-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ลุ่ยกง (雷公) และ เตียนบ๊อ (電母) ดูโอเทพสายฟ้าของชาวจีน  (อ่าน 409 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18150
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed

ลุ่ยกง (雷公) เทพเจ้าแห่งสายฟ้า

ลุ่ยกง  (雷公) หรือสำเนียงจีนกลางว่า เหล่ย์กง หรือ เหล่ย์เฉิ่น เป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้า ตามความเชื่อ
ปรัมปราของจีน โดยเป็นเทพผู้บันดาลให้ฝนตก โดยทำหน้าที่กับเทพเตียนบ๊อและยังเป็นหนึ่งในห้าแม่ทัพ
สวรรค์ร่วมกับ เอ้อร์หลังเสิน นาจา คังหง่วนโส่ย จิ่วหง่วนโส่ย




โดยเป็นแม่ทัพประจำทิศตะวันออก มีธงสีเขียวเป็นสีประจำกองทัพคุมกำลังทัพสวรรค์ 99,000 นาย
ในการรักษาทิศทางของโลกมนุษย์และสวรรค์


เป็นบุตรบุญธรรมของ จีชัง เจ้าเมืองซีกี เมื่อได้รับพระราชโองการให้ตนเองเข้าไปช่วยราชการในเมืองเฉาเกอ
ก็เดินทางออกจากเมืองมาได้ 875 เส้น ถึงเขาเอียนซาน ก็พบพายุฝนห่าใหญ่ บังเกิดฟ้าผ่าทะลายยอดเขา
เอียนซาน มองไปเห็นแสงสว่างคล้ายดาวตกลงมา จึงสั่งให้ทหารช่วยกันออกตามหา เพราะท่านรู้ว่านี่คือ
ดาวทหารตกลงจุติบนโลกมนุษย์ สุดท้ายพบเด็กชายคนหนึ่งยืนร้องไห้ ไม่มีพ่อแม่ ท่านจีชังพิเคราะห์ดูแล้ว
เด็กคนนี้โตไปจะได้เป็นทหารเอก จึงรับเข้าเลี้ยงดูเป็นบุตรคนที่ 100 (บางคนก็ว่า 101 อนึ่งท่านจีชัง
มีเมีย 24 คน บุตร 99 คนก่อนออกเดินทาง) ท่านจึงได้นำเด็กชายคนนี้ร่วมเดินทางไปด้วย

ต่อมาพบนักพรต นามว่า หุนตงจู้ บำเพ็ญศีล ณ เขาจงลำซัน ถ้ำยกเทียวต๋ง แจ้งกับจีชังว่า เห็นดาวเกียงแช๊
ตกลงมาจุติ จึงรู้ว่าเด็กคนนี้คือดาวลงมาเกิด


ท่านนักพรตได้กล่าวกับจีชังว่า ท่านจะไปโดนจองจำที่เมืองเฉาเกอนานหลายปี เด็กคนนี้จะเป็นภาระท่าน
จึงขอนำบุตรบุญธรรมของจีชังไปเลี้ยงดูและฝึกฝน เมื่อใดที่จีชังกลับถึงเมืองซีกีแล้ว จะนำเด็กไปส่งให้
ทาานจีชังก็เห็นด้วยและขอให้ท่านหุนตงจู๊ ช่วยตั้งชื่อให้เด็ก ท่านจึงตั้งชื่อว่า ' หลุยจินจู้' (雷震子)



หลังจากนั้นจีชังเจ้าเมืองซีฉีก็เดินทางไปรับโทษติดคุกที่เมืองเฉาเกอเป็นเวลา 7 ปี (เพราะว่าจีชังมีคนรักเยอะ
และตั้งอยู่ในคุณธรรม พระเจ้าซางโจ้วอ๋องจึงระแวงว่าจีชังจะคิดกบฎ เลยหาเรื่องใส่ร้าย)

พอครบ 7 ปี ลูกคนโต "จีเปก" ก็มาพาออกจากคุกและนำของมีค่ามาถวาย แต่ถูกมเหสี (จิ้งจอกเก้าหางแปลงกาย)
ของพระเจ้าซางโจ้วอ๋องหาเรื่องและประหารชีวิต แล้วเอาเนื้อใส่ขนมเปี๊ยะให้จีชังกิน จีชังรู้แต่ก็แกล้งกินจนหมด
พระเจ้าซางโจ้วอ๋องคิดว่าจีชังไม่มีสติอะไรแล้วจึงพระราชทานอภัยโทษและปล่อยตัวไป แต่จีชังยังไม่ทันไปได้
ถึงไหนพระเจ้าซางโจ้วอ๋องก็เปลี่ยนใจให้ทหารตามไปจับฆ่าทิ้งซะ

นักพรตหวินจงจื่อจับยามก็รู้ได้ว่าจีชังมีอันตราย จึงเล่าเรื่องให้หลุยจินจู่ฟังทั้งหมดและให้ไปหาศิลามาแผ่นนึง
เพื่อจะทำอาวุธให้ ฝ่ายหลุยจินจู่พอเข้าไปในป่า (มีผลไม้วิเศษมากมาย) ก็เห็นผลไม้สุกน่ากิน 2 ลูกก็ขึ้นไป
เก็บมาคิดว่าจะกิน 1 ลูกและให้อาจารย์ 1 ลูก แต่ผลไม้นั้นอร่อยจนอดใจไม่ไหว หลุยจินจู่เลยกินทั้งหมด


เมื่อกินจนหมดก็รู้สึกตัวอีกทีว่ากำลังมีปีกงอกขึ้นจากไหล่ทั้งสอง จมูกก็ยื่นยาวเป็นปากนก หน้าเขียวดำคล้ำ
มีเขี้ยวงอกออกมาด้วย ผมก็กลายเป็นสีแดงผิดจากคนทั่วไป ลำตัวสูงใหญ่ขึ้นทั้งๆที่อายุเพียง 7 ขวบ เพื่อนที่
ไปด้วยกันจึงรีบพากลับไปหาอาจารย์ พออาจารย์ได้เห็นก็ดีใจมอบกระบองทองวิเศษให้ และเสกคาถารามสูร
และลมฝนกำกับให้ที่ตัวพร้อมให้ทดลองบิน

หลุยจินจู่จึงได้บินไปช่วยบิดาและไปส่งที่เมืองซีฉี แล้วจึงบินกลับไปเรียนวิชากับนักพรตหวินจงจื่อต่อ เมื่อจีชัง
กลับเข้าเมืองก็ได้คนเก่งอย่าง "เจียงจื่อหยา" มาช่วยงานทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองและขยายอาณาเขตออกไป
กว้างขวาง แต่จีชังอยู่ได้เพียง 6 ปี ก็สิ้นพระชนม์ จีฟาบุตรคนรองก็ได้ขึ้นปกครองแทนและตั้งตนเป็นกษัตริย์นามว่า
"โจวอู่อ๋อง" ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โจวตะวันตก



ฝ่ายเมืองเฉาเกอนั้น พระเจ้าซางโจ้วอ๋องก็ไม่ทรงตั้งอยู่ในความยุติธรรม บรรดาหัวเมืองต่างพากันแข็งข้อและในเมือง
ก็กำลังวุ่นวาย พระเจ้าซางโจ้วอ๋องได้แต่งตั้งให้เหวินจ้งเป็นแม่ทัพใหญ่ยกทัพไปปราบเมืองซีฉี ฝ่ายนักพรตหวินจงจื่อ
จึงให้หลุยจินจู่กลับไปช่วยพี่ชายตนเองทำศึก ทั้งสองผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะจนในที่สุดกองทัพเมืองซีฉียกไปล้อม
เมืองเฉาเกอได้ พระเจ้าซางโจ้วอ๋องได้หนีเข้าตำหนักและให้นางสนมเผาตำหนักจนตัวเองตายในกองไฟ

หลังเสร็จศึกพระเจ้าโจวอู่อ๋องก็ให้เจียงจื้อหยาประกอบพิธีเรียกดวงวิญญาณทั้งหลายมารับรางวัลและรับโทษ
ส่วนหลุยจินจู้ หลี่จิ้ง(พ่อนาจา) หลีบกเฉีย(พี่ชายนาจา) หลีโลเฉีย(นาจา) เอียวเจี้ยน(เอ้อหลาง) และอุยฮอ
ไม่ขอรับรางวัลใดๆทั้งสิ้น ถือว่ามาทำการรบตามคำสั่งของอาจารย์ หลังจากนั้นก็ลากลับไปยังสำนักตามภูเขา
ที่พักของตนเพื่อบำเพ็ญต่อ จนทั้ง 7 คนสำเร็จเป็นเซียน





เตียนบ๊อ (電母) เจ้าแม่ฟ้าแลบ

ท่านมีหลายชื่อเรียกครับ ไม่ว่าจะเป็น ส่านเตี้ยนเหนียงเหนียง (閃電娘娘 : เจ้าแม่ฟ้าแลบ)
จินกวงเซิ่งหมู่ (金光聖母 : เจ้าแม่แห่งแสงทอง) หรือจวูเพ่ยเหนียง (朱佩娘 อันนี้เป็นชื่อ
ของท่านตอนเป็นมนุษย์)




ท่านจะทำงานคู่กับเทพลุ่ยกง (雷公) หรือเทพหลุยจินจู่แห่งห้องสินนั่นแหละครับ เจ้าแม่เตียนบ๊อนั้น
สองมือจะถือกระจก บ้างก็ว่าแผ่นทองที่เงาวับ เพื่อใช้ในการสะท้อนแสงทำให้เกิดฟ้าแล่บบนโลกมนุษย์
อีกหน้าที่นึงก็คือใช้กระจกในมือฉายเป็นแสงให้สัญญาณเทพลุ่ยกงว่าต้องลงโทษคนนี้ เทพลุ่ยกงก็จะเอา
สายฟ้าฟาดใส่

ส่วนเทพลุ่ยกง มือจะถือสิ่วและค้อนเพื่อสร้างสายฟ้า ตรงคอก็จะสวมกลองที่เอามาร้อยเป็นสร้อย เวลาจะทำ
สายฟ้าก็จะสั่นกลองให้เกิดเสียง (ฟ้าร้อง) ก่อน มีอยู่ครั้งนึงลุ่ยกงไปเอาสายฟ้าฟาดผิดคน เรื่องก็คือ....


...ชายคนนึงโยนเปลือกแตงโมทิ้ง ลุ่ยกงก็นึกว่าโยนข้าวที่มีประโยชน์ทิ้ง เลยให้เจ้าแม่เตียนบ๊อส่งสัญญาณ
แล้วตัวเองก็เอาสายฟ้าฟาดคนนั้นตาย พอของชายคนนั้นก็ทำพิธีบวงสรวงเทพลุ่ยกงว่าลูกของตนไม่มีความผิด
พอลุ่ยกงพิจารณาว่าตัวเองพลาด เลยใช้ฟ้าฟาดไปที่ชายคนนั้นอีกครั้ง ชายคนนั้นก็เลยฟื้นขึ้นมาเหมือนเดิม


และอีกงานที่ลุ่ยกงทำพลาดก็คือ ตัวเองดันไปติดอยู่ในซอกไม้ที่ตัวเองใช้ฟ้าฟาดไป จึงขอให้คนตัดฟืนช่วย
คนตัดฟืนก็ใช้ลิ่มตอกรอยแยกของไม้เทพลุ่ยกงก็เลยออกมาได้ พอออกมาได้ก็ได้ให้ตำรา "เรียกฝนและรักษาโรคภัย"
ซึ่งศักดิ์สิทธิ์มากแก่ชายตัดฟืน ชายคนนั้นก็ใช้ตำราช่วยเหลือผู้คนต่างๆจนร่ำรวยครับ



ตอนท่านเป็นมนุษย์นั้นชีวิตของท่านอาภัพมากครับ ท่านเป็นหญิงหม้าย (ชื่อจวูเพ่ย) สามีตาย ฐานะยากจน
และอยู่กับแม่สามี 2 คน แต่ท่านก็ยังดูแลปรนนิบัติแม่สามีอยู่เสมอมาและไม่ยอมแต่งงานใหม่เลย


วันนึงแม่สามีป่วยและ...อยากกินเนื้อเอามากๆ แต่ด้วยความยากจนก็เลยไม่มีเงินไปหาซื้อเนื้อมาให้ ท่านก็เลย
ยอมสละเนื้อตัวเองนั่นแหละครับ ท่านเฉือนเนื้อต้นขาไปต้มให้แม่สามีกิน แต่แม่สามีไม่ยอมกินเพราะเนื้อมัน
แข็งมากๆ และคิดว่าลูกสะใภ้ไร้ความกตัญญู ซื้อเนื้อมาก็เอาแต่ส่วนดีๆเก็บไว้กินเอง (นางหารู้ไม่ว่าเนื้อชิ้นนั้น
คือต้นขาลูกสะใภ้นางเอง) นางจึงเรียกลูกสะใภ้มาต่อว่าและแช่งให้ฟ้าผ่าลูกสะใภ้คนนี้ให้ตายไปเลย

ตอนนั้นเทพอัสนีได้ยินก็ไม่รอช้า เอาฟ้าฟาดใส่ลูกสะใภ้ขาดใจตายตรงนั้น พอถึงวันทำศพ แม่สามีก็ได้สังเกต
เห็นว่าเนื้อตรงส่วนต้นขาของสะใภ้ตัวเองได้แหว่งไป..ก็รู้ความจริง และได้แต่ร้องไห้อ้อนวอนเทพสายฟ้า
ให้ช่วยคืนชีพลูกสะใภ้ตัวเอง เทพสายฟ้าก็รู้สึกผิดที่ทำอะไรลงไปโดยไม่ไตร่ตรองก่อน จึงเขียนฎีกาถวาย
เง็กเซียนให้หญิงหม้ายคนนี้ได้ขึ้นสวรรค์กลายมาเป็นเจ้าแม่สายฟ้าแล่บ เพื่อคอยส่องนำทางในที่มืดให้
เทพสายฟ้าสามารถแยกแยะคนดีคนชั่วได้ง่ายขึ้น เวลาสวรรค์จะลงโทษจะได้ไม่ผิดตัว

นับตั้งแต่นั้นมาเจ้าแม่เตียนบ๊อก็ได้ทำงานคู่กับเทพลุ่ยกงตลอดเวลา


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ตุลาคม 2018, 13:43:06 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่