-->

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องตำนาน'เจ้าหลวงคำแดง' ประธานใหญ่ผีเชียงใหม่  (อ่าน 1528 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

don

  • บุคคลทั่วไป

ชาวบ้านเชื่อว่าดอยหลวงเชียงดาว เป็นที่สถิตของผีเมืองเชียงใหม่ทุกตน ตั้งแต่ก่อนพญามังรายสร้างเมือง ผีเมืองเชียงใหม่มีเจ้าหลวงคำแดงเป็นประธานใหญ่    มีเรื่องเล่าว่าทุกวันพระ ผีทุกผีในเชียงใหม่จะมาเฝ้าและประชุมที่ดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งในถ้ำเชียงดาวมีห้องโถงใหญ่เชื่อว่าเป็นห้องประชุม วันนั้นผีจะไม่หลอกชาวบ้าน นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าอีกว่า ผีเมืองที่ดอยหลวงเชียงดาวเก็บข้าวจากชาวนาทุกคนที่วางเซ่นไหว้พระแม่โพสพและเป็นค่าน้ำหัวนา      ก่อนที่ชาวนาจะนำข้าวไปไว้ในยุ้งฉาง ข้าวเหล่านี้มีผีดอยนำมากินแล้วจะเหลือเพียงเปลือกหรือแกลบไว้       ซึ่งจะเก็บเปลือกข้าวหรือแกลบไว้ในถ้ำแห่งหนึ่งทางทิศใต้ ไม่ไกลจากดอยหลวงเชียงดาว ชื่อว่าถ้ำแกลบ ดังเช่นที่ คุณป้าจิตรา กองสถาน   



         ซึ่งเป็นคนเชียงดาวโดยกำเนิด ได้เล่าถึงความผูกพันของชาวบ้านที่มีต่อเจ้าหลวงคำแดงว่า คนเชียงดาวนอกจากจะรัก และศรัทธาต่อเจ้าหลวงคำแดงแล้ว ยังไม่กล้าทำความชั่ว เพราะกลัวว่าเจ้าหลวงคำแดงจะเห็นการกระทำที่ไม่ดีแล้วจะลงโทษเอาได้


                ความศักดิ์สิทธิ์ของดอยหลวง มิเพียงชาวบ้านจะเล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน พระสงฆ์ในล้านนายังแต่งและคัดลอกคัมภีร์ใบลานชื่อตำนานถ้ำเชียงดาวไว้หลายสำนวน ทั้งที่พบในเชียงใหม่และเมืองอื่น  ๆ    ที่ห่างไกลออกไป เช่น เมืองน่าน เป็นต้น ดังเช่นที่ อ.มาลา คำจันทร์ ปราชญ์ล้านนาและกวีซีไรต์  ได้กล่าวถึงการยอมรับนับถือ เจ้าหลวงคำแดงว่าไม่เพียงแต่ชาวบ้านที่เชียงดาวเท่านั้น แต่เจ้าหลวงคำแดงยังเป็น สัญลักษณ์ร่วมของชนเผ่าไทในลุ่มน้ำโขง

                สำหรับเรื่องราวของเจ้าหลวงคำแดงกับนางอินเหลานั้น เป็นความสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยกับชาวลัวะ โดยบริเวณเมืองเชียงใหม่ใน ปัจจุบันนี้ เคยเป็นที่ตั้งเมืองของชาวลัวะมาก่อน เจ้าหลวงคำแดง     ถือกำเนิดขึ้นก่อนที่พญามังรายจะมาสร้าง เวียงกุมกามและเชียงใหม่ โดยอาณาจักรล้านนาที่มีเมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางนั้น สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1839 แต่บริเวณที่สร้างเมืองขึ้นมาใหม่นี้ เคยเป็นบ้านเมืองมาก่อนแล้ว         ดังจะเห็นได้จากตำนาน พื้นเมืองหลายฉบับที่กล่าวถึง เวียงเชษฐบุรี (เวียงเจ็ดลิน) เวียงสวนดอก และเวียงนพบุรี
 



              ซึ่งเคยเป็นที่อยู่ของชนชาวลัวะมาก่อน เจ้าหลวงคำแดงติดตามกวางทองมาถึงอ่างสลุง แล้วมาพบหญิงงามนางหนึ่ง เกิดรักใคร่ชอบพอกันจึงค้างแรมอยู่ที่อ่างสลุงด้วยกัน ต่อมามีฤาษีแนะนำว่า เจ้าหลวงคำแดงควรจะสร้างเมืองตรงนี้ เจ้าหลวงคำแดงจึงสร้างเมืองขึ้น แล้วตั้งชื่อว่าเมืองล้านนาตามน้ำหนักของแท่นบรรทมของพระองค์ จากนั้นก็ปกครองเมืองจนขยายอาณาจักรไปกว้างไกล คนล้านนาเชื่อว่าผู้ใดสร้างเมือง เมื่อตายไปจะเป็นผู้ปกป้องรักษาเมือง ดังนั้นเจ้าหลวงคำแดงจึงถือเป็นหัวหน้าผีเมืองที่คอยปกป้องรักษาแผ่นดินล้านนาทั้งหมด รวมถึงเมืองเชียงดาวด้วย

          ส่วนตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่เรื่อง เจ้าสุวรรณคำแดง ซึ่งเริ่มต้นด้วย การกล่าวถึงหมู 4 ตัวที่มีชื่อตามทิศทั้งสี่ว่า บุพพจุนทะ ทักขิณจุนทะ ปัจฉิมจุนทะ     และอุตตระจุนทะ หมูทั้งสี่วิวาทผิดเถียงกันเป็นประจำ หลังจากตายไปแล้ว หมูแห่งทิศเหนือคือ อุตตระจุนทะได้ไปเกิดเป็นพระยาโจรณี มีโอรสชื่อ เจ้าชายสุวรรณคำแดง

           ต่อมาเทวบุตรชื่อโวหารได้จำแลงกายมาเป็นเนื้อทรายทอง ปรากฏ ณ สวนอุทยานของพระยา  โจรณี กษัตริย์พร้อมทั้งโอรส และบริวารจึงพากันออกมาล้อมจับ พระยาโจรณีลั่นวาจาว่า หากทรายทองหลุดออกไปทางผู้ใด ผู้นั้นต้องรับโทษ บังเอิญเนื้อทรายหลุด หนีออกไปทางโอรส เจ้าชายสุวรรณคำแดงจึงพาทหารออกติดตาม

           จนกระทั่งมาถึงบริเวณถ้ำเชียงดาว ทรงพบนางอินเหลา ทั้งสองเกิด ความรักใคร่กัน จึงอยู่กินด้วยกัน แต่เจ้าชายจำเป็นต้องออกติดตามเนื้อทรายทองต่อไป และครั้งนี้เจ้าชายได้พบกับ   ?คนที่เกิดใน รอยเท้าสัตว์? อันหมายถึงชาวลัวะ ซึ่งฤาษีกล่าวว่าให้เลี้ยงดูไว้เป็นไพร่ฟ้า
 



        ?อันสูได้คนยังรอยตีนช้างนั้น ก็พร่ำดั่งบอนเกิดกับห้วยนั้นแล หื้อสูท่านทังหลายเอาเมือเลี้ยงไว้รักษาหื้อดีๆ แท้เทอะหื้อได้ที่จื่อที่จำเอายังคำเขาไว้สืบกันไปเมื่อหน้าเทอะ?

 


            วันต่อมา เจ้าชายสุวรรณคำแดงพาทหารติดตามมาถึงบริเวณที่ราบลุ่มน้ำแม่ระมิงค์ ทรงพบหนองน้ำที่มีดอกบัว 7 กอ จึงกลับ มาเล่าให้ฤาษีฟังว่าไม่พบทรายทอง พบแต่หนองน้ำ    ฤาษีแนะนำว่าชัยภูมิ แห่งนั้น เหมาะแก่การสร้างเมืองเป็นอย่างยิ่ง ทำนา 1 ปีกินได้นานถึง 7 ปี หลังจากนั้น เจ้าชายสุวรรณคำแดงจึงสร้างเมืองขึ้นตามคำบอกของฤาษี โดยให้ชื่อเวียงว่า ?ล้านนา?    ซึ่งได้มาจาก น้ำหนักเตียงหินของ เจ้าชายที่หนักหนึ่งล้านสุวรรณคำแดง  ปฐมกษัตริย์แห่งเมืองล้านนา   มีมเหสีรองอีกสองนางคือ   นางผมเผือ    และ    นางสาดกว้าง    ทรงมีโอรส   7    องค์     ส่วน ไพร่ฟ้าที่เป็นลัวะพระองค์แต่งตั้งให้ ?มามุตตะลาง? เป็นขุนหลวงคอยสั่งสอนให้ตั้งอยู่ในศีลธรรมต่อมาภายหลังพระยาสุวรรณคำแดง ได้ยกราชสมบัติให้โอรสปกครอง   ส่วนพระองค์เสด็จออกไปอยู่กับนางอินเหลาในถ้ำเชียงดาว ณ ดอนอ่างสรง ตราบจนสิ้นพระชนม์
 

 jljhl

Lostman133

  • บุคคลทั่วไป

มีประธานด้วยนะ ljhgf

cmman573

  • บุคคลทั่วไป

ตกลงท่าน don เป็นประธานชมรม ขนหัวลุก เชียงใหม่หรือป่าวเนี้ย

notear

  • บุคคลทั่วไป

ตกลงท่าน don เป็นประธานชมรม ขนหัวลุก เชียงใหม่หรือป่าวเนี้ย


จริง ๆ ด้วย คร้าบ kjhg

cmman573

  • บุคคลทั่วไป

อีตาโลมเลีย จารีบปั่นกระทู้ทุกเที่ยงคืนหรือป่าวเนี้ย หึๆๆ ชักเฮี้ยนขึ้นทุกวันแล้วละห้อง ลี้ลับ

notear

  • บุคคลทั่วไป

อีตาโลมเลีย จารีบปั่นกระทู้ทุกเที่ยงคืนหรือป่าวเนี้ย หึๆๆ ชักเฮี้ยนขึ้นทุกวันแล้วละห้อง ลี้ลับ

ไม่กี่วันมาพันห้าร้อยกว่าซะแล้วนะ อีตาโก๊ะตี๋ kjhg