Challenge สุดเพี้ยนยุคโลกออนไลน์

[etatae333]

Tweet

Challenge สุดเพี้ยนยุคโลกออนไลน์

PUNCH 4 PUNCH



น่าจะเริ่มจากมีใครอยากเป็น แบรดพิตต์ ใน ‘Fight Club’ แต่ไม่อยากเจ็บตัวเหมือนในหนัง
การละเล่น‘พันช์ ฟอร์ พันช์’ จึงถูกนำมาตอบสนองคนพวกนั้นในโลกออนไลน์ วิธีการคือ...

ให้คนสองคนผลัดกันต่อยในจุดเดียวกันของร่างกาย ปกติจะเป็นที่แขนแต่ก็มีที่ต่อยหัวหรือหน้าอก
เหมือนกันใครคนไหนแหกปากร้องเจ็บก่อนก็ต้องโดนปรับ ส่วนใหญ่คือการให้ดื่ม หรือทำบ้าๆ
อย่างอื่น รวมทั้งท้าทายคนอื่นต่อไปแล้วโพสต์ลงเน็ต แต่อาจเพราะเชื่อว่าถึงจะต่อยกัน แต่โดน
ส่วนที่ไม่เป็นอันตรายถึงขั้นต้องพบแพทย์ รวมถึงกฎห้ามดื่มย้อมใจก่อนต่อย

เช่นเรื่องของ ทอมมี เมน หนุ่มอังกฤษวัย23 ปี เลยต้องมาตายจากการละเล่นนี้เขาโดนหาม
ส่งโรงพยาบาลหลังจากโดนต่อยหน้าอก แต่ก็ถือว่าได้รับความสนใจจากสังคมออนไลน์พอสมควร
เพราะหลังจากพี่ชายของเขาทำวิดีโอขึ้นยูทูบเพื่อต้านความรุนแรง เพียงสัปดาห์เดียวก็มีคนเข้าไป
ดูแล้วตั้ง 100,000 วิวดังได้สมใจเหมือนกัน!



NEKNOMINATE



การละเล่นออนไลน์ที่มีความหมายมาจากคำว่า Nek หรือ คอ วิธีเล่นก็แค่กระดกเหล้าใน
ภาชนะใหญ่โตให้หมดภายในเวลาอันรวดเร็ว แล้วก็ท้าใครให้ทำบ้างภายใน 24 ชม.

เริ่มกันก่อนในออสเตรเลีย ก่อนจะไปฮิตในอังกฤษ ซึ่งพัฒนาการท้าทายให้หนักข้อยิ่งขึ้น
โดยไม่จำกัดอยู่แค่เหล้า แต่มีทั้งแอลกอฮอล์ ผสมสุราหลายขนานปนกันมั่ว ของเหลวชวน
สะอิดสะเอียนต่างๆ

จนเมื่อเดือนกุมภาฯ ไอ้หนุ่มวัย 20 ปีชาวอังกฤษนามแบรดลีย์ เอเมส ได้อัพโหลดวิดีโอการ
ละเล่นแบบนี้ของตัวขึ้นเฟซบุ๊ก โดยกระดกเข้าไป 1.1 ลิตร หรือราว 30 เป๊ก ภายในเวลาแค่
2 นาที แต่หลังจากเขายกนิ้วโป้ง2 นิ้วใส่กล้องพร้อมกับบอกว่า “หนุกจัง” ทั้งเพื่อนและญาติ
ต่างเข้ามาเม้นต์การกระทำนี้ บางรายบอกว่าโคตรง่าว,อันตราย, หาเรื่องอ้วกแตก ฯลฯ

แล้วสิ่งที่ใครกังวลก็เป็นจริง หลังจากนั้น 4 วันหมอนี่ก็กลายเป็นศพนอนตายอยู่ในบ้านและเป็น
รายที่ 5 ในอังกฤษที่ต้องมาตายด้วยการเล่นอะไรบ้าๆ แบบนี้ ส่วนที่ไม่ตายแต่ก็ไม่ถือว่าโอเค
เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษาฯมีชาวอังกฤษอีกราย ท้าทายใครๆ ให้ดื่มเหล้า, ไข่ดิบ, อาหารปลา
ซึ่งแน่นอนว่า

เขาต้องเลี้ยงปลา ปลาทองเลยเป็นอีกสิ่งที่เขากลืนเข้าไปด้วย ก่อนจะโหลดมันขึ้นในเน็ต
ผลก็คือโดนตำรวจปรับไป 550เหรียญ ในข้อหาทรมานสัตว์!



OWLING



เป็นอีกการละเล่นโชว์ในเน็ตที่เป็นวิวัฒนาการมาจากแพลงกิง แต่ในที่นี้หมายถึงการนั่งยองๆ กึ่งๆ
เหมือนนั่งปลดทุกข์ เกิดเป็นเทรนด์เมื่อปี2011 หลังจากแพลงกิงระเบิดไปทั่วแล้วมีคนไม่อยากทำ
แค่นั้น มันก็เลย ‘โอว์ลิง’ ขึ้นมา ฮิลารี ดัฟฟ์ เป็นคนดังที่อ้างว่าเธอเป็นดาราคนแรกที่ทำแบบนี้
อย่างไรก็ตามเทรนด์นั่งยองๆไม่ได้เพิ่งเกิด เมื่อปี 1959 เคยมีนักศึกษามานั่งแบบนี้พร้อมกันเป็น
ชั่วโมงมาแล้ว แต่ตอนนั้นเรียกกันว่า ‘ฮันเกริน (Hunkerin)’



CINNAMON CHALLENGE



ผงซินนามอน หรือผงอบเชย ที่ร้านกาแฟเก๋ๆ ฮิปๆ มักนิยมเอามาโรยหน้ากาแฟบางเมนู กลายเป็น
อุปกรณ์สำคัญในการเอามาท้าทายแข่งกันบนยูทูบ วิธีเล่นบ้าๆ คือตักซินนามอนขึ้นมาในขนาดพอกัน
กับช้อนตักแกง แล้วเทใส่ปาก จากนั้นอมไว้ แล้วพยายามกลืนให้ได้ภายใน60 วินาที โดยห้ามดื่มน้ำ
เด็ดขาด ผลคือไม่เห็นจะมีใครทำได้

แต่ก็มีคนยอมเล่นบ้าๆเพื่อจะโดนหามส่งโรงพยาบาลแล้วนับร้อยราย เพราะโดยทั่วไป ผงพรรค์นี้ใน
จำนวนขนาดนั้น จะทำให้ปากแห้งผากรู้สึกคลื่นเหียน จาม หรือไอ และบางทีก็ถึงขั้นอุจจาระแตก
คากุงเกงได้ ส่วนผลข้างเคียงแบบไม่ทั่วไป ก็มีทั้งอ้วกแตก หายใจไม่ออก หรืออาจตายได้จาก
โรคมะเร็งเม็ดเลือด หากสูดดมเข้าไปมากๆ!



CONE-ING



เริ่มจากในออสเตรเลียเมื่อปี 2009 โดยเป็นส่วนหนึ่งในรายการแนวล้อกันเล่น แต่มันก็ฮิตขึ้นมาในโลก
อินเตอร์เน็ต วิธีการก็คือขับรถเข้าไปในร้านแดรกด่วนประเภทไดรฟ์ - อิน แล้วสั่งไอติมโคน 1 หรือ 2
อันก็ได้ แล้วพอพนักงานยื่นมาให้ ก็แค่ยื่นมือไปรับโดยแทนที่จะจับตรงส่วนโคนก็ไปคว้าที่ไอติมแทน
แล้วคอยดูปฏิกิริยาของพนักงาน ก่อนเอาไปโหลดในเน็ตให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน ฟังดูไร้สาระเป็นบ้า
แต่มันก็เคยเป็นเทรนด์การละเล่นเพี้ยนๆฮิตๆ ในเน็ตมาแล้วจริงๆ?!



CONDOM CHALLENGE



ไม่ใช่การแข่งกันใช้ถุงยางให้ได้มากกว่ากัน ตามอย่างที่มันต้องใช้แล้วเอามาโพสต์ขึ้นเน็ต แต่การท้าทาย
แบบ ‘คอนดอมชาลเลนจ์’ ไม่เสียวขนาดนั้น แต่อุดมด้วยความอุตริมากกว่า วิธีการท้าทายคือเอาถุงยาง
มายัดเข้าไปในรูจมูก แล้วหาทางทำให้มันออกมาทางปาก

แต่เนื่องด้วยระบบอินเตอร์เนตสมัยนั้นอาจยังไม่ทั่วถึง ทพให้คนไทยเราจะคุ้นกับเวอร์ชั่นปี 2015 ที่เป็น
การปล่อยถุงน้ำข้างใน ลงมาให้ตกคลุมหัวมากกว่า





MILKING



ชื่อก็บอกแล้วว่า มิลกิง หรือหมายถึงนมนั่นแหละ แล้วก็ไม่ใช่นมชนิดเต้าที่เราๆ ท่านๆ ชอบดู จับ หรือดูด
แต่เป็นนมวัวจริงๆ ในรูปของขวด หรือแกลลอน วิธีการเล่นท้าทายกัน ไม่ต่างจากที่แข่งกันเอาน้ำเย็นราดหัวหู
แต่เปลี่ยนมาใช้นมจะเย็นหรือไม่เย็นก็แล้วแต่ เอามาราดตัวเองในที่สาธารณะ แล้วก็เอามาอวดใครๆ ในเน็ต
ท้าทายคนอยากโดนนมเป็นรายต่อไป



MAMADING



มาเมดิง มาจากคำว่า ‘มามาดา(Mamada)’ ในภาษาสเปนแปลว่า เอ่อ ‘ดูดกะปู๋’ เป็นการละเล่นมีกติกาง่ายๆ
เล่นกันตามคลับบาร์มาหลายปี คือถ้าสาวหรือหนุ่มคนไหนดูดน้องชายคนในบาร์ได้มากที่สุด เขาหรือเธอรายนั้น
ก็ดื่มฟรีไปเลย แต่เกมเสียวๆ นี้ก็ไม่ได้แพร่หลายนัก

จนสาวอังกฤษรายหนึ่งไปเที่ยวเกาะมายอร์กา ในเมกาลัฟ แล้วเล่นมันบนพื้นฟลอร์ไนต์คลับแถวนั้น โดยมีการ
บันทึกคลิปเอาขึ้นเน็ต โชว์สถิติ 24 อัน เอ้ย! ราย ทำให้เธอได้เหล้าเต็มๆ ไป 1 ขวด มูลค่าราว 5 เหรียญ
แต่ที่มากกว่านั้น คือใครอยากดูเกมนี้ของเธอแบบไม่เซนก็ต้องจ่าย 21 เซนต์ส่วนฉบับเซนเซอร์ยาว 2 นาทีก็มี
ให้ดูกันทั่วโลก ดังระเบิดเถิดเทิงไปเลย

ส่วนนายกเทศมนตรีก็โดนชาวบ้านแถวสถานเกิดเหตุโวยใส่ เรียกร้องให้ปิดบาร์นี้โดยไว!



THE KNIFE GAME SONG



ดาวตลกนาม รัสตี เคจ เขียนกฎการละเล่นแบบนี้ไว้ในเนื้อเพลงหนุกๆ ร้องว่า

“โอ ผมมีนิ้วอยู่ครบ เอามีดมาปักๆๆ ถ้าไม่โดนตรงกลาง นิ้วผมก็ต้องกระเด็นไป”

แต่นั่นก็ไม่ได้เสี่ยงอะไรนัก หากไม่มีการเพิ่มความเร็วในการปักมีดลงไประหว่างนิ้วให้เร็วขึ้นสุดๆ ตามจังหวะ
การร้องไปด้วย แต่ก็ยังถือว่าโชคดี เพราะเท่าที่ค้นยังไม่พบคลิปใดทำให้นิ้วใครได้เลือด หรือขาดกระเด็น
เหมือนในเนื้อเพลง แต่ก็ขอเตือนไว้นิดว่าคนทำแบบนี้ได้เร็วสุดๆ เห็นมีแต่หุ่นแอนดรอยด์ในหนัง ‘Aliens’
เท่านั้นโดยก็ต้องไม่ลืมอีกเหมือนกันว่า สุดท้ายหุ่นยนต์ในหนังก็ยังโดนบาดอยู่ดี!



HORSEMANNING



จากเรื่องเล่าโบราณของคนขี่ม้าหัวขาด ใน ‘Sleepy Hallow’ ทำให้คนรุ่นปู่ย่าของเราที่มีความพิเรนทร์
ก็จัดการถ่ายภาพตัวเองในลักษณะหัวกับตัวอยู่กันคนละทางมาตั้งแต่เมื่อยุค 20และก็ต้องขอบคุณในความ
สร้างสรรค์ของท่านๆ เมื่อมาถึงในยุคเซลฟี หลังจากเกิดการระบาดของแพลงกิงนอกจากคนหัวขวดแล้ว
เลยมีคนหัวขาดเต็มโลกออนไลน์ไปหมดเลย!



CAT BREADING



การแข่งกันอวดรูปในเน็ตของคนรักแมว ในแบบที่ไม่เคยมีใครไปถามแมวว่ามันโอเคหรือเปล่า กับการที่โดนใคร
เอาแผ่นขนมปังมาสวมหัวชักรูป เพื่อสร้างความตลกขบขันแก่ผู้พบเห็น และแน่นอนว่ามันฮิตพอสมคมควร
ตราบเท่าที่ยังไม่มีไอ้บ้าเกิดอยากกินขนมปังปิ้งขณะยังติดหัวแมวรวมถึงเหล่าเหมียวไม่ออกมาเรียกร้องปกป้อง
ภาพลักษณ์ของตัวเอง!



SALT AND ICE CHALLENGE



ถูกนำขึ้นยูทูบเมื่อปี 2006 แล้วก็ระบาดไปในหมู่วัยรุ่นรวมไปถึงคนที่โดนใครท้าไม่ได้เกมการละเล่น คือ
โรยเกลือไปตามเนื้อตัวแล้วเอาน้ำแข็งวางตามลงไป ด้วยปฏิกิริยาเคมี เกลือจะทำให้น้ำแข็งลดอุณหภูมิลง
จนติดลบ 17 องศาเซลเซียส ผิวหนังจะโดนกัดความมันส์คือดูว่าใครทำแล้วจะทนได้นานขนาดไหน
แต่ที่ไม่หนุก คือมันทำให้ผิวหนังไหม้อย่างรุนแรงจริงๆ

เมื่อปี 2012 มีเด็กในพิตต์สเบิร์ก วัย 12 ขวบให้เพื่อนทำ ‘ซอลต์แอนด์ไอซ์’ ขนาดมหึมาบนหลังตัวเอง
แล้วตั้งกล้องบันทึก ไอ้หนูทนโดนน้ำแข็งกัดได้ถึง20 นาที

แต่ผลก็คือเจ็บหนักต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกหลายเดือน!


BATMANNING




คล้ายกับการละเล่น ‘แพลงกิง’ ที่มานอนคว่ำหน้า - ถ่ายรูปเอาขึ้นเน็ตโชว์ แต่ต่างกันตรง ‘แบตแมนนิง’
คือการทำแบบนั้นแต่เปลี่ยนองศาใหม่ให้อยู่ในระดับหัวทิ่มดิน แบบเดียวกับค้างคาวนั่นเอง เกิดขึ้นเมื่อ
มีคนโหลดขึ้นในยูทูบเมื่อปี 2011 ด้วยเหตุผลว่าเพื่อนกลุ่มหนึ่งรู้สึกการแพลงกิงมันปัญญาอ่อนชิบอ๋าย
ทั้งหมดเลยดัดแปลงใหม่ให้สร้างสรรค์กว่าเดิมโดยแพลงกิงแบบกลับหัว แล้วเอาเท้าเกี่ยวเข้ากับรั้วเลียน
แบบค้างคาว ซึ่งก็ถือว่าเอ่อ...สร้างสรรค์ฝ่า?!


GALLON SMASHING



เดิมเรียกกันว่า ‘แวนดาลิสม์(Vandalism)’ หรือ นักทำลาย เป็นการบันทึกภาพของใครที่เที่ยวเอาของเหลว
อย่างเช่น นม น้ำส้ม หรืออื่นๆ เป็นแกลลอน ขว้างลงพื้นในซูเปอร์มาร์เก็ตให้เละเทะ แล้วแกล้งทำเป็นลื่นล้ม

เริ่มโดยวัยรุ่นอเมริกัน 3 คน ผลปรากฏมีคนคลิกเข้าไปดูกว่า 3 ล้าน กลายเป็นแรงบันดาลใจ (ทำนองนั้น?)
ให้อีกหลายคนเที่ยวไปทำเลอะเทอะในที่อื่นๆ อีกเต็มไปหมด ส่วนต้นตำรับหลังจากเป็นไอดอลแล้วก็โดนจับ
ในข้อหาก่อความวุ่นวายรวมทั้งทำลายทรัพย์สิน มีสิทธิ์ติดคุกคนละ 7 ปี สบายใจกันไป!


HARLEM SHAKE



คลิปวิดีโอทำบ้าๆ ในเน็ตหลายอย่างเกิดขึ้นที่ออสเตรเลียและ ‘ฮาร์เล็มเช็ก’ ก็เกิดที่บ้านหมีโคอาลาอีกเหมือนกัน
เริ่มเมื่อ 2013 เมื่อเดอะซันนีโคสต์สเก็ต อัพโหลดเขากับเพื่อนๆเต้นเขย่าทรวงตามเพลง ‘Harlem Shake’
พร้อมกันในห้องนอน ก่อนนำขึ้นยูทูบ หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนทำตาม ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมในแต่ละคลิปเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ

ระดับพีกของมันเกิดขึ้นเมื่อกุมภาฯ ปีก่อน โดยทุก 21 วินาทีจะมีคนโพสต์ฮาร์เล็มเช็กขึ้นในเน็ต ซึ่งหมายถึง
4,000 คลิปต่อวัน และหมายความว่าชาวโลกต้องใช้เวลาตั้งกี่ล้านชั่วโมงรวมกันเพื่อทุ่มเทให้กับฮาร์เล็ม เช็ก
กันขนาดนี้ ไปทำไมกันแว้?

---------------------------------------------------------------------------------

อ่านแล้วก็อย่าไปว่าคนสมัยนี้ประสาทเลย เรื่องแบบนี้มันมีตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นย่าแล้ว
4 การเล่นพิเรนทร์กันมาแต่ โบราณ!
(4 OLDIE TIMEY MADNESS)

FLAGPOLE SITTING



เมื่อปี 1924 นาย อัลวิน ‘ชิพเร็ค (เรือล่ม)’ เคลลี ชาวไอริช ที่อ้างว่าเป็นผู้รอดชีวิตจาก
เรือไตตานิก ถูกเพื่อนท้าให้นั่งอยู่บนเสาธงลอยไปในทะเล เป็นเวลา 13 วัน13 นาที
สื่อฯ ต่างๆ ประโคมข่าวทำให้เกิด

การทำตามไปทั่วโลก เคลลีหากินกับการทำแบบนั้นเรื่อยมา จนในปี 1930 เขาก็ทำสถิติใหม่
ด้วยการนั่งบนเสาธงข้ามแอตแลนติกซิตี้ เป็นเวลา 49 วัน ต่อมามีการทำลายสถิติของ
ใครต่อใครตามมาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดไว้ที่ 439 วันในปี 1984



NOUN AND VERB RODED



25 ธันวาคม 1928 ในนิวยอร์ก มีการแข่งขันสำหรับคนช่างพูด โดยอนุญาตให้พูดหยาบคาย
ก็ได้เป็นเวลา 4 วัน โดยห้ามหยุด กฎข้อเดียวที่ผู้แข่งขัน 35 คนต้องปฏิบัติ คือไม่ว่าจะอ่านหนังสือ
หรือบทกวีห่วยๆ ปากก็ต้องพูดไปไม่มีหยุด ผู้ชนะจะได้เงิน 1,000 เหรียญ

แต่เมื่อครบกำหนดเหลือผู้แข่งขัน 2 คน นาย มิลตัน แครนดอลล์ ผู้จัดการแข่งขันบอกว่าทั้งคู่
มีคะแนนเท่ากัน เลยต้องรอนักขี่โรดิโออีกรายให้มาตัดสิน แต่ปัญหาคือนายคนที่ว่าเขาไม่ได้มา?!



PHONE BOOTHSTUFFING



ในปี 1959 นักศึกษาแอฟริกาใต้ 25 คนสร้างสถิติด้วยการเข้าไปอยู่ด้วยกันในตู้โทรศัพท์ นักศึกษา
อเมริกันเห็นแล้วเลยนึกสนุกอยากทำบ้างเพื่อลบสถิติ นักศึกษาวิศวะของเอ็มไอทีใช้วิชาทั้งหมดที่
เรียนมาเพื่อยัดตัวเองเข้าไปในที่แคบๆ บ้าง แต่ก็ไม่สามารถทำลายสถิติของนักศึกษาแอฟริกาใต้ได้
จวบจนวันนี้ แต่อย่าวิตกไปว่าการเล่นแบบนี้จะกลับมา เพราะคนยุคเซลฟีน่าจะหาตู้โทรศัพท์ได้ยาก
หรืออาจจะไม่รู้จักก็ได้



GOLDFISH SWALLOWING



การเล่นบ้าๆ ที่เคยแพร่ระบาดในหมู่นักศึกษาชาวอเมริกัน ทำให้ในเวลานั้นปลาทองจำนวนมากต้องลงคอ
ปัญญาชนทั้งเป็นๆ ไปหลายตัว โดยมีต้นแบบมาจากโลทรอป ไวทิงตัน น้องใหม่ฮาร์วาร์ด ที่ทำแบบนั้น
ตามคำท้าเมื่อเดือนมีนาคม 1939และในการแข่งขันครั้งหนึ่งเคยมีคนนั่งกลืนปลาทองได้ถึง 30 ตัว
โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามนุษย์เราทำแบบนี้ได้สูงสุดถึง 150 ตัว