-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เงินน้อยทำบุญน้อยก็ให้ผลมากได้  (อ่าน 1515 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

lonely boy

  • บุคคลทั่วไป
เงินน้อยทำบุญน้อยก็ให้ผลมากได้
« เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2011, 19:54:08 »

โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

มีเรื่องในธรรมบท ท่านว่าเวลานั้นพระพุทธเจ้าพักอยู่ที่พระเชตวันมหาวิหาร เวลานั้น องค์สมเด็จพระพิชิตมาร
ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณใหม่ ๆ คำว่าพระพุทธเจ้ายังไม่ปรากฎในโลก แต่คำว่าอรหันต์นี่ชาวบ้านรู้
เรื่อง เขาต้องการอรหันต์กัน แต่ยังไม่รู้จักอรหันต์จริง ๆ
วันนั้นพระพุทธเจ้าเสด็จไปที่เมืองสาวัตถี และไปพักที่พระเชตวันมหาวิหาร บรรดาทายกก็ประกาศว่า เวลานี้
องค์สมเด็จพระบรมโลกนาถคือพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้วในโลก ขอบรรดาท่านทั้งหลายจงไปฟังเทศน์พระ
พุทธเจ้าทั้งกลางวันและกลางคืน ใครจะไปกลางคืนก็ได้ ใครจะไปกลางวันก็ได้
ในตอนนั้นท่านบอกว่า มีพราหมณ์คู่หนึ่งสองตายายสองสามีภรรยา ชื่อว่า จูเฬกสาฎก แต่ว่าพราหมณ์จูเฬกสาฎก
ตามบาลีท่านบอกว่า ในสมัยพระวิปัสสี พราหมณ์คนนี้ชื่อว่ามหาสาฎก แปลว่าสาฎกใหญ่ สมัยพระพุทธเจ้าองค์นี้
มาเกิดใหม่ชื่อสาฎกตามเดิม ชื่อจูเฬกสาฎก แปลว่า สาฎกเล็ก
พอตาพราหมณ์ได้ฟังก็บอกกับท่านยาย ถามท่านยายว่า ยายจะไปฟังเทศน์กลางคืนหรือว่ากลางวัน เพราะเราไป
พร้อมกันไม่ได้ เพราะจนมาก มีผ้านุ่งคนละผืน มีผ้าห่มผืนเดียว พราหมณ์ออกจากบ้านต้องห่มผ้า เมื่อสามีออกจาก
บ้าน ภรรยาก็ต้องเฝ้าบ้าน เพราะไม่มีผ้าห่ม ถ้าภรรยาออกนอกบ้าน สามีก็ต้องเฝ้าบ้าน เพราะไม่มีผ้าห่ม ยายก็บอก
ว่า กลางคืนตาฉันไม่ดี ให้ตาไปฟังกลางคืนก็แล้วกัน กลางวันจึงจะไป
ก็เป็นอันว่าท่านจูเฬกสาฎกก็ตกลงใจ (ฉันก็ยกย่องเป็นท่านจูเฬกสาฎกนะ อย่าลืมนะว่าท่านทันสมัยพระพุทธเจ้า
ไม่โง่ตามฉันหรอกนะ อย่างน้อยก็ไปนิพพานนานแล้ว) ก็ตัดสินใจ พอค่ำก็เดินทางไปที่มหาวิหารพระเชตวันไปนั่ง
ด้านหน้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าตั้งใจเทศน์สงเคราะห์โดยเฉพาะ คนฟังมาก แต่วันนั้นท่านจี้จุดเฉพาะท่านจูเฬก
สาฎก แต่คนที่พลอยได้นะมีเยอะ ตามธรรมดาพระพุทธเจ้าเทศน์ต้องมุ่งก่อนว่า วันนี้เราไปเทศน์จะมีใครบรรลุมรรค
ผลไหม จะมีผลเป็นประการใดบ้าง ถ้าไม่มีผลเลยนี่ไม่ไป ถ้าจะไปแล้วจะต้องพูดแบบไหนจึงจะมีผล ท่านรู้ไปก่อน
ในเมื่อท่านจูเฬกสาฎกไปนั่งข้างหน้า ท่านก็เทศน์เรื่อง ทานบารมี อธิบายผลของทานว่า ทานเป็นปัจจัยให้เกิดความรัก
เป็นต้น ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของผู้รับ เป็นต้น และบรรดาเพื่อน ๆ ของบุคคลผู้รับก็ย่อมรักผู้ให้ เทศน์อย่างนี้ เทศน์อานิสงส์
ของทานว่า การมีชีวิตอยู่ก็มีความสุขและก็มีพวกมาก ตายไปแล้วก็ไปเกิดบนสวรรค์ มาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ก็เป็นคนร่ำ
รวย ท่านเทศน์ยาว
พอถึงยามต้น หัวค่ำนะ พราหมณ์ตัดสินใจคิดว่า เราจะถวายผ้าห่มผืนนี้กับพระพุทธเจ้า พอคิดเพียงเท่านี้ก็ห่วงบ้าน เทศน์
ไพเราะแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน ถ้าเราถวายผ้าผืนนี้กับพระพุทธเจ้า พรุ่งนี้ยายก็มาไม่ได้ใช่ไหม ห่วงยาย พระพุทธเจ้าก็เทศน์
ต่ออีก พอถึงยามที่สองก็ตัดสินใจใหม่อีก แล้วก็ห่วงยายอีก พอถึงยามที่สามเลิกห่วงยาย (เห็นแก่ตัวแล้วนะ) ช่างมันเถอะ
ยายจะมาฟังได้หรือไม่ได้ก็ช่างมัน กูถวายละ ก็เปลื้องผ้าที่ห่ม (คงจะแสนเก่า ไม่ใช่แสนใหม่นะ มีผืนเดียวนี่นะ) เอาไปวาง
ที่พระบาทของพระพุทธเจ้า แล้วก็ถอยหลังออกมาเปล่งวาจาว่า “กูชนะแล้ว กูชนะแล้ว” ตามภาษาบาลีว่า “ชิตัง เม ชิตัง เม”
เราชนะแล้ว เราชนะแล้ว
เวลานั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลนั่งฟังเทศน์อยู่ด้วย จึงให้ราชบุรุษเข้าไปถามว่า ดูซิลุงแก่แกชนะอะไรของแก เดินจะไม่ไหว
อยู่แล้วใช่ไหม ในเมื่อราชบุรุษเข้าไปถาม ท่านบอกว่าชนะความตระหนี่ เพราะตัดสินใจมาตั้งแต่ตอนเย็น ตัดสินใจไม่ได้
เวลานี้ตัดสินใจได้แล้ว ก็รวมความว่า วันพรุ่งนี้ทั้งตัวแกเองรวมทั้งยายด้วยไม่ได้ฟังเทศน์ ถึงแม้จะไม่ได้ฟังก็ตามใจ
ฟังเทศน์นี่ชื่นใจมากแล้ว
เวลานั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลท่านทราบ ก็สั่งให้เขาไปเอาผ้าสาฎกที่พระองค์ทรงใช้เองเอามาสองผืน (หนึ่งคู่) ให้แก แกก็น้อม
ไปถวายให้พระพุทธเจ้าอีก ทีนี้สั่งเอามาให้อีกสองคู่ แกก็ถวายพระพุทธเจ้าอีก ไปถึง 32 คู่ ว่าเรื่อยกันไปนะ 2 คู่ 3 คู่ 4 คู่ ว่าเรื่อย
ไปถึง 32 คู่ พอถึง 32 คู่ ก็คิดในใจว่า ถ้าเราไม่เอาไว้เลย ท่านผู้ให้จะหาว่าเรารังเกียจ เลยกันไว้สองคู่ เพื่อยายคู่หนึ่ง เพื่อตัวคู่หนึ่ง
อีก 30 คู่ ถวายพระพุทธเจ้า
พระเจ้าปเสนทิโกศลก็คิดว่า คนนี้มีความเลื่อมใสในที่ที่เราเลื่อมใสแล้ว จึงให้ไปนำผ้ากำพลที่พระองค์ใช้เองอย่างดีที่สุด ราคา
แสนกหาปณะมาสองผืน มามอบให้พราหมณ์ ท่านจูเฬกสาฎกก็เอาไปทำเพดานให้พระพุทธเจ้าเสียผืนหนึ่ง เอาไปกั้นเพดานที่
บ้านเสียผืนหนึ่ง เมื่อเวลาพระสงฆ์ไปฉัน
พอรุ่งขึ้นอีกวันตอนบ่าย พระเจ้าปเสนทิโกศลมาเห็นผ้ากำพลก็จำได้ ก็ถามพระพุทธเจ้าว่า ใครถวาย พระพุทธเจ้าก็บอกว่า
จูเฬกสาฎกถวาย จึงทรงเรียกจูเฬกสาฎกมา อีตานี้ใจหายวาบ สั่งให้เข้าเฝ้าด่วน ให้มาด่วนเดี๋ยวนี้ (น่ากลัวหัวขาด) พอรับสั่ง
ให้เข้ามาถึง ก็บอกว่า ฉันให้ผ้าเธอถึง 32 คู่ ไล่เป็นลำดับมา เธอถวายพระพุทธเจ้า เธอเอาไว้สองคู่เพื่อตากับยาย ฉันให้ผ้ากำพล
เธอใช้เพราะเธอมีศรัทธา เธอทำไมจึงถวายพระพุทธเจ้าอีก
ท่านก็เลยบอกว่า ผ้ากำพลไม่เหมาะกับข้าพระพุทธเจ้า คนฐานะอย่างนี้ไม่สมควร สมควรกับพระเจ้าอยู่หัวอย่างเดียว ไม่เช่นนั้น
ก็พระพุทธเจ้าเท่านั้นท่านก็เลยบัญชาใหม่ว่า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราให้คู่ 4 กับเธอ คือ โค 4 ช้าง 4 ม้า 4 ควาย 4 แล้วก็ผู้หญิง
4 ผู้ชาย 4 ทาสชาย 4 ทาสหญิง 4 และทรัพย์สินอีก 4,000 กหาปณะ (เวลานั้นเป็นคนรวยแล้วนะ) และบ้านสำหรับเก็บส่วยเก็บภาษี
อีก 4 ตำบล รวยใหญ่เลย กลายเป็นอนุเศรษฐีไป
ต่อมาตอนเย็น พระสงฆ์ทั้งหลายก็นั่งคุยกัน (พระพุทธเจ้าอยู่ในมหาวิหาร) ว่าน่าอัศจรรย์ที่จูเฬกสาฎกถวายผ้าแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
เพียงแค่ผืนน้อย ๆ ผืนเดียว ผ้าเก่าด้วย มีผลปัจจุบันขนาดนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์ฟังแล้วก็คิดว่า เราควรจะไปที่นั่น พอไปถึงท่านก็
ถามว่า “เธอคุยเรื่องอะไรกัน” (นี่เป็นธรรมดานะ ธรรมดาของพระพุทธเจ้า พระสงฆ์ก็เหมือนกัน รู้แล้วต้องทำเป็นไม่รู้) พระก็เล่าให้ฟัง
พระพุทธเจ้าก็บอกว่า จูเฬกสาฎกถวายช้าไป ถ้าถวายตถาคตตั้งแต่ยามต้น จะได้คู่ 12 หากถวายยามกลางจะได้คู่ 8 คือ 8 คู่ นี่ถวายยาม
สุดท้ายจึงได้ 4 คู่ (น้อยไป) ฉะนั้น การทำบุญต้องเร็ว ๆ ไว ๆ ตุลิตะ ตุลิตัง สีฆะ สีฆัง เร็ว ๆ ไว ๆ

ToBoE

  • แอบหื่น
  • ***
  • กระทู้: 44
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เงินน้อยทำบุญน้อยก็ให้ผลมากได้
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2013, 20:27:45 »

ยาวจังอ่านไม่หมดครับ คหสต ผมยกตัวอย่าง

คนมีเงิน 20 บาท เห็นคนอดอยาก ตัวเองซื้อข้าว 10 บาทอีกสิบบาทเอาไปซื้อข้าวให้คนอดอยาก กับ
คนมีเงิน 10ล้านบาท เอาเงินไปบริจาค 1 ล้านบาท

ท่านคิดว่าท่านไหน มีน้ำใจกว่ากันครับ

เด็กน้อยอ่อนต่อโลก ครับ  คนที่มี20บาทในกระเป๋าไม่ได้หมายความว่าเขามี20บาทครับ
ถ้า ทั้งชีวิต มี20บาทแล้วยังเอาไปซื้อข้าวแจกคนอื่น10บาท  ผมไม่เคยเจอครับ
ท่านเจอที่ไหน โพสบอกด้วยครับ  ผมจะเอาไปแทนให้แก10บาท

wanderland

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 66
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-2
    • ดูรายละเอียด
Re: เงินน้อยทำบุญน้อยก็ให้ผลมากได้
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 26 สิงหาคม 2013, 00:47:44 »

ยาวจังอ่านไม่หมดครับ คหสต ผมยกตัวอย่าง

คนมีเงิน 20 บาท เห็นคนอดอยาก ตัวเองซื้อข้าว 10 บาทอีกสิบบาทเอาไปซื้อข้าวให้คนอดอยาก กับ
คนมีเงิน 10ล้านบาท เอาเงินไปบริจาค 1 ล้านบาท

ท่านคิดว่าท่านไหน มีน้ำใจกว่ากันครับ

เด็กน้อยอ่อนต่อโลก ครับ  คนที่มี20บาทในกระเป๋าไม่ได้หมายความว่าเขามี20บาทครับ
ถ้า ทั้งชีวิต มี20บาทแล้วยังเอาไปซื้อข้าวแจกคนอื่น10บาท  ผมไม่เคยเจอครับ
ท่านเจอที่ไหน โพสบอกด้วยครับ  ผมจะเอาไปแทนให้แก10บาท
เอิ่ม ท่าน นั่นกลายเป็นฉายาผมแล้วซะงั้น ผมแค่เปรียบเปรยเฉยเช๊ย ท่านเอาผมเงิบเลย

PLAYBOY ขั้นเทพ

  • V.I.P.
  • อาชาคะนองศึก
  • *
  • กระทู้: 1345
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +6/-2
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: เงินน้อยทำบุญน้อยก็ให้ผลมากได้
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 10 กันยายน 2015, 21:44:36 »

ทำเท่าที่กำลังทรัพย์เราพอจะมีไม่เดือดร้อน
***** PLAYBOY ขั้นเทพ #  PRESENTS   การบ้านสะท้านปฐพี   ==> ความมันส์!..กำลังจะบังเกิดแล้วครัชพี่น้อง *****

FreeFly

  • แอบหื่น
  • ***
  • กระทู้: 45
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เงินน้อยทำบุญน้อยก็ให้ผลมากได้
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 10 กันยายน 2015, 21:56:32 »

เท่าที่พอจะมี

Daddy Cm

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 90
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เงินน้อยทำบุญน้อยก็ให้ผลมากได้
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 12 กันยายน 2015, 19:41:34 »

ทำแล้วแต่กำลังทรัพย์ของเราดีกว่าครับ

ขุนแผน นกป.

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 70
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เงินน้อยทำบุญน้อยก็ให้ผลมากได้
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 13 กันยายน 2015, 19:13:59 »

เป็นไปได้ก็อยากจะทำให้ได้ทุกๆวันครับ

watza1045

  • แอบจิต
  • **
  • กระทู้: 19
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: เงินน้อยทำบุญน้อยก็ให้ผลมากได้
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2015, 20:40:36 »