เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยตอนที่ผมพักอยู่หอแห่งหนึ่ง แถวๆราชภัฏเชียงใหม่ หอๆนี้ไม่ได้เก่ามากมาย แต่ก้อพอจามี
สิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่บ้าง ทุกหอพักถ้าสังเกตุเห็นจามีศาลพระภูมิตั้งอยู่หน้าหอ เพื่อให้ทุกคนตอนเข้ามาได้กราบไหว้
แต่ด้วยความที่ไม่เคยเป็นเด็กหอมาก่อน หรือจนถึงเดี๋ยวนี้เวลาผมย้ายหอ ก้อไม่เคยจาจุดธูปบอกเจ้าที่ซักที
ครั้งแรกที่ผมเจอ คืออาทิตย์แรกเลยที่เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ หอแห่งนี้ข้างล่างก่อนขึ้นไปชั้นบนจามีกระจกและ
ประตูสำหรับรูดการ์ดขึ้นไป ซึ่งเป็นกระจกสีดำพอจาสะท้อนเงาได้ คืนนั้นผมออกไปซื้อของที่ เซเว่น พอกลับมา
กะลังจารูดการ์ด (เพราะห้องผมอยู่ชั้นบน)ผมเหลือบมองกระจก เห็นผู้หญิงแก่คนหนึ่ง นอนอยู่ฝั่งตรงข้ามของ
กระจกซึ่งเป็นหน้าห้อง ห้องๆหนึ่งแต่พอเหลือบมามองหน้าห้องกลับไม่เจออาไรเลย เท่านั้นแหล่ะผมรีบรูดการ์ด
วิ่งขึ้นห้องเปิดไฟนอน ตื่นเช้าหาดอกไม้ธูปเทียนมาไหว้เจ้าที่ เจ้าทางให้ท่านคุ้มครองผม
ส่วนครั้งที่สอง เกิดขึ้นตอนวันสงกรานต์ ผมจำได้ไม่เคยลืม ผมออกไปเล่นน้ำตั้งแต่บ่ายโมงกว่าๆ จนถึง
พระอาทิตย์ตกดิน หลังกลับจากเล่นน้ำแวะกินข้าวกินปลา เรียบร้อย ด้วยความที่เพลียสุดๆๆๆ เพราะเหนื่อยจาก
การเล่นน้ำและแสงแดด ผมก้อได้นอนหลับอย่างสนิท ด้วยความง่วง 180 กม. ต่อชม. หึๆๆ ง่วงๆโครตๆอ่ะครับ
ขณะที่ผมนอนหลับ เท้าผมยื่นออกเลยขอบเตียง โดยที่ผมไม่รู้ตัว เนื่องจากผมเป้นคนค่อนข้างสูง และขายาว
ทันใดนั้นก้อรู้สึกว่ามีใครมาเกินทาง แล้วชนกับปลายเท้าผม ซึ่งมันทำให้ผมสะดุ้งตื่นแล้วลืมตาขึ้นมาดู ซึ่งที่ผม
เห็นก้อคือภาพผู้หญิง ใส่ชุดสีดำ ยืนอยู่หน้าประตูห้อง แล้วยิ้มมุมปากประจันหน้ามาที่ผม หึๆๆ แล้วจากนั้นเธอก้อ
เดินทางประตูออกไป
กล้วยทอดคร้าบบบบบบบพี่น้อง มีหรือผมจาหลับต่อ ตื่นขึ้นมาเปิดไฟ นั่งเล่นคอมต่อจนถึงเช้า พอเห็นแสง
สว่างของแสงอาทิตย์ยามอรุณ ผมถึงกลับไปนอนต่ออีกที คิดไปคิดมาความที่ผมเพลีย หรือหมดเรี่ยวแรงมากๆ
จิตของผมก้อคงจาอ่อนแอและถูกสิ่งลี้ลับสัมผัสได้ง่าย ฉะนั้นท่านที่ทำงานมากๆๆไม่ได้หลับได้นอนและเพลีย
จากการทำกิจกรรมใดๆระวังจามีสิ่งลี้ลับมาสัมผัสถูกตัวท่านนะครับ