เคยโพสไปแล้วแต่จะมาเล่าให้ฟังอีกทีครับ
เรื่องมันตังแต่สมัยที่ผม และเพื่อนสนิทอีกคน
เข้่ามาเป็นรุ่นน้องปีหนึ่ง คณะ... ก็ผ่านกิจกรรมรับน้องมาต่าง ๆ นา ๆ
แล้วก็ได้รับรู้เรื่องนี้เข้า จากการร่วมวงเหล้า กับรุ่นพี่ในคืนหนึ่ง
ก็มีเรื่องเล่าจาก สาว ๆ ในหอ ญ ถึงขบวนแห่คนใส่ชุดเมือง ผ่านมาทางหอนาฬิกาในยามดึก
และคนที่เห็นมัก จะมองไม่เห็นส่วนเท้า ของผู้ร่วมขบวนเลย
ใบหน้าก็ไม่ชัด แรกเริ่มเดิมที กล่าวกันว่าเป็น ขบวนซ้อม ของคณะวิจิตรศิลป์
แต่ใครจะมาซ้อมตอนี ตี สี่ ตีห้า ใช่มั้ยครับ
ครั้นเวลานั้น ก็เลยเที่ยงคืนมานิดหน่อย ทุกคนกำลังได้ที จากสุราที่หมดไปแล้วหลายขวด
เมื่อเรื่องเล่า ทั้งหลายถูกยกขึ้นมาในวงเหล้า
ย่อมต้องมีการท้าทาย และอยากลองของตามประสาเด็กวัยรุ่น ที่คึกคะนอง โดยเฉพาะตอนเมา อยากโชพาว
อย่ากระนั้นเลย เพื่อนผมก็เกิด ขออาสา
ไปขอ วนรอบหอนาฬิกาสิ ว่ามันจะมีไหม ขบวนแห่ผี หรือ ผีเปรตที่ว่า
แล้วเรื่องเพื่อนผมก็ลุกออกจากวงไปแต่เพียงผู้เดียว
ขับรถตรงไปยัง หอนาฬิกา ซึ่งในสมัยนั้น ไฟไม่สว่างไสว เท่าในตอนนี้
ไม่มียามคอยมาตรวจตรา บ่อยเท่ากับในปัจจุบัน
เมื่อไปถึง บริเวณหอนาฬิกา โดยขณะนั้น เพื่อนผมจดรถอยู่ที่ถนน เส้นจากคณะศึกษา สู่หอนาฬิกา
มาถึงแล้ว เพื่อนผม ก็เกิดลังเลขึ้นมา จากบรรยากาศเงียบวังเวง
หวนนึกถึงคำบอกเล่าของรุ่นพี่ ว่าอยากถ้าอยากเจอของดี ให้ตั้งสมาธิ แล้วขับรถวนซ้ายรอบหอนาฬิกา (ปกติรถจะวนขวา) 3 รอบ
หลังจากตัดสินใจแน่วแน่ ว่าเอาว่ะ ไม่ลองให้รู้ กลับไป ก็โดนรุ่นพี่ ครหา
เพื่อนผมจึงตั้งสมาธิ แล้วก็เริ่มขับรถ วนรอบหอนาฬิกาอย่างช้า ๆ
รอบแรกผ่านไป ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจาก ลมเย็นวังเวงที่พัดผ่านกระจกรถที่เปิดไว้ เข้ามา (ไม่รู้จะเปิดกระจกรถทำซากอะไร)
เขาหยุดรถ ณ ตำแหน่งเดิม ครุ่นคิด ว่าสงสัยโดนหลอกให้มาทำอะไรบ้า ๆ อยู่นี่
แต่ก็ดี รีบ ๆ วนให้ครบ ไม่เจออะไร อยากน้อยก็จะได้ ไปข่มรุ่นพี่
เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงเริ่มขับรถ วนต่อไปช้า ๆ สายตาก็พาลไปจับอยู่ที่กระจกมองหลัง...
เห็นต้นไม้ไหว ๆ อยู่ไกล ๆ
เพื่อนผมเหยียบคันเร่ง เร็วขึ้น ๆ และแล้วก็ผ่านรอบที่สอง
คราวนี้เขาไม่ได้หยุด แต่ขับวนต่อไป เพื่อที่จะเข้าสู่รอบที่สาม
แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงวื้ดดดดดดด ดังขึ้น
เพื่อนผมตกใจ มองไปท่กระจกมองหลัง แล้วก็พบว่า....
ปรี๊ด ๆ ๆ ๆ ................ ยามมาไล่ครับ
เลยต้องออกจากวงมาก่อนทางถนน หน้าหอพัก อีก 1/4 รอบ ก็จะครบสามรอบแล้ว แท้ ๆ