:(สวัสดีครับท่านสมาชิกทุกท่าน ผมมีเรื่องที่อยากจะเล่าสู่กันฟังเพื่อให้ทุกท่านช่วยพิจารณากับสถานบันเทิง(hi class)(ขอความกรุณาทุกท่านอ่านให้จบนะครับขอบคุณครับ)
เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 9ต.ค.2552 ที่ผ่านมาเป็นวันเกิดของเพื่อนผม ผมและเพื่อนๆรวมน้องชายผมอีกคนก็เป็น4คน จึงได้นัดกันไปฉลองวันเกิดครบรอบอายุ28ปี ที่Hi class(เนื่องด้วยว่าผมและเพื่อนเกิดเดือนเดียวกัน พศ.เดียวกัน ส่วนน้องชายก็เดือนเดียวกันแต่คนละ พศ.จึงจัดรวมกัน)พวกเรา4คนจึงตั้งใจไปสนุกกันอย่างเต็มที่แต่ต้องอยู่ในลิมิตที่วางไว้ ด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้และพวกผมเองก็เงินเดือนคนละไม่กี่หมื่นบาทอีกทั้งยังมีภาระต้องผ่อนบ้านผ่อนรถดูแลครอบครัวกันแทบทุกคนจึงจำเป็นจริงๆที่จะต้องมีลิมิตกันซักหน่อย(เลยจะประมาทในเรื่องการใช้เงินกันไม่ได้)ด้วยความตั้งใจที่จะไปสนุกกันให้สุดเหวี่ยงเท่าที่จะสนุกได้โดยมีน้องนางเคียงข้างพวกเราจึงตั้งลิมิตไว้ที่3ชั่วโมงห้ามเกิน1หมื่นบาท(สำหรับพวกผมพูดได้ว่าทุ่มกันแบบสุดตัว แต่รับรองว่าจะไม่เดือดร้อนหรือช๊อตเรื่องเงินตลอดทั้งเดือนแน่นอน)พอตกลงกันเสร็จเรียบร้อยก็ไม่รอช้าจึงมุ่งสู่Hi classสถานบันเทิงผู้ให้บริการ(ขอย้ำนะครับผู้ให้บริการ)พอถึง ณ จุดหมายสิ่งแรกที่เราเห็นคือนางฟ้าหายไปไหนหมด ก็เลยพูดปลอบใจกันว่าอย่าไปคิดมากแขกร้านเค้าเยอะเดี๋ยวรอมีห้องไหนออกก็คงถึงทีเราที่จะได้นางฟ้ามาเคียงข้าง อย่าคิดมากๆ พอได้ห้องเราก็ถาม มาม่ากลาง (มาม่าใหญ่ของที่นั่น)ว่าวันเกิดมีอะไรพิเศษมั้ย มาม่าบอกว่ามี แต่มีข้อแม้ว่าต้องเรียกน้องๆกันทุกคน และทุกคนต้องมี soft drinkทุกคน แล้วมาม่าจะเปิดเหล้าให้1ขวด(ผมไม่แน่ใจว่าเหล้าอะไร)เพราะยังไม่ได้คุยถึงรายละเอียดกันดีก็ประชุมกองว่าไม่เอา เรื่องเรียกน้องๆพวกผม4คนตั้งใจจะเรียกกันอยู่แล้ว แต่soft drinkนี่คงให้ไม่ได้(ทำไมถึงให้ไม่ได้เรามีเหตุผลครับ) ต้องเล่าย้อนไปถึงสมัยที่พวกผมไปที่Hi classกันใหม่ๆ เราได้คุยกับมาม่าว่าขอได้มั้ยไม่ให้soft drinkเพราะเราอยากให้น้องๆกินกับเราถ้าเหล้าหมดก็เปิดใหม่ได้และเราก็ได้แบบนี้ตลอดมา ส่วนเหตุผลอีกข้อนึงคือเหล้ามันเหลือแล้วจะให้เอาไปเปิดที่ไหนเหลือนี่คือเหลือแบบมันไม่หน้าเอาไปเสียค่าเปิดกันแล้ว และที่บ้านแต่ละคนก็มีเหลือกันแบบนี้คนนึงไม่ต่ำกว่า6-7ขวด เฉลี่ยให้คนละแค่5ขวด 4 คนก็ 20ขวด(พวกผม4คนไปด้วยกันตลอด ประมาณว่าดื่มกับสหายแท้1000จอกก็ไม่เมา)อะไรประมาณนั้น เหล้าที่เหลือก็มีแต่chivas red black นานๆทีจะมี100โผล่มาบ้างถ้าเหลือก็ให้น้องเอาไปแจกเพื่อน แต่พวกผมเองก็มีทางแก้คือทุกปีจะเอาขึ้นไปบนดอยช่วงหน้าหนาวแล้วก็เก็บสแปร์กันที่นั่นทริป3วัน2คืนแบบนี้ทุกปี แต่ถ้าเหลือเยอะๆก็เก็บกันไม่ไหวและนั่นก็เป็นที่มาของเหตุผลว่าทำไมอยากให้น้องๆกินกับเรา และผลพลอยได้อีกข้อก็คือเซพเงินในกระเป๋าไปเกือบพันบาท180*4=720เพราะอย่าลืมว่าพวกผมเที่ยวกันแบบมีลิมิตแต่ถ้ามันจะเกินนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร อะไรที่เซพได้เราก็เซพ. จบเรื่องที่มาของการไม่ให้ soft drink. พอพวกผมตอบว่าไม่เอา ขอเปิดเป็นchivasโปร1300ได้ค่าห้องฟรี1ชั่วโมงเหมือนทุกครั้งที่พวกผมมากันที่นี่ (ก่อนหน้านี่2วันคือวันที่ 7ต.ค.2552เราก็ไปกันรอบนึงแล้ว แล้วก็เปิดchivasไปขวดนั่งได้ไม่นานก็ต้องกลับเพราะต้องทำงานกันอยู่ (แต่เพื่อนผมคนนึงเจ้าของวันเกิดวันที่9นี่แหละ)มันพึ่งกลับจากสิงคโปร์ไปทำงานมา1อาทิตย์ที่นั่นมันคันอยากเที่ยวพอกลับมาถึงไม่ยอมพักกันเลยชวนไปลุยกันประมาณว่าไปให้หายอยากเท่านั้นเดี๋ยววันเกิดมันค่อยรวมกันจัดอีกทีเอาให้เต็มที่)พอเราสั่งกันเสร็จพวกมาม่าและพนักงานไม่มีใครเอาอะไรมาให้เลยเรารออยู่ประมาณ10นาทีก็ได้แต่คิดว่าเค้าคงไม่ว่างเพราะลูกค้าเยอะก็เลยตัดสินใจกันว่างั้นออกไปหาอะไรแก้ง่วงที่7ก่อนมั้ยเพราะดื่มกันมาตั้งแต่1ทุ่มแล้วเดี๋ยวค่อยเข้ามาใหม่ตอนตี1ครึ่งก็เป็นไปตามแผนพอเข้ามาอีกรอบก็ไม่มีน้องนางอยู่หน้าร้านเหมือนเช่นเคย.. แต่ก็ไม่เป็นไรลูกค้ายังไม่ออกพวกผมรอได้ตั้งใจมากันเต็มที่อยู่แล้วแต่ทีนี้มีห้องใหม่ว่าง(แอบคิดในใจว่ามีห้องว่างเพิ่มแต่ทำไมไม่มีนางฟ้านั่งอยู่เลย... ชั่งเถอะเดี๋ยวก็มา)พอเข้าไปห้องใหม่พวกผมชอบมากตั้งแต่มาที่นี่หลายต่อหลายครั้งไม่เคยได้ใช้ห้องนี้เลยมีไมล์4ตัว(ไม่ต้องแย่งกัน)มีห้องน้ำในตัวอีกต่างหากชอบมาก(เลยคุยกันว่าสิ้นเดือนจะไปอีก) ซักพักพนักงานก็เข้ามาถามเหมือนอย่างเคย แต่ตอนนี้พวกผมจะเริ่มไม่เห็นมาม่าแล้วซึ่งก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะตอนแรกที่มา มาม่าก็มารับแล้ว พอสั่งกันเสร็จก็เริ่มเปิดเพลงร้องกันอย่างเมามันส์10นาทีผ่านไป15นาทีผ่านไป30นาทีก็แล้ว45นาทีก็แล้ว เชื่อมั้ยครับพวกผมโดนขังลืมชนิดว่าให้อยู่ในห้องนั้นไม่ต้องออกมากันเลย ไม่มีทั้งพนักงานมาม่าหรือใครเข้ามาเลยแม้แต่คนเดียวซึ่งปกติต้องเข้ามาเช็คmixเข้ามาถามเรื่องอาหาร(ขอแนะนำเอ็นไก่ทอดที่นี่อร่อยมากๆครับ)แต่นี่ไม่มีเลย เพื่อนผมคนนึงกับน้องชายผมสูบบุหรี่ที่เขี่ยบุหรี่ก็ไม่เอามาให้เป็นอะไรที่เหมือนโดนหักหน้าแบบยับ ยับมากๆได้แต่นั่งผิดหวังกันอย่างมาก จนครบชั่วโมงคุยกันว่าจะเอายังไงให้รีบตัดสินใจจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนคงไม่ได้ก็นั่งคุยกันจนเลยเวลาไปประมาณ 10 นาทีจึงได้ข้อสรุปว่ากลับกันเถอะ พอได้ข้อสรุปก็ให้น้องชายออกไปบอกพนักงานมาเช็คบิลพอเช็คบิลเสร็จก็รีบเดินออก ด้วยอาการที่ผิดหวัง+หัวเสียอย่างแรงและต้องมาหัวเสีย*2เพราะพอเดินออกมาก็พบกับกลุ่มนางฟ้าหน้าตาน่ารักน่าชังเกือบ10คนเดินไปเดินมา+นั่งอยู่หน้าร้านยิ้มให้ตาหยี๋เชียวโอ๊ย~~ใจละลาย น่าร๊ากกก ไปหมดT0T แต่ร้านเค้าไม่เอาพวกผมทั้งที่พวกผมเอาเงินไปให้เพื่อแลกกับความสุข พวกผมเองก็จนใจคงแบกหน้าอยู่ไม่ได้ทั้งที่ตั้งใจแบบสุดๆก็ได้แต่บอกว่าพูดไม่ออกเลยครับ ผมเองก็พึ้งจะรู้นี่ละว่าการค้าขายหรือทำธุรกิจในสมัยนี้เค้าไม่ง้อลูกค้าระดับล่างๆกันเลยหรือ?? แตกต่างจากประสบการณ์ของผมโดยสิ้นเชิงเพราะที่บ้านผมค้าขายกันทั้งตะกูลเริ่มตั้งแต่ ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นชาวไร่ขายของให้กับลูกค้าทุกระดับไม่ว่าจะซื้อมากหรือน้อยก็ราคาเท่ากันบริการดีมีน้ำใจเหมือนกัน พร้อมกับคำสอนที่ว่า(คนขายคือขี้ข้า ลูกค้าคือนาย และ ลูกค้าถูกเสมอ(ยายผมเป็นคนจีนพ่อของยาย(ก๋ง)กำชับมาแบบนี้และบอกให้สอนต่อๆกันมา))คำสอนก็ตกทอดมาจากปู่ ย่า ตา ยายมารุ่นป้าแล้วก็พ่อ แม่(แม้พ่อผมจะเป็นตำรวจแต่ก็ยังมีสายเลือดของนักค้าขายอยู่เพียบ)จนมาถึงผมตอนนี้ผมรับช่วงค้าขายต่อจากแม่หลังจากเรียนจบ แม่ผมเปิดร้านแก๊สตั้งแต่ผมอายุ13 ส่วนป้าหันมาขายขนมตั้งแต่ผมยังไม่เกิด ผมอยู่กับการค้าขายตลอดมา ได้ขายของตั้งแต่จำความได้โดนสอนแบบนี้จนทะลุอ่านใจลูกค้า จำแนกได้แม้กระทั่งว่าลูกค้าอยู่ในระดับไหนเป็นคนยังไงเราสมควรจะเสนออะไรให้(พูดง่ายๆคือมองคนออกขอให้ได้คุยไม่ต้องถึง5นาทีก็รู้ว่าเป็นคนยังไง) ถ้าลูกค้ามีเงินก็เสนอแบบดีๆและพูดถึงคุณสมบัติของตัวสินค้าให้เค้าฟัง ถ้าลูกค้าทั่วๆไปก็ยังเสนอของดีพร้อมพูดเปรียบเทียบตัวสินค้าแบบทั่วไปให้เค้าฟังด้วยจะได้เป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้าเพื่อตัดสินใจ ส่วนเรื่องเคยมีปัญหากับลูกค้ามั้ย? เคยมีครับ คือลูกค้าโทรมาสั่งแก๊สเสร็จแล้วก็เงียบไปผมคิดว่าได้ข้อมูลครบจนหมดแล้วก็กล่าวสวัสดีครับจะรีบไปส่งให้นะครับแล้วก็วาง(เพราะลูกค้าไม่ตอบอะไรเลยหลังจากที่ผมถามได้ข้อมูลหมดแล้ว) แต่จู่ๆก็โทรกลับมาพร้อมกับด่าผมว่าไอ่สารเลวยังพูดไม่หมดจะวางไปทำไมแล้วก็ด่าๆถามถึงขั้นว่าผมเป็นใครใหญ่นักหรือ ท่านสมาชิกคงอยากถามว่าผมโกรธมั้ยโกรธครับโกรธมากแต่ก็ต้องครับ ครับ และก็ ครับเท่านั้น พร้อมกับส่งท้ายด้วยคำว่ายินดีครับและสวัสดีครับจะรีบไปส่งให้นะครับ(ลูกค้าคนนี้เป็นนายทหารเก่า(ผมคิดเองและเข้าใจเองว่าคงอยู่ช่วงวัยทอง)และซื้อบ้านอยู่ในโซนของคนมีฐานะ บุคคลที่มีฐานะ2ท่านที่ทั้งประเทศรู้จักกันดีและเป็นลูกค้าแก๊สที่ร้านผมก็คืออดีตท่านนายกทักษิณ และอดีตท่านนายกสมชายก็มีบ้านอยู่ที่นี่และก็เป็นลูกค้าที่ร้านเช่นกันครับ (ขอขอบพระคุณทั้งสองท่านเป็นอย่างสูงครับ))ผมเลยเข้าใจว่าคนรวยเค้าคิดกันยังไงชี้ไม้บอกว่าเป็นนกผมก็นกด้วย ชี้นกบอกเป็นไม้ผมก็ไม้ด้วย จนกระทั่งตอนนี้ลูกค้าที่ด่าผมในครั้งนั้นตอนนี้ก็ยังคงเป็นลูกค้าที่แสนดีของที่ร้านผมมาโดยตลอด แต่ถ้าวันนั้นผมไม่ยอมและมีเรื่องด้วยผมมีแต่เสียกับเสียครับ เสียลูกค้า1คนไม่พอ ถ้าลูกค้าเค้าเอาไปพูดกับคนอื่นอีกโดยที่คนอื่นเค้าไม่ได้มารู้เรื่องจริงกับทางร้านด้วยลูกค้าก็หายหมดครับจากคำเล่าปากต่อปาก ร้านผมก็คงอยู่ไม่ได้ (ท่านขาดผมท่านอยู่ได้(เพราะร้านผมไม่ใช่มีร้านเดียว) แต่ถ้าผมขาดท่านผมอยู่ไม่ได้) จะลูกค้าระดับไหนผมก็ยินดีต้อนรับและบริการดีเท่ากันเสมอไม่มีดูถูกหรือแบ่งแยกระดับชั้น. แต่สิ่งที่ผมได้พบจากการทำธุรกิจ การให้บริการจากทางร้านHi classซึ่งถ้าจะเทียบก็ไม่น่าจะต่างจากงานที่ผมทำอยู่เพราะเป็นอาชีพการให้บริการเหมือนกัน แตกต่างออกไปจากของผมมากคือไม่สนใจ ไม่แคร์ และที่สำคัญไม่ให้บริการกับลูกค้าทั้งที่ได้ชื่อว่าสถานบันเทิงผู้บริการ ผมเลยอยากจะถามท่านสมาชิกว่าแผนการตลาดสมัยใหม่เค้าทำกันอย่างนี้หรือ ไม่เอาลูกค้าระดับล่างเลยทำไมผมถึงพูดแบบนี้ท่านสมาชิกทราบมั้ยครับเพราะก่อนหน้านี้พวกผมและเพื่อนๆก็เคยไปมาหลายที่ก่อนจะมาที่Hi classและ เคยโดนทั้งชาร์จและเหร่เหลี่ยมสารพัดจากที่ร้านอื่นมาเหมือนกัน สูงสุดที่เคยเจอถึงขั้นที่ว่าไป4คนมีน้องๆนั่ง4คนนั่งแค่ชั่วโมงเดียวเปิดแบล็ค1ขวด(ไม่ใช่โปรด้วย)อาหาร 2อย่าง เช็คบิลออกมาโดนไปหมื่นกว่าบาทปลายๆถ้าจำไม่ผิด 17,000+ประมาณนี้แหละครับครั้งนั้นโหดหินชนิดขยาดกันเลย(สำหรับบางท่านเงินจำนวนนี้อาจน้อยนิดแต่สำหรับพวกผมแล้ว เหมือนผมทำงานฟรีๆไปครึ่งเดือนเลย) แต่ก็ยังเจออยู่บ่อยๆก็เลยเปลี่ยนที่มาเรื่อยจนมาเจอที่นี่ ก็มีคนเคยบอกเหมือนกันว่าระวังโดนชาร์จนะ มาม่าที่นี่สุดยอดบ้างละ มาม่า ที่นี่ไม่ง้อลูกค้าระดับล่างๆบ้างละเอาแต่คนรวยแจกติ๊บน้องแบบหนักๆ แม้แต่น้องบางคนที่เคยทำงานอยู่ที่นั่นแล้วย้ายออกมา แล้วผมไปเจอก็ยังพูดถึงมาม่าคนนี้แบบนี้เลย น้องเค้าเล่าว่ามาม่าคนนี้เนียบต้องทำตามที่มาม่าคนนี้บอกทุกอย่างเต้นไม่เป็นก็จะสอนให้เป็นดื่มไม่เก่งก็จะฝึกให้ชนิดที่ว่าคอทองแดงกันเลยแต่น้องเค้าก็ยอมรับว่าอยู่กับมม่าคนนี้รายได้ดีมากนั่นก็ถือเป็นข้อดีที่ มาม่าคนนี้เค้ามีไฟเอาจริงเอาจังกับงาน แต่ถ้าจะเสริมเรื่องการรับลูกค้าได้ทุกระดับเข้าไปด้วยก็คงจะดีกว่านี้ เพราะถึงยังไงซะพวกผมก็ลูกค้าถึงจะได้จากพวกผมไม่มากก็ยังดีกว่าปล่อยให้ห้องว่างน้องๆไม่ได้ดริ๊งไม่มีรายได้เข้าร้านหมดโอกาศที่จะได้ขายของไม่ว่าMIXหรืออาหาร ถ้าเมื่อวานทางร้านดูแลพวกผมซักนิดจาก1,900บาท นั่ง1ชั่วโมง10นาที(จริงๆเลยมา10นาทีก็เลยโดนค่าห้องไปอีก200ครับ)ก็จะกลายเป็น3ชั่วโมงหมื่นนึงคุณก็ได้จากพวกผมไปแล้วอยากจะบอกว่าคุณพลาดและผมพวกผมเองก็เสียความรู้สึกมาก ที่ผมเอาเรื่องทั้งหมดโดยละเอียดแบบยิ๊บมากๆมาเล่าให้ฟังไม่ใช่ต้องการโจมตีทางร้านข้อดีของที่นี่ก็มีเยอะครับ 1ไม่ชาร์จ 2น้องๆสวยๆน่ารักเยอะครับ3เครื่องเสียงเยี่ยม(เพราะเคยไปเจอลูกทุ่งมากๆโทรทัศน์ก็จอนูนเครื่องเสียงเก่า เก่าแบบมากๆ)4บรรยากาศภายในร้านนี่เยี่ยมอย่างที่ทุกท่านที่เคยไปประทับใจ ขอย้ำนะครับไม่ต้องการโจมตีแต่อย่างใดแต่อยากจะให้ท่านสมาชิกได้ลองอ่านแล้วลองตัดสินกันดูว่าสิ่งที่ผมได้ประสบพบพลานถ้าเป็นท่าน ท่านจะรู้สึกเช่นไรเพราะเท่าที่รู้ไม่ได้มีพวกผมเท่านั้นที่เจอ เพียงแต่พวกเค้าไม่เอามาโพสแบบนี้แต่ต่อว่ามาม่าคนนั้นที่ร้านก่อนออกจากร้านเลย เรื่องก็จบอยู่แค่นั้น ผมทราบดีว่ามีท่านสมาชิกทั้งมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกันกับผมและก็มีท่านที่ต่อต้านและอยากจะต่อว่าผมเอาซะมากๆจากการที่ผมนำเรื่องราวทั้งหมดมาลงแบบนี้ แต่อยากให้ฉุดคิดซักนิดว่าถ้าทางร้านบริการดีจริงๆจะมีใครกล้าต่อว่าเพราะทุกท่านที่เป็นนักเที่ยวไม่ว่าท่านใดก็อยากเที่ยวกับสถานบันเทิงที่ตนชื่นชอบอย่างมีความสุขจริงมั้ยครับ และถ้าบริการดีจริงๆผมกับเพื่อนและน้องชายคงจะไม่รู้สึกเหมือนโดนขังลืมในห้องใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวชนิดแบบที่ว่าถ้าไม่ออกจากห้องก็คงไม่มีใครเข้ามาแม้แต่คนเดียวหรอกครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านโดยละเอียดและโปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะครับเพราะพื้นฐานความคิดของผมอาจแตกต่างจากท่าน ขอบคุณอีกครั้งครับ
และก็ต้องขอโทษทางร้านด้วยเนื่องจากที่เขี่ยบุหรี่ที่ขอไปทางร้านไม่นำมาให้เพื่อนผมคนนึงกับน้องชายก็เลยมีความจำเป็นเขี่ยลงพื้นคงทำให้สกปรกซักนิดต้องขอโทษจริงๆนะครับ