-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ....พบเรือโนอาห์แร้ววว!!!....  (อ่าน 4507 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

albatross

  • บุคคลทั่วไป
....พบเรือโนอาห์แร้ววว!!!....
« เมื่อ: 02 มิถุนายน 2010, 22:54:07 »

พบซากเรือโนอาห์กว่าอายุเกือบ5พันปีบนเขาอรารัตทางภาคตะวันออก ของตุรกี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มนักโบราณคดีได้ค้นพบซากเรือโนอาห์บนเขาอรารัตทางภาคตะวันออกของตุรกี และเมื่อได้ผ่านกระบวนการพิสูจน์ด้วยกระบวนการน้ำยาคาร์บอนตรวจสอบสิ่งโบราณ ย้อนยุค พบว่าวัตถุดังกล่าวมีอายุ 4,800 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เรือดังกล่าวถูกระบุว่ามีอยู่บนโลก และน่าเชื่อว่าซากดังกล่าวเป็นเรือโนอาห์ 99.99 %

สำหรับซากเรือดังกล่าวมีลักษณะเป็นโครงสร้างที่แบ่งเป็นหลายส่วน บางส่วนรวมทั้งคานไม้ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นส่วนที่ใช้เป็นที่พักของสัตว์ต่างๆที่โนอาห์นำขึ้นเรือ ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตุรกียังได้เรียกร้องให้รัฐบาลตุรกี ขอให้ยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนวัตถุดังกล่าวเป็นมรดกโลก

ทั้งนี้ ตามพระคัมภีร์ไบเบิลระบุว่า พระเจ้าตัดสินใจที่จะทำลายล้างโลก หลังจากเห็นว่าโลกเต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้าย และได้สั่งให้โนอาห์สร้างเรือขึ้นมาพร้อมบรรทุกสัตว์ทุกประเภททั้งเพศผู้เพศ เมียขึ้นเรือ และเมื่อน้ำท่วมโลกลดลง เรือโนอาห์ได้ขึ้นไปอยู่ในเขา"อรารัต"

Phate

  • บุคคลทั่วไป
Re: ....พบเรือโนอาห์แร้ววว!!!....
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2010, 22:59:27 »

จริง ๆ อยากเห็นรูปแหะ แต่ผมเปิดหาในเน็ตไม่เจอรูปเลย เจอแต่ข่าว ข้อความแบบข้างบนอย่างเดียวเลย

ข่าวดังจริง ๆ แหะ

1ideal

  • บุคคลทั่วไป
Re: ....พบเรือโนอาห์แร้ววว!!!....
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2010, 23:23:36 »

 ซีไอเอ เปิดเผยภาพถ่ายจากเครื่องบินจารกรรม U2 และ SR71 พบวัตถุประหลาดคล้ายเรือขนาดยักษ์บนยอดเขาเอรารัท!

         กว่า50ปีที่ ซีไอเอ ปกปิดภาพถ่ายลับจากเครื่องบินลาดตระเวนของกองทัพอากาศขณะบินผ่านยอดเขาเอรารัท เชื่อกันว่าวัตถุประหลาดที่ปรากฏอยู่ในภาพนั้นก็คือเรือของโนอาห์
  วันที่17 มิ.ย. 1949 ขณะที่เครื่องบินลาดตระเวนของกองทัพอากาศสหรัฐบินผ่านเทือกเขาเอรารัท บริเวณเขตชายแดนประเทศตุรกี นักบินได้สังเกตเห็นอะไรบางอย่างบนยอดเขาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ   บริเวณนั้นเป็นจุดที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า16000ฟุต หรือกว่า5000เมตร นักบินได้บังคับเครื่องบินตรงไปยังจุดนั้นทันที และทำการบันทึกภาพวัตถุประหลาดนั้นไว้
   ภาพถ่ายนั้นถูกเก็บไว้ในแฟ้มลับของกองทัพโดยใช้ชื่อไฟล์ว่า "สิ่งผิดปกติบนเอรารัท" [ Ararat Anormaly] จนกระทั่งมาในปี ค.ศ.1993 ศาสตราจารย์ปอร์เชอร์ เทย์เลอร์ [Porcher Taylor] ได้ทราบข่าวและขอให้ทางการสหรัฐเปิดเผยภาพถ่ายนั้นตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเรื่องเสรีภาพในการให้ข้อมูลข่าวสาร
   ศาสตราจารย์ปอร์เชอร์คนนี้ แกเป็นอาจารย์สอนที่ศูนย์กลางวอชิงตันเพื่อการศึกษากลยุทธและการต่างประเทศ เขาเชี่ยวชาญทางด้านการทูตและการวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียม อีกทั้งยังเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์สาขากฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยริชมอนด์ในรัฐเวอร์จิเนีย
   ปอร์เชอร์พบว่าในแฟ้ม "สิ่งผิดปกติบนเอรารัท" นอกจากจะมีภาพถ่ายดังกล่าวในปี 1949 แล้ว ก็ยังมีภาพถ่ายที่ถ่ายโดยเครื่องบินจารกรรมU2 ในปี1956 ภาพถ่ายคุณภาพสูงจากดาวเทียม KH-9 ในปี1973 และภาพถ่ายอื่นๆที่ซีไอเอได้ส่งเครื่องบินไปสำรวจยอดเขาเอรารัทในปี1976,1990 และภาพถ่ายล่าสุดจากดาวเทียม KH-11 ในปี1992  คำร้องขอที่ปอร์เชอร์ทำถึงกองทัพสหรัฐเพื่อให้เปิดเผยภาพถ่ายลับนั้นถูกปฏิเสธในครั้งแรก แต่อย่าลืมสิว่าแกเองก็เก๋าในด้านกฏหมาย จึงใช้กลวิธีการหว่านล้อมซะทางการยอมมอบภาพถ่ายให้พีแกเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 1995
    ต่อมาภาพถ่ายนั้นได้ถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร Insight on the News (เจาะข่าว แปลโดยผมง่ะ) ฉบับวันที่ 20 พ.ย. 2000 แม้ภาพถ่ายเหล่านั้นจะถูกถ่ายในระยะไกลเกินที่จะบ่งบอกได้ว่าวัตถุประหลาดบนยอดเขานั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือเป็นแค่ก้อนหินประหลาดขนาดเขื่อง แต่ก็ชวนให้สงสัยกันไม่น้อยว่า ทำไมซีไอเอและกองทัพสหรัฐต้องปกปิดมันไว้ตั้ง50ปี? ทางเดียวเท่านั้นที่จะพิสูจน์ว่าเป็นเรือโนอาห์จริงหรือไม่ คือต้องปีนไปดูด้วยตาตนเอง....
 

ตามไปดู
   อย่าคิดว่าจะไม่มีคนกล้านะครับ อันที่จริงแล้วเคยมีคนเคยได้ยินเรื่องของเรือโนอาห์มาจากพระคัมภีร์เก่า หรือที่เรียกว่าGenesisนั่นล่ะ และก็ดันฉลาดตีความได้อีกว่าเรือโนอาห์น่าจะจอดอยู่บนที่ใดที่หนึ่งบนเทือกเขาเอรารัท ก่อนที่จะเห็นหลักฐานจากซีไอเอ
   ในปี1904 จอร์จ ฮาโกเปียน [George Hagopian] ได้ฟังเรื่องที่ปู่เขาเล่าให้ฟังว่า สมัยที่ปู่เขาเป็นแพทย์รักษาคนไข้แถบนั้น เคยมีคนไข้บอกปู่เขาว่ามีเรือลำใหญ่จอดนิ่งอยู่บนยอดเขาเอรารัท มันอยู่ระหว่างแอ่งที่ปากปล่องภูเขาไฟ2ปล่อง
   ลุงของเขาก็ได้พาเขาขึ้นยอดเขาเอรารัทเมื่อปี 1908 เขาอายุได้8ปี เมื่อถึงช่วงที่เดินทางลำบาก ลุงเขาก็อุ้มเขาพาดบ่า พาเดินไปจนถึงยอดเขา ที่นั่นเขาได้เห็นเรือใหญ่จอดนิ่งอยู่และมีหิมะปกคลุมอยู่เกือบทั่วลำเรือ ลำตัวเรือด้านบนมีช่องเปิดอยู่เหมือนหน้าต่าง และที่ดาดฟ้าเรือมีช่องขนาดใหญ่ ทีแรกจอร์จคิดว่ามันสร้างด้วยหิน แต่ลุงเขาบอกเป็นไม้ จอร์จและลุงปีนขึ้นไปบนดาดฟ้า มันราบเรียบจนเดินได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งสองใช้เวลาสำรวจนาน2ชั่วโมง เมื่อทั้งคู่กลับมาที่หมู่บ้าน จอร์จก็ได้ไปเที่ยวเล่าให้ชาวบ้านฟัง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาแปลกใจแต่อย่างใด และยังบอกด้วยว่าพวกเขาก็เคยเห็นเรือนั้นกันมาแล้ว
   จอร์จได้เล่าเรื่องดังกล่าวผ่านเครื่องบันทึกเสียงก่อนที่จะเสียชีวิตลงในปี1972  ได้มีการนำเสียงของเขามาพิสูจน์ด้วยเครื่องจับเท็จ ผลก็คือเขาพูดความจริง แต่เรื่องราวนี้มันเหลือเชื่อเกินกว่าที่จะยอมรับได้ แถมจอร์จยังเป็นพยานเพียงคนเดียวเท่านั้น และก็ไม่สามารถชี้จุดที่พบเรือบนแผนที่ได้ เพราะแกเดี้ยงไปแล้ว ทำให้เรื่องราวของเขาดูไม่มีน้ำหนักเท่าที่ควร



ตำแหน่งลูกศรชี้ คือ บริเวณที่ตั้งวัตถุที่เชื่อว่าเป็นเรือโนอาห์

   ตุรกีก็ทราบเรื่อง
   ราวเดือน พ.ค. 1948 ชาวไร่เคิร์ดได้ตามรอยแผ่นดินไหวไปบนยอดเขา และพบร่องรอยที่ดูจะเป็นซากเรือขนาดมหึมา ต่อมาในปี 1959 กองทัพอากาศตุรกีร่วมกับองค์การนาโต้  ได้ส่งเครื่องบินไปทำแผนที่ทางอากาศชายแดนแถบเทือกเขาเอรารัท เมื่อเครื่องบินไปถึงทางตอนใต้ห่างจากยอดเขาราว17ไมล์ เรืออากาศโทเคอร์ทิส นักบินได้สังเกตเห็นวัตถุคล้ายเรือขนาด 500x150ฟุต สูง45ฟุต
   โดยปกติการถ่ายภาพเพื่อทำแผนที่ทางอากาศนั้นจะทำโดยการถ่ายภาพที่จุดๆเดียวกัน2ภาพ แต่มุมจะเหลื่อมล้ำกันนิดหน่อย เมื่อมองด้วยกล้องสองตา จะเห็นภาพนั้นมีความลึกเป็น3มิติ และภาพวัตถุประหลาดนั้นเมื่อมองผ่านกล้องสองตายิ่งทำให้เห็นชัดขึ้นว่ามันน่าจะเป็นเรือ! ชักสนุกแล้วสิ
   แล้วภาพนั้นก็ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารจนได้ หลายปีต่อจากนั้นกองทัพอากาศตุรกีก็เปิดเผยภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นวัตถุคล้ายเรือ3ลำจมดินอยู่บนยอดเขา
เอรารัท  ภาพถ่ายเหล่านั้นเองที่ไปกระแทกตาของรอน ไวแอทท์ [Ron Wyatt] นักโบราณคดีเข้าเต็มๆ

   

นี่แหละครับ สิ่งที่รอนอ้างว่าเป็นซากเรือโนอาห์

ค้นหาซากเรือ
   ปี1977 รอนได้เดินทางมายังเทือกเขาเอรารัทเพื่อค้นหาซากเรือโนอาห์  เขาได้พยายามหาแหล่งเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันต่างๆ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าใดนัก แต่การสำรวจเอรารัทไม่ได้ล้มเหลวเหมือนการหาเงินทุน รอนพบหลักฐานบางอย่างที่สามารถผูกโยงเรื่องเรือโนอาห์ได้เป็นอย่างดี เขาพบสมอเรือที่ทำด้วยหิน ท่อนไม้กลายเป็นหินที่พวกอาร์มาเนียนเอามาทำเป็นป้ายหลุมศพ รอนเชื่อว่าเป็นท่อนไม้ที่นำมาจากซากเรือโนอาห์ ซึ่งระยะเวลากว่า4000ปีทำให้ไม้กลายสภาพเป็นหินไป บ้านโบราณที่เชื่อว่าสร้างโดยโนอาห์พบแผ่นหินจารึกเรื่องราวเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ และภาพวาดคน8คน(ครอบครัวโนอาห์)กับเรือหนึ่งลำอยู่ท่ามกลางทะเลที่บ้าคลั่ง และหลุมฝังศพที่เชื่อว่าเป็นที่ฝังศพของโนอาห์
   ปี1984 รอนได้ลักลอบขุดก้อนหินและดิน น้ำหนักรวมราว8.6ปอนด์มาจากบริเวณดังกล่าวเพื่อนำมาตรวจสอบและใช้ประกอบในการแสดงเพื่อหาเงินทุนสนับสนุน เมื่อทางตุรกีทราบเรื่องก็ไม่พอใจในการกระทำของเขาเป็นอย่างมาก ปีต่อมารอนได้เดินทางกลับมายังยอดเขาเอรารัทพร้อมกับเดวิด เฟโซลด์
[David Fasold] นักสำรวจอีกท่านหนึ่ง คราวนี้ทั้งคู่ได้พบกับไม้กางเขนเหล็กที่มีปลายยาวเท่ากันทุกด้าน ทำให้ทั้งคู่ยิ่งเชื่อขึ้นไปอีกว่า วัตถุที่เขาพบนั้นคือซากเรือโนอาห์จริงๆ   การค้นพบของทั้งสองได้สร้างความตื่นตัวให้กับเหล่าคริสตศาสนิกชนและบรรดาผู้สนใจเหตุการณ์น้ำท่วมโลกที่ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์เป็นอย่างมาก   สถานีABCของสหรัฐได้ส่งทีมงานมาถ่ายทำสารคดีการค้นพบเรือโนอาห์บนเทือกเขาเอรารัท  จนกระทั่งมาในปี1990 ดร.อัลเลน โรเบิร์ตส์ [Allen Roberts] นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลียทราบเรื่องการสำรวจของรอน จึงได้จับมือกับรอนก่อตั้งองค์กรค้นหาเรือโนอาห์ [Ark Search]เพื่อเป็นศูนย์กลางเรี่ยไรเงินทุนที่จะใช้ในการสำรวจอย่างเป็นทางการ
   เดือนกันยายน 1991 รอนและอัลเลน กับคณะสำรวจก็เจอดีเข้าจนได้ พวกเขาถูกกองโจรชาวเคิร์ดจับไปขังนาน3สัปดาห์ แต่โชคยังดี ที่พวกโจรเชื่อว่าพวกเขาเป็นนักโบราณคดีที่ไม่มีพิษภัยอะไร จึงได้ปล่อยตัวคณะโดยที่ไม่ทำร้ายแต่อย่างใด ในปีเดียวกันนั้นเอง ที่ทางการตุรกีสั่งปิดเทือกเขาเอรารัท ห้ามบุคคลใดขึ้นไปอีก
   ไม่กี่ปีมานี้ได้มีการนำสารคดีการสำรวจของรอนและคณะออกมาให้ผู้คนได้ฮือฮากันอยู่พักหนึ่ง แต่ภายหลังมีคนออกมาโต้แย้ง เพราะหลักฐานของรอนนั้นยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นของเรือโนอาห์จริงๆ ทำให้เรื่องของรอนค่อยๆซาลงไป



ลองดูกันอีกมุมนะครับว่ามันเป็นไปได้แค่ไหน

  ซีไอเอ ยอมคลายความลับ
     ในปี1998 มีคำสั่งตรงจากทำเนียบขาวให้ซีไอเอและหน่วยงานรัฐบาลทุกแห่งเปิดเผยข้อมูลลับที่มีมานานกว่า25ปี  แต่ทั้งนี้ต้องผ่านการcensorเสียก่อน เอกสารทั้งหมดต้องพร้อมให้สาธารณชนตรวจสอบได้ภายในไม่เกินวันที่ 17 เม.ย. 2000
   เอกสารลับที่มีอายุเกินกว่า25ปีจำนวนกว่า 65ล้านแผ่นถูกนำออกมาตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถเผยแพร่ได้ แต่ในจำนวนนั้นมีภาพถ่ายทางอากาศของเทือกเขาเอรารัทรวมอยู่ด้วยหลายใบ แต่พวกเขาก็ยังยืนยันที่จะไม่เปิดเผยภาพถ่ายคุณภาพสูงจากดาวเทียม KH [Key Hole]
   อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของซีไอเอ กล่าวว่าเขาเคยเห็นภาพถ่ายในแฟ้ม "สิ่งผิดปกติบนเอรารัท" แล้วเขาก็เชื่อว่าสิ่งดูเหมือนเป็นซากเรือขนาดใหญ่จริงๆ แต่น่าเสียดายที่เจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆกลับลงความเห็นว่ามันเป็นเพียงก้อนหินก้อนใหญ่ๆเท่านั้น   
   โฆษกของซีไอเอรวมทั้งเจ้าหน้าที่อีกหลายคนก็ต่างออกมาปฏิเสธว่าภาพถ่ายนั้น ไม่ใช่ซากเรือโนอาห์อย่างแน่นอน มันเลยน่าแปลกตรงที่ว่า งั้นทำไมต้องแยกภาพของเอรารัทออกจากภาพถ่ายทางอากาศอื่นๆ และยังตั้งชื่อให้หรูซะว่า "สิ่งผิดปกติบนเอรารัท" ด้วยล่ะ ถ้าเราย้อนไปดูเรื่องราวของซีไอเอ ก็ไม่แปลกที่ซีไอเอมักจะตั้งชื่อโครงการใดๆให้เป็นรหัสเพื่อให้คนสืบสาวราวเรื่องได้ยาก ทั้งยังสามารถเฉไฉไปเรื่อยเมื่อถูกจับได้ ก็จะให้ตั้งชื่อว่า "ภาพถ่ายเรือโนอาห์บนเอรารัท" ได้ยังไงใช่มั้ย?
 



ภาพถ่ายทางอากาศของเอรารัท ช่วยมองหน่อยว่าเรืออยู่ไหน(ผมยังไม่รู้เหมือนกัน)

  ภาพถ่ายคุณภาพสูง
  ในเมื่อภาพถ่ายที่ซีไอเอยอมคลายออกมานั้น จะดูอึมครึมอยู่สักหน่อย จึงทำให้ปอร์เชอร์ต้องไปว่าจ้างบริษัท Space Imaging บริษัทเอกชนที่รับจ้างถ่ายภาพคุณภาพสูงด้วยดาวเทียม Ikonos ทำการถ่ายภาพสิ่งผิดปกติบนยอดเขาเอรารัท ( บริษัทนี้เคยดังเป็นพลุแตกจากภาพ Area51ที่ละเอียดยิบที่ได้นำมาเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต) แต่งานนี้มีอุปสรรคก็ตรงที่ไม่รู้พิกัดที่แน่นอนของ "สิ่งผิดปกติบนเอรารัท" ว่าอยู่ไหนกันแน่?
   ลำบากปอร์เชอร์อีกแล้วที่ต้องไปสาวข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารระดับสูงจากเพนตากอน จนได้ตำแหน่งที่ตั้งของมันมาว่าอยู่ที่ เส้นรุ้งที่39องศา 42ลิปดา
10ฟิลิปดา กับเส้นแวงที่ 44องศา 16ลิปดา 30ฟิลิปดา
   ภาพที่ดาวเทียมอิโคนอสถ่ายได้นั้นปรากฏวัตถุขนาดใหญ่มีรอยแตกออกเป็นรูปสี่เหลี่ยม ขนาดยาว 534ฟุต กว้าง 80-98ฟุต แต่ไม่ทราบความสูง เนื่องจากมีหิมะปกคลุมอยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับเรือโนอาห์ในพระคัมภีร์ที่ว่า มีความยาว 30คิวบิก กว้าง50คิวบิก สูง30คิวบิก ซึ่งมาตราส่วน 1คิวบิกเท่ากับ20นิ้ว ก็จะได้ขนาดของเรือเท่ากับความยาว 500ฟุต กว้าง83ฟุต และสูง50ฟุต ใกล้เคียงกันมากมั้ยละครับ!
   นักสำรวจหลายๆคนเชื่อว่าวัตถุที่พบบนเอรารัท ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เนื่องจากไม่พบวัตถุที่คล้ายกันทั่วทั้งเทือกเขาเลย และเรืออาจจะแตกเป็น2-3ส่วน เนื่องมาจากภูเขาไฟระเบิดในปี1840 หรือแผ่นดินไหวในปี 1883
   เมื่อนำภาพถ่ายในปี1949 มาเทียบกับ ภาพจากอิโคนอสที่ถ่ายเมื่อปี2000 พบว่าวัตถุได้เคลื่อนจากตำแหน่งเดิม นั่นหมายความว่า สิ่งนั้นไม่ใช่ส่วนใดส่วนหนึ่งของเขาเอรารัท
   แต่ปอร์เชอร์ และบริษัท สเปซอิเมจิ้ง ก็ยังไม่กล้ายืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าภาพถ่ายวัตถุโดยดาวเทียมอิโคนอสนั้น เป็นเรือโนอาห์จริงหรือไม่ เขาบอกเพียงมันเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น และเรื่องราวของเรือโนอาห์ก็คงต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์กันอีกต่อไป   


p_nuin

  • บุคคลทั่วไป
Re: ....พบเรือโนอาห์แร้ววว!!!....
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2010, 08:51:18 »

เพิ่งจะรู้ว่าอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ ขอบคุณครับสำหรับเรื่องราวดีๆ ;khhg

shoots

  • บุคคลทั่วไป
Re: ....พบเรือโนอาห์แร้ววว!!!....
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2010, 13:31:56 »

ความรู้ใหม่เลยนะครับ     ;khhg

noikasu

  • บุคคลทั่วไป
Re: ....พบเรือโนอาห์แร้ววว!!!....
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2010, 15:40:32 »

เรือโนอาร์..อืมอยากเห็นแบบเต็มๆเนาะ fdgdfdf

tftcmx

  • บุคคลทั่วไป
Re: ....พบเรือโนอาห์แร้ววว!!!....
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2010, 16:11:12 »

จากตำนานที่เล่ามามันเป็นเรื่องจริงหรือนี่ สุดยอดมากๆครับที่หาสาระดีๆมาเล่าสู่กันฟัง ;kljj

manspringer

  • บุคคลทั่วไป
Re: ....พบเรือโนอาห์แร้ววว!!!....
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2010, 19:43:00 »

โนอาห์ พระรามเก้า

ฺBomu

  • บุคคลทั่วไป
Re: ....พบเรือโนอาห์แร้ววว!!!....
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2010, 16:02:37 »

ผมไม่อยากจะเชื่อ

ตำนานมันเป็นเรื่องจริงหรอเนี่ย

ตอนนี้ต้องดูรูปก่อนครับว่าแต่มันเป็นเรือโนอาร์จริงหรอ  dsgjsd

macpro

  • บุคคลทั่วไป
Re: ....พบเรือโนอาห์แร้ววว!!!....
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2010, 22:22:18 »

เรื่องลี้ลับ น่าสนใจ ผมชอบ ขอบคุณข้อมูลข่าวสารครับ