-->

ผู้เขียน หัวข้อ: รวมเรื่อง "ผีๆ" ใน ม.ช.  (อ่าน 883 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

don

  • บุคคลทั่วไป
รวมเรื่อง "ผีๆ" ใน ม.ช.
« เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2008, 23:42:00 »

 icez

> >>1.หอนาฬิกา
> >>
> >>อันเนื่องจากเคยเป็นป่าช้าและลานประหารเก่ามาก่อนทำให้เรื่องเล่า
> >>เรื่องผีทั้งเก่าและใหม่มีมากมาย
> >>เรื่องนี้อยู่ที่หอนาฬิกาใหญ่
> >>ตรงสี่แยกจากประตูหลังมอ ตรงนั้นจะเป็นวงเวียนสี่แยก
> >>ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้เป็นคณะวิศวะ ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้เป็นคณะศึกษา
> >>และโรงเรียนสาธิต ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ เป็น หอ 4 ชาย
> >>และฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหอ 6หญิง เรื่องนี้มีอยู่ว่า เล่ากันว่า
> >>ตรงหอนาฬิกา กลางวงเวียน มีเปรต หากไปลองของ อาจโดนดีได้
> >>วิธีการลองดีคือ ตอนเที่ยงคืน ให้ไปวนรถทวนเข็มที่หอนาฬิกา
> >>สามรอบ (วงเวียนจะเวียนรถตามเข็ม) เล่ากันว่า ผู้ที่ลองทำอย่างนั้น
> >>ไม่เคยมีใครวนรถทวนเข็มได้ครบสามรอบซักคน
> >>ผู้มีประสบการณ์เล่าว่า
> >>ในขณะที่วนรถอยู่นั้นจะรู้สึกได้ถึงลมที่เย็นผิดปกติ
> >>แต่วนไปสองรอบก็ไม่เกิดอะไรขึ้น มาเกิดตอนที่จะครบ
> >>รอบที่สาม จู่ๆ ก็มีเสาสองต้นตั้งขวางถนนอยู่ ทำให้ต้องหักรถหลบ
> >>รถล้มบ้าง แฉลบบ้างไปตามๆกัน ใครอยากรู้ก็ลองดู
> >>
> >>อีกกรณีหนึ่งมีข่าวอยู่บ่อยๆ ว่านักศึกษาที่พักอยู่ในหอพักชาย 4 และ
> >>หญิง 6 ฝั่งที่ติดกับหอนาฬิกา มักได้ยินเสียงแหลมๆ เล็กๆ
> >>ดังมาจากทางหอนาฬิกา สอบถามแล้วคืนนั้น เด็กสาธิต ไม่มีการทำกิจกรรม
> >>และคณะวิศวะไม่มีกิจกรรมหรือการก่อสร้างใดๆ
> >>และที่สำคัญ บางห้องได้ยิน บางห้องไม่ได้ยินทั้งที่อยู่ติดกัน?
> >>เป็นเพียงเรื่องเล่า .....
> >>
> >>
> >>2.ห้องน้ำสังคม
> >>
> >>
> >>ที่ห้องน้ำคณะสังคมศาสตร์ ที่เก่าๆ
> >>หน่อยลองไปหาดูเอาเอง ลักษณะห้องน้ำคือประตูอยู่ตรงกลาง
> >>เข้าไปแล้ว โถฉี่จะอยู่ทางซ้ายมือ
> >>ส่วนอ่างล้างหน้ากับกระจกส่องหน้าจะอยู่ทางขวา
> >>รุ่นพี่ที่อยู่คณะสังคมเคยเล่าว่า เคยมีคนเล่า
> >>ให้ฟังว่า(ฟังเขามาอีกต่อหนึ่ง)
> >>ตอนกลางคืนช่วงใกล้สอบไปอ่านหนังสือที่คณะสังคม
> >>แล้วปวดฉี่เลยไปฉี่ที่ห้องน้ำนี้
> >>(เริ่มนึกออกหรือยังว่าห้องน้ำที่ไหน) ลุกเข้าห้องน้ำคนเดียว คนอื่นๆ
> >>ก็นั่งอ่านหน้งสืออยู่ คนไปฉี่ก็เข้า ไปฉี่ธรรมดา ห้องน้ำมี
> >>โถฉี่สองอัน อันแรกติดประตูอันที่สองอยู่ด้านขวาข้างในไปอีก เขาบอกว่า
> >>ตอนจะฉี่ ก็จะฉี่ที่โถแรกเพราะใกล้กว่า แต่ไม่รู้นึกยังไง
> >>เลย เดินเลยไปฉี่ที่โถข้างในตอนฉี่ก็ยังไม่มีอะไร
> >>แต่ตอนฉี่เสร็จแล้วมองออกไปที่กระจก
> >>ภาพในกระจกสะท้อนเห็นกำลังมีคนยืนฉี่
> >>อยู่ที่โถฉี่อันแรก! (หันหลังให้) นึกว่าตาฝาด เพราะหันไปดูก็ไม่มีอะไร
> >>แต่พอไปดูในกระจกก็เห็นเหมือนเดิม? คืนนั้นเลยไม่ได้อ่าน
> >>หนังสือกันพอดี
> >>พวกขี้เหล้าทั้งหลายที่ชอบไปกินแถวนั้นก็ระวังหน่อยละกัน
> >>
> >>
> >>3.ห้องสีชมพู
> >>
> >>เรื่องนี้เกิดที่หอหญิง ไม่แน่ใจว่า 7 หรือ 4 หรือ 8
> >>เป็นเรื่องของนักศึกษาหญิงที่เข้ามาพักในหอในแล้วไปมีอะไรกับ
> >>ผู้ชาย แล้วเกิดพลาดตั้งครรภ์ขึ้นมารู้ตัวเอาตอนท้องได้ 4
> >>เดือนแล้วแต่มันยังไม่ป่องออกมา จึงปิดเงียบไม่ให้ใครรู้แม้แต่เมท
> >>ทำยังไงถึง จะเอาออกได้ พลาดไปแล้ว แต่ไม่อยากเสียอนาคต
> >>ไม่มีเงินทำแท้ง แฟนไม่รับผิดชอบ ตัดสินใจเอาออกเองในห้องพัก
> >>โดยเลือกตอนช่วงที่เพื่อนไม่อยู่ ทำเองคนเดียว
> >>โดยไม่ทราบวิธีการปรากฎว่าผลร้ายกว่าที่คิดนักศึกษาคนนั้น
> >>ตกเลือดตายในห้อง
> >>
> >>เพื่อนมาพบศพตอนเย็น เห็นรอยเลือดกระจัดกระจาย
> >>ติดฝาผนังบ้างก็มี
> >>หลังจากจัดการเรื่องศพเรียบร้อยแล้ว (รวมถึงทำ
> >>ความสะอาดห้อง) โดยที่เมทของคนตายก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น
> >>แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด เห็นรอยเลือดสีจางๆติดอยู่ที่ผนังสีขา;
> >>ก็เลยให้คนเอาสีขาวมาทาทับ วันรุ่งขึ้นเปิดเข้าไปทำความสะอาด
> >>รอยเลือดยังมีอยู่เหมือน เดิม ไม่ว่าจะ ทำยังไง ทั้งขัด ทั้งถู
> >>หรือทาสีใหม่ รอยเลือดนี้ก็ยังไม่หายไป จนสุดท้ายทางหอพัก
> >>จึงต้องนำสีชมพู ไปทาทั้งห้องเพื่อไม่ให้เห็นรอยเลือด
> >>กลายเป็นห้องสีชมพูตั้งแต่นั้นมาปัจจุบัน เป็นห้องเก็บของที่ปิดตาย
> >>เคยมีแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดที่ห้องนี้ แล้วออกจาก
> >>ห้องไม่ได้ เพราะลูกบิดถูกล๊อค (ทั้งที่ตัวล๊อคอยู่ในห้อง)
> >>ลองไปเยี่ยมชมดูได้ครับ หนึ่งความพลาดพลั้งที่ไม่มีอะไรแก้ไขได้
> >>
> >>
> >>4.ห้องน้ำหลอน
> >>
> >>รุ่นน้องอยู่หอ 7 หญิงเหมือนกัน เล่าว่า ไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำ
> >>(รวมตอนกลางคืน) ชั้น 3 เข้าไปอาบน้ำที่ช่องที่เขากั้นให้อาบน้ำ
> >>ช่องในสุดซักพักได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาอาบน้ำในห้องข้างๆ
> >>ได้ยินเสียงฝักบัว แถมยังมีน้ำกระเซ็นเข้ามาที่ห้องตัวเองอาบอยู่อีก
> >>ต่างหาก แต่รุ่นน้องอาบน้ำช้า ห้องข้างเลยกลับออกไปก่อน
> >>พอรุ่นน้องอาบน้ำเสร็จ เปิดห้องออกมาก่อนออกก็ต้องเดินผ่านห้อง
> >>ข้างๆ อยู่แล้ว เพราะตัวเองอาบห้องในสุด ไม่มีร่องรอยการอาบน้ำเลย
> >>ตรงฝาผนังและพื้นแห้งสนิท! ที่ห้องอาบน้ำชั้น 2 รุ่นพี่
> >>แก่กว่าประมาณ 3ปีเคยเล่าให้ฟัง กำลังจะเข้าไปอาบน้ำ
> >>ทั้งห้องมีอยู่คนเดียว กำลังจะสระผม
> >>รู้สึกว่ามีน้ำกระเด็นมาจากห้องข้างๆ
> >>แต่ไม่มีเสียงน้ำ ด้วยความสงสัย จึงหยุดแล้วไปดูห้องข้างๆ
> >>ก็ไม่เห็นมีน้ำรั่วหรือซึมทั้งฝา และเพดาน เรียบร้อยทุกอย่าง
> >>พอเข้าห้องมาจะอาบก็เจอน้ำกระเซ็นอีก... คราวนี้ไม่อยู่แล้ว
> >>เก็บของออกจากห้องน้ำไปเลยฟังหูไว้หู
> >>
> >>5.ป๊อก ป๊อก ครืด
> >>
> >>เรื่องผีอันดับหนึ่งของ มหาลัยเชียงใหม่ ในแง่ของความเศร้า
> >>ระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไม่ทราบแน่ชัด แต่สถานที่เกิดคือ
> >>หอ 7 หญิง ในสมัยที่มช. ยังเป็นที่รกร้างอยู่มาก ถนนยังเป็นลูกรัง
> >>ถนนหน้าฝนเป็นโคลน รถไปมาลำบาก ตอนกลางคืนมืด
> >>ไม่มีแสงไฟ เรื่องเกิดกับนักศึกษาสาว คู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น
> >>2 หรือ 3 ของหอหญิงเจ็ด (ปล. ห้ามผวนเด็ดขาด)
> >>ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ นักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกันอยู่
> >>ประมาณว่านักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้อง
> >>ตอนหัวค่ำแล้วรูมเมทชวน ไปทานข้าว แต่เพราะเป็นไข้อยู่จึงไปไม่ไหว
> >>อยากพักผ่อน พอเมทคนนั้นเห็นเพื่อนไม่
> >>สบาย ด้วยความเป็นห่วง จึงบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวเองก็ได้
> >>แล้วจะห่อข้าวมาฝากเพื่อน คนที่ไม่สบายก็บอกว่า
> >>ยังไงฝากซื้อราดหน้า (หรือผัดไท ซักอย่างที่เป็นเส้นๆ) มาให้ที
> >>ละกันกินแล้วจะได้กินยาเมทคนนั้นก็บอกว่า ได้เดี๋ยวจะรีบไป
> >>รีบกลับ
> >>
> >>หลังจากที่เพื่อนออกไปจากห้องคนที่ไม่สบายก็นั่งอ่านหนังสือต่ออ่าน
> >>ได้ซักพักก็ไม่ไหว
> >>เพราะไข้ขึ้น จึงนอน ตอนนอนอยู่นั้น
> >>สลึมสลืออยู่ แต่มีความรู้สึกว่านานมากแล้ว
> >>เพื่อนทำไมยังไม่กลับมาซะที่ ตกดึก ฝนเริ่มตก
> >>นักศึกษาคนนั้นก็ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือ
> >>ต่อ ในใจเป็นห่วงเพื่อนเพราะออกไปนานมากยังไม่
> >>กลับซักพักนักศึกษาคนนั้นได้ยินเสียงเบาๆ ดังจากชั้นล่าง จากทางบันได
> >>\"ป๊อก????ป๊อก???ป๊อก??? ป๊อก??.\" เสียงนั้นดังเป็นระยะๆ ใกล้เข้ามา
> >>จากทางบันไดดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงเหมือน
> >>คนกำลังแบกของหนักบางอย่างขึ้นมา
> >>และเสียงนั้นก็ดังมาจนถึงชั้นที่ห้องนักศึกษาหญิงคนนั้นอยู่
> >>แล้วเสียงก็เปลี่ยนไป
> >>\"ครื??..ด??..ครื???..ด??.ค..รื?ด\" เสียง
> >>เหมือนคนกำลังลากอะไรซักอย่างใกล้เข้ามาเรื่อย จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง
> >>
> >>นักศึกษาหญิงเริ่มเอะใจ และมองไปทางประตู ในใจนึกว่าเพื่อนกลับมาแล้ว
> >>แต่ยังเงียบได้อึดใจ นึงก็มีเสียงเคาะห้อง
> >>\"ก๊อก ก๊อก ก๊อก\" แล้วเงียบไป นักศึกษาสะดุ้งสุดตัว คิดว่าไม่ใช่
> >>เพื่อนแน่แล้ว ถ้างั้นทำไมไม่เปิดเข้ามาเลย จึงเดินไปเปิดประตู
> >>ตรงลูกบิดประตูมีถุงใส่ห่อราดหน้าแขวนอยู่ พอเห็นห่อราดหน้า ก็งง
> >>แล้วเพื่อนอยู่ไหน ทำไมไม่กลับมา หรือ ติดฝนเลยฝาก
> >>คนอื่นเอามาให้ แต่ทำไมต้องเอามาแขวน ไม่รอเจอกันก่อน
> >>จะได้รู้ว่าเป็นใคร แล้วทำไมเดินเร็วจัง มีแต่รอยเปียกน้ำเป็นทาง
> >>จากบันได?.คิดต่างๆ นานา แต่แล้วก็แกะ ห่อราดหน้าออก
> >>ทานเสร็จก็ทานยาตาม ได้ซักพักก็ม่อยหลับไป
> >>
> >>รุ่งเช้า?????.มีคนมาเคาะห้องบอกว่าเพื่อนตายแล้ว
> >>นักศึกษาหญิงคนนั้นถูกฆ่าข่มขืน ตรงพงหญ้าข้างทาง คาดว่าเหตุเกิด
> >>ประมาณหัวค่ำ ลักษณะศพสภาพแขนและขาทั้งสองข้างหัก
> >>อาจเกิดจากการที่คนร้ายเอาท่อนไม้ทุบตีเพื่อไม่ให้หนี
> >>นักศึกษาหญิงที่ตายกำลังเดินทางกลับจากตลาด
> >>(ไม่แน่ใจว่าเป็นฝายหินหรือตลาดต้นพยอม) หลังจากทานข้าวเสร็จ
> >>ทุกทีจะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนไม่สบายจึงไปคนเดียว
> >>โดยเพื่อนฝากซื้อข้าวห่อ คนร้ายอาจเห็นว่าเป็นคนเดียวจึงลงมือ
> >>แล้วราดหน้าเมื่อคืนล่ะ? ไม่มีใครรู้คำตอบแน่ชัด แต่จากที่ฟังกันมา
> >>คือหลังจากที่ตายไปแล้ว ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
> >>เพราะว่าไม่สบาย และยังหิว
> >>นำห่อราดหน้าที่ซื้อมาฝากไปส่งให้แต่จะไปส่งยังไง แขนหัก ขาหัก หมด
> >>แล้ว ลักษณะที่เขาเล่ามา
> >>คือเพื่อนคนนั้นใช้ปากคาบถุง
> >>แล้วใช้คางเกยพาตัวเองมาจนถึงหอพักแล้วใช้คางเกยบันไดลากตัวเองขึ้นมา
> >>เป็นเสียง\"ป๊อก ป๊อก\" เสียง
\"ครืด\"ที่ได้ยินคือเสียงลากตัวเองจากบันได
> >>มาจนถึงหน้าห้องปรากฎเป็นรอย เปียกน้ำยาวติดต่อกัน
> >>หลังจากส่งห่อลาดหน้าให้ได้แล้วก็หมดห่วง?.ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษ
> >>าคนนั้น
> >>เล่าแต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้างๆ
> >>
> >>ห้องยืนยันว่าในคืนนั้นได้
> >>ยินเสียงเหมือนคนกำลังยกของหนักและลากของหนักจากข้างล่างขึ้นมาแล้ว
> >>ทุกคนต่างเชื่อสนิทใจ
> >>
> >>มิตรภาพอยู่เหนือความตาย?.
> >>
> >>
> >>6.ทุกโค้ง
> >>
> >>สมัยนั้นเวลากลางคืนดอยสุเทพยังไม่ปิดความนิยม(ที่ไม่ค่อยดีเท่าไร)อย่างห
> >>นึ่งก็คือเวลาเมาๆนักศึกษาทั้งหลายมักจะขับรถขึ้นดอยกันขึ้นไปดูเชียงใหม่ทั้งเมือง>
>>ตอนกลางคืน
> >>มันสวยดี (แต่ดันขับรถตอนเมาไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง)
> >>วันหนึ่ง
>
>>นักศึกษาจากคณะวิศวะสองคนเพิ่งเลิกจากกังสดาล(แต่ก่อนร้านนี้ฮิตครับ)ครึ้มๆขึ้นมาก็เลยขับรถเลยจ
ากทางเข้า
> >>กะขึ้นดอยไปชมเมืองเล่น คนขับก็ขับไปข้างหลังคน
> >>ซ้อนก็นั่งไป
>
>>เมาๆขึ้นมาคนซ้อนก็เลยหลับ(สมัยก่อนแปดสิบเปอร์เซ็นต์นักศึกษาขับแมงกะไซค์ไม่ใช่รถยนต์อย่างทุกว
ันนี้)
> >>ซักพักหนึ่งคนซ้อนก็ตื่น กำลังเข้าโค้งพอดี
> >>เห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนโบกรถอยู่ข้างทาง แต่คนขับก็ขับเลยผ่านไป
> >>ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษจัด ก็เลยถามคนขับว่า ?ทำไมmungไม่
> >>จอดรถลงไปถามหน่อยล่ะ เผื่อเขามีปัญหาอะไร?? คนขับ ?kuไม่จอดด้วยหรอก
> >>คนนี้เขารอโบกทุกโค้งเลย เจอมาหลายโค้งแล้ว เดี๋ยวโค้งหน้าmungกะku
> >>ก็เจอเขาอีกแหละ...?
> >>
> >>
> >>7. พยาบาลชุดแดง
> >>
> >>เห็นเขาเล่าว่ามีนักศึกษาคนนึงของคณะแพทย์อยู่ทำงานในตึกของฝั่งสวนดอก(ไม
> >>่แน่ใจว่าเป็น
> >>โรงพยาบาลหรือตึกแพทย์คนเล่าไม่ยืนยันแต่2ตึกนี้ก็ใกล้กันนี่กลับเข้าเรื่องต่อ)>
>>เขาคนนี้ก็ทำงานอยู่จนดึกก็เลยว่าจะลงลิฟต์มาระหว่างที่รอ
> >>เขาก็ได้ยินเสียงเดินมาข้างๆเขาก็หันไปมองเห็นพยาบาลคนนึงเดินมา
> >>เขาก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะพยาบาลกับแพทย์
> >>ก็ต้องเจอกันบ่อยๆอยู่แล้ว
> >>ระหว่างรอลิฟต์นักศึกษาคนนี้ก็ได้กลิ่นอะไรแปลกๆ ก็เลยหันไปมองพยาบาลคนนี้
> >>ก็ไม่เห็นมีอะไร ซ้ำพยาบาลคนนี้ยังยิ้มให้ด้วย
> >>สักพักต่อมาเมื่อเข้าไปในลิฟต์พยาบาลคนนี้ก็
> >>ถามว่ามาทำอะไรดึกๆอย่างนี้
> >>เขาเลยตอบว่ามาศึกษาเรื่องการผ่าตัดภายในเพราะว่าจะสอบ
> >>พยาบาลคนนี้เลยบอกว่างั้นให้ฉันช่วยนะนักศึกษาคนนี้ก็เลยงง
> >>และเริ่มสังเกตว่าคอของผู้หญิงเริ่มมีเลือด
> >>ไหลออกมาจากคอเรื่อยๆ
> >>เขาตกใจมากพยายามที่จะหนีออกมาจากลิฟต์แต่ลิฟต์เหมือนค้างหรืออะไรไม่ทราบ
> >>เลือดไหลนองทั่วชุดของนางพยาบาลคนนี้
> >>แล้วเธอก็เริ่มสอนนักศึกษาแพทย์คนนี้ตั้งแต่ลำไส้
> >>ปอด สมอง หัวใจ พร้อมทั้งควักส่วนต่างๆเหล่านี้ออกมา
> >>รุ่งขึ้นก็มีคนพบชายคนนี้นอนคาอยู่ทางประตูลิฟต์ที่เปิดปิดอยู่แล้วเขาก็เอาแต่>
>>พร่ำเพ้ออย่างคนบ้าว่า? พยาบาล
> >>ชุดแดง พยาบาลชุดแดง?
> >>
> >>8.ลวด
> >>
> >>วงเวียนธรณี-ต้องขอโทษคนที่ผ่านทางนี้เป็นประจำ(ผมด้วย)จุดนี้มีเรื่องเยอ
> >>ะจริงๆ
> >>เรื่องนี้นานมาแล้วมีนักศึกษาสองคนกินเหล้าเมากันมา
> >>พอมาถึงข้างตึกธรณีคนขี่มองไปทาง
> >>ข้างตึกอังกฤษ
> >>เห็นคนหัวขาดยืนอยู่
> >>ตกใจจึงหยุดรถขยี้ตาดูอีกทีแล้วสะกิดถามเพื่อนๆบอกไม่เห็นอะไร
> >>มองอีกทีก็ไม่มีแล้วหันกลับมาข้างหน้ามีลวดเส็นเล็กๆขึงอยู่ระดับคอห่างออกไปเมตร>
>>เดียว ถ้าไม่หยุดรถคง!.....
> >>
> >>9. RB แพทย์
> >>
> >>อาคารเรียนรวมแพทย์ มีคนไปอ่านหนังสือกันสองคน
>
>>พอดึกๆก็ไปซื้อไก่ทอดมากินเสร็จแล้วก็หาที่ล้างมือเจอก้อกน้ำข้างตึกก็ไปล้างมือที่นั่นตอนที่ล้า
งอยู่เพื่อนอีกคนก็ทำหน้า
> >>ตกใจมากแต่ยังไม่พูดอะไร
>
>>คนที่ทำหน้าตกใจรีบจูงมือเพื่อนกลับมาใต้ตึกแล้วถามว่ารู้มั้ยเมื่อกี้เห็นอะไรอีกคนบอกไม่รู้>
; >>คนนั้นจึงบอกว่าเห็นผมของอีกคนซึ่งผมยาวชี้ขึ้นมากระจุกหนึ่งเหมือนมีคนจับขึ้น> >>มา
รู้ทีหลังว่าตรงนั้นเป็นที่ล้างศพ!
> >>
> >>10.partner lab
> >>
> >>แลปฟิสิกส์
> >>-อันนี้ฟังเค้าเล่ามาอีกทีเป็นเรื่องนานมาแล้วเราเองก็มาไม่ทัน
> >>เรื่องมีว่าเมื่อก่อนตอนที่ตึกเก้าชั้นวิดยายังไม่ได้สร้างแลปฟิสิกส์ของเด็กปี1>
>>ก็ยังทำที่แลปเก่า(น่าจะ
> >>เป็นตึกฟิสิกส์)แลปคราวนั้นเป็นแลปเรื่องแสง
> >>คนที่เคยเรียนคงรู้ว่าห้องจะมืดเพราะปิดไฟและเป็นแลปมืดจริงๆ เพราะทำช่วงค่ำ
> >>นักศึกษาหญิงคนนึงก็เข้าห้องแลปแต่พาร์ทเนอร์แลปยังไม่มา คนอื่นๆก็มากันแล้ว
> >>เตรียม
> >>อุปกรณ์เสร็จเพื่อนก็มาแต่ก้มหน้าก้มตา
> >>ไม่พูดไม่จาถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ตอบเหลือบเห็นที่คอมีรอยแผลเป็นทางยาว
> >>เธฮจับไหล่เพื่อนถามว่าไปโดนอะไรมาเพื่อนเงยหน้าขึ้นมาแล้วหัวหลุดกลิ้งไปกับพื้น>
>>ผู้หญิงร้อง
> >>กรี้ดแล้ววิ่งออกมาสลบตรงระเบียง
> >>ฟื้นมามียามกับรุ่นพี่สองสามคน ถามว่าไม่รู้เหรอว่าวันนี้แลปงด
> >>เพราะเมื่อเช้ามีนักศึกษาในเซครถคว่ำตาย เพื่อนเลยไปงานศพช่วงค่ำกันหมด
> >>สอบถามชื่อได้ความว่าคือพาร์ท
> >>เนอร์แลปของเธอนั่นเอง! ส่วนคนที่เจอในห้องแลปทุกคนล้วนแต่ไร้ชีวิต
> >>
> >>
> >>11.ทางเดินคณะวิดวะ
> >>
> >>ทางเดินคณะวิดวะ
> >>มีคนสี่คนเข้าไปเล่นผีถ้วยแก้วตรงทางเดินยาวตรงข้ามหอ5ชายวันนั้นฝนตกด้วย
> >>มีผีผู้ชายเข้ามา พอถามว่าชื่ออะไรไม่ตอบถามว่ามาคนเดียวใช่รึไม่ใช่ก็ตอบ
> >>ว่าไม่ใช่จึงถามต่อว่ามากันเท่าไหร ่เค้าก็ตอบว่าเก้า(ไปเลข9)
> >>คนเล่นรู้สึกกลัวขึ้นมาจึงเชิญออกแล้วรีบกลับมาที่หอมีเพื่อนถามว่าไปไหนกันมา>
>>ก็บอกว่าไปเล่นผีถ้วยแก้วในคณะวิดวะเพื่อนก็ว่า
> >>อ๋อที่ยืนมุงเยอะๆตรงทางเดินน่ะนะ!


notear

  • บุคคลทั่วไป
Re: รวมเรื่อง "ผีๆ" ใน ม.ช.
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2008, 00:42:56 »

เคยไปเข้าห้องน้ำที่สังคมครับ ปกติผมจะเข้าที่ตึกของนิติ แต่วันนั้น
ผมไปห้องสมุดคณะพอดี เกิดปวดฉี่ขึ้นมาก็เลยเข้าไปขนาดตอนบ่าย 3 วันอาทิตย์นะครับ
ยังน่ากลัวเลย  mnbv

cmman573

  • บุคคลทั่วไป
Re: รวมเรื่อง "ผีๆ" ใน ม.ช.
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2008, 01:07:25 »

มีห้องน้ำที่ไหนบ้างในมอชอที่ไม่น่ากลัวอ่ะ อีตาโลมเลีย  แต่รู้สึกจามีนะ เคยเข้าห้องน้ำสถาบันภาษา แล้วไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่เพราะมันเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ อิๆๆ

pass07

  • บุคคลทั่วไป
Re: รวมเรื่อง "ผีๆ" ใน ม.ช.
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2008, 11:48:15 »

 ghjk กลัว ครับ ยิ่งอยู่คนเดียวด้วย ตอนนี้  890

notear

  • บุคคลทั่วไป
Re: รวมเรื่อง "ผีๆ" ใน ม.ช.
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2008, 13:23:22 »

มีห้องน้ำที่ไหนบ้างในมอชอที่ไม่น่ากลัวอ่ะ อีตาโลมเลีย  แต่รู้สึกจามีนะ เคยเข้าห้องน้ำสถาบันภาษา แล้วไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่เพราะมันเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ อิๆๆ

แต่บางที่ผมก็ไม่เข้าไปใช้นะ  อย่างที่บอกส่วนใหญ่ผมจะเข้าที่ตึกนิติมากกว่า kjhg

Lostman133

  • บุคคลทั่วไป
Re: รวมเรื่อง "ผีๆ" ใน ม.ช.
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2008, 22:38:36 »

กลัวคนแอบดูมากกกว่า น่ะ jljhl

cmman573

  • บุคคลทั่วไป
Re: รวมเรื่อง "ผีๆ" ใน ม.ช.
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2008, 23:42:54 »

สถานศึกษา โรงแรม บ้านร้างนี้เหมาะแก่การเป็นศุนย์รวมสิ่งลี้ลับจริงๆ

notear

  • บุคคลทั่วไป
Re: รวมเรื่อง "ผีๆ" ใน ม.ช.
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2008, 00:01:25 »

แค่ผ่านก็รู้ถึงความน่ากลัวแล้ว kjhg

cmman573

  • บุคคลทั่วไป
Re: รวมเรื่อง "ผีๆ" ใน ม.ช.
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2008, 00:08:00 »

อยากเจอผีผ้าห่ม ที่พริตตี้คลับ อ่ะ จาไม่กลัวแถมสู้อีก

notear

  • บุคคลทั่วไป
Re: รวมเรื่อง "ผีๆ" ใน ม.ช.
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2008, 00:23:27 »

อยากเจอผีผ้าห่ม ที่พริตตี้คลับ อ่ะ จาไม่กลัวแถมสู้อีก

ผีผ้าห่มเนี่ยชอบนักแล kjhg