cmxseed สังคมราตรี
หมวดหมู่ทั่วไป => สัพเพเหระ => ข้อความที่เริ่มโดย: etatae333 ที่ 21 กรกฎาคม 2017, 16:01:15
-
รู้หรือไม่ โจรสลัดแบ่งออกได้ตั้ง 5 ประเภท
cr.พี่ซูม@ dek-d
ไพเรท (Pirate) พี่นี้คือมหาโจร
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1500710994-4722.jpeg)
กลุ่มแรกทุกคนคุ้นเคยกันดี ถามคำว่าโจรสลัดภาษาอังกฤษอ่านว่าอะไรตอบเป็นชื่อนี้กันหมด แต่รู้ไหมว่าความจริงแล้ว
ไพเรทเป็นแค่หนึ่งในกลุ่มโจรสลัด ที่ใครต่อใครจดจำได้ เลยเอามาเรียกแทนโจรสลัดทั้งหมด (อารมณ์น่าจะคล้ายๆ
เราเรียกผงบะหมี่สำเร็จรูปว่า "มาม่า" นั่นแหละ) จุดเด่นของโจรสลัดกลุ่มไพเรทนี้ คือนิสัยชอบปล้นไม่เลือกหน้า
จะรวยจะจนพี่แกสอยหมดไม่มีเหลือ เปรียบได้กับอาชญากรที่วิ่งราวทรัพย์บนพื้นดินดีๆ นี่เอง
เพียงแต่อันนี้เปลี่ยนเป็นบนเรือแล่นในน้ำแทน และเมื่อซาวเสียงดูแล้ว จะพบว่าคนส่วนใหญ่รังเกียจพวกไพเรท
แต่ก็มีคนบางกลุ่มเหมือนกัน ที่ยกย่องโจรสลัดกลุ่มไพเรทว่าเป็นสุภาพบุรุษในคราบคนเถื่อน
คอร์แซร์ (CORSAIR) ผลประโยชน์มาไม่มีพลาด
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1500710994-5007.jpeg)
คอร์แซร์เป็นกลุ่มโจรสลัดในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กลุ่มนี้ถ้าให้เปรียบเทียบคิดว่า คล้ายกับพวกมือปืนรับจ้าง
คือไม่ได้ออกปล้นไปทั่วเหมือนไพเรท แต่ออกปล้นเฉพาะเวลามีคนมาว่าจ้างซึ่งส่วนใหญ่ในสมัยอดีตเป็นพวกรัฐบาล
ของประเทศต่างๆ จ้างให้โจรสลัดกลุ่มนี้ไปจมเรือของประเทศที่เป็นศัตรู
จากประวัติศาสตร์พบว่าคอร์แซร์ที่ฉลาดและวางตัวเป็นคือ คอร์แซร์ของประเทศฝรั่งเศสที่ประกาศว่าจะจัดการเฉพาะ
เรือสินค้าคู่แข่งอย่างประเทศอังกฤษเท่านั้น ส่วนคอร์แซร์ที่มีชื่อเสียง (และชื่อเสีย) มากที่สุดต้องยกให้ คอร์แซร์
แห่งบาร์บารี่ ที่มีผู้นำกลุ่มคือ กัปตันบาร์บอสซ่า (กัปตันเคราแดง) คอร์แซร์กลุ่มนี้เป็นมุสลิม และเคยจมเรือของ
อัศวินเซนต์จอห์น กองกำลังที่ถูกพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิยายโรมันคาทอลิก จัดตั้งขึ้นเพื่อไปปราบปรามมุสลิม
ในช่วงสมัยสงครามครูเสด
ในช่วงแรก คอร์แซร์แห่งบาร์บารี่ก็ทำทุกอย่างเพราะศรัทธาต่อศาสนาของตน ทว่าสุดท้าย ก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่
อำนาจของเงินรางวัลแทน ประมาณว่า... พอความโลภเข้าครอบงำ ก็เริ่มทำงานนอกเหนือคำสั่ง มีการจับผู้โดยสาร
และลูกเรือที่ไปปล้นขายเป็นทาสแทน
ไพร์เวเทียร์ (PRIVATEER) อัศวินในคราบโจร
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1500710994-4814.jpeg)
ไพรเวเทียร์ แค่ชื่อหรูยังไม่พอ โจรสลัดกลุ่มนี้ยังมีจิตสำนึกรักชาติจนพี่ซูมขอตำแหน่ง “โรบินฮู้ดแห่งท้องทะเล” ให้ไปเลย
โจรสลัดกลุ่มนี้ โดดเด่นแตกต่างจากกลุ่มอื่นๆ เพราะเป็นโจรสลัดถูกกฎหมาย ใช่แล้ว! ฟังไม่ผิด ถูกกฏหมายจริงๆ
(ถึงจะคงอยู่แค่ไม่นานก็เถอะ) หน้าที่ของไพรเวเทียร์คือคอยรับคำสั่งจากรัฐบาลโดยตรง โจมตีศัตรูเพื่อพิทักษ์
ผลประโยชน์ของชาติ ประชาชนก็ชื่นชมยินดี และมองว่าเป็นวีรบุรุษ ผลดีของการมีไพรเวเทียร์คือรัฐบาลประหยัด
ค่าบำรุงกองทัพเรือ และยังเหมือนเป็นกองกำลังสำคัญของประเทศด้วย
ทว่าน่าเสียดายที่เมื่อเข้าสู่ยุคล่าอาณานิคมความสำคัญของพวกไพรเวเทียร์ถูกลดลงไป เนื่องจากนโยบายของรัฐบาล
ประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญกับการจับมือสร้างพันธมิตรมากกว่าจะรบด้วยกำลังยุทโธปกรณ์กันตู้มต้ามดังเช่นเมื่อก่อน
งานนี้ทำเอาพวกคนหนุ่มเลือดร้อนไฟแรงที่อยากเป็นวีรบุรุษต่างคอตกกันไปหลายราย
บัคคาเนียร์ (BUCCANEER) ศัตรูมาข้าต้องปล้น
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1500710994-5054.jpeg)
เดิมทีคำว่า “บัคคาเนียร์” มาจากคำว่า “บาร์บีคิว” ในภาษาฝรั่งเศส ไม่ได้หมายถึงเนื้อเสียบไม้กับผักทาซอสมะเขือเทศ
ที่ปิ้งกินกันอยู่บ่อยๆนะ อย่าเข้าใจผิด แต่คำว่า "บาร์บีคิว" นี้มันแปลว่า "เนื้อแห้ง"
สาเหตุอาจมาจากความอดอยากแร้นแค้นของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่อดมื้อกินมื้อ เนื่องจากพื้นเพของพวกบัคคาเนียร์
ก่อนไปเป็นโจรสลัดมักประกอบอาชีพเป็นนักล่าวัวกับหมูบนเกาะฮิสพาโนล่า (ตอนนี้คือประเทศเฮติและโดมินิกัน)
มาก่อน
ต่อมาหลังกองทัพสเปนออกจากเกาะนั่นแหละ บัคคาเนียร์ถึงได้ร่วมกับพวกทาส ทหารหนีทัพ ผู้ลี้ภัย
และเหยื่อจากกองเรือของพวกสเปน ตั้งเป็นกลุ่มออกปล้นเฉพาะพวกที่บัคคาเนียร์เห็นว่าเป็นศัตรูต้องกำจัด
เรียกว่ามาด้วยใจไปด้วยกันได้เลยครับพี่น้อง
มารูเนอร์ (MAROONERS)จากทาสไปเป็นโจร
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1500710994-513.jpeg)
หลังจากพี่สเปนแกไปล่าอาณานิคมกอบโกยผลประโยชน์เข้าชาติตัวเอง สร้าความปวดเศียรเวียนเฮด
ให้ยุโรปประเทศอื่นมาเนิ่นนาน ดั่งเคราะห์กรรมตามทันติดจรวด ในที่สุดก็ต้องโดนเอาคืนโดยพวกโจรสลัด
“มารูเนอร์” นี่แหละ
โดยคำว่ามารูเนอร์มาจากคำว่า “ซิมาร่อน” ในภาษาสเปน แปลว่า คนละทิ้งหน้าที่ คนหนีทัพ หรือผู้หลบหนี
ซึ่งในความหมายนี้ หมายถึง พวกทาสที่หนีรอดจากการถูกกองทัพของสเปนส่งตัวไปอเมริกาเพื่อทำงานขนเงิน
และทองคำ ทาสกลุ่มนี้ได้รวมตัวกับผู้หลบหนีกองทัพและกลายเป็นที่รู้จักในชื่อว่า “มารูเนอร์” ในที่สุด
ยิ่งกว่านั้นคำๆ นี้ต่อมาได้กลายเป็นหลัก “มารูนิ่ง” ที่เอาไว้ลงโทษโจรสลัดที่หนีจากการเป็นลูกเรือ โดยวิธีการ
ลงโทษคือให้สัมผัสกับความอดอยากทรมานตายอย่างช้าๆ นับว่าคือความโหดเหี้ยมที่สืบทอดต่อกันมายาวนาน
จนกระทั่งถึงช่วงศตวรรษที่ 20 อันเป็นยุคที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้านั่นแหละ โจรสลัดมารูเนอร์
รวมไปถึงหลักมารูนิ่งถึงได้หมดไปไม่ปรากฏให้เห็นอีกตราบจนปัจจุบัน
-
ขอบคุณครับ อ่านเพลินๆดี
อ่านแล้วนึกอยากเล่นเกม port royal หรือ patician เลย *0*