ชานอชานปัญหา
: ถามเรื่องการทำบาปของผู้ที่รู้และไม่รู้
พระเจ้ามิลินท์ :
คนที่รู้ว่าบาปแล้วยังขืนทำ
กับคนที่ไม่รู้ว่าบาปแล้วทำลงไป
ทั้ง ๒ คนนี้ใครจะบาปมากกว่ากัน
พระนาคเสน :
คนที่ไม่รู้ว่าบาปทำลงไปเป็นบาปมากกว่า
พระเจ้ามิลินท์ :
อำมาตย์ของข้าพเจ้า คนที่รู้ว่าผิดแล้วขืนทำ
ข้าพเจ้าจะลงโทษเป็น ๒ เท่า เพราะถือว่ารู้แล้วขืนทำ
พระนาคเสน :
อุปมาเหมือนคนที่รู้ว่าก้อนเหล็กร้อน แล้วจับก้อนเหล็กนั้น
ส่วนอีกคนไม่รู้ว่าก้อนเหล็กร้อนแล้วจับ
ทั้งสองคนนั้นใครจะร้อนกว่ากัน
พระเจ้ามิลินท์ :
คนที่ไม่รู้ว่าก้อนเหล็กร้อน
แล้วจับนั่นแหละจะร้อนมากกว่า
พระนาคเสน :
คนที่ไม่รู้ว่าบาปแล้วทำบาปก็จะบาปมากกว่า
เช่นเดียวกับคนที่ไม่รู้ว่าก้อนเหล็กร้อน
แล้วจับก้อนเหล็กย่อมร้อนมากกว่า ฉะนั้น
จบชานอชานปัญหา
ที่มา “มิลินทปัญหา เล่ม ๑”,
กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ จัดพิมพ์, ๒๕๔๓, หน้า ๙๙
อชานันตัสสะปาปกรณะอปุญญปัญหา
: ถามเรื่องของการทำบาปของผู้ไม่รู้ว่าเป็นบาป
พระเจ้ามิลินท์ :
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ผู้ที่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นบาป
เมื่อทำลงไปย่อมมีบาปมากกว่า
แต่ในพระวินัยตรัสว่า ภิกษุไม่รู้ว่าเป็นอาบัติ
กระทำลงไปก็ไม่ปรับเป็นอาบัติ
เช่นนี้ไม่ขัดแย้งกันหรือ
พระนาคเสน :
ไม่ขัดแย้งกัน เพราะเป็นเรื่องธรรมกับพระวินัย
คือที่ตรัสว่าผู้ไม่รู้ว่าเป็นบาป
ทำลงไปเป็นบาปมากนี้เป็นเรื่องธรรม
ส่วนที่ตรัสว่าภิกษุ ไม่รู้ว่าเป็นอาบัติ ทำลงไปโดยไม่รู้ตัว
หรือไม่มีความจงใจไม่เป็นอาบัติ นี้เป็นเรื่องวินัย
จบอชานันตัสสะปาปกรณะอปุญญปัญหา