เรื่องเล่าสุนัขในตำนาน (Legendary Dog Stories) Part1

[etatae333]

Tweet

เรื่องเล่าสุนัขในตำนาน (Legendary Dog Stories)

ม็อดดี้ โด (Moddey Dhoo)



เป็นสุนัขปีศาจ รูปร่างมีขนาดเท่าลูกวัว มีตัวสีดำ มีดวงตาสีแดง หรือสีเหลืองเรืองแสง มักเกี่ยวข้อง
กับปีศาจ บางครั้งก็เป็นลางบอกเหตุแห่งความตาย บางครั้งก็เกี่ยวข้องกับพายุ ว่ากันว่ามันเป็นสุนัข
นักล่าที่อาศัยอยู่ในประสาทพีล Peel Castle บนเกาะ Isle of Man มักจะปรากฏตัวให้ยามรักษา
การเห็นอยู่บ่อยครั้ง 

แต่บางตำนานกล่าวขานว่าเป็นสุนัขดำผู้พิทักษ์ นำทางนักเดินทางในเวลากลางคืนไปยังเส้นทาง
ที่ถูกต้องหรือปกป้องพวกเขาจากอันตราย มีเรื่องเล่าว่า มีทหารขี้เมาคนหนึ่ง ที่เดินลาดตระเวนอยู่
และได้ไปพบเข้ากับเงาดำทะมึน นัยน์ตาสีแดง เขี้ยว คม ขาว เปล่งประกาย และยามคนนั้น ก็ได้
สิ้นใจลง ในอีก 3 วันต่อมา ราวกับว่า Moddey Dhoo ไม่ชอบ คนที่หละหลวมในการปฏิบัติหน้าที่



โอกุริ อินุ (送り犬)



จากตำนานของประเทศญี่ปุ่น โอคุริ อินุ มีรูปร่างเหมือนหมาป่า บางคนเชื่อว่า มันเป็นเทพพิทักษ์
คอยปกปักรักษานักเดินทาง จะออกมาในบริเวณที่เป็นภูเขา ในเวลากลางคืน มันจะคอยเดินตาม
นักเดินทาง ที่เดินอยู่คนเดียว คอยป้องกันสัตว์อื่นที่มาทำร้าย แต่ถ้านักเดินทางคนนั้นสะดุดหกล้ม
เมื่อไหร่ มันจะเข้ามาทำร้ายทันที มีเคล็ดลับอยู่ตรงที่ ถ้าจะสะดุดหกล้ม ให้พูดออกมาดังๆว่า

“อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้วเชียว”

ก็จะทำให้ OKURI INU ไม่เข้ามาทำร้ายนักเดินทางคนนั้น และถ้านักเดินทาง ได้เดินทางถึง
จุดหมายเมื่อไหร่ ควรจะให้รางวัลแก่ โอคุริ อินุ เป็นข้าวปั้น เกลือ และถั่วแดง เป็นการตอบแทน
ที่คอยดูแลจนมาถึงจุดหมายปลายทาง



คาเลโฮ (CADEJO)



ในอเมริกากลาง มีตำนานโบราณเล่าถึงสุนัขผี ที่ช่วยให้ผู้คนเดินทางไปอีกฝั่งหนึ่งหลังความตาย นั่นอาจ
ฟังดูอบอุ่น แต่เรื่องราวได้รับการดัดแปลงเป็นพิเศษเพื่อเน้นความแตกต่างระหว่างความดีกับความชั่ว
พวกมันมีลักษณะคล้าย กับสุนัข แต่ว่าที่เท้าจะเป็นกีบเท้าคล้ายกับแพะ

ตามตำนานนี้มี Cadejo สองประเภท (วิญญาณหรือวิญญาณที่อยู่ในรูปของสุนัข) คือ Cadejo สีดำ
ซึ่งเป็นตัวแทนของความชั่วร้าย และ Cadejo สีขาวซึ่งในขณะที่คุณเดาได้จะเป็นตัวแทนที่ดี ได้มีการ
กล่าวว่าพระเจ้าทรงสร้าง Cadejo สีขาวเพื่อปกป้องประชาชนในขณะที่ซาตานสร้าง Cadejo สีดำ
เพื่อต่อสู้กับสีขาวและก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวาย

Cadejo สีดำแสวงหาคนที่ดึกและทำอะไรไม่ดี มันสะกดจิตเหยื่อด้วยดวงตาสีแดงที่ส่องประกายและ
ขโมยวิญญาณของพวกเขา ในทางกลับกันสีขาว Cadejo ปกป้องผู้เชื่อทุกคนและปกป้องเด็กทารก
และเด็กวัยหัดเดินจาก Cadejo สีดำ โชคดีที่คุณไม่จำเป็นต้องพึ่ง Cadejo สีขาว แต่เพียงผู้เดียว
เพื่อป้องกันตัวเองจากคนดำ ว่ากันว่า cadejo สีดำดับได้ง่ายโดยการจุดธูป



เทียนโก้ว (天狗)



ยังมีตำนานเล่าขาน ของชาวจีน ถึงสุนัขสวรรค์ว่า ส่วนหัวมีสีชาวบริสุทธิ์ หน้าตาคล้ายคลึงกับสุนัขจิ้งจอก
รูปร่างดั่งสุนัข แต่มีอิทธิฤทธิ์มาก ซึ่งตำนานสุนัขสวรรค์นั้น เกิดจากคนโบราณขาดความรู้เรื่องดาราศาสตร์
ไม่เข้าใจว่าสุริยุปราคาและจันทรุปราคาเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ คิดไปว่าเกิดจากสุนัขสวรรค์กลืนกิน
เอาดวงจันทร์ดวงตะวันเข้าไป จึงทำการตีฆ้องร้องป่าว หวังให้ตกใจและคายคืนออกมา

โดยเล่าขานสืบต่อกันมาว่า ภายหลังโฮ่วอี้ช่วยดับทุกข์ให้ประชาราษฎร์ด้วยการยิงพระอาทิตย์เก้าดวงตกลงมา
เหลือไว้เพียงดวงเดียวได้สำเร็จแล้ว องค์เจ้าแม่หวังหมู่ ก็ประทานรางวัลเป็นยาวิเศษและโสมเซียนให้ ฉางเอ๋อร์
กลับนำโสมมาต้มเป็นน้ำแกงและกินยาวิเศษลอยสู่สวรรค์นั้นเพียงผู้เดียว สุนัขที่โฮ่วอี้เลี้ยงไว้หน้าประตูเห็นเข้า
ก็เข้ามาในห้องและเลียเอาน้ำแกงโสมเซียนที่เหลือ รีบลอยไล่ตามฉางเอ๋อร์ขึ้นไป

ฉางเอ๋อร์ตกใจ จึงหลบเข้าหลังดวงจันทร์ สุนัขของโฮ่วอี้ อ้าปากอมจันทร์ทั้งดวงเข้าไว้ ทำให้สวรรค์มืดลง
ในฉับพลัน เจ้าแม่หวังหมู่รู้เข้า รีบรับสั่งทหารให้ออกจับตัว สุนัขของโฮ่วอี้ และให้คายดวงจันทร์ออกมา
แต่ด้วยเห็นแก่ความจงรักของสุนัขที่มีต่อโฮ่วอี้ ทำให้เจ้าแม่หวังหมู่ ไม่ทรงลงทัณฑ์ แถมยังประทาน
ตำแหน่งสุนัขสวรรค์ให้ พร้อม มอบหมายให้ไปพิทักษ์รักษาการประตูสวรรค์ด้านใต้



“เทพจางเซียนไล่ยิงสุนัขสวรรค์ เพราะสุนัขสวรรค์ขัดขวางการลงมาจุติบนโลกมนุษย์ของเทพดารา(ดวงดาว)
เมื่อสุนัขสวรรค์ถูกจางเซียนขับไล่ เทพดาราจึงสามารถลงมาจุติได้อย่างราบรื่น ทำให้ผู้คนบนโลกมนุษย์มีลูก
ได้ดั่งหวัง ดังนั้น คนจีนโบราณจึงยกย่องจางเซียนให้เป็นเทพแห่งการมอบบุตร”