-->

ผู้เขียน หัวข้อ: ใช้คนอย่างไหนก็เป็นผู้บริหารอย่างนั้น  (อ่าน 1233 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

labk1200

  • บุคคลทั่วไป

 (1) โบราณว่าไว้ว่าจะดูว่าใครเป็นคนชนิดไหนก็ให้ดูว่าเขาคบคนชนิดใด หากเขาคบคนพาลเขาก็ต้องเป็นคนพาล หากเขาคบบัณฑิตเขาก็ต้องเป็นบัณฑิต หากเขาคบคนชอบสนุกสนานเฮฮาเขาก็เป็นคนรักสนุกสนานเฮฮา หากเขาคบคนเหลวไหลไร้สาระเขาก็เป็นคนเหลวไหลไร้สาระไปด้วย

       ดังนั้นคนที่คบหาจึงเป็นสัญญาณหมายว่าผู้คบหาเป็นคนอย่างไร เหตุนี้พระตถาคตเจ้าจึงตรัสสอนไว้ในมงคล 2 ข้อแรกแห่งมงคล 38 ว่าการไม่คบคนพาลและการคบบัณฑิตเป็นมงคลสูงสุด ซึ่งหมายความว่าในชีวิตของคนเรานั้นหากทำได้แม้เพียง 2 ข้อนี้แล้วก็จะเป็นมงคลสูงสุดแก่ตนเอง พระตถาคตเจ้าได้ย้ำเตือนถึงอันตรายของการคบหาเข้าใกล้คนพาลว่าคนพาลนั้นเหมือนกับถ่านไฟ

       คือยามที่ถ่านไฟลุกโชนอยู่ หากหยิบฉวยเข้าใกล้ก็จะร้อนและไหม้พอง แม้หากดับมอดสนิทแล้วถ้าหยิบฉวยก็จะเปรอะเปื้อนมือไม้เสื้อผ้า ถึงแม้เพียงจะเข้าใกล้ก็อาจจะมีฝุ่นปลิวมาเข้าหูเข้าตา ทำให้ป่วยเจ็บอีกด้วย ซึ่งข้อนี้เห็นได้ชัดในยุคปัจจุบัน จากเด็กเล็กบางคนที่ไปคบหากับผู้ติดยาเสพติด พอผู้ติดยาเสพติดถูกจับกุมก็พลอยติดร่างแหไปด้วย

       คำพังเพยของคนไทยแต่โบราณจึงได้ย้ำสอนว่า " คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คนบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล " เพราะเมื่อคบบัณฑิตแล้ว บัณฑิตย่อมชี้ทางอันประเสริฐ ย่อมแนะนำสิ่งที่ดีงามในการดำเนินชีวิต ในการประกอบกิจการงานได้ และแนะนำประโยชน์สูงสุดของชีวิตและกิจการงานได้อีกด้วย

      (2) ผู้บริหารนั้นไม่อาจทำงานแต่เพียงลำพังได้ หากต้องอาศัยคน กิจการใหญ่ ๆ ไม่ว่าการปกครองบ้านเมืองหรือการบริหารธุรกิจล้วนต้องพึ่งพาอาศัยคน พึ่งพาอาศัยใช้สอยคนอย่างไรก็ได้ผลอย่างนั้น และย่อมแสดงว่าเป็นผู้บริหารอย่างนั้นด้วย

       ธรรมดาว่าป่าใหญ่ไม่อาจมีต้นไม้แต่เพียงต้นเดียว หากต้องมีต้นไม้มากหลายนานาพันธุ์ประกอบกันเข้าเป็นป่าใหญ่ พึ่งพาอาศัยเป็นเหตุเป็นปัจจัยของนิเวศน์ ทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ เกิดความสมดุล และก่อเกิดประโยชน์ทั้งแก่สภาพผืนป่านั้นเอง ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ได้พึ่งพาอาศัยอีกด้วย

       แม้ว่าการใหญ่ต้องอาศัยคนมากมาย แต่แกนหลักหรือทีมงานหลักหรือกำลังหลักของผู้บริหารนั้นย่อมเป็นกลไกและเป็นกำลังชี้ขาดว่าการใหญ่นั้นจะเป็นไปในทางใด และมีผลอย่างไรต่อไป ทั้งเป็นเครื่องบ่งบอกด้วยว่าผู้บริหารนั้นเป็นคนอย่างไร ดังนั้นการคบหาเลือกใช้คนจึงแสดงออกถึงตัวตนของผู้บริหาร แสดงออกถึงสภาพความเป็นไปของการงานนั้น ๆ และย่อมแสดงแนวโน้มของอนาคตของกิจการนั้นๆ ด้วย

      (3) นักปราชญ์จีนแต่โบราณได้กำหนดจำพวกนักบริหารไว้เป็น 5 ชั้นดังนี้คือ

       ชั้นสามานย์หรือชั้นต่ำต้อยที่สุด คือผู้บริหารที่พึ่งพาอาศัยใช้สอยแต่พวกนักเลงหัวไม้ พวกคนพาล คนชั่ว ซึ่งมีอนาคตที่จะต้องประสบกับหายนะและชะตากรรมอันเลวร้าย กิจการใดพึ่งพาอาศัยคนชนิดนี้ กิจการนั้นมีแต่พินาศล่มจม ผู้บริหารนั้นก็ต้องมีวันล่มจมพร้อมกันไป ยิ่งเป็นเรื่องการปกครองบ้านเมืองด้วยแล้วจะใช้สอยพึ่งพาคนเลวทรามต่ำช้าหาได้ไม่ เป็นเรื่องต้องห้ามอย่างเด็ดขาด เพราะต่อให้มีกำลังอำนาจศักดาสักเท่าใด ในที่สุดก็จะถูกบั่นทอนทำลายจนหมดสิ้น

       ชั้นสามัญหรือชั้นธรรมดา ๆ แบบหมาน้อยธรรมดา ที่พึ่งพาใช้สอยได้แต่ลูกเมีย เพราะไม่มีความรู้ความสามารถหรือไม่ต้องใช้ความรู้ความสามารถอะไร ตบตีดุด่าว่าได้ แม้กระทั่งเงินดาวน์เงินเดือนจะจ่ายมากน้อยเท่าใดก็ได้ กิจการใดใช้ลูกใช้เมียเป็นกำลังหลักในการทำงานก็แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารกิจการนั้นเป็นแค่ธรรมดาสามัญหาคุณค่าความหมายอันใดมิได้ และจะพึ่งพาอาศัยกิจการนี้เป็นที่ฝากอนาคตไม่ได้

       ชั้นกลางหรือชั้นที่สูงขึ้นมาหน่อย ที่พึ่งพาใช้สอยญาติมิตรเพื่อนฝูงเป็นกำลังหลัก เพราะอาศัยสัมพันธ์ฉันท์สายเลือดและฉันท์มิตร เป็นเครื่องผูกความโยงใยและความสัมพันธ์ของกิจการ เป็นหลักแห่งความไว้วางใจในกิจการ กระทั่งดุด่าว่ากล่าวได้บ้างในบางระดับ กระทั่งเงินเดือนค่าแรงก็ต่อรองเอาได้ด้วยความเกรงใจ

       ชั้นสูงที่ใช้สอยผู้คนทั่วไป ไม่ว่าใครก็ใช้สอยพึ่งพาอาศัยในการงานได้ มีระบบการทำงาน มีระเบียบการทำงาน มีวินัยในการทำงาน มีการจัดวางโครงสร้างองค์กร มีการแบ่งสรรหน้าที่ขององค์กรและบุคคลที่ชัดเจน อาศัยการตรวจสอบและประเมินผลเป็นกลไกประเมินผลงานและการทำงานของคนและองค์กร กิจการใดพึ่งพาอาศัยใช้คนเช่นนี้นับว่าเป็นองค์กรที่ดีและนับว่าเป็นผู้บริหารชั้นสูงหน่อย

       ชั้นเลิศที่แสวงหาพึ่งพาอาศัยใช้ยอดคนในสาขาวิชาการต่าง ๆ ในประสบการณ์ด้านต่าง ๆ มาทำนุบำรุงการงานนั้น ๆ ตลอดจนในการบังคับบัญชาผู้คน จัดสรรระบอบระบบการทำงาน การแข่งขัน การจัดสรรผลประโยชน์อย่างเป็นแบบแผน สามารถกำหนดยุทธศาสตร์ในสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจัดว่าเ ป ็นผู้บริหารชั้นอ๋อง

      (4) กิจการจำนวนไม่น้อยพึ่งพาอาศัยคนชั่วช้าเลวทรามย่อมเสื่อมสลายดับสูญไปในเวลาอันรวดเร็ว

       กิจการจำนวนไม่น้อยพึ่งพาอาศัยลูกเมียเป็นกำลังหลัก มีความจำกัดในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในการพัฒนาและการแข่งขัน มีอุปสรรคในการแสวงหาคนดีมีฝีมือเข้ามาร่วมงานและมีความขลาดหวาดกลัวครอบงำองค์กร จึงมีแต่ทรงกับทรุด เผชิญหน้ากับลมแรงสักหน่อยหนึ่งก็พังครืนลงมาแล้ว เปรียบได้กับต้นไม้ไร้รากแก้ว หาความเจริญได้ยาก ไม่อาจเผชิญหน้ากับวิกฤตที่หนักหน่วงรุนแรงได้

       กิจการจำนวนไม่น้อยพึ่งอาศัยญาติมิตรเพื่อนฝูง ซึ่งวันหนึ่งก็คุมกันไม่ติด เพราะญาติมิตรก็ล้วนแสวงหาความก้าวหน้าของตน กิจการนั้นจึงหาความยั่งยืนอันใดมิได้ และเพราะอาศัยความวางใจจากสายสัมพันธ์ฉันท์ญาติมิตรเป็นเครื่องยึดโยง จึงมักจะลงเอยด้วยการฉ้อโกงและการพิพาทบาดหมางจนถึงปางตายได้ ดังตัวอย่างที่มีมาให้เห็นดาษดื่นไป

       กิจการจำนวนหนึ่งมีความก้าวหน้า ใช้สอยผู้คนทั่วไปได้ ความสำเร็จและล้มเหลวจึงขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการเลือกใช้คนและในการครองใจคน ตลอดจนการจัดวางระบบการบริหารและการทำงาน

       แต่มีกิจการเพียงน้อยนิดที่แสวงหาพึ่งพาใช้สอยยอดคนในแขนงงานด้านต่าง ๆ

       ตัวอย่างในสามก๊กที่เล่าปี่เชื้อพระวงศ์ชั้นพระเจ้าอาของพระเจ้าเหี้ยนเต้ที่ต้องพ่ายแพ้ศึกเหนือเสือใต้ ต้องเร่ร่อนจรจัด ตั้งตัวไม่ได้ แต่พอได้ยอดกุนซือผู้แจ้งฟ้าจบดินคือจูกัดเหลียง - ขงเบ้ง มาร่วมงานแล้ว ไม่กี่ปีก็ตัดแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ถึง 1 ใน 3 มาครอง และพาตัวเองขึ้นสู่บัลลังก์มังกรทองสืบทอดพระราชวงศ์ฮั่นได้สำเร็จ ย่อมเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความสำเร็จจากการแสวงหายอดคนดีมีฝีมือมาร่วมการงาน

       จะใช้คนแบบไหนก็เป็นนักบริหารแบบนั้น ใช้คนอย่างไหนก็เป็นนักบริหารอย่างนั้น แล้วท่านหละรักและเลือกที่จะเป็นนักบริหารแบบไหนอย่างไหนกันเล่า ?

suphap

  • บุคคลทั่วไป
Re: ใช้คนอย่างไหนก็เป็นผู้บริหารอย่างนั้น
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 16 มีนาคม 2009, 15:31:45 »

เห็นด้วยทุกประการคับ  gsdgdgs

Rockwoy

  • บุคคลทั่วไป
Re: ใช้คนอย่างไหนก็เป็นผู้บริหารอย่างนั้น
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2009, 16:42:45 »

ให้ข้อคิดดีครับ  ชอบชอบ  ;khhg

อาตี๋

  • บุคคลทั่วไป
Re: ใช้คนอย่างไหนก็เป็นผู้บริหารอย่างนั้น
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2009, 22:12:38 »

เศร้าจัง เป็นเพียงแต่ผู้ถูกใช้ตลอดเลยนี่สิครับ

tor_fe

  • บุคคลทั่วไป
Re: ใช้คนอย่างไหนก็เป็นผู้บริหารอย่างนั้น
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2009, 03:24:54 »

 ssเห็นด้วยคับ ผู้บริหารต้อง "Put the man on the right job" คับ