cmxseed สังคมราตรี

หมวดหมู่ทั่วไป => ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: etatae333 ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2018, 17:16:30

หัวข้อ: 9 คำสาปสุดประหลาดของโลกดนตรี
เริ่มหัวข้อโดย: etatae333 ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2018, 17:16:30
9 คำสาปสุดประหลาดของโลกดนตรี
cr. cammy@dek-d
 
9.The Curse of the Ninth

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1519445308-0827.jpeg)

ในโลกดนตรีคลาสสิกได้มีอะไรบางอย่างที่น่ากลัว และเป็นที่รู้จักในชื่อ “คำสาปเก้า” กล่าวคือนักประพันธ์เพลงหลายคน
ที่ได้แต่งเขียนซิมโฟนีหมายเลขเก้า ล้วนเสียชีวิตหลังจากที่แต่งเพลงนั้นไม่นาน (หรือเสียชีวิตโดยที่ซิมโฟนีหมายเลขเก้า
ไม่สมบูรณ์) จนเปรียบว่าซิมโฟนีหมายเลขเก้า คือปลายทางสุดท้ายของนักประพันธ์เพลง


โดยเหยื่อที่มีชื่อเสียงคือ ลุควิจ ฟาน เบโธเฟน ( เบโธเฟนเขียนแต่งเสร็จแล้วแสดงครั้งแรกในปี 1824 และเขาเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1827) ส่วนกรณีของกุสตาฟ มาฟ์เลอร์คิดว่าเขาสามารถรอดพ้นคำสาปนี้  หากแต่เขาก็มีตายก่อน
หลังจากเขียนซิมโฟนีหมายเลขสิบ ที่ยังไม่สมบูรณ์

สำหรับนักดนตรีคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคำสาปซิมโฟนีหมายเลขเก้า ก็เช่น Kurt Atterberg , Elie Siegmeister ,
Alfred Schnittke , Roger Sessions , Egon Wellesz , Ralph Vaughan Williams , Peter Mennin
และ Malcolm Arnold

(ปล. ซิมโฟนีหมายถึงเพลงที่ใช้ในวงออเคสตรา ส่วนหมายเลขคือลำดับของซิมโฟนีบทนั้นๆ )
 

 
8.The “Spiderman Turn Off the Dark” Curse
 
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1519445347-7564.jpeg)

สองผู้นำวงร็อกขั้นเทพ U2 อย่าง โบโน่ และ ดิ เอจได้ร่วมมือ ผู้กำกับฯ ดีกรีรางวัลโทนี่ อวอร์ดส์ จากละครเพลง ''The Lion King'' 
วางแผนจะมีโครงการละครเวทีฟอร์มอลังการ ''Spider-Man : Turn Off the Dark'  การ์ตูนที่มีชื่อเสียงให้โลดแล่น
อยู่ในละครเวทีระดับบรอดเวย์ให้ได้ โดยงานที่ว่าใช้ ''งานดนตรีเกือบทุกอย่าง'' รวม 40 ชิ้น ซึ่งรวมถึงเพลง 18 เพลง
ฉากใหญ่โตมโหฬาร มีทีมนักแสดง และสตันต์ผาดโผน กว่า 41 คน


(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1519445347-7425.jpeg)

งานนี้เหมือนมันน่าจะราบรื่น หากแต่เหมือนมีคำสาปชั่วร้าย แม้งานจะเริ่มตั้งแต่ปี 2002 แต่กลับล่าช้ามาก ไม่ว่าจะเป็นการ
เสียชีวิตของโปรดิวเซอร์หลักกะทันหัน นักแสดงบาดเจ็บหลายคนระหว่างฝึกซ้อม ความผิดพลาดทางเทคนิค ผู้อำนวยการ
ถูกไล่ออกจากงาน การส่งผลให้การดำเนินการล่าช้าไปร่วม 2 ปี   กว่าที่งานจะจัดขึ้นก็ต้องรอจนถึงปี 2011 และใช้งบประมาณ
กว่า 65,000,000 กลายเป็นงานดนตรีบรอดเวย์ที่แพงที่สุดเท่าที่เคยจัดเลยทีเดียว


 
7.The “My Way” Karaoke Curse

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1519445380-0942.jpeg)
 
ในช่วงศตวรรษที่ 20 มีคนจำนวนไม่น้อยกว่า 6 คนถูกฆ่าตายขณะที่ร้องเพลง มาย เวย์(My Way) ของแฟรงก์ ซินาตรา
ในคาราโอเกะบาร์ที่ฟิลิปปินส์ จนต้องมีการนำเพลงนี้ออกจากลิสต์เพลงในโปรแกรมคาราโอเกะ ทำให้กลายเป็นตำนานเมือง
ของฟิลิปปินส์ที่เชื่อว่าหากร้องคาราโอโกะเพลงนี้จะพบกับความตาย


ความจริงแล้วผับบาร์คาราโอเกะในฟิลิปปินส์มักจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นบ่อยครั้ง โดยมีสาเหตุเพียงเพราะใครซักคนร้องเพลง
ได้ย่ำแย่เท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับร้อง บุช อัลบาร์ราซิน กล่าวถึงสาเหตุผ่านนิตยสารนิวยอร์คไทมส์เมื่อปี 2010 ไว้ว่า

" เพลงนี้ฟังดูทะนงตนมาก เนื้อเพลงจะไปปลุกความรู้สึกหยิ่งยะโสของตัวผู้ร้อง
ทำให้เหมือนเค้ารู้สึกว่าตัวเองเจ๋ง ทั้งๆที่จริงๆแล้วตัวเขาอาจจะไม่ได้มีอะไรเลย”

(คงคล้ายๆ กับเพลงบัวลอยที่คาราบาวร้องแล้ววัยรุ่นเกิดอารมณ์อยากมีเรื่องตีกันประมาณนั้น)
 


6.The “Robert Johnson” Curse

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1519445405-8314.jpeg)

โรเบิร์ต จอห์นสัน (ค.ศ.1911 – 1938) เป็นนักดนตรีบลูส์ที่ยิ่งใหญ่ของอเมริกัน มีตำนานเล่าว่าเขาต้องการเป็นนักกีตาร์
ที่ยิ่งใหญ่และถูกแนะนำให้มุ่งหน้าไปที่สี่แยกที่อยู่ใกล้ด็อคเคอรี่ แพลนเทชัน เวลาเที่ยงคืน ที่นั่นเขาได้พบปีศาจที่แลกเปลี่ยน
ชีวิตของจอห์นสันเพื่อแลกกับกับการเป็นนักดนตรีเพลงบลูส์ที่ดีที่สุด และนั้นเองทำให้ชีวิตของโรเบิร์ตต้องคำสาปเรื่อยมา
เขาสร้างสรรค์ผลงานถึง 29 บทเพลงก่อนที่จะเสียชีวิตด้วยวัยเพียงแค่ 27 ปีด้วยอาการป่วยลึกลับ หลายคนเชื่อว่าปีศาจ
ได้เอาวิญญาณเขาไป



นอกจากนี้มีบางคนเชื่อว่าเพลงของโรเบิร์ต จอห์นสันนั้นมีคำสาปแช่งที่ศิลปินคนใดนำไปครอบครองล้วนพบโชคร้าย
เช่นเดียวกับลิเนิร์ด สกินเนิร์ดและพี่น้อง ออล์แมนที่เกิดโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นแก่พวกเขา นอกจากนี้เอริค แคลปตัน
(เจ้าของฉายา "Slowhand" เป็นมือกีตาร์ นักร้อง นักแต่งเพลง ชาวอังกฤษ) ที่บันทึกเสียงเพลงคู่กับครีมในอาชีพ
การทำงานเดี่ยวของเขา หากแต่สิ่งที่ตอบแทนคือเขาสูญเสียลูกชายของเขาตกลงจากหน้าต่าง

 



5.Jelly Roll Morton Cursed by Godmother

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1519445464-1645.jpeg)

เจลลี่ โรล  มอร์ตัน (1890-1941) เป็นนักดนตรีแจ๊สที่มีชื่อเสียง แม้จะมีพรสวรรค์และความสามารถ แต่ก็มีความหย่อหยิ่งไม่แพ้กัน
พร้อมกับข่าวลือว่าเขาขายวิญญาณให้กับซาตาน เจลลี่เริ่มแสดงอาชีพครั้งแรกในปี 1920 และโดดดังเรื่อยมา มีอยู่ยุคหนึ่งรุ่งเรือง
สุดขีดจนเขากลายเป็นที่รู้จักในฐานะ “บิดา” ของดนตรีแจ๊ค เขาร่ำรวยมากถึงขนาดฟันของเขาทำมาจากเพชรและใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย


จนกระทั่งในช่วงทศวรรษที่ 1930 เขาได้พบผงสีลึกลับหนึ่งที่โรยรอบประตูห้องทำงานที่สำนักงานของเขา หลังจากนั้นเป็นต้นมา
ชีวิตของเขาก็พบแต่ความโชคร้ายตลอด เช่น คะแนนความนิยมลดลง เพลงไม่ประสบความสำเร็จ เพชรของมีค่าขโมยไป เขาเชื่อว่า
มันเป็นคำสาปวูดูจากคนที่เกลียดชังเขา (บางคนเชื่อว่าเป็นคำสาปจากสวรรค์เพราะเจลลี่เป็นคนของซาตาน) จนกระทั่งเขาพบผู้หญิง
คนหนึ่งบอกให้เผาเสื้อผ้าทั้งหมดของเขา ซึ่งเขาทำตามและผลก็คือโชคและชื่อเสียงของเขาก็กลับมาหาเขาอีกครั้ง
 



4.The “27” Curse

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1519445508-9163.jpeg)

27 คลับ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นคำสาปที่ศิลปินที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลของวงการแนวเพลงร๊อค (Rock) และบลูส์ (Blues)
ล้วนมีอันเป็นไปในขณะอายุ 27 ก่อนวัยอันควรจากเหกตุยาเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนกลายเป็นเหตุการณ์ลึกลับ
และการถกเถียงการในเกณฑ์การจัดกลุ่มที่เรียกว่า “Club 27” โดยบางคนที่ตายอายุ 27 ก็ไม่ถูกจัดในกลุ่มด้วยเพราะไม่มี
ชื่อเสียงและไม่ขึ้นอยู่จุดสุดยอด 


ที่มาของเรื่องเกิดจากการเชื่อมโยงการตายของไบรฮัน ส์ โจนส์ (เป็นมือกีต้าร์วงดนตรีThe Rolling Stones), อลัน วิลสัน
(นักร้องนักแต่งเพลง), จิมิ เฮนดริกซ์ (มือกีต้าร์ชาวอเมริกันและเป็นหนึ่งในมือกีต้าร์ร๊อคที่เยี่ยมที่สุด เท่าที่เคยมีมา),
เจนิส โจพริน (เป็นนักร้อง-นักแต่งเพลงชาวอเมริกัน)  และ จิม มอร์ริสัน (ขาเป็นนักร้องระดับตำนานและเป็นนักแต่งเพลง
ของวง The Doors) ที่เสียชีวิตระหว่าง 1969-1971 ตอนแรกยังไม่มีใครสังเกตสิ่งเชื่อมโยง

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1519445617-7797.jpeg)

จนกระทั่งการตายของเคิร์ต โดนัลด์ โคเบน (นักร้องนำ นักกีตาร์และนักแต่งเพลงให้กับวงเนอร์วานา) ทำให้เกิดการเชื่อมโยง
27 คลับขึ้นมา นอกจากนี้บางที่ก็มีการรวมศิลปินคนอื่นๆ อีกทีตายในขณะอายุ 27 ปี แต่บางฝ่ายก็ไม่ยอมรับเพราะหลายคน
ที่ว่านั้นไม่มีชื่อเสียง




2.Gloomy Sunday

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1519445637-5871.jpeg)

Gloomy Sunday หรือ เพลง "วันอาทิตย์ที่แสนเศร้า" เป็นเพลงหนึ่งถูกเล่าขวัญอย่างมากในอินเตอร์เน็ต เพราะว่ามีเสียงร่ำลือ
ว่ากันว่ามันเป็นเพลงที่ทำให้คนอยากฆ่าตัวตาย


Gloomy Sunday เป็นเพลงทำนองสไตล์สแตนดาร์ดแจ๊ส ที่เศร้าๆ หดหู่ เนื้อหาเป็นการจากไปของคนรักและการฆ่าตัวตาย 
แต่งโดยนักเปียโนชาวฮังการี ชื่อ เรสโซ เซเรสส์  ในปี 1933 ซึ่งตอนแต่งนั้นเขาอยู่ในอารมณ์หดหู่เศร้าใจกับชีวิตอย่างหนัก
และเมื่อเพลงถูกเผยแพร่ก็เกิดเหตุการณ์ฆ่าตัวตายที่น่าจะเกี่ยวข้องกับเพลงนี้หลายราย

โดยมีหลักฐานและเหตุเชื่อมโยง อย่างเช่น มีการฆ่าตัวตายภายหลังจากได้ฟังเพลงนี้จากเครื่องเล่นแผ่นเสียงหรือได้รับฟัง
การแสดงดนตรีเพลงนี้ ไม่ว่าจะเป็นยิงตัวตาย, แขวนคอ, รมแก๊ส, กระโดดตึก, กินยาพิษ จากข่าวลือมีการฆ่าตัวตายที่มี
ส่วนเกี่ยวข้องกับเพลงนี้นั้นมีประมาณ 200 รายทั่วโลก และรายที่โด่งดังที่สุดก็คือตัวเรสโซ เซเรสส์ ที่เขาฆ่าตัวตายกระโดด
จากชั้นแปดของอาคารแห่งหนึ่งที่กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ในปี 1968
 


1.The “Buddy Holly” Curse

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1519445679-7171.jpeg)

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1959 เป็นวันเสียชีวิตของชาร์ลส ฮาร์ดิน ฮอลลีย์ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ บัดดี้ ฮอลลี  เป็นนักร้อง-นักแต่งเพลง
ชาวอเมริกัน ผู้บุกเบิกเพลงร็อกแอนด์โรล จากอุบัติเหตุทางเครื่องบินในขณะเดินสายทัวร์พร้อมคณะ และนั้นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นของ
คำสาป “บัดดี้ ฮอลลี” ที่นักดนตรีจำนวนมากและผู้เกี่ยวข้องกับฮอลลี่และเพลงของเขาต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควร


ยกตัวอย่างเช่น รอนนี่ สมิธนักร้องรับจ้างที่มาแทนฮอลลี่ทัวร์มีอาการทางจิตและส่งเข้าโรงพยาบาลไม่กี่ปีหลังจากนั้นเขาก็ฆ่าตัวตาย
ด้วยการแขวนคอ ถัดมาเป็นเดวิด บ็อกสมาชิกคนหนึ่งในวงดนตรของฮอลลีเขาพยายามเป็นนักร้องเดี่ยว หากแต่เขาก็มาเสียชีวิตลง
ด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินเช่นเดียวกัน และวันที่เสียชีวิตเขาอายุ 22 ปี เท่ากับฮอลลี

รายต่อมาคือมาเรียภรรยาของเขาแท้งลูกคนเดียว จากนั้นคำสาปแช่งก็แพร่กระขายไปยังยีน วินเซนต์และเอ็ดดี้ คอเครน
หรือแม้แต่คีธ มูออกไปดูฮอลลีก่อนที่จะเสียชีวิตในที่ 7 กันยายน  และต่อมาเอสแกรี่ แพตเตอร์สันได้ค้นคว้าข้อมูลคำสาป
เหล่านี้เขียนลงในหนังสือ “Take a Walk on the Dark Side: Rock and Roll Myths, Legends and Curses”
และสารคดีด้านล่าง



อ้างอิง
http://www.oddee.com/item_98668.aspx