-->

ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปตติยบรรพ  (อ่าน 692 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

chon

  • บุคคลทั่วไป
สรุปตติยบรรพ
« เมื่อ: 25 กันยายน 2008, 15:15:38 »

สรุปตติยบรรพ

การรู้ตามจริงมีหลายแบบ หลายระดับ คนยุคปัจจุบันมักมองว่าการรู้ตามจริงคือการพิสูจน์ได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ว่า ?ความจริง? เกี่ยวกับเรื่องที่คาใจบางอย่างนั้นเป็นอย่างไร

แต่สิ่งที่เราจำต้องยอมรับก็คือวิทยาศาสตร์ให้ความจริงอันเป็นที่สุดไม่ได้ถนัดถนี่นัก ไม่ว่าจะเรื่องเล็กสุดในระดับอะตอม ตลอดไปจนถึงเรื่องใหญ่สุดระดับเอกภพ ทุกทฤษฎี ทุกการกะเก็งสันนิษฐาน อาจถูกหักล้างด้วยการค้นพบใหม่ๆเสมอ

ทว่าการรู้ตามจริงบางอย่างไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ต่อ เพราะเป็นสัจจะความจริงที่ไม่อาจถูกหักล้างด้วยการค้นพบครั้งใหม่ใดๆ ไม่ว่าปัจจุบันหรืออนาคต ยกตัวอย่างเช่นลมหายใจมีแค่เข้ากับออกสองอย่าง ถ้าเรารู้ได้ถูกต้องในขณะที่มันปรากฏเป็นเข้าหรือปรากฏเป็นออก ก็แปลว่าเรากำลังรู้ตามจริงอยู่ในขณะนั้นๆ

ด้วยวิชา ?รู้ตามจริง? ของพระพุทธเจ้า เริ่มต้นอาจง่ายๆแบบที่ทุกคนรู้ได้อย่างเช่นลมหายใจเข้าออกอีก แต่สิ้นสุดอาจเป็นเรื่องอจินไตย เกินการคาดคิด เกินจินตนาการของมนุษย์ปุถุชนทั้งหลาย เช่นที่เกี่ยวกับกรรมวิบากและวิธีดับทุกข์ดับโศกทั้งปวง แม้เป็นเรื่องอจินไตยเช่นนั้น เราก็สามารถรู้แจ่มแจ้งเฉพาะตน ว่านั่นเป็นของจริง เป็นของแท้ เป็นของที่ทนต่อการพิสูจน์ในทุกกาล เช่นเดียวกับสามารถรู้ว่าลมหายใจเข้าออกเป็นเรื่องจริงนั่นเอง


คนเราชอบคิดว่าหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตเป็นเรื่องเล็ก ต่อเมื่อฝึกรู้ตามจริงมากเข้า เราจะเห็นว่าโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นเรื่องเล็ก ไม่มีการกระทำอันใดที่ควรประมาท เพราะแม้เพียงการยอมปล่อยให้ความคิดอกุศลนิดๆหน่อยๆผุดขึ้นในหัวเราด้วยความเต็มใจยินดี ปล่อยให้ความคิดอกุศลนิดๆหน่อยๆนั้นแปรเป็นคำพูดหรือการกระทำปรากฏต่อโลกภายนอก มันจะเกิดขึ้นอีกและอีก แล้วในที่สุดมันจะสะสมเป็นอกุศลกรรมที่มีน้ำหนักใหญ่ คือเป็นนิสัยเสีย เป็นอาจิณณกรรมที่เราเสพติดมันจนได้

เมื่อเห็นความจริงในระดับของกรรมทางความคิดมากเข้า เราก็จะยิ่งเชื่อที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าการเดินทางไปเรื่อยๆในสังสารวัฏนั้น ไม่มีทางหนีพ้นนรกไปได้ เพราะจิตคนพร้อมจะไหลลงต่ำ ความคิดอันเป็นอกุศลพร้อมจะปรากฏขึ้นชักจูงเราไปสู่อบายเสมอ ไม่มีอะไรที่น่ารักจริง มีแต่สิ่งลวงล่อให้หลงทำบาปทำกรรม ขอแค่พลาด หรือเพียงการ์ดตกหนสองหน ก็เพียงพอแล้วต่อการได้นั่งกระดานลื่นไหลลงนรกโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ

ผู้เห็นภัยในสังสารวัฏย่อมเร่งขวนขวายทำบุญทำกุศลคุ้มตัว และกระตือรือร้นพอที่จะทำทางนิพพานให้ตัวเองเอาไว้ แม้แค่เพียงต้นทางก็ยังดี

ความรู้ทางโลกนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งค้นพบก็ยิ่งแตกแขนงล่อใจให้ค้นคว้าต่อมากขึ้นทุกที แต่ความรู้ทางธรรมนั้นมีที่สุด เพียงเลิกส่งใจออกไปใส่เรื่องข้างนอก แต่ค้นหาที่มาที่ไปของประสบการณ์ทั้งมวล ตั้งคำถามไว้ถูกเป้าใหญ่สุด ประพฤติปฏิบัติตรงทางอันจะนำไปสู่คำตอบอันจริงแท้ที่สุด นั่นแหละคือที่สุดทุกข์ นั่นแหละคือการไม่ต้องทำกิจอันใดเพิ่มเติมเพื่อความดับทุกข์อีก

cmman573

  • บุคคลทั่วไป
Re: สรุปตติยบรรพ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 25 กันยายน 2008, 15:22:54 »

 "ความรู้ทางโลกนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งค้นพบก็ยิ่งแตกแขนงล่อใจให้ค้นคว้าต่อมากขึ้นทุกที แต่ความรู้ทางธรรมนั้นมีที่สุด "

 ได้ข้อคิดจากประโยคนี้มากมายครับ



shinpe uhah

  • บุคคลทั่วไป
Re: สรุปตติยบรรพ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 21 เมษายน 2009, 19:26:07 »

ขอบคุณมากครับสำหรับสาระดีๆที่หามาให้อ่านกันตลอด