-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ไพ่: ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และการออกแบบ  (อ่าน 5597 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18295
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
ไพ่: ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และการออกแบบ
« เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2014, 12:56:21 »

ไพ่: ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และการออกแบบ

ต้นกำเนิดของการเล่นไพ่ มีจุดเริ่มต้นที่จีน (ใครนึกไม่ออกลองนึกถึงเล่น Mahjong ดูก็ได้ครับ) อินเดีย และเปอร์เซีย
แล้วแพร่ขยายมายังยุโรป ผ่านเส้นทางการค้าขาย มีหลักฐานว่าปรากฏในสวิสเซอร์แลนด์ปี 1377 และแพร่ขยาย
ไปยังเมืองใหญ่ๆ ของยุโรป อย่าง บาเซิล ฟลอเรนส์ บาร์เซโลน่า ปารีส โรเซนบอร์ก และเมืองท่าตามเส้นทางเดินเรือต่างๆ
แต่หลักฐานในยุโรปที่พูดถึงการเล่นไพ่นั้น ส่วนมากถูกพูดบ่อยครั้งในช่วง คริศตศตวรรษที่ 14 – 15 ในลักษณะ
ของคำสั่งจากกษัตริย์และศาสนาจักรในยุโรปที่ห้ามเล่นไพ่ ดังนั้น เชื่อว่าในช่วงนั้น การเล่นไพ่จึงเป็นที่แพร่หลาย
ในยุโรปและส่งผลในวงกว้างทางสังคมจนสถาบันหลักต้องออกมามีบทบาทในการควบคุมการเล่นไพ่มากมาย




ต้นแบบของการออกแบบ ดอกบนหน้าไพ่ มีต้นกำเนิดในตะวันออกกลางที่ทำให้ไพ่ในที่ๆต่างแทบทั้งโลก
มี 4 ดอก (ชุด) ประกอบด้วย เหรียญ ถ้วย ดาบ กระบอง



ซึ่งแต่ละสังคมก็นิยาม ออกแบบ และประยุกต์ให้แตกต่างกันไปตามที่สังคมนั้นๆ ให้ความสำคัญ อย่างไพ่
ของชาวอิตาเลียน ถ้วยหรือจอกก็เป็นสัญลักษณ์ของคริสตจักร ดาบเป็นสัญลักษณ์ของกองทัพ
เหรียญเป็นตัวแทนของพ่อค้า กระบองแทนกลุ่มชาวนา



หรืออย่างในเยอรมัน ระฆัง (Hawk bells) แทนสัญลักษณ์ของ ชนชั้นนำ หัวใจแทนคริสตจักร ใบไม้เป็น
ตัวแทนของชนชั้นกลาง และลูกโอ๊ตแทนความเป็นชาวนา



และในฝรั่งเศส จอกแทนความเป็นขุนนาง / หัวใจ แทน คริสตจักร / กระบองแทนกลุ่มชาวนา เพชร
เป็นสัญลักษณ์แทน ความร่ำรวย

นอกจากนี้ ในแต่ละที่ก็มีการใช้จำนวนไพ่ที่แตกต่างกัน เช่น ในอิตาลี ไพ่ 1 สำรับมี 56 ใบ เพราะไพ่ขอบ
“Court card” จะมี king (ราชัน) queen (ราชินี) knight (อัศวิน) และ knave (ตัวโกง) ซึ่งแตกต่าง
จากปัจจุบันที่มี 52 ใบ คือ A, 2-9, J, Q และ K อย่างละ 4 ดอก



การเล่นไพ่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายอย่างรวดเร็วในยุโรป โดยเฉพาะชนชั้นนำผู้มีอันจะกิน เพราะในช่วงแรก
ไพ่แต่ละสำรับมีราคาสูง เพราะเป็นงานทำด้วยมือ ตัดมือ วาดและลงสีด้วยมือ เป็นงานศิลปะล้วนๆ


แต่เมื่อความต้องการไพ่ในตลาดมีสูงมาก ทำให้กระบวนการผลิตกลายเป็นระบบโรงงานที่ใช้การปั้มจากไพ่
ต้นฉบับ(master card) และเมื่อไพ่กลายเป็นสมบัติของมหาชน แทนที่จะเป็นของค่าเวลาสำหรับนักเดินทาง
และชนชั้นสูงแล้ว การออกแบบไพ่จึงเป็นเรื่องที่ถูกให้ความสำคัญในการสื่อสาร มากกว่า งานศิลปะของช่าง
ประดิษฐ์ไพ่ในแบบเดิม ทำให้ลวดลายต่างๆ ถูกพัฒนาให้เป็น Icon ที่มีเหมาะกับตราปั้มมากกว่าการวาดมือ





ทำให้ ลวดลายของ ดอก ต่างๆ จึงพัฒนาเป็น Icon ของดอกแต่ละดอก กล่าวคือ ภาพกระบอง ถูกลดทอน
ความยากให้เป็นสัญลักษณ์ของ “ดอกจิก” (Clubs) แทน จากรูปเหรียญเปลี่ยนเป็น “ข้าวหลามตัด” (Diamonds)
สัญลักษณ์ที่เป็นรูปถ้วยเปลี่ยนเป็น “โพแดง” (Hearts) และภาพดาบแทนที่ด้วย “โพดำ” (Spades)
โดยนักออกแบบชาวฝรั่งเศส ซึ่งพยายามทำให้สัญลักษณ์ของไพ่หน้าต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้นผ่านตัวปั้มของโรงงาน
แทนที่จะเป็นลวดลายของดอกแต่ละดอกที่ทำได้ยากกว่า









สำหรับหน้าของไพ่ที่เป็น King ที่ปัจจุบันเชื่อว่าเป็นกษัตริย์ต่างๆ นั้น มีต้นกำเนิดจากการวาดภาพบนหน้าไพ่
ของชาวฝรั่งเศสที่ชื่อของราชันและรวมถึงราชินี และตัวโกง (Knave) ด้วย ซึ่งในแรกชื่อของกษัตริย์โรมัน
ในยุคกลางที่ถูกใช้จะเป็น Solomon Augustus Clovis และ Constantine และในเวลาต่อมาประมาณ
คริสต์ศตวรรษที่ 16 ก็เปลี่ยนเป็นหน้าไพ่ของ King ที่สำคัญในยุคต่อมา คือ
Charlemagne (โพแดง) Davis (โพดำ) Julius Caesar (ข้าวหลามตัด) และ
Alexandar the Great (ดอกจิก)

สำหรับภาพของ Queen ที่ไล่เรียงตามลำดับตามดอก โพดำ โพแดง ข้าวหลามตัด ดอกจิก คือ
Pallas, Judith, Rachel และ Argine


ส่วนไพ่ Jack หรือ Knaves (พวกตัวโกง) จะเป็น Ogier the Dane, La Hire, Hector และ
Judas Maccabeus (or Lancelot) และถ้าจะถามว่ารู้ได้ยังไง ตอบให้ว่ารู้ เพราะในไพ่เขาเขียน
ระบุชื่อไว้เลยครับ ว่าหน้าไพ่หน้าไหนเป็นใครบ้าง (ภาพดูด้านล่างนะครับ)



แต่ก็มีประเด็นที่น่าสนใจในทางประวัติศาสตร์ตรงที่ในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศสในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18
เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และแมรี่ อังตัวเนตถูกตัดศีรษะด้วยกิโยติน ทำให้สัญลักษณ์ของความเป็นสถาบัน
กษัตริย์ก็ไม่ถูกยอมรับ ทำให้ไพ่ขอบที่เป็นรูปกษัตริย์ถูกแทนที่ด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เป็นเสรีภาพ
ซึ่งในเวลาต่อมาไพ่ในปัจจุบันแม้ว่าจะใช้รูป King Queen Knaves (หรือ Jack) ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้
ใส่ชื่อของกษัตริย์ที่ตัวตนเหมือนอย่างที่นิยมกันในช่วงยุคคริสต์ศตวรรษที่ 15-18 ทำให้การระบุชื่อ
ของกษัตริย์ที่พูดมาทั้งหมดตอนต้นมีปัญหาอยู่บ้าง (แล้วจะเขียนทำไมใช่มั้ยล่ะครับ)


จุดที่คนมักจะพูดถึงกันบ่อยๆ ในการเล่นไพ่ หากจะสังเกตกันจริงๆ บ้างนะครับ (เชื่อว่าถ้าตั้งหน้าตั้งตาเล่น
อย่างเดียวคงไม่สังเกตมั้ง) คือ ไพ่ the King of Hearts หรือ ไพ่คิงโพแดง เป็นไพ่คิงใบเดียวที่ ไม่มีหนวด
และทำท่าเหมือนจะฆ่าตัวตายบางครั้งถูกเรียกว่า กษัตริย์อัตตวิบากกรรม ลองดูภาพด้านล่างนะครับ ว่า
คิงถือดาบหันเข้าศีรษะ ในเรื่องนี้ คนทั่วไปก็พยายามผูกเรื่องเพื่อเชื่อมโยงกับการสวรรคตของกษัตริย์
ที่เชื่อว่าไพ่ใบนี้แทน ชาร์ลเลอมาญ แต่ในทางประวัติศาสตร์นั้น การสวรรคตในวัย 72 ปีของ ชาร์ลเลอมาญ
ก็ไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ บางคนจึงพยายามผูกเรื่องว่า ไพ่คิงโพแดง น่าจะเป็นเรื่องราวในตำนานของ
กษัตริย์อังกฤษ ริชาร์ดที่ 1 ที่เป็นที่ยกย่องด้านกวีซึ่งผิดหวังในเรื่องของความรัก จึงฆ่าตัวตาย

แต่เอาเข้าจริงเชื่อไม่ได้เลยสักทีนะครับ เพราะกษัตริย์ริชาร์ดไม่ได้ฆ่าตัวตาย และยิ่งเป็นกษัตริย์อังกฤษ
ด้วยคนฝรั่งเศสจะเอากษัตริย์อังกฤษมาใส่ทำไม แต่ที่พูดยังนี้ เพราะในยุโรป ก็มีพื้นฐานการดีไซน์อยู่ 2 แบบ
คือ แบบ Parisian ของพวกฝรั่งเศส และแบบ Rouennais ของพวกอังกฤษ ซึ่งก็แน่นอนสองสายนี้
ไม่กินเส้นกันในแทบทุกๆ เรื่อง ทำให้การเลือกใช้แบบ หรือ จะยกย่อง เลือกภาพใครนั้น ย่อมกินเส้น
กันอยู่แล้วครับ




ข้อสันนิฐานที่ดูพิลึกๆ แต่ดูน่าเชื่อที่สุด คือ จริงๆ ไพ่ฉบับแรกเป็นรูปกษัตริย์ที่ถือไม้กางเขนมากกว่าดาบ
และนักวาดภาพได้ลอกลายผิด จึงถูกผลิตซ้ำกันมาเรื่อยๆ เพราะหากดูประวัติว่า ชาร์ลเลอมาญมีส่วนสำคัญมาก
ในแง่ของการสร้างจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงเรื่องของการเมืองกับศาสนา ภาพของชาร์ลเลอมาญ
ส่วนมากจะต้องมีไม้กางเขนอยู่คู่กับพระองค์ด้วย ไม่เชื่อลอง google รูปภาพของ Charlemagne สิครับ

 


ไพ่ของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 ที่ระบุภาพว่าเป็น Charlemagne และ Caesar ลองเปรียบเทียบ
กับปัจจุบันดูนะครับ ว่าแต่ไม่ใช่เพียงแค่มือที่ถือของเปลี่ยนไปนะครับ หนวดยังหายไปด้วย !!!


 

ความสมมาตรที่เล่นง่ายๆ




ความน่าสนใจของวิธีการออกแบบไพ่ที่เหมาะกับการเล่นและยังทรงพลังอยู่จนถึงวันนี้ คือ การออกแบบ
ไพ่แบบสมมาตร เมื่อมองด้านไหน ก็จะเห็นเป็นภาพเดียวกัน นักเล่นไพ่ จึงไม่ต้องกังวล การกลับหัวสลับ
หางของไพ่ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเรียงไพ่ตามแนวตั้ง การเล่นไพ่จึงดำเนินไปได้อย่างไหลลื่น


ความสมมาตรของไพ่ที่คำนึงข้อมูลที่เป็นตัวเลข-อักษร และ ดอกของไพ่ ที่วางไว้มุมซ้ายบนและมุมล่างขวา
นอกจากจะไม่มีปัญหาเรื่องการจัดไพ่ในแนวตั้งแล้ว ยังทำให้การจัดเรียงไพ่จากซ้ายไปขวาของผู้เล่นเห็นข้อมูล
ทั้งหมดของไพ่จากการใช้พื้นที่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น พูดในภาษาของนักออกแบบ คือ เพียงไอคอน 2 ชิ้นเล็กๆ
ที่วางบนมุมทั้ง 2 ของไพ่ก็ช่วยให้เข้าใจสารทั้งหมดของหน้าไพ่ได้แล้ว และที่สำคัญการวางไอคอนทั้งเลข
และดอกที่มุมของไพ่ ทำให้ผู้ถือไพ่สามารถถือไพ่ได้ใกล้ขึ้นและใช้เพียงมือเดียวในการจัดการทั้งหมด
ซึ่งในการเล่นไพ่เช่นนี้ จึงมีสีสันมากขึ้นในการวางท่าทางของการเล่นในแต่ละครั้ง

แต่ก็ไม่ใช่เพียงพื้นที่ของมุมไพ่เท่านั้น ที่นักออกแบบในสมัยกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 ออกแบบ แต่พื้นที่
ตรงกลางภาพที่พยายามวางจำนวนดอกของไพ่ ตามเลขที่สื่อ และไพ่ขอบ หรือ “court card” ที่เป็นรูป “คน” ในไพ่
นักออกแบบก็พยายามให้มันสมมาตรด้วย เพื่อให้คนดูรู้สึกเนียนตา และเข้าใจสาระบนหน้าไพ่ได้ในเวลาอันสั้น




ความเป็นมาของไพ่ป๊อกเด้งที่หลายคนไม่เคยรู้



ในปัจจุบันคาสิโนนั้นได้เปิดการให้บริการผ่านทางระบบออนไลน์มากมายโดยเป็นที่รู้จักกันในนามว่า คาสิโนออนไลน์
และในเกมคาสิโนออนไลน์เหล่านี้ก็มีต้นกำเนิดมาจากการพนันพื้นบ้านที่เหล่านักเสี่ยงโชคทั้งหลายชื่นชอบและรู้จักกัน
ทั่วไปอย่างเช่น ไพ่ป๊อกเด้ง, ไพ่บาคาร่า, รูเล็ต ,ไฮโล,สล็อต,กำถั่ว,น้ำเต๋าปูปลา เป็นต้น


ซึ่งได้มีการพัฒนาเอาเกมไพ่เหล่านี้เข้ามาอยู่ในระบบออนไลน์ให้ผู้เล่นได้มีโอกาสในการเสี่ยงโชคมากยิ่งขึ้น
และไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปหาบ่อนการพนันเหล่านี้ โดยเฉพาะในยุคไอทีอย่างนี้ไม่ว่าเพศไหนวัยไห
ก็สามารถเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ตกันง่ายขึ้นทำให้เกมคาสิโนออนไลน์นั้นยิ่งได้รับความนิยมกันมากขึ้นอีกทั้ง
ความสะดวกสบายในการเล่นนั้นทำได้ง่ายกว่าการเล่นในบ่อนคาสิโน ในเกมไพ่ที่กล่าวมานั้นผู้เล่นบางคนก็รู้
ความเป็นมาและความหมายของไพ่แต่บางคนก็ไม่เคยรู้เลยว่าไพ่มาจากไหนแล้วมีความหมายว่าอย่างไร
ในไพ่แต่ละใบ เราจึงได้นำเอาความเป็นมาและความหมายของไพ่ป๊อกเด้งที่ซุกซ้อนอยู่ภายในหน้าไพ่ต่างๆ
มาให้ผู้เล่นและผู้อ่านได้ศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติมกัน

หากจะกล่าวถึงเกมไพ่พื้นบ้านที่มีรูปแบบการเล่นที่ง่ายและใช้ระยะเวลาในการเล่นค่อนข้างสั้นก็คงไม่พ้นการ
เล่นไพ่ป๊อกเด้งหรือเรียกกันทั่วไปว่าไพ่ป๊อกแปด ป๊อกเก้า ไพ่ทำจากแผ่นพลาสติกหรือกระดาษแข็งขนาด
ประมาณฝ่ามือใช้เพื่อการเล่นเกมไพ่ที่มีลักษณะและจำนวนหน้าไพ่ที่แตกต่างกันไปตามชนิดของไพ่ แต่ชนิด
ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีหรือแบบที่นิยมมากที่สุดคือ



หน้าไพ่แบบชาติตะวันตก ประกอบด้วยไพ่หนึ่งสำรับจะมีจำนวน 52 ใบ ซึ่งใน 52 ใบ แต่ละใบของไพ่หนึ่งสำรับ
ล้วนแต่มีความหมายทั้งสิ้นท่านเคยสังเกตไหมว่าหน้าไพ่แต่ละใบจะมีรูปสัญญาลักษณ์ต่างๆ จะหมายถึง
สัปดาห์ทั้งหมดใน 1 ปี มี 52 สัปดาห์ เมื่อนำเลขมาบวกกันแล้วจะได้ 365 วัน ก็เท่ากับ 1 ปี


เล่าสืบต่อกันมาว่าการกำเนิดของไพ่มาจากฮินดูสถานในปีคริสต์ศตวรรษที่ 7 ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 1953
มีชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งชื่อว่า นายเกิง โกเนอร์ ได้เป็นผู้คิดค้นทำไพ่ป๊อกขึ้นโดยคิดจำนวนของไพ่ป๊อกที่ใช้เล่น
ซึ่งมีจำนวน 52 ใบเป็นแนวคิดที่เกิดจากจำนวนสัปดาห์ใน 1 ปี โดยมีหน้าไพ่ 4 หน้าประกอบไปด้วย
โพธิ์ดำ โพธิ์แดง ข้าวหลามตัด ดอกจิก นอกเหนือจากรูปที่มีความหมายแล้วยังมีเรื่องความหมายของสี
เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วยเป็นความหมายที่เกี่ยวกับกาลเวลาของในหนึ่งวัน


โดยมีหน้าไพ่ 4 หน้า คือ
1.โพธิ์ดำ ♠
2.โพธิ์แดง ♠
3.ข้าวหลามตัด ♦
4.ดอกจิก ♣

ความหมายไพ่   
สีแดง หมายถึง กลางวัน
สีดำ หมายถึง กลางคืน




โดยจะแบ่งออกเป็นตามฤดูกาล, วัยอายุ, กษัตริย์ เรียงตามลำดับดังนี้
1.โพธิ์แดง คือ ฤดูใบไม้ผลิ, วัยเยาว์หรือเด็ก, ชาร์เลอมองค์ (Charlemagne)
2.ข้าวหลามตัด คือ ฤดูร้อน, วัยหนุ่มสาวหรือวัยรุ่น, อเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great)
3.ดอกจิก คือ ฤดูใบไม้ร่วง, วัยกลางคน หรือวัยหนุ่มใหญ่, จูเลียสซีซาร์ (Julius Caesar)
4.โพธิ์ดำ คือ ฤดูหนาว, วัยชราหรือสูงอายุ, กษัตริย์เดวิด (David)




ตัวควีน หมายถึง พระนางคลีโอพัตรา (Cleopatra) พระนางเอสเธอร์ (Esther) พระนางแห่งซีบาร์ (Sheba)
และ พระนางโบดิเซีย (Boadicea) เป็นตัวแทนของไพ่ควีน




ในตอนแรก ที่มีปัญหาเรื่องชื่อ คือ ไพ่อัศวิน / ตัวโกง หรือ ไพ่ “Knave” or “Knight” เพราะความสับสน
เรื่องของอักษรที่ขึ้นต้นเป็นตัวเค K ซึ่งซ้ำกับ King ทำให้การอ่านหน้าไพ่ต้องใช้เวลามากกว่า นักออกแบบ
จึงเลือกใช้ไพ่แจ๊ค (Jack) แทนเพื่อป้องกันความสับสน แต่อย่างไรก็ตาม ในรูปภาพของไพ่ Jack ก็ยังหมายถึง
Knight หรือ Knave อยู่ดี ซึ่งจะเป็นอัศวินหรือตัวโกงนั้น คงต้องพิจารณากันเอาเองนะครับ

ความหมายเพิ่มเติม
1.โพธิ์แดง คือ ความรัก
2.ดอกจิก คือ ความรู้
3.ข้าวหลามตัด คือ สินทรัพย์
4.โพธิ์ดำ คือ ความตาย

K Q J จะหันหน้าเข้าหาโพธิ์แดง ดอกจิกและข้าวหลามตัด แล้วหันหลังให้โพธิ์ดำ หนึ่งในนั้นเป็นกษัตริย์ที่มี
เป็นสัญญาลักษณ์จะมีหนวดเคราหมด ตามตำนานไพ่ไม่มีใครรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วอเล็กซานเดอร์มหาราชมีรูปร่าง
หน้าตาเป็นอย่างไร แต่ตามความเชื่อและจินตนาการพระองค์เป็นชายหนุ่มรูปร่างเล็กไม่มีหนวดมีเคราผมของ
พระองค์เป็นสีบลอนด์หยิกเป็นลอน อะไรทำนองนั้น

เมื่อรู้ความหมายและความเป็นมาของไพ่ป๊อกแล้วผู้อ่านคงจะเข้าใจถึงความเป็นมากันมากขึ้น นอกจากไพ่จะใช้
ในการเล่นเกมไพ่แล้วบางครั้งไพ่มักถูกนำไปใช้เป็นอุปกรณ์ในการเล่นมายากลหรือใช้ในการดูดวง และในหลายๆครั้ง
ก็ถูกนำไปใช้ในการเล่นการพนันอีกด้วยและในการเล่นไพ่ป๊อกในการพนันส่วนใหญ่แล้วจะเรียกว่าไพ่ป๊อกเด้ง


รูปแบบของไพ่ป๊อกในมือ

สำหรับการเล่นเกมการพนันต่างๆโดยมากแล้วคงจะมีน้อยคนมากที่ไม่รู้จักกับการเล่นไพ่ป๊อกเด้งที่ต้องถือว่าเป็น
เกมพนันที่มาแรงเป็นอันดับหนึ่งของวงไพ่บ้านเรา โดยป๊อกเด้งเป็นเกมพนันที่เล่นค่อนข้างง่ายมากเพียงแค่คุณ
บวกเลขเป็นถือว่าผ่านและสามารถเล่น ป๊อกเด้ง ได้อย่างเพลิดเพลินแล้วแต่การเล่นป๊อกเด้งคุณควรเรียนรู้วิธีการ
เล่นเพิ่มเติมเพราะอัตราการตอบแทนจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของไพ่นั้นเอง

โดยนอกจากนับไพ่เป็นคุณก็ควรรู้รูปแบบของไพ่ในมือด้วยเพราะว่าป๊อกเด้งนั้นสามารถได้ผลตอบแทนมากที่สุด
ถึง 5 เท่าของเงินที่วางเดิมพัน โดยการเรียงลำดับไพ่ความใหญ่ของไพ่ป๊อกเด้งโดยเรียงจากมากไปน้อยดังต่อไปนี้

ไพ่ป๊อก



การเกิดไพ่ป๊อกนั้นต้องเกิดจากการบวกเลขของไพ่ 2 ใบแรกที่ได้รวมกันแล้วได้ 8หรือ9 แต้มโดยแต้มสูงสุดคือ 9 แต้ม
บางบ่อนหากป๊อกชนกับเจ้ามืออาจต้องวัดกันที่ตัวคุมด้วย เช่น K คุมจะใหญ่ที่สุด และหากคุณป๊อกแล้วแถมมีเด้งเรียกสั้นๆ
ว่าป๊อกเด้ง ก็คือการที่ไพ่ทั้งสองรวมเล่นแล้วได้ 8-9 แล้วดอกเป็นดอกเดียวกันจะเรียกว่าป๊อกเด้ง ซึ่งอัตราการตอบแทน
ได้ 2 เท่าของเงินวางเดิมพันหรือออกเป็นไพ่คู่เช่น (4+4),(9+9) รวมกันแล้วเรียกว่าป๊อกแปดเด้ง

ไพ่ตอง



การเกิดไพ่ตองก็คือการเกิดไพ่ที่เลขเหมือนกันทั้งสามใบโดยตองสามคือไพ่ที่ใหญ่ที่สุด แต่ใหญ่สู้ไพ่ป๊อกไม่ได้
และได้อัตราการตอบแทนคือ 5 เท่า



ไพ่เรียงดอกเดียวกัน เริ่มตั้งแต่ (2,3,4)ขึ้นไป ได้อัตราการตอบแทนคือ 5 เท่าQKA ใหญ่ที่สุด



ไพ่เรียง เริ่มตั้งแต่ (2,3,4)ขึ้นไป ได้อัตราการตอบแทนคือ3 เท่า QKA ใหญ่ที่สุด

ไพ่ไพ่แต้มธรรมดา 9แต้มคือไพ่สูงสุด ไพ่ต่ำสุดคือบอด(ไม่มีแต้มรวมกันแล้วได้ 10,20,30) ได้
ได้อัตราการตอบแทน 1 เท่า แต่หากเกิดดอกเดียวกันทั้งสามใบแล้วแต้มมากกว่าเจ้ามือจะได้อัตราการตอบแทนคือ3 เท่า

แต่อย่างไรก็ดีการเล่นไพ่ก็คือการพนันไม่ว่าผู้เล่นจะมีความรู้หรือบวกเลขเก่งขนาดไหนหากขาดสติคุณก็แพ้ได้เหมือนกัน
สำหรับคำว่าแพ้นี้แบ่งได้สองทางคือ แพ้พนัน หมายถึงเมื่อผู้เล่นไม่มีสติควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาเสียคุณก็จะมีแต่เสีย
และแพ้อีกอย่างคือแพ้ตัวเอง หมายถึง คุณไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองให้หยุดได้เมื่อชนะหรือแพ้คุณปล่อยให้เกม
การพนันเข้ามาควบคุมคุณมากจนไม่สามารถคุมตัวเองได้จนสุดท้ายคุณกลายเป็นทาสของการพนันนั้นเอง


ดังนั้นเราจึงอยากให้ผู้เล่นหรือผู้อ่านได้ใช้สติในการเสี่ยงโชคทุกชนิดเพื่อที่ผลเสียต่างๆที่มันกำลังจะเกิดขึ้นลดน้อยลงนั้นเอง


credit :: kokoyadi.com , ingroup.info
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 พฤศจิกายน 2014, 17:35:40 โดย etatae333 »
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

Daddy Cm

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 90
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ไพ่: ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และการออกแบบ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2014, 21:45:15 »

กำเหนิดที่จีนหรือนี่

PLAYBOY ขั้นเทพ

  • V.I.P.
  • อาชาคะนองศึก
  • *
  • กระทู้: 1345
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +6/-2
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Re: ไพ่: ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และการออกแบบ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2014, 21:56:34 »

khjhgg khjhgg เล่นไม่เป็น  eta32 eta32
***** PLAYBOY ขั้นเทพ #  PRESENTS   การบ้านสะท้านปฐพี   ==> ความมันส์!..กำลังจะบังเกิดแล้วครัชพี่น้อง *****

ขุนแผน นกป.

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 70
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ไพ่: ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และการออกแบบ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2014, 21:58:15 »

เล่นกันยังไง

lamborghini

  • เด็กทะลึ่ง
  • ****
  • กระทู้: 61
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: ไพ่: ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และการออกแบบ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2014, 22:55:36 »

เอาไว้ดูดวงดีกว่า