-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ประสบกราณ์ผ่านเรื่องเล่าชาว"ป่อเต็กตึ๊ง"  (อ่าน 688 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

don

  • บุคคลทั่วไป

อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เกิดโดยบางครั้งคนเราไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเหตุที่เกิดจากความประมาท เหตุที่เกิดจากผู้อื่นกระทำหรือแม้นกระทั้งเหตุที่มนุษย์ตั้งใจให้เกิดเช่นการฆาตกรรม หลายครั้งที่มีข่าวคราวทางหน้าหนังสือพิมพ์ด้วยเรื่องที่เกี่ยวปาฏิหาริย์ เรื่องพุทธคุณพระ ปรากฏบ่อยครั้ง วันนี้เราพาท่านไปร่วมหาคำตอบกับคนที่อยู่กับทำงานเกี่ยวกับ?ความตาย?งานที่ว่านี้คืองาน?กู้ภัย?ของชาวมูลนิธิ?ป่อเต็กตึ๊ง? ไปร่วมหาคำตอบกัน?จริงหรือไม่แขวนพระหลวงพ่อทวดแล้วไม่ตายโหง........?


คุณเสน่ห์หรือ?กู้ภัย402?เป็นหัวหน้าพนักงานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาประมาณ5ปีแต่ทำงานอยู่ร่วมกับมูลนิธิตั้งแต่ปี2532ผ่านประสบกราณ์ที่เราๆท่านๆไม่สามารถไปหาฟังได้ที่ไหนและไม่สามารถจะหาดูได้มามากมาย.............ก่อนหน้าที่จะมาทำงานด้านนี้คุณเสน่ห์ทำอาชีพอื่นมาก่อนและช่วงปี2531-32ทางมูลนิธิฯได้มีแนวคิดที่จะสืบสานปฏิธานของ?องค์ไต๋ฮงกง? สิ่งยึดเนี่ยวของชาวมูลนิธิฯนับเวลากว่าร้อยปี............... เพราะเมื่อสมัยก่อนที่ประเทศจีน เวลาคนยากจนและไม่มีญาติตายผู้คนมักจะรังเกียจ ผู้คนส่วนไหญ่จึงทำได้ดีแค่นำศพผีไม่มีญาติเหล่านี้ไปให้พ้นหมู่บ้านของตน เวลาผ่านมาหลายวันศพไร้ญาติเหล่านี้ก็ส่งกลิ่นและเป็นอาหารสัตว์เป็นที่เวทนายิ่งนัก ครั้นเมื่อมีพระภิกษุ ฝ่ายมหายานท่านหนึ่งชื่อ?ไต๋ฮงกง?ได้เดินทางไปในที่ต่างๆเพื่อโปรดสัตว์ บางครั้งท่านได้พบเห็นศพไม่มีญาติเหล่านี้นอนตายน่าเวทนายิ่งนัก ท่านได้จัดการขุดหลุม และนำร่างอันไร้วิญญาณของพวกเขาเหล่านั้นไปฝังตามธรรมเนียม ผู้คนที่พบเห็นเข้าจึงเลื่อมใสและต่างยกย่องท่าน......จึงเป็นเหตุให้ชาวจีนโพ้นทะเลที่ปักหลักอยู่อาศัยในเมืองไทยมานานจนต่างก็นับถือท่านมาเสมอ เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่2 พี่น้องชาวจีนเหล่านี้ได้ร่วมกันทำงานเก็บศพผู้ที่เสียอย่างมากจึงได้มาสมัครเป็นพนักงาน?เก็บศพ?เมื่อปี2532ชีวิตจากสงครามโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเนื่อยและสินจ้าง สืบสานคุณความดีของหลวงปู่ไต๋ฮงกงจึงเป็นที่มาของมูลนิธิป่อเต็กติ๊งจวบจน
คุณเสน่ห์เล่าให้กับทีมงานเราฟังว่า?ครั้งแรกผมทำใจอยู่นานเจอในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยเจอมาก่อนชีวิต.....ใหม่ๆผมกินข้าวไม่ได้นานเป็นอาทิตย์เล่นเจอสภาพตายมา4-5วันแล้วเราก็ไปรับมา..... ในกลิ่นของศพบางศพกลับบ้านมากลิ่นยังไม่หมดไปจากมือเลย?คุณเสน่ห์เล่าพลางหัวเราะ?.......?แต่ตอนหลังมารู้ว่าที่ติดๆมาเพราะเราล้างไม่สะอาดเศษต่างๆก็จะไปติดทางซอกเล็บบ้างเวลายกช้อนกินข้าวละรู้เลยโชยมาจนกินไม่ลง.......โบราณท่านถึงว่าเวลาไปจับของเน่าๆท่านถึงให้เอามือไปแช่ที่ขี้เถ้า เพราะมันจะดูดกลิ่น........ผมทำใจนานประมาณ3เดือนเห็นจะได้จึงค่อยปรับตัวมาอยู่ได้จนทุกวันนี้
ประสบกราณ์ที่ผมจำจนไม่ลืมมาทุกวันนี้คือ?โรงงานทำตุ๊กตาเคเดอร์? เป็นอะไรที่ผมเห็นแล้วสลดใจมาก........ศพที่ตายกันขุดออกมาจากซากไม่รู้จักหมด...ผมยังจำตัวเลขจำนวนคนตายได้ดี?.113ศพ เฉพาะของมูลนิธิเรานะร่วมกัตญูญอีกเท่าๆกัน เป็นเหตุการณ์ที่ผมไม่ลืมจริงๆอีกคราวก็โป๊ะล่มที่ศิริราช ตอนนั้นผมเป็นหัวหน้าแล้ว...และลงไปดำน้ำกับเขาด้วย.....ที่หดหู่ใจก็เป็นศพเด็กนักเรียน.....ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย กระเป๋าเกลื่อนเลยเห็นแล้วบอกไม่ถูกใจมันไม่ดี.......เชื่อไหมตั้งแต่ผมทำงานมาสิบกว่าปีไม่เคยเจอผีหลอกเลยซักครั้ง...ไม่เคยเลยแต่ตัวผมเชื่อเรื่องวิญญาณว่ามีจริง หลายครั้งผมแคล้วคลาดมาตลอดเคยเกิดอุษัติเหตุกับผมประเภทว่าล้อรถจะหลุดๆอยู่แล้วไฟลุกท่วมยางแต่ผมไม่ได้สังเกตเห็น มีน้องๆขับรถตามมาแล้ว วอบอกจึงรู้พอลงมาดูไม่รู้รอดมาได้ยังไงยังงอยู่จนทุกวันนี้........ทำอะไรก็ราบลื่นมาตลอดไม่ค่อยติดขัดอะไรเจอแต่สิ่งที่ดีๆมาเยอะคงเป็นเพราะผลบุญที่ผมได้มีโอกาสช่วยคนมาเยอะมั้ง.....ถ้านับกันคนตายที่ผ่านมือผมไปประมาณ4000กว่าศพเห็นจะได้และที่ช่วยคนเจ็บเกือบ6000คนได้รวมๆแล้วเป็นหมื่นๆราย
แต่ที่แปลกก็มีเห็นๆเลยดูจากสภาพรถแล้วมันยับไปทั้งคันยู่ยี้ไปหมด.....แต่เชื่อไหมคมขับมานั้งปัดฝุ่นอยู่ข้างรถ.....ผมเคยเห็นกับตารถพังทั้งคันคนขับนั้งอยู่ข้างรถนั่นแหละ........เราก็พวกชอบพระเครื่องอยู่แล้วเลยไปขอดู....คุณเชื่อไห๊ม......เขาแขวนหลวงปู่ทวดหลังเตารีด.....ผมละขนลุกเลยตรงนี้มันน่าแปลกรถก็ไม่มีอะไรป้องกันถุงลมไม่มีเข็มขัดนิรภัยไม่ไส่ รอดมาได้ยังไง......ผมยอมรับจริงๆตั้งแต่ผมทำงานมาแทบจะไม่เจอพระหลวงพ่อทวดในคอคนตายและคนเจ็บเลย เคยเห็นอยู่ครั้งเดียวเท่านั้น หนุ่มรายนี้โดนเจ้าหนี้ทวงเงินแล้วเกิดทะเลาะกัน เผลอไปด่าบุพการีเขา.....คู่กรณีเลยซัดด้วย11 ม.ม.4นัด.....สร้อยขาดเลยพระร่วงหายไป........หนุ่มคนนั้นตายคาที่....ครั้งเดียวจริงๆที่เห็นเพราะเราชอบเรื่องพระอยู่แล้วจึงสังเกตุ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเหรียญรูปไข่นะไม่แน่ใจว่ารุ่น2หรือเปล่าเห็นญาติคนตายตามหาสร้อยจึงรู้และหาเจอหลังเกิดเรื่องนั่นแหละ........แต่ที่เห็นมากับตาก็อดีตเจ้าพ่อเมืองกรุงผู้ล่วงลับ?ผมเห็นศพเขา ตอนไปรับศพเพื่อไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเขา ผมเป็นคนเคลื่อนย้ายศพออกจากนิติเวชไปบ้านแกเอง คุณเชื่อไหมหลังของเจ้าพ่อคนนี้มีแต่รอยไหม้เป็นจ่ำๆแต่กระสุนยิงเข้าพียง1นัดเท่านั้น ทั้งๆที่ปลอกกระสุนที่เกิดเหตุเกลื่อนไปด้วยปลอกเอ็ม16 ผมเลยมาขอดูรูปที่ลูกน้องไปถ่ายไว้ แกอมพระสมเด็จวัดระฆังอยู่ที่ปากนอนคล่ำหน้ากับตัวรถมือยังกำปืนอยู่เลยเสื้อผ้าด้านหลังขาดหมดเป็นรอยกระสุนทั้งนั้น?.ผมจึงเชื่อเรื่องพุทธคุณพระว่ามีจริงแต่ก็ไม่พ้นกฏแห่งกรรมไปได้
เรื่องสะสมพระผมชอบผมชอบมาตั้งแต่วัยรุ่น?คุณเสน่ห์เล่าให้เราฟังว่า??ผมตระเวนไปเรื่อยที่ดังไหนดังผมก็ไปมาแล้วเกือบทุกวัด?เช่ามาเก็บๆไว้ ที่บ้านมีพระเครื่องเป็นลังๆ?.ส่วนตัวผมเองนับถือหลวงปู่ทวดมาก ไปไต้เมื่อไหร่ผ่านปัตตานียังไงต้องไปที่วัดช้างให้ก่อน?..เพราะตัวผมเองนึกอยู่เสมอเรื่องแคล้วคลาด?ผมจะแขวนพระอยู่ด้วยเสมอ หน้ารถกู้ภัยยังมีพระบูชาขนาด5นึ้วของหลวงปู่อยู่เลย
ที่แขวนๆประจำจะมีหลวงปู่ทวด?.เหรียญ ร.5 ลูกอมหนุมานหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม องค์นี้ผมได้มากับมือท่านเลยครับ?..ส่วนที่ได้มาใหม่ก็?พระผงเจดีย์ราย คุณจามรหัวหน้ากู้ภัยไต้เต็กติ๊งท่านให้มา บูชาแล้วดีนะผมได้มา2องค์อีกองค์ให้แฟนเขาห้อยอยู่เป็นเนื้อดำ?.สวยเชียว

ก่อนจากกันวันนี้คุณเสน่ห์ฝากข้อคิดเกี่ยวกับการใช้รถราให้กับเราฟังอย่างน่าสนใจว่า?คุณเชื่อไหมร้อยละ80ที่เกิดอุษัติเหตุมาจาก?เมาแล้วขับ?ทั้งนั้นบางทีตายไปแล้วกลิ่นเหล้ายังฟุ้งอยู่ ลูกเมียก็ลำบากตามกันไป?คุณเสน่ห์เล่าให้ฟังอย่างเซ็งๆ??ขนาดนั้งดื่มบางทียังประคองตัวเองให้ตรงแทบไม่ได้และถ้าลองได้ไปขับรถแล้ว โอกาสมันสูงที่จะเกิดเหตุ พระอะไรท่านก็ช่วยไม่ได้จริงๆขอฝากเตือนด้วยจริงๆ?คุณเสน่ห์ย้ำมาก
 

cmman573

  • บุคคลทั่วไป
Re: ประสบกราณ์ผ่านเรื่องเล่าชาว"ป่อเต็กตึ๊ง"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2008, 10:00:56 »

เป็นอุทาหรณ์สำหรับการเมาแล้วครับรถครับ

pulohid

  • บุคคลทั่วไป
Re: ประสบกราณ์ผ่านเรื่องเล่าชาว"ป่อเต็กตึ๊ง"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2008, 10:30:54 »

เมื่อสัก5ปีก่อนเคยโดนคนเมาขับรถมาชนเหมือนกัน ได้ไปนั่งท้ายรถ อปพร คนเดียว รู้สึกเหมือนมีคนนั่งด้วยยังไงไม่รู้

notear

  • บุคคลทั่วไป
Re: ประสบกราณ์ผ่านเรื่องเล่าชาว"ป่อเต็กตึ๊ง"
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2008, 19:12:57 »

เป็นอุทาหรณ์สำหรับการเมาแล้วครับรถครับ

เมาไม่ขับ ผมก็จะเดินกลับคับ kjhg