คุก 7 ปี "เพื่อนเจ้าบ่าว" ย่องลักหลับเจ้าสาว เจ้าบ่าวตัวจริงเมาหลับโซฟา

[etatae333]

Tweet

คุก 7 ปี "เพื่อนเจ้าบ่าว" ย่องลักหลับเจ้าสาว
เจ้าบ่าวตัวจริงเมาหลับโซฟา



ศาลสิงคโปร์ ตัดสินจำคุก 7 ปี เฆี่ยนตี 6 ครั้ง "เพื่อนเจ้าบ่าว" ล่วงละเมิดเจ้าสาวในคืนแต่งงาน
เจ้าบ่าวตัวจริงเมาหลับบนโซฟาในห้องเดียวกัน

เว็บไซต์ The Straits Times รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 ก.ย.) ศาลสิงคโปร์
ตัดสินคดีชายวัย 42 ปีซึ่งเป็น "เพื่อนเจ้าบ่าว" ที่ก่อเหตุล่วงละเมิดเจ้าสาวในคืนแต่งงาน
ในขณะที่เจ้าบ่าวตัวจริงเมาหลับอยู่บนโซฟาในห้องเดียวกัน โดยลงโทษจำคุก 7 ปี และเฆี่ยนตี 6 ครั้ง

คดีนี้เริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ปี พ.ศ.2559 หลังจากจบงานเฉลิมฉลองการสมรสของคู่รัก ช่วงค่ำเวลา
ประมาณ 5 ทุ่ม เจ้าบ่าวและเพื่อนๆ ของเขา ได้ชวนกันไปดื่มต่อในห้องสวีทของโรงแรม ห้องที่บ่าวสาว
จะใช้นอนในค่ำคืนแต่งงาน โดยที่เจ้าสาวไม่ได้เข้าร่วมวงดื่มกับพวกเขา

เวลาประมาณตี 1 เจ้าสาวอาบน้ำและเข้านอนในห้องนอนเพียงลำพัง ขณะที่งานรื่นเริงยังดำเนินต่อไป
ในห้องนั่งเล่น ซึ่งถูกกั้นไว้ด้วยประตูบานเลื่อนเท่านั้น กระทั่งเวลาประมาณตี 3 เพื่อนๆ ทุกคนเริ่มทยอย
ออกจากห้องชุด ยกเว้นผู้ต้องหาซึ่งหลับอยู่บนโซฟา เจ้าบ่าวพยายามปลุกแต่เขาไม่รู้สึกตัวตื่น และต่อมา
เจ้าบ่าวเองก็ผล็อยหลับไปบนโซฟาอีกตัว

เหยื่ออ้างว่า เธอตื่นนอนตอน 6 โมงเช้า โดยรู้สึกว่ามีคนมาลูบไล้หน้าอก และใต้ชุดนอนของเธอ
ในตอนแรกเธอคิดว่าเป็นสามี และเอ่ยปากบอกให้เขาไปอาบน้ำ แต่เมื่อสัมผัสไปที่กางเกงที่เขาสวมใส่อยู่
ก็รู้ได้ทันที่ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เนื่องจากสามีของเธอไม่ได้ใส่กางเกงยีนส์ในงานเลี้ยง

แม้จะไม่อยากคิดว่ามีคนอื่นมาอยู่บนเตียงกับเธอ แต่เธอก็ยังพยายามเพ่งมองคนๆ นั้น เนื่องจากในห้อง
มืดมากทำให้มองเห็นใบไม่ชัด แต่เธอก็ยังคงเห็นว่าใบหน้านั้นใหญ่กว่าของสามีมาก จึงลองถามออกไปว่า
"คุณเป็นใคร" แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ เธอรู้สึกกลัวจึงวิ่งออกจากห้องเพื่อขอความช่วยเหลือ ทำให้พบว่าสามี
นอนอยู่บนโซฟาในชุดแต่งงาน เธอปลุกเขาและเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นให้ฟัง

เมื่อเผชิญหน้ากัน ในตอนแรกชายคนนั้นปฏิเสธคำกล่าวอ้างของเจ้าสาว แต่ในที่สุดก็จนมุมและยอมรับว่า
ได้สัมผัสหน้าอกของเธอ แต่ยืนยันว่าเขาไม่ได้แตะต้องร่างกายส่วนล่าง ก่อนกล่าวขอโทษสั้นๆ เจ้าบ่าว
ไล่ชายคนนั้นออกจากห้องไป ก่อนที่ทั้งคู่จะไปแจ้งความกับตำรวจในวันรุ่งขึ้น



ทั้งนี้ คำให้การในศาลเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ผู้ต้องหาอ้างว่าเขาเข้าใจผิดว่าเจ้าสาวเป็นภรรยาของเขา
แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าได้สัมผัสหน้าอกของเหยื่อ แต่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ นอกจากนี้
เขายังอ้างว่าละมือออกจากหน้าอกทันที เมื่อได้ยินเสียงของเหยื่อซึ่งไม่เหมือนภรรยาของเขา

อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาเห็นว่าคำพูดของเขานั้น “ไม่น่าเชื่อ” และเป็นเพียง “ข้อแก้ตัวที่สิ้นหวัง”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อโต้แย้งว่า ถ้าผู้กระทำผิดคิดว่าเขาอยู่ที่บ้านจริงๆ เขาคงจะนอนบนพื้น
แทนที่จะนอนบนเตียง เพราะภรรยาของเขาไม่อนุญาตให้เขาขึ้นเตียง ถ้าเขาเมาและไม่ได้อาบน้ำ

ในทางกลับกัน ผู้พิพากษาเห็นว่าเหยื่อ "น่าเชื่อถือและซื่อสัตย์" เรื่องราวที่เธอกล่าวนั้นไม่มีการกลับคำเลย
นอกจากนี้คำให้การยังตรงกันกับคำให้การของสามีของเธอทั้งหมด ด้วยเหตุนี้หลักฐานทางฝั่งเธอจึงได้รับ
การบ่งชี้ว่า “น่าเชื่อถือ” หมายความว่าการฟ้องร้องได้รับการพิสูจน์โดยปราศจากข้อสงสัยอันสมเหตุสมผล

หลังจากศาลตัดสินลงโทษ จำคุก 7 ปี และเฆี่ยนตี 6 ครั้ง ทนายฝ่ายจำเลย ได้ออกมาระบุว่า จำเลยจะ
อุทธรณ์คำตัดสินลงโทษและคำพิพากษา และได้ยื่นประกันตัวเขา 30,000 ดอลลาร์สิงคโปร์
(ประมาณ 788,000 แสนบาท)

สำหรับกฎหมายของสิงคโปร์นั้น การล่วงละเมิดทางเพศต่อบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอม
ผู้กระทำความผิดอาจถูกจำคุกสูงสุด 20 ปี และปรับ หรือถูกเฆี่ยนตี ทั้งนี้ ตามรายงานยัง
เปิดเผยด้วยว่า เหยื่อวัย 39 ปีรายนี้ ได้ตัดสินใจแยกทางกับสามีของเธอแล้ว หลังจากคบหา
กันมานานกว่า 11 ปี แต่เหตุผลของการหย่าร้างไม่ได้ถูกกล่าวถึงในศาล


cr. https://www.sanook.com/