เปิดตำนาน "คาสโนว่า"cr.พี่น้ำผึ้ง@dek-d
คาสโนว่า (Casanova) เป็นคำนิยามของผู้ชายเหลวไหล เจ้าชู้ หยาบคายหลายใจ บางคนก็เปรียบเป็นจิตรกร
ที่ใช้คารมวาดภาพหรือนักผจญภัยในความรัก แน่นอนค่ะว่าคนที่เป็นคาสโนว่าย่อมเชื่อถือไม่ได้เพราะพวกนี้มักจะ
เป็นพวกเจ้าคารม คมคาย มีเสน่ห์ ใช้คำพูดหว่านล้อมสาวๆ จนยอมโอนอ่อน คำที่ใช้เรียกผู้หญิงก็ประมาณว่า
ที่รักเอย เด็กน้อยเอย แล้วแต่จะสรรหามาได้
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าคาสโนว่ามีตัวตนอยู่จริงๆ ในทวีปยุโรป ช่วงศตวรรษที่ 17 จาโกโม จีโรลาโม กาซาโนวา
(Giacomo Girolamo Casnova) เกิดในปี ค.ศ. 1725 ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ยุคนั้นเต็มไปด้วยอบายมุข
ไม่ว่าจะเป็นการพนัน โสเภณี หรือสถานรื่นเริง จึงไม่แปลกที่จะหล่อหลอมให้เขาเติบโตเป็นชายหนุ่มมากรักเมื่อกาซาโนวาอายุได้ 9 ขวบ เขาก็ถูกส่งไปอยู่กับครูสอนพิเศษที่ปาโดวา ที่นั่นเองที่กาซาโนวาได้เริ่มต้น
ประสบการณ์สุดอีโรติกกับลูกสาวของครู หลังจากนั้นพอเขาอายุ 17 ปีก็สำเร็จการศึกษาจากมหวาวิทยาลัย
ปาโดวาในสาขากฎหมาย ไม่เพียงแค่นั้นเขายังชำนาญในด้านเคมี คณิตศาสตร์ การแพทย์ ปรัชญา รวมไปถึง
การพนัน โอ้โห คนอะไรเก่งเกินคนจริงๆ
เปิดตำนาน "คาสโนว่า" รู้มั้ยว่าเขาคนนี้คือนักเขียนที่เจ้าชู้ที่สุดในโลก!
หลังจากนั้นเขาก็เดินทางกลับไปยังเวนิสและมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสองพี่น้องที่ไม่มีศาสนา! หนี้พนันที่ท่วมหัว
ทำให้เขาต้องเข้าไปอยู่ในคุก แล้วก็เพราะเรื่องอื้อฉาวเหล่านี้นี่แหละ เขาถึงปลิวหลุดจากตำแหน่งเสมียน
ของพระราชาคณะที่ใช่ว่าใครก็จะได้มาง่าย เมื่อเป็นดังนั้นพ่อหนุ่มนักรักก็เลยเข้าไปทำงานในกองทัพแทน
แต่พออายุได้ 21 ปี พี่แกก็ผันตัวมาเป็นนักพนันมืออาชีพ ซึ่งไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่นักเลยยึดอาชีพนี้อยู่ได้
ไม่นาน จากนั้นจึงกลายมาเป็นนักเปียโนแทน (นี่ก็เก่งเกิ๊น เก่งเกินชาวบ้าน 55+)
เส้นทางชีวิตของกาซาโนวาเริ่มเข้าที่เข้าทางเมื่อเขาได้ช่วยชีวิตขุนนางชาวเวนิสและได้รับการอุปถัมภ์
เป็นการตอบแทน หลังจากนั้นเขาก็เดินทางไปทั่วยุโรปเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นปารีส ปราก เวียนนา มาดริด
หรือมอสโก ระหว่างนั้นก็ใช้เวลาไปกับการพนัน งานเลี้ยงรื่นรมย์ มองหาผู้อุปถัมภ์คนแล้วคนเล่า
และฝักใฝ่กับประสบการณ์ทางเพศที่แปลกใหม่ เขาหมกหมุ่นอยู่กับคับบาล่าห์ (นิกายแนวคิดปริศนาของยิว)
องค์กรฟรีเมสัน (สมาคมลับที่ต่อสู้กับศาสนาคริสต์) และโหราศาสตร์ แต่หลังจากนั้นเมื่ออายุ 30 ปี
เขาก็ถูกตัดสินจำคุก โดยไม่มีการพิจารณาคดีที่ห้องขังเหนือพระราชวังดอจเป็นเวลา 5 ปี
เรื่องน่าทึ่งคือเขาหลบหนีออกมาได้และกลายเป็นสายลับ
กาซาโนวาเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ เจ้าเล่ห์เพทุบายและคารมคมคายมากๆ ไม่ว่าจะย่างก้าวไปที่ไหนก็จะต้องมี
ความสัมพันธ์กับหญิงสาวไปซะทุกที่ นอกจากเดินสายล่าผู้หญิงแล้ว เขาก็ยังเป็นนักต้มตุ๋นมือวางอันดับ 1 ด้วย
แต่ทุกครั้งที่หนี้สินและเรื่องวุ่นวายตามมาทัน กาซาโนวาก็จะย้ายที่ไปเรื่อยๆ จากฝรั่งเศสสู่ฮอลแลนด์
อังกฤษ เบลเยี่ยม รัสเซีย รวมไปถึงสเปนแม้ว่าเขาจะเก่ง แต่ก็มีครั้งหนึ่งที่แผนของเขาผิดพลาดเลยทำให้เขาต้องไปพัวพันกับคดีฆ่าชายอัมพาต แต่สุดท้าย
ก็หาทางหนีทีไล่ออกมาได้ เขาใช้ชีวิตหวือหวาทั้งดวลปืน หลบหนีการลอบสังหาร และความสัมพันธ์เชิงชู้สาว
จนกระทั่งอายุย่างเลข 4 กาซาโนวาก็สูญเสียรูปลักษณ์หล่อเหลา และหนทางการหาเงินแบบที่เคยทำเป็นประจำ
เขาจึงกลับมาที่เวนิส ที่นี่เขายังคงหาลู่ทางทำมาหากินโดยการดำรงอาชีพนักเขียน เขาเขียนตำราคณิตศาสตร์
และนวนิยายแนวไซไฟ พร้อมแปลเป็นภาษาท้องถิ่นเวนิส เขาได้รู้จักพูดคุยกับคนดังหลายคนไม่ว่าจะเป็น
วอลแตร์ เบนจามิน แฟลงคลิน และจักรพรรดิแคทเธอรีนที่ 2 แห่งรัสเซีย
กาซาโนวาสิ้นเนื้อประดาตัวและออกไปจากเวนิสอีกครั้ง (เป็นปีเดียวกับที่เขาตีพิมพ์หนังสือเสียดสีขุนนางในเมือง)
เขาผันตัวมาเป็นบรรณารักษ์ให้กับชาวโบฮีเมียนในปราสาทดักซ์ที่สาธารณรัฐเช็ค ที่นั่นเองเขาได้ทำให้คนทั้งโลก
รู้จักผ่านการเขียนหนังสืออัตชีวประวัติถึง 12 เล่มในชื่อประวัติ ชีวิตของข้าพเจ้า (Hirtoire de ma vie)
ซึ่งเริ่มเขียนตั้งแต่ปี 1789 ตามคำแนะนำของแพทย์ หลังจากพบว่าตัวเองเป็นโรคใจลอย และเขาก็ใช้เวลาถึง
13 ชั่วโมงต่อวันไปกับการเขียนหนังสือ (นานมาก...)กาซาโนวาจบชีวิตลงในวัย 49 ปีที่เมืองตรีเยสเต แม้ว่าเขาจะส่งจดหมายคุยกับเพื่อนและลืมเผาทิ้งก่อนตาย
แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดสนับสนุนว่า เขาเคยต้องการให้ผลงานได้ตีพิมพ์สักครั้ง ซึ่งว่าก็ว่าเถอะ งานเขียนที่ยาว
และ ละเอียดเป็นมหากาพย์ของกาซาโนวา อ่านทั้งปีก็คงไม่จบ แต่แล้วในปี 1821 มหากาพย์ชีวิตเขาก็ได้ถูก
เผยแพร่เป็นครั้งแรก
ชีวิตรักคาสโนว่า มิติใหม่ของความรัก และความสัมพันธ์เชิงชู้สาว
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชีวิตรักของกาซาโนวาจะทำให้ชีวประวัติ 12 เล่มของเขา ดูมีชีวิตชีวาน่าสนใจจนเป็นที่พูดถึงกัน
มาจนถึงทุกวันนี้ เหมือนที่จัสติน บีเบอร์ มีบีลีฟเบอร์นั่นแหละ กาซาโนวาก็มีแฟนคลับเหมือนกัน พวกเขาเหล่านั้น
คือคาสโนวิสต์ ฝูงชนที่ ‘ต้องมนตร์สะกด’ กับเสน่ห์ของกาซาโนวานั่นเองหนังสืออัตชีวประวัติของเขาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง บ้างก็ว่าเรื่องราวเขาดูจะเกินจริงไปหน่อย อย่างที่เอียน เคลลี่
เคยวิจารณ์ว่าเป็นความผิดพลาดทางการเผยแพร่ เพราะเรื่องราวของเขาถูกแปลจากภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาเยอรมัน
แล้วก็แปลจากเยอรมันเป็นภาษาอังกฤษอีกที ก็ไม่แปลกที่จะมีข้อผิดพลาดได้
อย่างไรก็ตาม
"ประวัติชีวิตของข้าพเจ้า" จัดเป็นเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่พูดถึงการปฏิวัติเรื่องเพศ การก้าวข้าม
ความเชื่อของศาสนาในเรื่องชู้สาว ซึ่งจัดเป็นมิติใหม่ของความรักและความสัมพันธ์ในยุคนั้นเลย
เคลลี่บอกว่าชีวประวัติของเขาแสดงให้เห็นถึงกุญแจสำคัญที่สุดของเรื่องเพศ สิ่งที่ทำให้กาซาโนวาหลงใหล
ก็คือความสมบูรณ์แบบของเขา รวมไปถึงความตั้งใจที่จะเปิดกว้างเสรีภาพให้กับชีวิตรักและความสัมพันธ์เชิงชู้สาว
จนกลายเป็นเรื่องน่าอัปยศ เขาเล่าเรื่องราวความล้มเหลวในความรักของเขาไว้มากมาย ซึ่งทั้งหมดล้วนเกิดมาจาก
ความเจ้าชู้คาสโนว่านั่นเองขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.biography.com/video/casanova-full-episode-2073084374http://shepelavy.com/blog/casanova/https://www.walksofitaly.com/blog/background/casanova-the-lover-venice-italyhttps://en.wikipedia.org/wiki/Giacomo_Casanova
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก