cmxseed สังคมราตรี

หมวดหมู่ทั่วไป => ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: etatae333 ที่ 20 กรกฎาคม 2018, 10:39:09

หัวข้อ: 8สรวงสวรรค์ที่ไม่มีวันเป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: etatae333 ที่ 20 กรกฎาคม 2018, 10:39:09
8สรวงสวรรค์ที่ไม่มีวันเป็นจริง
cr. Cammy-เต่านรก

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532067498-7547.jpeg)

ยูโทเปีย (Utopia) เป็นเมืองในจิตนาการปรากฏในชื่อหนังสือของเซอร์ทอมัส มอร์ ในปี ค.ศ. 1516 
โดยเป็นเมืองที่มีระบบสังคมอันแสนสมบูรณ์แบบ กล่าวคือเป็นเมืองที่สวยงาม ไม่ขาดแคลนทรัพยากร
ผู้คนก็จิตใจดีงาม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน กินดีอยู่ดี ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีความยากจน

ต่อมายูโทเปียได้กลายเป็นต้นแบบของเมืองในฝัน ที่ทั่วโลกพยายามสร้างขึ้น นักคิดยูโทเปียทั้งหลาย
พยายามที่จะสร้างปัจจัยภายนอก เช่น การออกแบบระบบ  การเมือง เศรษฐกิจ  การปกครอง ตลอดจนการวาง 
วัฒนธรรม  ความเชื่อ  ประเพณี  จารีตต่างๆ  เพื่อสร้างสังคมในอุดมคติที่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุก

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็ล้มเหลวตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ไม่มีเลยที่สร้างเมืองยูโทเปียขึ้นมาได้
ซ้ำร้าย หลายเมืองได้กลายเป็นอนุสาวรีย์แห่งความเลวร้ายและน่าขายหน้าต่อคนทั่วโลก มันไม่ง่ายเลย
ที่เราจะสร้างยูโทเปียบนโลก

และนี่คือ 8 เมืองยูโทเปียที่ล้มเหลว
 


8.ออร์โดส (Ordos)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068066-568.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068001-2462.jpeg)

เมืองดูไบ เป็นเมืองที่น่าทึ่ง เพราะมันเป็นเมืองสุดหรูที่ตั้งอยู่กลางทะเลทราย จนทำให้คนจากทั่วโลก
อยากเข้ามาอยู่ และด้วยความสำเร็จดังกล่าวทำให้ประเทศอื่นๆ อยากจะสร้างแบบนี้บ้าง แต่สุดท้าย
พวกเขาก็พบว่ามันว่ามันไม่ง่ายเลย


ในช่วงยุค 2000 รัฐบาลจีนได้ตัดสินใจสร้างเมืองดูไบแบบฉบับตัวเอง โดยเลือกพื้นที่ทะเลทรายในมองโกเลีย
มาสร้างเมือง พวกเขาพยายามสร้างเศรษฐกิจ ความเจริญทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโรงงานไฟฟ้า อาคารถูกออกแบบ
โดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียง รวมไปถึงสนามกีฬา พิพิธภัณฑ์ ทุกอย่างถูกออกแบบและค่าก่อสร้างแพงระยับ และเมือง
แห่งนี้ถูกตั้งชื่อว่าออร์โดส โดยตั้งใจว่ามันจะตาหน้าแก่ประเทศ

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532067978-0352.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068001-2297.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068001-2393.jpeg)

อย่างไรก็ตาม ออร์โดสได้กลายเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ เมื่อเมืองแห่งนี้สร้างเสร็จแต่ไม่มีประชาชนเข้าไปอาศัยอยู่เลย
เพราะราคาสินทรัพย์ในพื้นที่ก็สูงลิบจึงไม่มีผู้เช่าซื้อ และรายใดต้องการจะไปลงทุนทำธุรกิจ หลายอาคารถูกปล่อยให้
ว่างเปล่า ไม่มีคนอยู่ เมืองแห่งนี้จึงกลายเป็นเมืองร้างไปในที่สุด

ทุกวันนี้ออร์โดสได้กลายเป็นเมืองผี มีคนอาศัยไม่กี่คน ทั้งๆ ที่เมืองนี้ถูกออกแบบรองรับหลายแสนคนก็ตาม
 
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068099-9103.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068100-0036.jpeg)


7. มักนีโตกอสค์  (Magnitogorsk)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068143-6262.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068143-5971.jpeg)

โจเซฟ สตาลิน เป็นคนมีวิสัยทัศน์ และหนึ่งในวิสัยทัศน์ของผู้ที่สร้างรัญคอมมิวนิสต์ ที่ถ่ายทอดมาจากเลนิน นั้นคือการสร้าง
อุตสาหกรรมโรงงานไฟฟ้า และนั้นหมายความว่าเขาจะต้องสร้างศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งใหม่ ตั้งแต่เริ่มต้น ใช้เวลา
อย่างน้อยห้าปี หนึ่งในศูนย์กลางดังกล่าวก็คือมักนีโตกอสค์

มักนีโตกอสค์ (เป็นเมืองอุตสาหกรรมในเชเลียบินสค์โอบลาสต์ ประเทศรัสเซีย ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำอูรัล
เมืองมีประชากร 407,775 คน (ค.ศ. 2010) เมืองนี้แรกเริ่มเป็นหมู่บ้าน ดำรงชีวิตด้วยการเลี้ยงปศุสัตว์ แต่หลังจากที่
พบแร่เหล็กแมกนีไทต์ในบริเวณภูเขา 2 ลูกที่อยู่ใกล้เคียง รัฐบาลสหภาพโซเวียตได้เริ่มพัฒนา ด้วยการวางแผนอย่าง
สมบูรณ์แบบมันจะเป็นสวรรค์คนงาน เป็นศูนย์กลางผลิตเหล็ก มีทุ่งกว้างมให้เด็กวิ่งเล่นกัน ทุกคนได้อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นต์
ขนาดใหญ่ที่มีเป็นบล็อกชุมชน และมีส่วนร่วมในการแข่งขันกับสังคมนิยม

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068169-3829.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068174-7717.jpeg)

อ่านดูเหมือนจะดี แต่อนิจจาปัญหาของเมืองในฝันนี้คือ มันเป็นเมืองที่สภาพอากาศเลวร้ายมาก เมื่อคนงานอาสาสมัคร
ที่ถูกส่งมาสร้างเมือง ซึ่งตอนนั้นไม่มีเมือง ดังนั้นเขาต้องนั้นนอนในเต็นท์ และก็พบว่าสภาพอากาศของที่นี้มีอุณหภูมิติดลบ
ถึง -20 องศาเซลเซียส แค่ฤดูหนาวครั้งแรกหลายคนก็เสียชีวิต และรถต้องขนศพไปทิ้งเกือบทุกวัน

ฤดูร้อนก็เต็มไปด้วยพายุฝุ่นที่ย ทำให้ไม่มีน้ำสะอาด อาหารก็ขาดแคลน และไม่มีโรงพยาบาล และนั่นก็เป็นสาเหตุทำให้
คนงานมีอัตราเสียชีวิตสูง เฉลี่ยคนละอย่างน้อยหนึ่งปี และแล้วเมืองมักนีโตกอสค์ก็เสร็จสมบูรณ์

แต่มันก็ไม่ใช่เมืองในฝันอีกต่อไป เพราะเบื้องหลังคือป่าช้าของเหล่าคนงานนับหมื่นคนที่ถูกส่งมาทำงานจนตาย
 
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068196-8399.jpeg)



6.พรุทท์-ไอโกอ์ (Pruitt-Igoe)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068274-987.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068274-9973.jpeg)
 
พรุทท์-ไอโกอ์ เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่ถูกสร้างขึ้นด้วยอุดมคติในแบบ 'สถาปัตยกรรมสมัยใหม่' (Modern Architecture)
ออกแบบโดยมิโนรุ ยามาซากิ (Minoru Yamasaki 1919-1986) สถาปนิกชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น เขาเป็นผู้ออกแบบตึก
เวิลด์เทรดเซนเตอร์


โดยโครงการดังกล่าววาดฝันเอาไว้ว่ามันจะเป็นสวรรค์ชนชั้นกลางของคนชั้นกลาง ซึ่งเริ่มก่อสร้างตึกสูงมากมายถึง 17 ตึก
ในเซ็นต์หลุยส์ มิสซูรี่ และเริ่มโฆษณาทางทีวีในปี 1954

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068353-8468.jpeg)

ในเวลานั้นเมืองเซนต์หลุยส์มีสภาพที่ค่อนข้างแออัด และต้องการที่จะที่อยู่อาศัยให้ดูสะอาด เรียบร้อย โครงการพรุทท์-ไอโกอ์
จึงเป็นความหวังว่ามันจะแก้ปัญหานี้ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อโครงการเปิดชนชั้นกลาง ที่ส่วนมากเป็นคนผิวสีได้เข้ามาอยู่ แรกๆ เหมือนจะดี แต่อนิจจา มันกลับไม่มีเจ้าหน้าที่
มาดูแล ไม่มีไฟฟ้าใช้ ผลที่ตามมาคือมันได้กลายเป็นสลัม แหล่งอาชญากรรม แก๊งยาเสพติด ไม่มีตำรวจมายุ่ง มันจึงกลายเป็น
โครงการที่อยู่อาศัยที่ล้มเหลว และอันตรายที่สุดโดยบริยาย

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068328-5644.jpeg)

ในที่สุดเมืองเซนต์หลุยส์ก็ไม่ทนกับความน่าอับอายดังกล่าว ในที่สุดตึกของโครงการพรุทท์-ไอโกอ์ก็ถูกระเบิดรื้อถอนออกไป
ในปี 1970 เหลือเอาไว้เพียงความทรงจำเท่านั้น




5.ปาลมาโนวา( Palmanova )

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068531-4635.jpeg)
 
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 มีชาวอิตาลีผู้หนึ่งได้พยายามสร้างแบรนด์เมืองใหม่ ด้วยการวางแผงผันเมืองให้เป็นป้อมดาว
(ระบบป้อมปราการที่วิวัฒนาการขึ้นระหว่างสมัยที่การใช้ดินปืนในการต่อสู้โดยการใช้ปืนใหญ่) และพยายามที่จะโน้มน้าว
ให้คนมาอาศัยอยู่ที่นั้น ต่อมาเมืองแห่งนั้นถูกเรียกว่าปาลมาโนวา

ปานาโมวา เป็นเมืองที่ถูกควบคุมโดนสถาปนิกทหารชื่อจูลีโย ซาโลเน  (Giulio Savorgnan) การวางผังของเมืองนั้น
มันเหมือนดวงดาว แต่ที่มันน่าสนใจคือมันถูกวางให้เป็นยูโทเปียที่เข็มแข็งสำหรับผู้อยู่อาศัย กำแพงเมือง คูเมือง และ
เขตป้องกันทำให้ป้องกันการรุกรานศัตรูจากภายนอกได้ (กองกำลังออตโตมัน) นอกจากนี้ในเมืองยังมีถนนเพื่อให้ชาวเมือง
สันจรอย่างมีความสุข

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068622-6462.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068622-752.jpeg)

แต่มันก็มีปัญหา อันเนื่องจากวัตถุประสงค์หลักของปานาโมวาก็คือการป้องกันการบุกรุกของกองกำลังออตตมัน แต่มันไม่ได้
ป้องกันสภาพความเป็นอยู่ในเมือง ที่ตอนนั้นเต็มไปความโหดร้ายป่าเถื่อน การข่มขืน ปล้มสะดม และความอดอยาก ไม่แตกต่าง
อะไรกับดาวมรณะ

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068645-2828.jpeg)

อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้บทบาทการป้องกันเมืองปานาโมราจะถูกลดความสำคัญลง แต่มันกลับมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่องเที่ยว
เก่าแก่ ที่สวยงาม ที่ได้รับความนิยม




4.นิวเดลี (Delhi)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068730-3968.png)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068730-4203.jpeg)

ในปี 1947 นายกรัฐมนตรียาวาหะราล เนห์รู  (Jawaharlal Nehru) รัฐบุรุษของอินเดียได้ประกาศว่ากรุงนิวเดลี เมืองหลวง
ของอินเดียจะกลายเป็นยูโทเปียสมัยใหม่ ที่ปราศจากความยากจน ไม่มีใครที่อาศัยในบ้านที่สกปรก ทุกคนจะมีที่อยู่อาศัย
ซึ่งเวลานั้นอินเดียพึ่งหลุดพ้นการปกครองอาณานิคมของอังกฤษ และนายกรัฐมนตรียาวาหะได้แสดงวิสัยทัศน์วันที่ 14 สิงหาคม
วันเอกราชของอินเดีย


อย่างไรก็ตาม การบริหารเมืองนิวเดลีนั้นไม่ง่ายเลย เพราะพวกเขาเริ่มต้นชีวิตหลังอาณานิคมในสภาพการเงินเกือบล้มละลาย
พวกเขามีเงินพัฒนาไม่กี่ล้าน มันอาจสร้างบ้านได้ แต่ก็ไม่กี่หลัง และไม่เพียงพอสำหรับเมืองที่เต็มไปด้วยประชากรในเมือง
หลายล้าน ชาวมุสลินหนีไปประเทศปากีสถาน (นับว่าเป็นการอพยพย้ายถิ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอินเดีย)

ทุกวันนี้กรุงนิวเดลีก็ยังคงเต็มไปด้วยมลพิษ ชุมชนแออัด ประชากรเกือบครึ่งอาศัยอยู่ในสลัมและพื้นที่ผิดกฎหมาย
ในขณะที่จำนวนประชากรก็ยังเพิ่มขึ้น


(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068757-6343.jpeg)


3.อโครซานติ (Arcosanti)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068220-7264.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068226-792.jpeg)
 
ในช่วงต้นปี 1970 สถาปนิกชาวอิตาเลียนคนหนึ่งชื่อเปาโล โซเลรี่ (Paolo Soleri)  ได้ออกมาแสดงวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่
ในการสร้างเมืองอเมริกัน เมื่อเขาสร้างเมือง Arcosanti  เอาไว้กลางทะเลทางตอนเหนือของฟินิกซ์ รัฐแอริโซน่า โดยเขาตั้งใจ
ที่จะให้เป็นเมืองที่สถาปัตยกรรมปฏิสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เพื่อเป็นเมืองต้นแบบในการลดความ
เสียหายต่อพื้นโลก


(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068390-8254.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068393-5988.jpeg)

เปาโลได้ออกแบบสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง ได้อย่างสวยงาม เขาตั้งใจว่าจะใช้เวลา 5 ปีในการสร้าง หากแต่เมื่อถึงปี
2016 มันก็ไม่เสร็จ พร้อมกับสิ่งที่น่าตกใจคือเมืองสร้างสำเร็จเพียง 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทั้งหมดนี้ก็คือปัญหาการระดมทุน
สร้างเมืองใหญ่ ที่หลายคนมองว่ามันไม่น่าจะสร้างกำไรให้คนลงทุนได้ ดังนั้นมีเพียงอาสาสมัครชำนาฯกับคนสร้างบางส่วนเท่านั้น
ที่สร้างเมือง

เปาโล เสียชีวิตในปี 2013 โดยไม่ได้เห็นเมืองในฝันของเขาเสร็จสมบูรณ์

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068425-0324.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068432-8123.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068432-841.jpeg)




2.สโกเปีย (Skopje)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068934-3594.jpeg)
   
มันค่อนข้างหายากที่จะหาเมืองที่ล้มเหลวในการเป็นเมืองสวรรค์ถึงสองครั้ง อย่างสโกเปียเมืองหลวงของมาซิโดเนีย
โดยมันเริ่มมาจากปี 1963 เกิดแผ่นดินไหวชนิดเรียกว่าเมืองเกือบทั้งเมืองพังยับ คนกว่า 100,000คนไร้ที่อยู่อาศัย
ทำให้สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย (ตอนนั้นมาซิโดเนียเป็นแค่ส่วนหนึ่ง) ได้ตัดสินใจที่จะสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ แต่พวกเขา
แทบไม่มีเงินเลย เวลานั้นเองเคนโซ ทังเกะ สถาปนิกระดับโลกชาวญี่ปุ่น (มีชื่อเสียงหลังสงคราม ที่วางผังเมืองฮิโรชิม่า)
เขามีความตั้งใจที่จะทำให้สโกเปียเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่เป็นรูปธรรม


(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532069152-1902.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068934-3523.jpeg)

แน่นอนว่า ตอนแรกๆ ออกไปในที่ดี จนกระทั่งมีใครบางคนที่คิดให้เมืองแห่งนี้ยิ่งใหญ่อีกครั้งในสายตาชาวโลก หากแต่ 
แทนที่โครงการสร้างเมืองสโกเปียจะเป็นที่ภาคภูมิใจของยูโกสลาเวีย มันกลับกลายเป็นตัวตลกของโลก เมื่อสิ่งที่พวกเขา
ทำมันเป็นแค่การสร้างรูปปั้นจำนวนมากมาย กับอาคารหลายแห่งเหมือนหลุดจากภาพยนตร์ไซไฟ จนกระทั่งโครงการ
หมดลงไป 2010 เพราะการระดมทุนล้มเหลว

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068934-3552.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068934-4115.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532068934-3616.jpeg)

ต่อมาในปี 2014 โครงการสโกเปียก็มีการสร้างมาใหม่เป็นครั้งที่สอง ด้วยการวางแผนว่าพวกเขาอยากสร้างเมืองให้เป็น
แบบสไตล์นีโอคลาสสิกที่สมบูรณ์แบบ ด้วยการเปลี่ยนทั้งเมืองให้เป็นเมืองยุคกลาง ราวกับเป็นสวนสนุก เพื่อหวังให้นัก
ท่องเที่ยว นักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา แต่ผลคือมันเป็นเพียงแค่การสร้างรูปปั้น และสถาปัตยกรรมที่ไร้ค่าคอนกรีต
แทนที่จะเป็นสวรรค์ที่อยู่อาศัยมันกลายเป็นภัยพิบัติที่ไม่คุ้มค่ากับเงินมโหราฬที่เสียไปเลยแม้แต่น้อย




1.โจนส์ทาวน์ (Jonestown)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532069252-8284.jpeg)
 
มันเป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางของป่ากายอานา มันถูกวางว่าจะเป็นยูโทเปียที่แสนสงบสุข ชาวอเมริกันทุกเชื้อชาติ ทุกสีผิว
จะมีความเสมอภาค เท่าเทียมกัน และรักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง แต่ตอนหลังมันกลับกลายเป็นเมืองแห่งความตาย นรกบนดิน
นามของเมืองนี้คือโจนส์ ทาวน์

ในปี 1977 จิม โจนส์และสาวกมากกว่าพันคนไปสร้างเมือง "โจนส์ทาวน์" ขึ้น บนพื้นที่กว่า 300 เอเคอร์ ในประเทศกายอานา
ทวีปอเมริกาใต้  โดยบอกว่ามันเป็นยูโทเปีย ที่เหมาะสำหรับชาวอเมริกันที่เบื่อหน่ายจากการเหยียดสีผิว และสังคมเมือง
อยากเป็นอิสระ และความเสมอภาคร่วมกัน

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532069252-8389.jpeg)

อย่างไรก็ตาม ยูโทเปียของจิม โจนส์ไม่ได้เป็นสวรรค์ที่หลายคนวาดฝันไว้ เมื่อโจนส์ทาวน์ กลายเป็นเมืองล้มเหลว กลายเป็น
ดินแดนแห่งความสิ้นหวัง เมื่อเมืองไร้ไฟฟ้า น้ำประปา ขาดสุขาภิบาล นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยยาเสพติด ที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือ
มันเป็นเมืองในระบบเผด็จการ สาวกชายหญิงถูกแยกออกไปอยู่คนละเขต เด็กถูกกันไปอยู่อีกที่หนึ่ง มีการปกครองโดยกลุ่มคนผิวขาว
คนผิวดำต้องทำงานใช้แรงงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น ผู้ที่คิดหลบหนีจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง

ต่อมา จิน โจนส์ได้ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดเด็ก และสภาคองเกรสก็ส่งผู้แทนและผู้สื่อข่าวหลายคนไปตรวจสอบโจนส์ทาวน์ 
หากแต่กลายเป็นผู้ว่าติดตามของจิน โจนส์ได้ฆ่าพวกเขาหมด

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532069252-8708.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1532069252-8484.jpeg)

สุดท้าย เมื่อจิม โจนส์พบว่าตนเองไปไม่รอด เขาก็ใช้วาทะกรรมของตนเองเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการพิธีกรรม "ไวท์ไนท์" โดยนำ
น้ำผลไม้ผสมไซยาไนด์ให้สาวกดื่มฆ่าตัวตาย หลังคืนนั้นจบลง ทั้งเขาและสาวกฆ่าตัวตายกว่า 900 ชีวิต (ส่วนผู้ไม่เห็นด้วย
หรือเด็กก็ถูกฆ่าให้ตาย) นับว่าเป็นการฆ่าตัวตายหมู่ที่เลวร้ายในหน้าประวัติศาสตร์หนึ่งของอเมริกา[/color]


อ้างอิง
http://listverse.com/2016/05/16/10-attempts-to-create-utopian-cities-that-failed-spectacularly/