-->

ผู้เขียน หัวข้อ: อสังหาฯตีปี๊บ1ปีหลังน้ำท่วม3นายกการันตีขาขึ้นชัวร์/แห่เปิดโครงการใหม่  (อ่าน 444 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

don

  • กรรมการเวป
  • แตกหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 529
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด


         อสังหาฯตีปี๊บ1ปีหลังน้ำท่วม3นายกการันตีขาขึ้นชัวร์/แห่เปิดโครงการใหม่    ( 13 ตุลาคม 2555 )
     

3นายกฟันธง ตลาดอสังหาฯ 1 ปีหลังน้ำท่วม ส่งสัญญาณบวก ระบุคอนโดฯ ครองแชมป์ยอดนิยม เผยยอดเปิดตัวใหม่ 9 เดือนร่วม 5 หมื่นยูนิต คาดทั้งปี 55 เฉียด 5.8 หมื่นยูนิต ด้านที่อยู่อาศัยแนวราบต้องรอดูผลไตรมาส 4

 

แต่ขาขึ้นชัวร์ นายกสมาคมอสังหาฯ การันตีเขตพื้นที่น้ำท่วมยอดไม่ตก แม้จะมีการชะลอการตัดสินใจซื้อ ด้านบ้านจัดสรรโตแบบไม่หวือหวา

 

นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงสถานการณ์ที่อยู่อาศัยแนวราบในช่วงที่ผ่านมาว่า ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงไปได้ดี แม้จะไม่โดดเด่นเท่าที่ควร แต่ก็ไม่รุนแรงอย่างที่หลายๆคนคิด เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากรัฐบาล ได้แก่ การลงทุนด้านต่างๆที่เกี่ยวกับน้ำ , ระบบรางที่รัฐบาลมีนโยบายดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเม็ดเงินของภาครัฐที่ทุ่มให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ในด้านต่างๆ รวมถึงนโยบายคงที่ด้านอัตราดอกเบี้ย

 

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคอสังหาฯ ให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หากในช่วงไตรมาส 4 ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้น คาดการณ์ว่าที่อยู่อาศัยแนวราบจะมีการปรับตัวอย่างชัดเจน

 

"ในครึ่งปีแรกมีโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงเปิดตัวราว 3.5 หมื่นยูนิต ในขณะที่มีการเปิดตัวที่อยู่อาศัยแนวราบเพียงกว่า 1 หมื่นยูนิต เปรียบเทียบสัดส่วนได้ 40:60 แต่ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มขึ้นราว 2 หมื่นยูนิต เทียบสัดส่วนได้ 70:30 กล่าวคือ มีโครงการแนวราบเปิดตัวใหม่ถึง 70%" นายอิสระ กล่าวและว่า

 

ในขณะที่โครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงจะเปิดตัวเพียง 30% เท่านั้น โดยโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบส่วนใหญ่ยังคงนิยมเปิดในโซนปริมณฑลอย่าง บางบัวทอง ปากเกร็ด ลำลูกกา สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฯลฯ การที่โครงการแนวราบเปิดตัวมากขึ้นเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นภาคประชาชนในการบริหารจัดการเรื่องน้ำของรัฐบาล"

 

ขณะที่ นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวถึงตลาดคอนโดมิเนียมว่า ไม่ได้รับผลกระทบด้านลบจากเหตุการณ์น้ำท่วม แต่ได้รับผลกระทบด้านบวกมากกว่า เนื่องจากคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นในและชั้นกลางของกรุงเทพฯ แม้ในบางพื้นที่จะได้รับผลกระทบบ้างก็ตามแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ โดยภาพรวมถือว่า คอนโดมิเนียมได้รับอานิสงส์ด้านบวกจากเหตุการณ์น้ำท่วม

 

ทั้งนี้ ตัวเลขการเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.2555) ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ พบว่า มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่จำนวน 48,000 ยูนิต มากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2554 ถึง 42% และคาดว่าในช่วงเวลาที่เหลือ 3 เดือนสุดท้าย (ต.ค.-ธ.ค. 2555) จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ราว 58,000 ยูนิต สูงกว่าปี 2554 ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปีเพียง 42,000 ยูนิต

 

"เหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงปลายปี 2554 ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่เอื้อต่อการเติบโตของคอนโดมิเนียม ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปีทองของคอนโดฯรองจากปี 2553 ที่มีการเปิดตัวทั้งปีถึง 65,000 ยูนิต และปี 2554 อยู่ที่ 42,000 ยูนิต ลดลงเล็กน้อยเนื่องจากน้ำท่วมช่วงปลายปี กระทั่งมาในปีนี้ความต้องการที่ตกค้างจากปีที่แล้วประกอบกับไลฟ์สไตล์คนที่เปลี่ยนไป จึงส่งผลให้คอนโดฯมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แต่เพียงปีนี้ ยังหมายรวมถึงปีต่อๆปีอีกด้วย" นายธำรงค์ กล่าว

 

อย่างไรก็ดี การเปิดตัวโครงการใหม่ๆอย่างต่อเนื่องในปี 2555 อาจจะส่งผลให้เกิดภาวะโอเวอร์ ซัพพลายในบางพื้นที่ อาทิ พื้นที่พระโขนง ลาซาล ดินแดง ห้วยขวาง จตุจักร ฯลฯ แต่ไม่ใช่สิ่งที่น่าวิตกกังวล ว่าจะเข้าสู่ภาวะฟองสบู่เหมือนดังเช่นที่ผ่านมา เพราะการที่จะเกิดภาวะเช่นนั้นได้จะต้องเป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่ปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ซื้อคอนโดฯ มิได้ซื้อเพื่อการลงทุนอย่างในอดีต และ การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินในปัจจุบันมีความเคร่งครัดและรัดกุมมากขึ้น อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็มีการจับตาอย่างใกล้ชิด

 

สำหรับในปี 2556 คาดว่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ประมาณ 40,000-50,000 ยูนิต ในรูปแบบของคอนโดฯโลว์ไรส์ ขนาด 8 ชั้น ในซอย เนื่องจากราคาที่ดินตามแนวถนนถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับถนนสายเมนไม่สามารถขึ้นตึกสูง ทำให้ราคาคอนโดฯมีราคาสูงตามไปด้วย ซึ่งยากต่อการขาย รวมถึงในเรื่องของราคาค่าแรง และราคาวัสดุที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เป็นแรงผลักให้ดีเวลอปเปอร์ต้องหนีไปผุดโครงการใหม่ตามซอยต่างๆ

 

ด้าน นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ช่วง 1 ปีหลังน้ำท่วมว่า คอนโดมิเนียมได้รับอานิสงส์จากเหตุการณ์น้ำท่วมอย่างเห็นได้ชัด สำหรับที่อยู่อาศัยในแนวราบต้องรอดูในไตรมาส 4 เพราะจะเห็นความเคลื่อนไหวชัดเจนที่สุด

 

"ต่อความกังวลในยอดขายและการเปิดตัวโครงการใหม่เขตพื้นที่น้ำท่วมปี 2554 ถือว่ายังไม่น่าเป็นห่วง แต่ก็คงมีการชะลอการตัดสินใจซื้อบ้าง เนื่องจากรอดูสถานการณ์ในช่วงปลายปี แต่เท่าที่ดูไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด เพราะไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะเปิดน้ำท่วมเหมือนปีที่ผ่านมา ประกอบกับมีโครงการคอมมิวนิตีมอลล์เกิดใหม่ในพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้น ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค อีกทั้งระบบการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เอื้อให้ที่อยู่อาศัยแนวราบกลับมามีอัตราการเติบโตมากขึ้น

 

ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าในไตรมาส 4 จะเห็นตัวเลขที่อยู่อาศัยแนวราบชัดเจนขึ้น สำหรับกลยุทธ์การตลาดที่บรรดาดีเวลอปเปอร์ทั้งหลายนำมาใช้สร้างยอดขายในปีนี้ไม่ว่าจะเป็น ซื้อบ้านแถมรถ แจกส่วนลด ฯลฯ ถือเป็นกลยุทธ์ด้านการตลาดที่นำมาใช้เป็นปกติสำหรับช่วงปลายปี เนื่องจากต้องการขายสินค้าในสต๊อกให้หมด เพื่อให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้" นายกิตติพล กล่าว

 

สำหรับมาตรการภาครัฐที่ออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนอย่าง โครงการบ้านหลังแรก อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี เพื่ออยู่อาศัย โดยกำหนดวงเงินให้กู้ค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในวงเงินรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท , ซื้อบ้าน ซื้อคอนโดฯ (หลังแรก) ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท เพื่ออยู่อาศัยได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีได้ 10% นาน 5 ปี ไม่สร้างแรงจูงใจต่อการบริโภคมากนัก แต่สำหรับมาตรการในเรื่องอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟต์โลน ดอกเบี้ยคงที่ 3% 5 ปี สำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่ประสบอุทกภัยดูจะได้รับการตอบรับมากที่สุด

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,782 วันที่ 11-13 ตุลาคม พ.ศ. 2555