ตี่จู้ หรือ ศาลเจ้าที่จีน ?ตี่ หมายถึง ดิน? จู้ หมายถึง เจ้า แค่ชื่อก็สื่อความหมายเป็นนัยยะแล้วว่า การตั้งตี่จู้ต้องตั้งติดดิน เจ้าที่จึงจะมีพลัง ซึ่งในการตั้งตี่จู้ ก็มีหลักการเดียวกับศาลพระภูมิของคนไทย คือ ตั้งได้เฉพาะชั้นล่าง
หากบริเวณที่จะตั้งตี่จู้อยู่ลึกเข้าไปภายในตัวบ้าน หรือเป็นพื้นที่ที่ต่ำกว่าถนน ควรทำฐานรองรับตี่จู้ให้สูงเท่ากับระดับถนน เพื่อให้เจ้าที่ที่พำนักอยู่ภายในตี่จู้สามารถมองเห็นเบื้องหน้าได้ดียิ่งขึ้น โดยทำเป็นฐานดินเรียบ หรือฐานหินอ่อน หินแกรนิตที่ทึบตัน ซึ่งสื่อความหมายถึงรากฐานที่มั่นคงของชีวิต ที่สำคัญอย่าลืมเผื่อพื้นที่เหม่งตึ๊ง หรือพื้นที่โล่งเพื่อเอาไว้วางของไหว้ และถือเป็นการรองรับโชคลาภบารมีที่จะเข้ามาอีกด้วย
บางบ้านที่ต้องการวางตี่จู้ลงในตู้โชว์ จะเพื่อความสวยงามหรือเพื่อความเหมาะสมก็ตามแต่ จะต้องเว้นพื้นที่ด้านข้างทั้งซ้าย-ขวา และด้านบนตี่จู้ ซึ่งหลักในการเว้นพื้นที่นี้ก็เป็นไปตามขนาดของตี่จู้ ตี่จู้ใหญ่ก็เว้นที่มากหน่อย ตี่จู้เล็กก็เว้นที่น้อยหน่อย
ในกรณีที่รูปลักษณ์ของตี่จู้ไม่กลมกลืนไปกับดีไซน์ของบ้าน สามารถเปลี่ยนโฉมของตี่จู้จากเดิมที่ทำจากไม้ ให้เป็นตี่จู้ที่ทำจากวัสดุอื่นๆ ได้หลากหลายรุปแบบ เช่น หินอ่อน และตี่จู้ไม่จำเป็นต้องทาสีแดงเสมอไป การที่เราเห็นตี่จู้ส่วนใหญ่เป็นสีแดงเป็นเพราะเป็นการทำตามกันมาแต่โบราณกาลมากกว่า
ตามปกติไม่ควรวางตี่จู้อยู่หน้าพื้นที่เคลื่อนไหวอย่าง บริเวณหน้าประตู หน้าบันได หน้าห้องน้ำ และหน้าห้องครัว แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องตั้งตี่จู้ที่หน้าบันได การแปะแผ่นหินสักประมาณ 2-3 แผ่นลดหลั่นลงมาตามขนาดแผ่นหินจากเล็กไปใหญ่สามารถช่วยได้ โดยจะต้องติดแผ่นหินที่ขนาดเล็กสุดให้อยู่หน้าสุด และควรมีขนาดใหญ่กว่าด้านบน และด้านซ้าย-ขวาของตี่จู้อย่างน้อยข้างละ 1 นิ้ว แผ่นหินเหล่านี้เปรียบเสมือนภูเขาที่มั่นคง เราจึงเชิญตี่จู้ให้มาตั้งอยู่ ณ ด้านหน้าของแผ่นหินนั้นนั่นเอง
ทิศรอบตี่จู้
ด้านหลังตี่จู้ : ไม่ควรเป็นประตู บันได ห้องน้ำและห้องครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ควรตรงกับเตาไฟ
ด้านหน้าตี่จู้ : ควรเป็นเหม่งตึ๊ง เพื่อรองรับโชคลาภบารมีที่จะเข้ามา
ด้านบนตี่จู้ : ไม่ควรวางสิ่งใดไว้เหนือตี่จู้
ด้านใต้ตี่จู้ : ไม่จำเป็นต้องใส่สิ่งใด แต่ต้องการใส่แผ่นเงิน แผ่นทอง หรือจำพวกเพชรนิลจินดาสามารถใส่ได้ เพราะถือเป็น
ธาตุดินไม่ขัดกันกับอำนาจของตี่จู้
หลังจากทราบหลักการในการตั้งตี่จู้นี้กันแล้ว คงคิดเห็นเหมือนกันว่า การตั้งตี่จู้ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่อยากให้ทุกบ้านก็ลืมเลือนกันไปก็คือ เราจะต้องยึดมั่นถือมั่นในหลักธรรมคำสอนของศาสนาควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตด้วย ไม่ใช่จะหวังคอยโชคลาภวาสนาจากตี่จู้แต่เพียงอย่างเดียว หากครอบครัวใดสามารถปฏิบัติได้ดังนี้แล้ว คำว่า "อยู่เย็นเป็นสุข" ที่ไม่ว่าบ้านไหน ครอบครัวใดต่างก็ต้องการตรงกันก็คงอยู่ไม่ไกลเกินคว้าแน่นอน