจากนั้นผมก็สังเกตุและคิดให้ไกล โดยการสำรวจดูคนอื่นและตัวเราเองว่ามีอะไรที่แตกต่างกัน

สรุปคือนิสัยไม่เหมือนกัน 

หลังจากนั้นผมอยากบวชเพื่อตอบแทนบุญคุณของคุณพ่อคุณแม่

ขึ้นมาเพื่อลบล้างสิ่งที่ทำผิดมาในอดีตแต่ก็บวชไม่ได้เพราะมีปัญหาต่างๆที่รุมเร้าจนเครียดนอนหลับบ้างและนอนไม่หลับบ้างเป็นอยู่อย่างนี้4ปีครึ่ง

หลังจากนั้นวันที่ 9 กรกฏาคม 2553คุณแม่บอกว่าลูกของเพื่อนแมาจะบวชบวชไหม

ผมถามก่อนเลยว่าบวชกี่วันถ้าบวช1พรรษาไม่เอานะ  คุณแม่บอก9วันผมรีบตอบตกลงครับ

สถานที่วัดบ้านแจ่ม จังหวัดลำพูนครับ

หลังจากนั้นบวชได้ 9วัน และ สึกมาแล้ว

ก็ไปวัดหริภุญชัย ลําพูน

จากนั้นกลับมาที่บ้านก็พักผ่อน1เดือนหลังจากนั้นเดือนสิงหาคมผมเริ่ม   กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรและสัตว์ทั้งหลาย    สวดมนต์  บทพุทธคุณ  บทพาหุงมหากา  บทพระกัณฑ์ไตรปิฏก และ คาถาชินบัญชร 

สวดมนต์ทุกวันครับ


หลังจากนั้นสิ่งที่เป็นทุกข์  ที่เคยเป็นนั้นค่อยๆหายครับ

จากนั้นผมเริ่มดูการ์ตูนพระพุทธเจ้า   ดูแล้วคิดตามไปด้วย 

พอดูจบแล้ว   ผมเริ่มคิดว่าศีล5มีอะไรบ้าง

แล้วดูว่าเราทำข้อไหนได้บ้าง

แล้วมาดูว่า  สิ่งรอบตัวเรานั้นมีอะไรบ้างไหนสำคัญบ้างและไม่สำคัญบ้าง

แล้วก็มาคิดว่า มีผู้ชาย 2คน  คนที่ 1 หน้าตาหล่อและรูปร่างดีรวย จิตใจไม่ดีเป็นคนไม่ดี      คนที่ 2 หน้าไม่ดีรูปร่างไม่สูงไม่รวยจิตใจดีเป็นคนดี

ผมถามว่าคน2คนนีี้แตกต่างตรงไหนครับ

ผู้หญิงก็เหมือนกันครับ


ทีวี มือถือ รถยนต์ ทุกๆอย่างเหมือนและไม่เหมือนกันตรงไหนครับ

และผมได้ข้อคิดจากเพื่อนในเวปอื่นที่ได้ข้อคิดนี้จากหนังสือ ชุมนุมข้อคิดอิสระ พุทธทาสภิกขุ 
พิมพ์ ครั้งที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๓๘ โดย สำนักพิมพ์สุขภาพใจ




ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" นี้เป็นความจริง อันไม่ตาย คือ ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลง
แม้จะมีคนในสมัยหนึ่ง เกิดระแวงว่า
ทำไม คนทำชั่ว กลับร่ำรวยเร็ว
คนทำดี กลับยากจนลง หรือเป็นอยู่ด้วยความยากลำบากก็ตาม
ความจริง ก็ยังคงเป็นความจริงว่า "ทำดีได้ดี, ทำชั่วได้ชั่ว"
อยู่ตามเดิม ไม่โยกคลอน.

ทำดีได้ดีแน่ เพราะมันดี อยู่ที่ตัวการกระทำนั่นเอง และมันดีเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อทำ
แต่ที่มันจะได้เงินหรืออื่นๆ ด้วยหรือไม่ นั่นเป็นอีกส่วนหนึ่ง
แม้ทำชั่ว ก็เป็นอย่างเดียวกัน มันชั่วอยู่ที่ตัวการกระทำนั่นเอง
ไปทำเข้า มันก็ชั่ว มาเสร็จแล้ว ตั้งแต่เมื่อทำ จะได้เงินด้วยหรือไม่ นั่นอีกส่วนหนึ่ง
ฉะนั้น "ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว" โดยไม่มีทางหลีกไปทางไหนพ้น.

ทำดีได้ดี และถ้าได้เงินมาด้วย มันก็เป็น "เงินดี"
ทำชั่วได้ชั่ว และถ้าได้เงินมาด้วย มันก็เป็น "เงินชั่ว"
เงินดี ทำเจ้าของให้เป็นเจ้าของที่ดี เย็นอกเย็นใจ
เงินชั่ว ทำเจ้าของให้เป็น "ปีศาจ ผู้สูบเลือดมนุษย์"
ฉะนั้น แม้จะได้เงินมามาก ด้วยการทำชั่ว
ก็มีแต่จะยิ่งทำเจ้าของให้เป็น "ปีศาจ" มากยิ่งขึ้น ตามส่วนนั่นเอง.

ฉะนั้น ความจริง คงหนีความจริงไปไม่พ้น ว่า
"ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" อยู่จนตลอดกัลปาวสาน เป็นอย่างน้อย.


คนสมัยนี้ยึดติดกับวัตถุ สิ่งของ เงินทองและกิเลสทั้งหลายจนความดีนั้นไม่เคยได้ทำ


การที่จะเป็นคนดีนั้นจะต้องกตัญญูต่อบิดามารดาผู้ที่ให้กำเนิดเรามาและเลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กจนโตครับ

แล้วกรวดน้ำทุกวันแล้วบอกว่า

ขออุทิศบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้สร้างและสวดทั้งหมดนี้จงส่งไปถึงเจ้ากรรมนายเวรและสัตว์ทั้งหลาย

ที่ถูกข้าพเจ้าได้ฆ่าตายในชาติก่อนจนถึงปัจจุบันนี้ขอให้ท่านที่ต้องทุกข์ให้พ้นจากความทุกข์

ขอให้ท่านที่ต้องมีความสุขขอให้มีความสุขยิ่งๆขึ้นไปทั้งชาตินี้และชาติหน้าด้วยกันเทอญและสวดมนต์ทุกวันด้วยนะครับ



และวัฐสงสารคือการเวียนวายตายเกิด

เมื่อคุณเกิดมาก็มีทุกข์รออยู่แล้ว  จากนั้นคุณจะเข้าสู่ชีวิตในวัยเด็ก  วัยเรียน  วัยทำงาน  แต่งงาน  มีลูก  และคุณเจ็บป่วย และก็สิ้นอายุไข

และลูกของคุณก็เหมือนกับคุณครับ  จะเข้าสู่ชีวิตในวัยเด็ก  วัยเรียน  วัยทำงาน  แต่งงาน  มีลูก  และคุณเจ็บป่วย และก็สิ้นอายุไข

อยู่ที่ว่าคุณจะเดินทางไหนแค่นั้นครับ 

ทางแสงสว่างคือทำความดีให้ทานแก่ผู้อื่นช่วยเหลือผู้อื่น

หรือถ้าเดินทางมืดนั้นคือกิเลสครับ



สุดท้ายนี้ผมบอกได้คำเดียวว่าชีวิตของคนเรานั้นมันไม่แน่นอน อย่ามัวหลงกิเลส สิ่งของวัตถุ ความสวยความงามเงินทองมากหรือน้อยเพราะมันคือสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นมาทั้งหมด

ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณมีอยู่ในโลกนี้พอสิ้นอายุไข ก็เอาไปไม่ได้แต่ความดีเอาไปได้ครับ


ขอให้ท่านทั้งหลายทำความดีและทำบุญบ้างนะครับชีวิตจะได้ดีขึ้นการงานจะดีขึ้นครับ 09876









chocokizz

  • บุคคลทั่วไป
Re: สัจธรรมของชีวิต ที่มาจากเรื่องจริง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2011, 11:32:36 »

สาธุค่ะ พี่x

p_nuin

  • บุคคลทั่วไป
Re: สัจธรรมของชีวิต ที่มาจากเรื่องจริง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2011, 13:49:22 »

เทพทาสีเปลี่ยนไป ljhgf

avanza

  • บุคคลทั่วไป
Re: สัจธรรมของชีวิต ที่มาจากเรื่องจริง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2011, 13:51:38 »

 ;khhg ;khhg อนุโมทนา บุญด้วยคนครับ

jaydai

  • บุคคลทั่วไป
Re: สัจธรรมของชีวิต ที่มาจากเรื่องจริง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2011, 14:24:33 »

x เปลี่ยนไปจิงๆ......

เอางี้ ไงก็เข้าเรื่องนี้มาหล่ะ ในฐานะ อวตาลของมดห้องนี้ ก็จะอธิบายสักเล็กน้อย

รูป รส กลิ่น เสียง ทุกอย่างล้วนแต่ สมมุติขึ้นมาทั้งสิ้น ตัวเราเองความทุกข์/สุข นั้นอยู่ที่ใจ
หากเราคิดว่า มันเปนทุกข์ มันก็ทุกข์ หากใจเราคิดว่ามันเปนสุข มันก็สุข

ความดี ความชั่ว นั้นแบ่งแยกง่ายนิดเดียว
ความดีนั้น เมื่อทำแล้ว เรามีความสุข ไม่ทำให้คนอื่นเกิดทุกข์ ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
ความชั่วนั้น คือ สิ่งที่ตรงกันข้ามกับความดี

ความดีนั้นทำง่าย การทำความดี ก็เปนส่วนหนึ่งของการทำบุญ
โดยคำว่า บุญนั้น ก็มี ทาน(การให้) ศีล(ตั้งมั่นในความดี) และภาวะนา(สมาธิ)

เหอะๆ พอหล่ะ เดวนอกเรื่อง........
แต่ไง ผมบอกได้เลย การทำดี ย่อมได้ดี ตามที่ X ว่ามา แต่บางคนกว่าจะรูก็อาจเมื่อสายเสียแล้ว