-->

ผู้เขียน หัวข้อ: จากทรอย สู่โรมัน  (อ่าน 1428 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

  • Administrator
  • เทพเจ้าราตรี
  • *
  • กระทู้: 18209
  • Country: th
  • คะแนนจิตพิสัย +9/-0
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • cmxseed
จากทรอย สู่โรมัน
« เมื่อ: 14 กันยายน 2013, 11:05:42 »

จากทรอย สู่โรมัน



ทรอยตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลฟากตะวันออกของทะเลอีเจียน ถัดจากช่องแคบเฮลเลสปอนต์ลงมา (คาดว่าเป็นประเทศ
ตุรกีในปัจจุบัน) ชื่อนครตั้งตามชื่อท้าวทรอส (Tros) กษัตริย์องค์หนึ่งของนครนี้ ต่อมาโอรสของท้าวทรอสได้ขึ้นครองนคร
ชื่อว่าท้าวอิลัส (Ilus) ท้าวอิลัสได้เสริมสร้างป้อมปราการให้มั่นคงแข็งแรง เมืองทรอยจึงได้ชื่อตามท้าวอิลัส อีกชื่อหนึ่งว่า
อีเลียม (Ilium) อันเป็นที่มาของชื่อมหากาพย์อิเลียด (Iliad)



 
ในสมัยของท้าวอิลัสนี้เอง เทวราชซีอุสได้ประทานพัลเลเดียม (Palladium) ให้แก่ทรอย ซึ่งพัลเลเดียมนี้ บ้างก็ว่า
เป็นรูปประติมากรรมของเทวีอาเทน่า บ้างก็ว่าเป็นโล่ของพระนาง แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรนั้น เทวราชซีอุสประทานพรให้
ว่ากรุงทรอยจะไม่มีวันแตกตราบเท่าที่พัลเลเดียมยังอยู่ในกรุงทรอย

ท้าวเลือมมิดอน (Laomedon) โอรสท้าวอิลัสได้ครองนครในสมัยต่อมา ท้าวเลือมมิดอนมีโอรส-ธิดา 2 องค์
คือนางฮีไซโอนี (Hesione) กับเพรียม (Priam) ซึ่งในเวลานั้น เทพโพเซดอน และอพอลโล ได้ถูกลงโทษเนรเทศให้มา
ใช้แรงงานในโลกมนุษย์ ท้าวเลือมมิดอนจึงให้เทพทั้งสองช่วยสร้างกำแพงเมืองทรอย โดยสัญญาว่าจะถวายม้าชั้นเยี่ยม
หนึ่งฝูงเป็นค่าตอบแทน แต่แล้วท้าวเธอก็บิดพลิ้ว โพเซดอนไม่พอพระทัยอย่างมาก เมื่อพ้นโทษกลับคืนสู่อำนาจแล้ว
โพเซดอนจึงส่งอสูรกายจากทะเลมาคุกคามเมืองทรอย ชาวเมืองต้องส่งหญิงสาวพรหมจารีย์ไปสังเวยอสูรร้ายปีละคน
จนกระทั่งมาถึงคราวของฮีไซโอนี ธิดาของท้าวเลือมมิดอนเอง ท้าวเลือมมิดอนจึงให้ประกาศหาคนมาปราบสัตว์ร้ายตนนี้
โดยจะให้รางวัลอย่างงาม


 
ผู้ที่รับอาสาปราบสัตว์ร้ายนี้ คือ เฮรากลิส (Herakles : ชื่อกรีก) หรือ เฮอร์คิวลิส (Hercules : ชื่อโรมัน)
แต่หลังจากฆ่าสัตว์ร้ายได้แล้ว ท้าวเธอก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้รางวัลแก่เฮอร์คิวลิสอีก ทำให้เฮอร์คิวลิสโกรธถึงกับสังหาร
ท้าวเลือมมิดอนเสีย แล้วจับมเหสีของท้าวเลือมมิดอนกับลูกทั้งสองไปดินแดนกรีกด้วย เฮอร์คิวลิสได้ยกฮีไซโอนีให้แก่
เทลมอน ส่วนเพรียมนั้นทางเมืองทรอยได้ขอไถ่ตัวกลับมาและสถาปนาให้ขึ้นครองเมืองแทนพระบิดา (เบี้ยวค่าจ้าง
เทพเจ้าตั้ง 2 องค์ โทษยังร้ายแรงไม่เท่าเบี้ยวค่าจ้างเฮอร์คิวลิสเลยเนาะ)




ท้าวเพรียมได้วิวาห์กับนางเฮกคิวบา (Hecuba) มีโอรส-ธิดารวมทั้งสิ้น 19 องค์ หนึ่งในนั้นคือปารีส (Paris)
เมื่อครั้งปารีสจะเกิดนั้น มีคำทำนายว่าปารีสจะทำให้กรุงทรอยถึงแก่ความหายนะ จึงถูกสั่งให้ทาสคนหนึ่งเอาไปฆ่าทิ้งเสีย
แต่ทาสผู้นั้นกลับเอาโอรสไปทิ้งแทน และคนเลี้ยงแกะก็เก็บเอาปารีสไปเลี้ยงดู ต่อมาเมื่อปารีสเติบโต ก็ได้อยู่กินกับ
นางอัปสรชื่อ อีโนนี (Oenone) มีบุตรชายคนหนึ่งชื่อ กอริทัส (Corythus) ความสงบสุขดำรงอยู่ได้ระยะหนึ่ง จนกระทั่ง...



 
ในงานวิวาห์ของท้าวพีลูสกับนางอัปสรธีทิส ทั้งคู่เชิญเทพทุกองค์มาร่วมงาน แต่กลับไม่เชิญ อีริส (Eris) เทวีแห่ง
ความแตกร้าว นางจึงส่งผลแอปเปิลแห่งความแตกร้าวเข้ามาในงาน แอปเปิลผลนั้นสลักว่า ?แด่ผู้ที่งามที่สุด? เทวีทุกองค์
ต่างก็ปรารถนาจะเป็นผู้ที่งามที่สุด แต่ไม่มีใครกล้าแย่งชิงแอปเปิ้ลนั้นกับเทวีที่ยิ่งใหญ่ 3 องค์ คือ เทวีอาเทน่า เทวีเฮรา
และเทวีวีนัส ซึ่งทั้ง 3 องค์ต่างก็ไม่มีใครยอมกัน จึงขอร้องให้ซีอุสเป็นผู้ตัดสิน แต่ซีอุสก็ไม่กล้าตัดสิน เพราะอาเทน่าเป็น
ลูกสาวคนโปรด เฮร่าก็เป็นชายาที่น่ากลัวเกรง ส่วนวีนัสแม้จะเป็นเพียงลูกสะใภ้ แต่ก็เป็นมารดาของอีรอส หากไม่พอใจ
นางอาจใช้ให้อีรอสมากลั่นแกล้งพระองค์ได้ (ฮาเดสโดนมาแล้ว)

ซีอุสโยนกลองให้ปารีสตัดสิน เทวีทั้ง 3 ต่างก็ติดสินบนปารีส อาเทน่าจะให้ปารีสมีสติปัญญาอันเป็นเลิศ
เฮราจะให้พลังอำนาจเหนือข้าศึกทั้งปวง และวีนัส จะให้หญิงที่งามที่สุดในโลก ทายสิครับ ว่าใครชนะ... วีนัสครับ

ต่อมาปารีสได้ยินกิตติศัพท์ความงามของนางเฮเลนก็เกิดหลงใหล และนึกถึงคำมั่นสัญญาที่เทวีวีนัสให้ไว้แก่เขา
ปารีสจึงคิดจะเดินทางไปกรุงทรอยเพื่อที่จะหาทางเข้าสู่เมืองสปาร์ตาที่นางเฮเลนอยู่ นางอัปสรอีโนนีนั้นรู้ความคิด
ของสามีดี จึงห้ามปรามและทำนายว่าหากปารีสทำเช่นนั้น ความหายนะจะเกิดแก่บ้านเมืองและตัวปารีสเอง ปารีสจะ
บาดเจ็บกลับมาขอร้องให้นางรักษา ซึ่งนางจะไม่ช่วย



 
การห้ามปรามไม่เป็นผล กอริทัสผู้เป็นลูกที่เข้าไปช่วยขัดขวางก็ถูกปารีสฆ่าตาย แล้วปารีสก็ทอดทิ้งนาง
ออกเดินทางเข้าสู่ทรอย นางคาสซันดรา (Cassandra) พี่สาวคนหนึ่งของปารีส เป็นผู้ประกอบพิธีกรรมในวิหารของ
เทพเจ้า นางมีความรู้ในด้านการดูลักษณะคน เมื่อเห็นปารีส นางก็รู้สึกผิดสังเกต จึงซักถามถึงความเป็นมา ก็รู้ว่าปารีส
เป็นโอรสอีกองค์หนึ่งของท้าวเพรียม ท้าวเพรียมก็จัดงานเฉลิมฉลองต้อนรับปารีสกลับ โดยลืมไปสิ้นว่าที่ได้สั่งให้ฆ่า
ปารีสเมื่อครั้งยังเด็กนั้น เพราะอะไร
 
ต่อมาท้าวเพรียมให้ปารีสคุมกองเรือไปรับนางฮีไซโอนีกลับ ปารีสก็ถือโอกาสแวะเมืองสปาร์ตาแล้วลักพาตัว
นางเฮเลนมายังทรอย เจ้าเมืองกรีกแทบทั้งหมดที่ติดคำสาบานเมื่อครั้งที่นางเฮเลนเลือกคู่ก็จึงยกกองทัพมาช่วย
เพื่อชิงนางคืน



 
มีคำทำนายอีกอย่างหนึ่งว่ากรุงทรอยจะไม่มีวันแตกตราบเท่าที่ผู้รุกรานยังไม่มีธนู และลูกศรอาบพิษเลือด
ไฮดราของเฮอร์คิวลิส และฟีล็อกทีทิส (Philoctetes) ผู้ได้รับมรดกคันธนูและลูกศรจากเฮอร์คิวลิสก็มากับกองทัพนี้ด้วย
แต่กลับถูกทอดทิ้งเสียกลางทาง เพราะในขณะที่แวะพักที่เกาะเลมนอสนั้นฟีล็อกทีทิสได้ถูกงูกัด แม้จะไม่ตาย
แต่บาดแผลก็อักเสบเน่าเหม็นมากเสียจนคนอื่นๆทนไม่ไหว จึงทิ้งฟีล็อกทีทิสไว้ที่เกาะแห่งนั้น
 


สงครามในครั้งนี้ แม้แต่เทพเจ้าก็แบ่งเป็นสองฝักสองฝ่าย เข้ามามีส่วนช่วยในการรบด้วย เช่น เทพโพเซดอน
ที่ยังแค้นเรื่องที่สร้างกำแพงเมืองทรอยแล้วไม่ได้ค่าตอบแทน เฮรา และอาเทน่า ที่ยังผูกใจเจ็บในการตัดสินของปารีสอยู่
ก็ได้เข้าข้างฝ่ายกรีก แต่เทพอพอลโลเข้าข้างฝ่ายทรอยเพราะไม่พอใจที่ทัพกรีกปล้นทรัพย์สินและฆ่านักบวชของ
วิหารศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเทวีวีนัสนั้นนางเข้าข้างฝ่ายทรอย เพราะ อีเนียส (Aeneas) แม่ทัพคนหนึ่งของทรอยเป็นบุตรของนาง
กับแอนไคซีส (Anchises) บุตรเขยของท้าวอิลัส เมื่อนางเข้าข้างทรอย ชู้รักของนาง คือเทพแห่งสงครามอาเรส (Ares :
ชื่อกรีก) หรือ มาร์ส (Mars : ชื่อโรมัน) ก็จำเป็นต้องเข้าข้างทรอยด้วยเหมือนกัน ถึงขนาดที่เทพอาเรสจับอาวุธลงมาสู้รบ
ด้วยตนเอง อาเทน่าจึงอาสาเป็นสารถีขับรถศึกพาไดโอมีดิสเข้าต่อสู้กับอาเรส ทำให้อาเรสบาดเจ็บต้องหนีกลับไป
จนกระทั่งเทพซีอุสต้องประกาศห้ามมิให้เทพหรือเทวีองค์ใด ยื่นมือเข้าช่วยในสงครามครั้งนี้อีก หาไม่แล้วจะต้องโทษ
จำขังในตรุทาทะรัส แต่ปรากฏว่าเทพซีอุสเองก็ยังคงลงมือช่วยทัพทรอยอย่างออกหน้าออกตา



การต่อสู้ยืดเยื้อจนกระทั่งฝ่ายกรีกล่วงรู้ถึงคำทำนายข้อหนึ่งของกรุงทรอย เรื่องธนูพิษไฮดราของเฮอร์คิวลิส
จึงส่งคนกลับไปตามหาฟิล็อกทีทิสที่ถูกทิ้งไว้มาร่วมรบด้วย ฟิล็อกทีทิสยิงธนูถูกปารีส ทำให้ปารีสต้องกลับไปหา
นางอัปสรอีโนนีภรรยาเก่าซึ่งมีความสามารถในการแก้พิษ เพื่อให้นางรักษา แต่นางไม่ช่วยและเฝ้าดูปารีสจนถึงแก่ความตาย
แล้วนางก็ฆ่าตัวตายตาม




การตายของปารีสไม่สามารถทำให้สงครามสงบได้ ต่อมาทัพกรีกรู้ถึงเรื่องพัลเลเดียม โอดิสซุส กับไดโอมีดิส
จึงได้ลอบเข้าไปขโมยพัลเลเดียมออกจากกรุงทรอย (ซึ่งเรื่องนี้เล่ากันอีกอย่างหนึ่งว่าพัลเลเดียมที่กรีกขโมยไปได้นั้น
เป็นของปลอม หากแต่ว่าทัพทรอยไม่รู้และเสียขวัญไปก่อน) ต่อมาโอดิสซุสก็คิดกลศึกม้าไม้ขึ้นมาได้ โดยทำทีเป็นว่า
เกิดโรคระบาดจึงต้องยกทัพกลับ แล้วทิ้งม้าไม้ขนาดยักษ์ที่ซ่องกองทหารไว้ ให้ดูเหมือนเป็นเครื่องบรรณาการ
แก่กรุงทรอย เลออกโกออน (Laocoon) พยายามชี้แจงให้ชาวทรอยรู้ถึงเล่ห์เหลี่ยมของทัพกรีก แต่ถูกโพเซดอนส่งงู
มาฆ่าปิดปากเสียก่อน ทหารทรอยจึงลากม้าไม้เข้าไปในเมือง ครั้นตกดึกทหารกรีกที่ซ่อนอยู่ในม้าไม้ก็ออกมาเปิด
ประตูเมืองรับกองทัพ และเข้าตีกรุงทรอยจนแตก



เมื่อชนะศึกทัพกรีกเข้าปล้นชิงทรัพย์ในวิหารของเทพเจ้า และไม่ได้ทำพิธีบวงสรวงขอบคุณเทพเจ้าที่ให้ความ
ช่วยเหลือ เหล่าเทพจึงไม่พอใจ เมนนิเลอัสพานางเฮเลนกลับสปาร์ตา แต่เกิดพายุพัดจนหลงไปแถบประเทศอียิปต์
พบกับความยากลำบากก่อนจึงกลับถึงสปาร์ตาได้ (บางที่กล่าวว่าเฮเลนที่ปารีสลักตัวไปนั้นเป็นตัวปลอมที่เฮรา
บันดาลขึ้น แล้วตัวจริงถูกพามาซ่อนไว้ที่อียิปต์ เมื่อเมนนิเลอัสและเฮเลนตัวปลอมมาถึงก็ได้พบกับนางเฮเลนตัวจริง
นางเฮเลนตัวปลอมก็ลอยขึ้นฟ้าหายไป เมนนิเลอัสจึงพานางเฮเลนตัวจริงกลับสปาร์ตาไป)

อกาเมมนอนนั้นก่อนที่จะยกทัพมารบได้หลอกเอาลูกสาวตนเองมาบูชายัญสังเวยเทวีอาร์เทมิส
แม้เทวีอาร์เทมิสจะสงสารและได้ช่วยไว้มิให้ตาย แต่นางไคลเทมเนสตราผู้เป็นชายานั้นโกรธแค้นมาก ถึงกับคบชู้
และร่วมกับชายชู้ฆ่าอกาเมมนอนเสียเมื่อกลับถึงเมือง ส่วนโอดิสซุสก็ถูกเทพโพเซดอนกลั่นแกล้งให้ต้องร่อนเร่
ไปถึง 10 ปี กว่าจะกลับถึงเมืองอิธกะ


ส่วนอีเนียสแม่ทัพทรอยนั้นได้เทวีวีนัสผู้เป็นมารดากับเทพอพอลโลช่วยไว้ ก็ได้รวบรวมชาวทรอยที่
หลงเหลืออยู่หนีออกไป (บางที่ว่าอัญเชิญพัลเลเดียมของจริงไปด้วย) รอนแรมไปในทะเลท่ามกลางอันตรายและการ
กลั่นแกล้งของเฮรา เพราะผู้ที่ไม่ตัดสินให้เฮราเป็นผู้งามที่สุดนั้นคือปารีสผู้เป็นชาวทรอย และอีเนียสก็เป็นชาวทรอย
ซ้ำยังเป็นบุตรของวีนัสที่ปารีสตัดสินให้ชนะนางอีกด้วย


 
เฮราจึงพยายามขัดขวางอีเนียสทุกวิถีทาง วีนัสต้องคอยหาทางช่วยจนถึงถิ่นของพวกคาร์เธจ ขณะนั้นนางพญา
ของพวกคาร์เธจ ชื่อ ไดโด (Dido) เป็นแม่หม้าย วีนัสต้องการให้บุตรชายได้พักในเมืองคาร์เธจชั่วคราวอย่างปลอดภัย
จึงสั่งให้กามเทพมาแผลงศรให้นางไดโดหลงรักอีเนียส ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนอีเนียสลืมเรื่องที่จะไปสร้างเมืองใหม่ กระทั่ง
เทพเมอร์คิวรี่ต้องมาเตือน อีเนียสจึงออกอุบายเพื่อหนีออกจากคาร์เธจ นางไดโดโกรธ จึงอธิษฐานขอให้คาร์เธจกับ
เมืองใหม่ที่อีเนียสจะไปก่อตั้งนั้นจงเป็นศัตรูล้างผลาญกันตลอดไป


 
เมืองที่อีเนียสไปก่อตั้งนั้นคืออาณาจักรโรมัน ซึ่งก็ปรากฏว่าต้องทำศึกกับคาร์เธจอย่างหนัก การศึกคราวหนึ่ง
ที่กล่าวขวัญกันมากที่สุดคือครั้งที่ ฮานนิบาล (Hannibal) แม่ทัพของคาร์เธจยกทัพอันประกอบด้วยทหารราบ 70,000 นาย
ทหารม้า 12,000 นาย และช้างศึก 37 เชือก เข้าตีกรุงโรมโดยการเดินทางอ้อมข้ามเทือกเขาแอลป์ไปทางด้านหลังกรุงโรม
ไม่มีใครเคยคิดว่าจะมีศัตรูบุกมาจากทางด้านนั้นเพราะความสูง หนาวเหน็บ และทุรกันดารของเทือกเขา ทำให้ทั่วกรุงโรม
หวาดหวั่นเป็นอย่างมาก ทหารของฮานนิบาลเหลือรอดจากการข้ามเทือกเขามาเพียง ทหารราบ 20,000 นาย
ทหารม้า 6,000 นาย แต่มีช้างศึกครบทั้ง 37 เชือก การศึกมีทีท่าว่าโรมันจะเพลี่ยงพล้ำ แต่ด้วยเพราะขาดกำลังบำรุง
ในที่สุดฮานนิบาลก็ต้องถอยทัพ และต่อมาคาร์เธจก็ถูกโรมันบุกเข้าโจมตีและเผาทำลายจนหมดสิ้น


credit :: greeknovel
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

Juzzmanjubu

  • เด็กหัดแอ่ว
  • *
  • กระทู้: 196
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: จากทรอย สู่โรมัน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 16 กันยายน 2013, 11:15:25 »

ขอบคุณครับ งงๆแต่ก็ได้ความรู้ดี  eta08

Obko

  • V.I.P.
  • คณะสำรวจ
  • *
  • กระทู้: 628
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +1/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: จากทรอย สู่โรมัน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 20 กันยายน 2013, 15:43:08 »

ขอบคุณมากครับ hgjhg ;khhg

oomaim

  • แอบจิต
  • **
  • กระทู้: 22
  • Country: 00
  • คะแนนจิตพิสัย +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Re: จากทรอย สู่โรมัน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2013, 12:15:31 »
Post by Speed Boom Origin SBO