-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ตติยบรรพ ? ยังอยู่แล้วควรทำอะไรดี?  (อ่าน 676 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

chon

  • บุคคลทั่วไป
ตติยบรรพ ? ยังอยู่แล้วควรทำอะไรดี?
« เมื่อ: 25 กันยายน 2008, 15:12:15 »

ตติยบรรพ ? ยังอยู่แล้วควรทำอะไรดี?


ในบรรพก่อน คงจะเห็นว่าใครกำลังเสวยกรรมดีหรือกรรมร้ายก็ดูง่ายๆจากภพภูมิที่ไปเกิด การตกไปอยู่ในชั้นไหนแดนใด คือภาพใหญ่แทนตัวได้ชัดเจน อย่างเช่นตอนนี้กำลังเป็นมนุษย์ก็แปลว่ากำลังเสวยวิบากดีอยู่ แม้เถียงว่าจะดีได้อย่างไรลำบากจะตายอยู่แล้ว อันนั้นก็ต้องไปเทียบกับการอยู่ในนรกหรืออบายภูมิอื่นๆ แล้วจะเห็นว่า ?ลำบากจะตาย? ในโลกนี้ ดีกว่า ?ตายจริงๆแล้วเข้าไปอยู่ในกรงขัง? ที่กรรมชั่วเตรียมไว้ทำโทษเป็นไหนๆ

เมื่อเริ่มเชื่อเรื่องภพภูมิ การเวียนว่ายตายเกิด และความจริงเกี่ยวกับกรรมวิบาก มีชาวพุทธจำนวนไม่น้อยที่เหมือนจะดูดายกับความเป็นอยู่ในชีวิตปัจจุบัน แล้วหันไปทุ่มเทกับการทำบุญ เรียกว่าตั้งหน้าตั้งตากอบโกยกุศลกันแบบโลภบุญเกินเหตุ

ความจริงบุญไม่ได้มีเพียงการให้ทรัพย์เป็นทาน กิริยาอันเป็นทางมาแห่งบุญนั้น จำแนกแล้วก็มีอยู่มากมาย ดังเช่นหลักๆมีอยู่ ๑๐ อาการ ได้แก่ การให้ทาน การรักษาศีล การปฏิบัติธรรมภาวนา การประพฤติอ่อนน้อม การขวนขวายช่วยเหลือในกิจอันควร การให้ผู้อื่นมีส่วนในบุญของเราด้วยการบอกให้เขายินดีหรือเต็มใจมาช่วยเหลือ การมีน้ำจิตยินดีในบุญของผู้อื่น การฟังธรรมตามกาล การสั่งสอนธรรมด้วยจิตอนุเคราะห์ การทำความเห็นให้ถูกตรงทั้งเรื่องบุญบาปและการออกจากทุกข์

กิริยาอันเป็นบุญที่สำคัญที่สุด และพิสูจน์ความมีลาภแห่งการเกิดเป็นมนุษย์อย่างที่สุด ก็ได้แก่บุญข้อสุดท้าย คือการทำความเห็นให้ถูกตรงทั้งเรื่องบุญบาปและการออกจากทุกข์ นี่เอง นับเริ่มจากการมองไกลไปข้างหน้า ทำความเข้าใจให้ดี มองให้เห็นด้วยปัญญาว่าแต่ละภพเป็นภาพใหญ่ เป็นฉากหนึ่งๆ ทุกฉากต้องมีจุดเริ่มต้น และทุกฉากต้องมีจุดจบ ก็จะเกิดภาพสรุปในจินตนาการว่าทุกสิ่งที่เราเห็น ทุกส่ำเสียงที่เราได้ยิน จะต้องแปรปรวนแล้วเสื่อมสลายหายหนไปหมด ไม่มีอะไรหลงเหลือตกค้างอยู่ได้เลย

และเมื่อมองย้อนกลับมาเห็นภาพของการเกิดเป็นมนุษย์อย่างในบัดนี้ ความเป็นเพศอย่างนี้ รูปร่างหน้าตาอย่างนี้ ฐานะความเป็นอยู่อย่างนี้ และระดับสติปัญญาอย่างนี้ ก็จะได้ข้อสรุปประการหนึ่งคือทั้งหมดนั้นคือ ?ส่วนประกอบฉาก? ซึ่งกรรมตกแต่งขึ้นให้ดูเล่นครู่หนึ่ง แล้วที่สุดก็ต้องล้มเลิกฉากนี้ไป ราวกับไม่เคยมีมนุษย์อย่างเราเกิดมา ราวกับไม่เคยปรากฏรูปชายหญิง ราวกับไม่เคยมีหน้าตาน่ารักน่าชัง ราวกับไม่เคยยากจนหรือร่ำรวย และราวกับไม่มีใครเคยโง่หรือฉลาด เพราะในทันทีที่ใครสาบสูญไปจากโลก ความเป็นเขาคนนั้นก็ไม่ต่างจากรูปรอยความฝันหรือสายลมแสงแดดสำหรับตัวเขาเองเลย

มาอยู่ในภพนี้ชั่วคราวก็จริง แต่ก็ได้ชื่อว่า ?เป็นมนุษย์? ในจังหวะที่จะ ?พบพุทธศาสนา? ซึ่งเป็นของหาได้ยาก ทั้งเป็นมนุษย์ด้วย ทั้งพบพุทธศาสนาด้วยนั้น ยากเย็นเพียงใดก็ขอให้ดูที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสอุปมาอุปไมยไว้


เปรียบเหมือนมหาปฐพีนี้มีน้ำเป็นอันเดียวกัน บุรุษโยนแอกซึ่งมีช่องเดียวลงไปในมหาปฐพีนั้น ลมจากทิศตะวันออกพัดเอาแอกนั้นไปทางทิศตะวันตก ลมจากทิศตะวันตกพัดเอาไปทางทิศตะวันออก ลมจากทิศเหนือพัดเอาไปทางทิศใต้ ลมจากทิศใต้พัดเอาไปทางทิศเหนือ เต่าตาบอดซึ่งอาศัยในมหาปฐพีนั้น ต่อเมื่อล่วงร้อยปีมันจึงโผล่ขึ้นมาสักครั้งหนึ่ง เธอทั้งหลายคิดว่ามันจะสอดคอให้เข้าไปในแอกมีช่องเดียวนั้นได้หรอกหรือ?


หมายความว่าเมื่อเอาสิ่งที่ปรากฏได้ยากมาประจวบกับสิ่งที่ปรากฏได้ยาก ซึ่งเท่ากับความยากยกกำลังสองนั้น เทียบแล้วก็คือการที่สัตว์จะได้เป็นมนุษย์ด้วย พระพุทธเจ้าอุบัติในโลกด้วย และพระพุทธศาสนาของพระองค์รุ่งเรืองในโลกด้วย แต่ความไม่รู้ของพวกเราทำให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่จะพบกับพุทธศาสนา ซึ่งผิวนอกเบื้องแรกก็ไม่เห็นจะต่างจากศาสนาอื่นอย่างไร เพราะใครๆก็บอกว่าทุกศาสนาสอนให้คนทำดีกันทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัยนี้ไม่ค่อยมีคนบอกว่าพุทธศาสนาสอนให้คนรู้ตามจริง ทั้งเรื่องที่มาที่ไปของเราเอง และทั้งเรื่องวิธีสร้างความปลอดภัยอย่างถาวรให้ตัวเองด้วย

ส่วนสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ จะได้เร่งเร้าให้ทุกคนตระหนักว่า ?ศักยภาพของมนุษย์? นั้นใช้ให้คุ้มที่สุดก็คือการเอามาเข้าให้ถึงแก่นของพุทธศาสนา คือศึกษาวิชา ?รู้ตามจริง? ของพระพุทธเจ้าให้ทะลุปรุโปร่งนั่นเอง



cmman573

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตติยบรรพ ? ยังอยู่แล้วควรทำอะไรดี?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 25 กันยายน 2008, 15:28:44 »

ยังอยู่ก้อต้องหมั่นทำความดีไว้ครับ

shinpe uhah

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตติยบรรพ ? ยังอยู่แล้วควรทำอะไรดี?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 21 เมษายน 2009, 19:26:58 »

ผมถึงบอกไงครับถ้ามีโอกาสทำความดีก็ทำเถอะครับอย่างคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยทำ เพราะถ้าพรุ่งนี้ไม่มีโอกาสทำแล้วจะมาเสียใจตอนตายไปแล้วก็ได้นะครับ