-->

ผู้เขียน หัวข้อ: "ผี..ผู้หญิงชุดขาวไม่มีหน้า"  (อ่าน 684 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

don

  • บุคคลทั่วไป
"ผี..ผู้หญิงชุดขาวไม่มีหน้า"
« เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2008, 01:31:47 »

" เรื่องที่ผมจะเล่านั้นเป็นเรื่องจริง"ที่เกิดขึ้นกับตัวเองตอนบวช
และได้ไปอยู่ที่ป่าช้าแห่งนี้ ผมขอแนะนำให้ผู้ที่จะอ่านเรื่องนี้กลับไปทำความรู้จัก
กับป่าช้าแห่งนี้ก่อน เพื่อจะได้นึกภาพตามได้ง่ายขึ้น
ในหัวข้อ"ไม่เชื่อเรื่องผีอยากเจอปะ" ท่านจะได้เข้าใจถึงสถานที่ต่างๆในป่าช้า
และได้อ่านเรื่องแรกซึ่งก็มีผีผู้หญิงตนนี้อยู่เหมือนกัน แล้วค่อยกลับมาอ่านเรื่องนี้จะดีกว่าขอแนะนำ ...

เริ่มเรื่องเลยละกันคือตอนนั้นผมได้บวชอยู่ที่วัดปฏิบัติแห่งหนึ่งอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี
ซึ่งวัดนี้เป็นวัดปฏิบัติและมีสาขาต่างๆมากมายตามต่างจังหวัด
สาขาส่วนมากจะเป็นที่หลบภาวนาทดสอบจิตซึ่งเป็นที่ๆคนไม่ค่อยไปอยู่กัน
เช่นตามป่าลึกบ้าง ป่าช้าบ้าง และรวมถึงที่นี้ด้วย ก็คือป่าช้าที่ผมไปอยู่นี่เอง
ป่าช้านี้เป็นสถานที่ๆน่ากลัวอันดับต้นๆของบรรดาสาขาทั้งหมด
พระบวชใหม่มักจะถูกพาไปทดสอบ"จิต"ที่นั้นเป็นประจำ ส่วนมากพระบวชใหม่
มักจะกลัวการมาป่าช้าที่นี่เกือบทุกองค์ เพราะคำเล่าลือจากครูบาอาจารย์
ที่ประสบพบเจอมา ตอนนั้นผมได้มาอยู่ที่ป่าช้านี้ ผมเดินทางมาทางรถไฟ
มาถึงป่าช้านี้ตอนตี 5ก็ยังไม่สว่างดี ก้าวแรกที่เหยีบเข้าไปในป่าช้าคือลานธรรม
ก็รู้สึกได้ทันที่ว่ามีบางอย่างจ้องมองเราอยู่ตลอดเวลา พอพระอาทิตย์ขึ้น
ผมก็เริ่มอยากจะสำรวจป่าช้าขึ้นมาทันที จึงชวนเพื่อน 3-4คนไปเดินดูรอบๆป่าช้า
พอเดินไปถึงหลังป่าช้าผมก็พบกับ"กระดูดสะโพก"ชิ้นนึง โผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดิน
ผมดีใจมากด้วยความที่ผมไม่ค่อยกลัวและค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นมากกว่า
ผมจึงบอกเพื่อนว่าให้ช่วยกันขุดกระดูกขึ้นมาต่อเล่นกัน แต่ไม่มีใครกล้าขุด
ผมกับเพื่อนอีกคนจึงขุดกระดูกนี้ขึ้นมาต่อได้3-4ชิ้นแล้วก็เดินไปดูที่อื่นต่อ
สรุปว่าเราหลงป่าช้าครับหาทางกลับไม่เจอ ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด เราพยายามช่วยกันหาทางกลับ
แต่ก็หาไม่เจอ ผมจึงนึกขึ้นได้ว่าที่เขาบอกผีบังตาเป็นอย่างนี้นี่เอง
ผมจึงบอกเพื่อนว่าเราไปลบหลู่เขาเข้าให้แล้วหละ ขอขมาเขากันเถอะ
คิดดูเป็นพระต้องยกมือไหว้ขอขมาผี!! คือตอนนั้นเราห่วงอย่างเดียวว่าจะกลับไปฉันข้าวไม่ทัน
เพราะที่นี้ฉันมื่อเดียวไปไม่ทันก็อด เเปลกม๊ะยกมือไหว้ผีมันเสร็จเดินไปสามก้าว
เจอทางกลับเลย ระหว่างทางเดินกลับก็จะมีต้นไม้เล็กใหญ่สลับกันไป
เราเดินมาถึงกลางป่าช้าเจอต้นไม่ใหญ่ต้นนึงถูกตัดลงมาทำเป็นโลงศพใหญ่
โลงนึงทิ้งไว้กลางป่าช้า ซึ่งทำให้บรรยากาศน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ผมคิดมาตลอดทาง
เดินกลับว่าที่นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ไม่กล้าพูดกับเพื่อนเพราะรู้ว่า
พวกเขาเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วเหมือนกัน พอกลับมาฉันข้าวเสร็จเราก็แยกย้ายกัน
เข้ามาหาที่พักซึ่งอยู่ตามโซนต่างๆของป่าช้าแล้วแต่ใครชอบแบบไหน
เฮี้ยนมากเฮี้ยนน้อยมีหมด..จะเอาแบบเข้าถึงตัว,ลากขา,เขกหัว,มาให้เห็น,เสียงหลอน
,หมาผี,ค้างคาวผี,นกผี,แมวผี,มีหมดแล้วแต่จะชอบแบบไหน ไม่ได้โฆษณาขายผี
แต่มันมีจริงๆ ใครชอบแบบไหนก็เลือกปักกลดกันตามใจชอบ ส่วนผมถือว่า
ตามดวงตามกรรมเลือกโซนกลางป่าช้าซีกขวา เดินเข้ามากิโลครึ่ง
ก็เจอทำเลเหมาะที่จะปักกลด เป็นเถาว์วัลใหญ่ซึ่งมองแล้วรู้ทันทีเลยว่ามี"จิตวิญญาณ"
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรจน"ตะวันตกดิน"บรรยากาศเปลี่ยนไปทันที ทุกคนที่มาใหม่
เริ่มระวังตัวและคิดว่าคืนนี้จะเจออะไรบ้าง!! พอสวดมนต์ทำวัตรเสร็จเวลาก็ประมาณ 3ทุ่มเศษ
ก็นั่งคุยกันซักพักเพราะตอนนั้นไม่มีใครอยากจะกลับเข้าไปที่พัก
แต่ก็ต้องแยกย้ายเพราะเดี๋ยวมันจะดึกไปมากกว่านี้ เราได้รับรู้เรื่อง
ที่ครูบาอาจารย์เล่าลือมาพอประมาณและคิดว่าเกินพอสำหรับบรรยากาศในตอนนั้น
ผมหยิบไฟฉายคู่ใจแล้วแยกเดินกลับกลด ผมเดินเข้ามาในป่าช้าได้ประมาณ 1กิโล
ซึ่งผมคิดตลอดทางว่าเราจะเจอกับอะไรผมพยามไม่คิดอะไรมากท่อง"พุทโธ" ตลอดทาง
แต่แล้วก็มีเสียงอะไรตก!!มาจากต้นไม้ข้างหลังผม ผมจึงฉายไฟกลับไปดู
แต่ไม่ทันจะหันกลับ!!!เชื่อม๊ะ มีผู้หญิงนั่งอยู่ข้างทางตรงที่ผมยืนอยู่..
"เธอนั่งพับเพียบพนมมือไหว้ผมกลางป่าช้า" ที่สำคัญเธอไม่มีหน้า ผมฉายไฟไป
ที่หน้าของเธอๆไม่มีหน้าหน้าเธอเลียบขาวทั้งหน้า ผมรู้สึกว่าตัวเองชาไปหมด
และไม่ได้หายใจไปชั้วขณะ ตอนนั้นผมนึกอย่างเดียวคืออย่าตกใจอย่าวิ่งอย่ากลัว
ผมรวบรวมสติได้ จึงฉายกลับมาที่ทางเดินแล้วเดินภาวนา"พุทโธ"ต่อไป
พอมาถึงกลดก็รีบเข้ากลดสวดมนต์แผ่เมตตา คุมโปงนอนรู้สึกตัวอีกที
ก็ถูกลากออกมาอยู่นอกกลดแล้ว ตอนนั้นตกใจมาก มันมืดมากมองอะไรไม่เห็นเลย
แต่รู้อย่างเดียวว่าตัวเองอยู่กลาง"ป่าช้า"พยามใช้มือคลำไปรอบๆ เกือบเสียสติเหมือนกัน
แต่พอดีคลำไปเจอกลดเลยมุดเข้าไปนอนคลุมโปงแต่ไม่ได้หลับทั้งคืน
แค่คืนแรกมันก็ต้อนรับกันอย่างอบอุ่นเลย พอตี 3ครึ่งพระอาจารย์มาเรียก
ไปทำวัตรเช้า ก็ต้องเดินออกมาอีก เจออีกแต่เป็นตัวใหม่มันสับเปลี่ยนกันมารับแขก
ดีจริงๆ เป็นผีมอไซร์หัวขาดแต่จะเล่าให้ฟังทีหลัง พอตอนเช้า
บอกพระอ.จ.ว่าเมื่อคืนถูกดึงออกจากกลด พระอ.จ.ยิ้ม..


"แล้วบอกว่า อยากไปขุดกระดูกเขาขึ้นมาจากดินทำไมละ เขาเลยลากเราออกจากกลดบ้างไง...
ผมงงเพราะพระอาจารย์รู้ได้อย่างไรว่าเราไปขุดกระดูกมา เพราะไม่มีใครบอกท่านเลย
ท่านบอกให้ปฏิบัติมากๆภาวนาเยอะๆแผ่เมตตาให้เขาไป แล้วจะเล่าให้ฟังอีก มีอีกหลายเรื่อง..


ป่าช้านี้อยู่ที่จังหวัดอุบล ต.บุ่งมาแลง กิ่งอ.สว่างวีระวงค์ ชื่อสำนักสงฆ์"ป่าช้าบุ่งมะแลง"
แรงจริงๆจ๊ะ ไม่เชื่อไปถามชาวบ้านแถวนั้นดูหรือถามพระที่อยู่ที่นั่นก็ได้จ๊ะ
หรือถ้าใครสนใจจะลองไปปฏิบัติธรรมที่นั่นดูก็ได้ ท่านจะได้ทั้งบุญ
และได้รับการต้อนรับจากผีที่นั่นอย่างอบอุ่นเป็นอย่างดี!! คอยหลอกเช้าหลอกเย็น
ไม่เว้นเสาร์-อาทิตย์ จริงๆแล้วเขามาขอส่วนบุญเขาอยากไปผุดไปเกิด
ก็อาศัยส่วนบุญของนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายนี้แหละ ปฏิบัติดีมาดี
ปฏิบัติเสื่อมมาหลอก!!ตอนนี้มีพระอยู่ที่นั่นสี่รูป นักปฏิบัติธรรมก็มีเวียนมาบ้างแต่ก็ไม่มาก...
แล้วผมจะส่งเรื่องไปให้นะครับสำหรับคุณนกฮูกที่ขอมา..ยังมีอีกเยอะ
แต่ผมต้องพิมพ์ตอนกลางคืนครับเพราะมันมีสมาธิและอารมณ์ที่จะถ่ายทอดเรื่องราว
มากกว่าตอนกลางวัน...ไปก่อนนะครับ!!

 

cmman573

  • บุคคลทั่วไป
Re: "ผี..ผู้หญิงชุดขาวไม่มีหน้า"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2008, 09:27:04 »

ผมคนหนึ่งละไม่ต้องการให้ผีมาตอนรับ

pulohid

  • บุคคลทั่วไป
Re: "ผี..ผู้หญิงชุดขาวไม่มีหน้า"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2008, 13:12:54 »

 ghjkมาดีๆก็ไม่อยากเจอ

3p

  • บุคคลทั่วไป
Re: "ผี..ผู้หญิงชุดขาวไม่มีหน้า"
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2008, 14:25:57 »

 ;khhg นับถือๆ ช่างกล้านัก

Sylar

  • บุคคลทั่วไป
Re: "ผี..ผู้หญิงชุดขาวไม่มีหน้า"
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2008, 00:18:36 »

น่ากลัวมากๆ

pass07

  • บุคคลทั่วไป
Re: "ผี..ผู้หญิงชุดขาวไม่มีหน้า"
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2008, 09:11:34 »

 ghjk  ยิ่ง อยู่ คนเดียว ด้วย จิ  lkkjjh

josh

  • บุคคลทั่วไป
text
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2008, 03:46:35 »

สยองสุดๆแล้ว