-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เซ็กส์ชั้นเยี่ยม ไม่จำเป็นต้อง สอดใส่ เสมอไป  (อ่าน 1668 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

mammos69

  • บุคคลทั่วไป



คนส่วนใหญ่คิดว่าแค่บทโหมโรงหรือออรัลเซ็กส์ ไม่ใช่การร่วมเพศที่แท้จริง นี่คือความเชื่อที่ฝังหัวกันมานานนักหนา ทั้งที่ความจริงแล้วการถึงจุดสุดยอดด้วยวิธีอื่นนอกเหนือจากการสอดใส่ ก็ช่วยให้มีความสุขสุดยอดได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน หนำซ้ำอาจมันส์กว่าการสอดใส่ที่ซ้ำซากจำเจน่าเบื่อซะอีก

ข้อดีของการสอดใส่ให้น้อยลง

1.มีเวลาแสดงบทโหมโรงมากขึ้น
แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาเดินเครื่องเพื่อให้ถึงปลายทางโดยไว ทำไมไม่ลองเปลี่ยนเป็นวิธีค่อยๆสร้างอารมณ์ บิลด์ความรู้สึกให้ลึกซึ้งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ผู้หญิงชอบละเลียดอารมณ์มากกว่าการเปิดปุ๊บติดปั๊บ ดื่มด่ำกับความรู้สึกคุกรุ่นที่เริ่มจากศูนย์ เพิ่มดีกรีเร่าร้อนจนถึงขั้นปรอทแตก...นี่ละที่ผู้หญิงโปรดปรานนัก กลเม็ดเช่นนี้ทำให้ผู้หญิงตื่นเต้นเร้าใจและสนุกกับการมีเซ็กส์อย่างไม่น่าเชื่อ ต่างกับการสอดใส่ซึ่งผู้หญิงมักกังวลกลัวว่าฝ่ายชายจะกลั้นเอาไว้ไม่ไหว ประเดี๋ยวเดียวก็วิ่งแซงเข้าเส้นชัยไปเสียก่อน เป็นอันว่าจบเห่กันแค่นั้น กลเม็ดนี้ช่วยให้ผู้หญิงผ่อนคลายมากขึ้น เพราะไม่ต้องกลัวว่าจะถูกทิ้งให้นอนก่ายหน้าผากตาค้างอยู่เดียวดาย

2.ไม่ต้องเหนื่อยแรงมากกว่าจะถึงจุดสุดยอด
ในกรณีที่ฝ่ายหญิงถึงจุดสอดยอดช้า หากเป็นคู่ที่นิยมท่ามิชชันนารี อันเป็นท่าสากลนิยมตั้งแต่สมัยมนุษย์โครมันยอง การสอดใส่ด้วยท่านี้จะกลายเป็นหน้าที่อันหนักหนาสาหัสสำหรับฝ่ายชาย ซึ่งต้องตั้งหน้าตั้งตาประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะไปเรื่อยๆ กว่าฝ่ายหญิงจะถึงจุดสุดยอดแข้งขาก็อาจหมดแรงอ่อนเปลี้ยเสียก่อน ดีไม่ดีตะคริวกินละก็หมดสนุกเลยละ ดังนั้นจึงควรทำใจเผชิญหน้าความจริง ยอมรับให้ได้ว่า การสอดใส่จำเป็นต้องพึ่งพาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนขา และใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะแข็งแรงฟิตเปรี๊ยะราวนักกรีฑา แน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนย่อมผ่านประสบการณ์สอดใส่ที่ใช้เวลานานเกินไป เสียงบ่นที่ลอยมาจึงมีแต่คำว่า เจ็บจังเลย ยิ่งฝ่ายชายกระหน่ำซ้ำลงไปเท่าไร เธอก็ยิ่งแสบระบมมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งนานก็ยิ่งหมดอารมณ์ น้ำหล่อเลี้ยงน้องหนูพาลแห้งเหือด เท่ากับเพิ่มความฝืดเคืองในช่องทางรักมากขึ้น ทั้งที่ฝ่ายชายปรารถนาดีอยากให้คนรักถึงจุดสุดยอดแฮปปี้สุดๆ กลับกลายเป็นว่าความพยายามสูญเปล่าเสียนี่

3.เขาถูกกระตุ้นอารมณ์และให้ความสนใจเรามากขึ้น
เป็นความจริงที่ว่าผู้ชายไม่สามารถร่วมรักไปเรื่อยๆโดยไม่มีที่สิ้นสุด ผู้ชายมักจะถูกกระตุ้นอารมณ์ให้พลุ่งพล่านเกินขีด (หรือไม่ก็เหนื่อยเกินไป) จนต้องระเบิดออกมาเพราะเก็บกดอดกลั้นเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป ผู้ชายส่วนใหญ่มักมีความคิดวนเวียนอยู่ในหัวว่า ทำอย่างไรให้ฝ่ายหญิงถึงสวรรค์ก่อนแล้วตัวข้าพเจ้าค่อยตามติดขึ้นไปบ้าง จิตใจก็เลยวอกแวกหรือไม่ก็เจตนาทำใจให้วอกแวก เพื่อให้ตัวเองปรนเปรอสวาทอีกฝ่ายได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหมายความว่า ทั้งสองไม่มีความเชื่อมโยงทางจิตใจระหว่างกันอย่างแท้จริงเลย วิธีที่ดีคือผลัดกันปรนเปรอบำเรอรักให้กันและกันจะดีกว่า แล้วค่อยสอดใส่ทีหลัง ช่วงจังหวะของจุดสุดยอดอาจมาพร้อมกันพอดี

4.ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดได้สะใจกว่าเดิม
ความจริงที่ผู้ชายควรยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานก็คือ ผู้หญิงทุกคนสามารถถึงจุดสุดยอดชนิดที่สุดๆจริงๆกับไวเบรเตอร์ ดิลโด้ ออรัลเซ็กส์ ฯลฯ ถึงแม้การสอดใส่จะเป็นสิ่งพิเศษที่เชื่อมโยงสร้างความผูกพันระหว่างคนสองคน แต่สำหรับผู้หญิงทุกคน การสอดใส่ไม่ได้สัมผัสบริเวณเสียวซ่านที่ช่วยสร้างอารมณ์เลย ดังนั้นการใช้เซ็กส์ทอย หรือเซ็กส์ในรูปแบบอื่นจะกระตุ้นได้ถูกจุดมากกว่า ผู้หญิงหนึ่งในสามคนไม่เคยถึงจุดสุดยอดระหว่างสอดใส่เลย ส่วนผู้หญิงที่ไคลแม็กซ์ด้วยการสอดใส่ ก็ต้องถูกฝ่ายชายกระตุ้นคลิทอริสโดยตรงแทบทั้งสิ้น นี่ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงไม่ชอบการสอดใส่ ความจริงแล้วชอบม๊ากมากเลยละ ลองเปลี่ยนมาใช้เจ้าหนูนวดคลึงกระตุ้นคลิทอริสก็ได้นี่นา หรือจะลองใช้การสอดใส่เป็นบทโหมโรง แล้วใช้การกระตุ้นคลิทอริสเป็นเส้นทางสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ก็เข้าท่าดีนะ

5.ต่างฝ่ายเปรมปรีดิ์กับออรัลเซ็กส์ได้เต็มที่
ออรัลเซ็กส์เป็นสิ่งที่ทุกคนโปรดปราน ได้เท่าไรไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอ ยิ่งมากยิ่งดี ยิ่งมันส์ยิ่งสะใจว่างั้นเถอะ ออรัลเซ็กส์ไม่ใช่ของง่าย ต้องอาศัยการเรียนรู้ร่างกายของแต่ละฝ่ายอย่างถ่องแท้ รู้ว่าจุดไหนเสียวจุดไหนสยิว ไม่ใช่นึกจะทำก็ก้มหน้าก้มตาลุยมั่วซั่วไปเรื่อย แทนที่จะช่วยกระตุ้นความรู้สึก อารมณ์กลับหดหายหมดมู้ดไปเลย หากลดละการสอดใส่ หันมาฝึกปรือแสดงฝีมือทางปาก จะช่วยให้ความรักแนบแน่นแข็งแรงกว่าเดิม ถึงแม้ออรัลเซ็กส์จะไม่ได้ช่วยป้องกันการหย่าร้างหรือแยกทางได้โดยตรง แต่ใครเล่าจะหักใจทิ้งคนที่มีพรสวรรค์ทางปากได้ลงคอละ...ยิ่งหายากอยู่ด้วย

6.มีโอกาสสนุกกับอย่างอื่น เช่น จินตนาการทางเพศและเซ็กส์ทอย
ความจริงที่ค้นพบอีกประการคือ ยิ่งเราใช้บทโหมโรงแทนการสอดใส่มากเท่าไร ก็ยิ่งเกิดความคิดสร้างสรรค์ในกามกรีฑามากขึ้นเท่านั้น ว่างๆก็ลองเขียนจินตนาการทางเพศลงกระดาษว่า ในหัวของเรามีอะไรบ้าง สิ่งที่เขียนสามารถนำมาใช้กับชีวิตจริงในสังเวียนรักได้ หนำซ้ำยังทำให้ชีวิตเซ็กส์ระหว่างเราและเขาแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เกือบทุกรายต้องใช้วิธีสอดใส่อยู่แล้ว แต่นั่นไม่ได้เปิดเผยความในใจ หรือจินตนาการในส่วนลึกของแต่ละคน หากเราได้แชร์จินตนาการร่วมกัน ได้สวมบทบาทเป็นคนนั้นคนนี้ หรือได้ทดลองอุปกรณ์เสริมเซ็กส์รูปแบบต่างๆ นี่ละความผูกพันเชื่อมโยงระหว่างคนสองคนได้เกิดขึ้นแล้ว เพราะเราได้ทำในสิ่งที่เราจะทำเฉพาะกับคนที่เรารักและไว้ใจเท่านั้น ผลพลอยได้คือช่วยยืดอายุความสัมพันธ์ทางเซ็กส์ในยืนยาวออกไปอีก ประโยชน์ของจินตนาการเซ็กส์ก็คือ เราคิดนอกใจก็ได้ แต่ต้องเป็นแค่จินตนาการ และนำมาสวมบทบาทกับคู่ของเราเท่านั้น เราลองเล่นสลับเปลี่ยนเพศกันก็ได้ แค่ชั่วประเดี๋ยวเดียวจะเป็นไรไป หรือจะใช้การสอดใส่ร่วมด้วยก็ได้ แต่อย่าให้ปล่อยให้ลามปามจนกลายมาเป็นกิจกรรมหลัก เพราะจุดมุ่งหมายคือแชร์จินตนาการร่วมกันจ้า

7.ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งถึงสวรรค์
มีผู้หญิงมากมายเสแสร้งว่าตัวเองถึงจุดสุดยอด ทำไมนะเหรอ ก็เพราะว่ามันง่ายกว่าการกรุยทางไปสู่ไคลแมกซ์ของจริงนะสิ หรืออีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เธอเหล่านั้นหมดหวังที่จะได้พบกับความสุข และรู้ว่าฝ่ายชายอยากได้ยินเสียงครวญครางโหยหวนอันแสดงถึงจุดสุดยอดจากปากฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงว่าข้าคือจอมยุทธนักรัก ผู้หญิงเป็นเพศใจบุญ ชอบสร้างกุศลโดยการทำให้ฝ่ายชายเกิดความมั่นใจและภูมิใจในตัวเอง ดังนั้นจึงเปล่งเสียงซาวด์เอ็ฟเฟ็คท์ประกอบแอ็คติ้งสุดยอด ชนิดที่ผู้ชายเชื่อสนิทว่า เธอถึงจุดสุดยอดจริงๆ...เท่านี้ผู้ชายก็มีความสุขแล้ว แต่ทว่าการเสแสร้งไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป เพราะผู้ชายจะไม่รู้เสียทีว่า ควรทำอย่างไรฝ่ายหญิงจึงจะมีความสุข ถ้าแกล้งทำก็ต้องแกล้งทำไปเรื่อยๆ โดยที่เขาจะทำผิดเช่นนี้ไปเรื่อยๆเช่นกัน ถ้ามัวแต่โอ๋เอาใจกลัวเขาเสียฟอร์มอยู่อย่างนี้ วิทยายุทธ์ของเขาย่อมไม่กระเตื้องขึ้นแน่นอน แถมเราเองก็ไม่พานพบความสุขที่แท้จริงเสียที การลดละการสอดใส่หันมาใช้บทโหมโรง จะช่วยให้เรียนรู้กันและกันมากขึ้น ทางที่ดีควรใช้บทโหมโรงพาฝ่ายหญิงขึ้นสวรรค์เสียก่อน จากนั้นค่อยสอดใส่ บรรยากาศล้มเหลวผิดหวังกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทั้งหลายแหล่ย่อมมลายหายไปจากห้องนอน

8.การสอดใส่ไม่ใช่เรื่องจำเจน่าเบื่ออีกต่อไป
เมื่อห่างหายการสอดใส่ไปนาน การกลับมาใช้อีกครั้งจึงเป็นเรื่องเร่าร้อนต่างจากที่เคย สาวรายหนึ่งสาธยายถึงความเจ๋งของหนุ่มคนรักว่า เวลาที่อาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวด้วยกัน ฝ่ายชายจะถูสบู่แล้วนวดศรีษะ นวดไหล่ และนวดให้เธอทั่วเรือนร่าง (ว้าว) ทุกครั้งที่ร่วมรักกันเขาจะเซอร์ไพรซ์เธอด้วยเซ็กส์ทอยสาระพัดชนิด ผสมผเสไปกับท่วงท่าแหวกแนว หรือจินตนาการแปลกใหม่อยู่เสมอ บางครั้งไม่สอดใส่เลยเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ เล่นแต่ออรัลเซ็กส์ เซ็กส์ทอย และจินตนาการสุดเร่าร้อน เจอเข้าแบบนี้สาวเจ้าสารภาพว่า ?ติด? ชนิดที่ว่า ถ้าเลิกกัน เธอก็คงไปตะกายวิงวอนขอความเห็นใจอยู่หน้าประตูบ้าน นี่คือข้อพิสูจน์ว่า ขนาดไม่ใช่เรื่องสำคัญ และไม่เกี่ยวกับจำนวนของการมีเซ็กส์ มันอยู่ที่เทคนิคลีลาต่างหาก สิ่งที่ต้องทำคือ ศึกษาเรือนร่างของอีกฝ่าย เรียนรู้การตอบสนองและการ ?เล่น? กับเรือนร่างของคนรัก จำไว้ว่าการสอดใส่ไม่ใช่เป้าหมาย แต่เป็นแค่เครื่องมืออย่างหนึ่งเท่านั้น