-->

ผู้เขียน หัวข้อ: สักวัน....ฉันต้องแก่(เหมือนกัน)  (อ่าน 777 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

12972116

  • บุคคลทั่วไป
สักวัน....ฉันต้องแก่(เหมือนกัน)
« เมื่อ: 16 กันยายน 2009, 03:04:58 »

เช้าวันเสาร์ ยังไม่ทันตื่นนอนเลย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น โทรศัพท์จากคุณแม่นั่นเอง
     "วันนี้เที่ยง พาเด็กๆมากินสะเต๊ะบ้านแม่ดีไหม"

       "แต่แม่ หนูรับปากพาเด็กๆไปกินร้านแม็คโดนัลแล้วล่ะแม่"
        แต่คุณแม่ไม่ยอมแพ้ "ประหยัดเงินเถอะขับรถมาบ้านแม่เพียง 10 กว่านาทีเอง
        ฉันรู้สึกอึกอัก เพราะรู้ดีว่าเด็กๆต้องอยากกินแฮมเบอเกอร์ มากกว่าสะเต๊ะแน่ และก็เป็นจริงตามนั้น พอเจ้าลูกชายคนโตและคนรองทราบว่าใครโทรมา และกำลังคุยเรื่องอะไร คนหนึ่งโบกมือไม่เอา อีกคนถึงขนาดพนมมือขอร้องว่าอย่าไปเลย ทุกคนต่างรอคอยที่จะไปกินอาหารมื้อเที่ยงนี้ ซึ่งกำหนดเพียงอาทิตย์ละครั้ง

           ฉันจึงตอบแม่ไปว่า "รอพวกเราปรึกษากันก่อน แล้วค่อยโทรบอกแม่ดีไหมค่ะ" คุณแม่ตอบเศร้าๆว่า "อือแล้วแต่พวกเธอ"
           
             พอวางหูโทรศัพท์ พวกเด็กๆชิงกันพูดว่า "แม่อย่าเบี้ยวนะ ก็ไหนตกลงกันว่าจะไปกินร้านแม็คโดนัลไง"

             ฉันจึงบอกกับลูกๆว่า "คุณยายไม่ได้อยากให้เราไปกินสะเต๊ะหรอก เขาอยากพบหน้าพวกหนูต่างหาก"

              "ก็พวกเราเพิ่งไปเยี่ยมคุณยายมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง"

               ฉันทราบดีว่า เหตุผลเพียงแค่นี้ คงยากที่จะทำให้เด็กๆเปลี่ยนแปลงแผนการเดิมได้ จึงบอกกับพวกเขาว่า
               "สักวัน แม่ก็คงแก่ คงจะโทรศัพท์มาหาพวกหนู บอกว่าวันนี้แม่ทำขนมเค้กไว้นะ พาลูกๆของหนูมากินได้ไหม ถ้าพวกหนูตอบว่า ขนมเค็กกินที่ไหนก็ได้ หรือวันนี้พวกหนูไม่ว่าง แม่คงเสียใจเหมือนกัน"
                ลูกสาววัย 4 ขวบของฉันรีบตอบว่า "แม่หนูจะไม่ตอบอย่างนั้น หนูจะตอบตกลงว่ามาหาแม่"

                ในที่สุดพวกเราก็ตกลงกันว่า เที่ยงนี้ไปกินแฮมเบอเกอร์ตามแผนเดิม แต่ตอนเย็นไปบ้านคุณยาย

                พอคุณแม่ทราบ รู้สึกดีใจมาก "แล้วแม่จะย่างสะเต๊ะตอนบ่ายนะ"
                ตอนเย็น  ไปบ้านคุณยาย คนแก่ทั้งสองคนเห็นพวกเรา ดีใจออกหน้าออกตา พวกเราพากันกรูเข้าไปในครัวไปเอาสะเต๊ะ คนแก่กับพวกเด็กๆคุยกันเสียงขรม คุณแม่เริ่มบ่นเรื่องปวดไหล่ ที่ยังไม่ยอมหายสักที พอถามว่า "อ้าว แม่ไม่ได้ไปทำกายภาพ หรือไปอบสมุนไพรหรือ"

                  "ไปมาแล้ว แต่ก็งั้นๆแหละ" ถึงตอนนี้ฉันรู้ได้ทันทีว่า คุณแม่ไม่ได้ห่วงเรื่องสุขภาพหรอก แต่ต้องกรความสนใจจากฉันซึ่งเป็นลูกสาวต่างหาก

                    พอเข้าไปในครัว เห็นก้นกระทะมีน้ำมันจับอยู่หนา ทั้งๆที่คุณแม่เป็นคนเจ้าสะอาด พรางเริ่มตระหนักว่า คุณแม่คงเริ่มไม่มีแรงขัดก้นกระทะแล้ว
                     คุณแม่เคยมือหนึ่งอุ้มฉัน อีกมือผัดกับข้าว สองมือแม่เคยขัดบ้านได้ทุกซอกทุกมุม
                                 
                       คุณแม่เป็น โชเฟอร์ขับแท็กซี่หญิงเพียงไม่กี่คนของเมืองนี้ มือทั้งสองข้างเคยถือพวงมาลัยเลี้ยงพวกเรามา มาถึงวันนี้ มือของท่านคงอ่อนล้ามากแล้ว ยังอุตสาห์เสียบเนื้อสะเต๊ะ ผัดเส้นหมี่ แล้วโทรศัพท์เรียกพวกเรามากิน

                         หลังจากวันนั้น ต่อให้ยุ่งแสนยุ่ง เหนื่อยแสนเหนื่อยฉันก็ยังกลับมาเยี่ยมคุณแม่ ช่วยขัดก้นกระทะให้ท่าน และหวังว่า.....
สักวันหนึ่ง เมื่อฉันแก่ตัวลง มือไม้ไม่คล่องแคล่วเหมือนเก่า พวกลูกๆฉันยังจำได้ว่า จะกลับมาช่วยฉันขัดก้นกระทะบ้าง

                          อย่าเอาแต่สนใจลูกอย่างเดียว สักวันหนึ่งเราก็ต้องแก่

                           จำได้ว่า เคยเห็นจุลสารที่โรงพยายบาลแห่งหนึ่งเขียนไว้ว่า "ที่ลูก ฟันน้ำนมซี่แรกงอกเมื่อตอนเขาอายุหนึ่งขอบกับสี่เดือน
ยังจำได้ แต่ฟันซี่สุดท้ายของพ่อและแม่หักหมดปาก ดันจำไม่ได้"

lankhuchong

  • บุคคลทั่วไป
Re: สักวัน....ฉันต้องแก่(เหมือนกัน)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2010, 14:11:42 »

เนอะ  อ่านแล้วคิดถึงแม่เลย

man69

  • บุคคลทั่วไป
Re: สักวัน....ฉันต้องแก่(เหมือนกัน)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2010, 15:25:33 »

 hgjhg ขอบพระคุณกับบทความดีๆครับท่าน

sacky

  • บุคคลทั่วไป
Re: สักวัน....ฉันต้องแก่(เหมือนกัน)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2010, 09:18:13 »

แม่ผมเสียไปแล้ว ตอนนี้ยังคิดอยู่เลยว่าตอนที่แม่อยู่เราน่าจะทำอะไรให้แม่มีความสุข อยู่อย่างสบายๆนะ แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว